บทเริ่ม มหากาพย์ภัยพิบัติ
Thanks: ฝากรูป
บทร่ายของมหากาพย์พิบัติภัย วันสิ้นโลก ที่หลายคนกล่าวว่าเป็นข้อความที่บันทึกอยู่ในคัมภีร์ไบเบิ้ล เป็นความเชื่อต่างศาสนา แต่ทำไมชาวพุทธฯ จึงคิดถึงเรื่องนี้เป็นจริงเป็นจังจนถึงขั้นทำหนังสือเล่มนี้ออกมาเตือนใจถึงภัยพิบัติที่จะมาถึงก่อนวันสิ้นโลก แท้จริงแล้วในพระไตรปิฎกมีพุทธดำรัสที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสอนแก่สาวกในเรื่องความเสื่อมของโลก ในยุคอันตรกัปที่โลกร้อนแรงประดุจมีพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกัน ๗ ดวง สิงหาคม ๒๕๕๔ วันแรกที่น้ำเริ่มท่วมในจังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือไล่ลงมา จนนครสวรรค์ล่ม อุทัยธานีจม อยุธยากลายเป็นเมืองบาดาล เกือบ ๒ เดือนเต็มที่พลังของน้ำแสดงศักดาอาละวาดมาจนถึงเมืองหลวง ประกาศขุมพลังธรรมชาติที่ไม่มีใครสามารถทัดทานได้ .. แม้ทุกคนจะเพียรพยายามเพื่อต่อสู้กับมหาอุทกภัยครั้งใหญ่หลวงรุนแรงครั้งนี้ แต่ก็มิอาจทัดทานให้มวลน้ำอยู่ใต้บังคับบัญชาได้ ภาพรันทดของผู้ประสบภัยในแต่ละพื้นที่ คือบรรยากาศแห่งความทุกข์ที่ระบายไปทั่วแผ่นดินไทยในยามนั้น ความตายของคนที่หนีไม่ทันกระแสน้ำที่ลามไหลหลากเชี่ยวมาชนิดตั้งตัวไม่ทัน ภาพลูกที่จมหายไปต่อหน้าต่อตา การพลัดพรากของพี่น้องพ่อแม่ที่หากันไม่พบในคืนน้ำหลาก ความสูญเสียไร่นา พืชผล บ้านเรือน สิ่งของ เป็นมหาอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดของประเทศชาติ ความตระหนกก่อตัวและเติบกล้ากลายเป็นความงามตึงเครียดซ่อนลึกในจิตใจบนใบหน้าของผู้คนที่ยังไม่ประสบภัย น้ำตาที่รินหลั่งของพี่น้องผู้ประสบภัยทำให้ใจอ่อนยวบหดหู่ห่อเหี่ยว ความทุกข์มวลรวมประเทศไทย ก่อเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า ทุกคนเพียรพยายามที่จะร่วมกันสร้างกำลังใจ ส่งกำลังเงินเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่ใจที่โศกเศร้าระทมทุกข์นั้นกอบกู้ได้ยากยิ่งเหนือสิ่งอื่นใด ภัยพิบัติจากน้ำท่วมครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ในรอบ 50 ปีของประเทศไทยในครั้งนี้ ทำให้เราได้พบเห็นความทุกข์ทางใจที่สำแดงความวิบัติเสียยิ่งกว่าภัยที่ประสบพบเจอ ซึ่งหากคนไทยเราไม่ฝึกฝนที่จะตั้งมั่นที่ฐานของใจอย่างมีสติรู้ทัน ธรรมชาติและสรรพสิ่งที่เกิดขึ้น เช่นอุทกภัยในครั้งนี้ ซึ่งนับเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจะฝึกใจอย่างไรให้มีสติ มีธรรมะมาใช้ในยามเผชิญหน้ากับความทุกข์มวลรวมเช่นนี้ มหาอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ประเทศไทยในปี พ.ศ. 2554 ครั้งใหญ่หลวงนี้ .. อาจจะเป็นเพียงบทเริ่มต้นของมหากาพย์ภัยพิบัติที่กำลังคืบคลานมารุกรานมนุษย์โลกให้ได้เรียนรู้ทุกข์อันแสนสาหัส มหันตทุกข์ที่ประมวลมาเพื่อชำระอกุศลกรรมของมนุษยชาติที่เคยก่อกรรมสั่งสมกันมา ดั่งที่บรรดานักวิทยาศาสตร์จำนวนไม่น้อยเริ่มส่งสัญญาณว่าวันสิ้นโลกกำลังจะมาถึงในปี ค.ศ. 2012 หลักฐานทางวิทยาศาสตร์อันน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นมหันตภัยพิบัติอันเกิดจากพายุสุริยะโจมตีโลก สนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนตำแหน่ง แกนโลกพลิกสลับขั้ว ภาวะน้ำท่วมโลกอันมีสาเหตุจากน้ำแข็งจากเกาะกรีนแลนด์ละลาย และอีกมากมายที่นักวิทยาศาสตร์ยังค้นไม่พบ หรือแม้กระทั่งคำทำนายที่พบในปฏิทินของชาวมายา หรือแม้กระทั่งคำทำนายของบรรดาผู้หยั่งรู้ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นนอสตราดามุส หรือเจ้าของทฤษฎีแผนที่โลกใหม่อย่างนายกอร์ดอน ไมเคิล สคัลเลียน ผู้หยั่งรู้ชาวอเมริกัน คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกคนจะเปิดรับฟังข้อมูลอันน่าระทึกถึงวันน้ำท่วมโลก หรือวันสิ้นโลก ไม่ว่าจะเรียกกันอย่างไร การศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่ควรใฝ่รู้ แล้วนำมาไตร่ตรองอย่างรอบคอบว่าควรจะเชื่อดีหรือไม่ แต่สิ่งที่ดีที่สุด ก็คือ การทำความเข้าใจกับสภาพของโลกที่เป็นอยู่ทุวันนี้ ทำความเข้าใจ และยอมรับ อยู่กับธรรมชาติอย่างเคารพ และช่วยกันทำให้สิ่งที่ทำร้ายโลกลดน้อยลง อย่าตระหนกกับความจริงที่ยังเดินทางมาไม่ถึง แต่ควรตระหนักกับความจริงที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ ความทุกข์มวลรวมประชาชาติที่นับรวมพี่น้องร่วมโลกทุกคน มีเพียงสิ่งสำคัญที่สุดที่ควรตระเตรียมคือเตือนกาย และเตรียมใจรับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นอย่างผู้มีใจตื่นรู้ และอยู่กับสรรพสิ่งได้อย่างเป็นทุกข์น้อยที่สุด
Free TextEditor
Create Date : 08 พฤศจิกายน 2554 | | |
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2554 19:46:19 น. |
Counter : 236 Pageviews. |
| |
|
|
|