If I had 9 life i would..
 
บิดเบือน

วันนี้โพสต์ในห้อง รดน. แล้วโดนลบ สงสัยเขามองว่าเป็นการชวนทะเลาะ

ทำไมนะ ทำไมถึงไม่มองถึงเนื้อหาที่แทรกอยู่ ว่ามีประเด็นไหม ช่างเหอะ เขาลบ เราก็เขียนใหม่ ในหน้า Blog แล้วกัน ฮี่ๆๆ

ไม่เคยเอามาโพสต์ใน Blog เลยนะเนี่ย เพราะรำคาญพวกปากหอยปากปู ตัวอิจฉาหาเรื่อง ...

แต่กระทู้อดไม่ไหว หายไข้ สร่างไข้ กันเลยทีเดียว เพราะติดใจตรงคำว่า "เวลาที่ทักษิณเข้ามานั้น ผ่านล่วงเลยวิกฤตไปไกลแ้ล้ว..."

จะไกลได้ยังไง ในเมื่อเข้ามาตอนนั้นทำงานกันแทบตาย กว่าประเทศจะตั้งตัวได้...


======================
กระทู้แตกประเด็นมาจาก //www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P10073161/P10073161.html

"อย่างไรก็ดี ผมอาจจะเห็นต่างจากคุณพระรองนิดหนึ่งตรงที่ว่า จะไปเทียบสถานะของรัฐบาลคุณทักษิณกับคุณอภิสิทธิ์หรือคุณชวนไม่น่าจะเหมาะ เพราะรัฐบาลคุณชวนและคุณอภิสิทธิ์เข้ามาในยามบ้านเมืองเจอวิกฤติเศรษฐกิจ ครั้งรุนแรงทั้งสองครั้ง แต่เวลาที่คุณทักษิณเข้ามานั้น ผ่านล่วงเลยวิกฤติไปไกลแล้ว และเศรษฐกิจเองกำลังฟื้นตัวอยู่แล้ว ความจำเป็นในการต้องกู้เพื่อจะแก้ไขสถานการณ์จึงไม่มีนะครับ"

กล้ามากๆ กล้าพูดมากๆ thyrocyte
นายแน่มาก... ยอมเลย ยอมจริงๆ
นี่ถ้ายืนตรงหน้า จะ "ขอคาระวะในฐานะช่างบิดเบือน"
จับไสตล์นายไม่ถูกจริงๆ ออกแนว พ่นตัวเลขให้ดูน่าเชื่อถือ และตบท้ายด้วยคำพูดบิดเบือนแบบนี้เหรอ?

โห..... พูดออกมาได้.....


"เวลาที่คุณทักษิณเข้ามานั้น ผ่านล่วงเลยวิกฤติไปไกลแล้ว และเศรษฐกิจเองกำลังฟื้นตัวอยู่แล้ว ความจำเป็นในการต้องกู้เพื่อจะแก้ไขสถานการณ์จึงไม่มีนะครับ"
เคยรู้ไหมทักษิณต้องแข็งกร้าวแค่ไหน ต่อ IMF..กว่าจะหลุดพ้นมาได้

ตอนที่เข้ามาเป็นนายกฯ ใหม่ๆ IMF บังคับให้ทักษิณขึ้น VAT 10 เปอร์เซนต์ เพราะประเทศเป็นหนี้เขา เป็นหนี้เขาก็ต้องทำตามเขาสั่ง เคยรู้บ้างไหม? จะทำอะไรใหญ่ๆ เขาก็ไม่ให้ ถ้าประเมินความเสี่ยงแล้วว่าไม่สำเร็จ?

แต่ทักษิณไม่ขึ้น แถมด่ากลับไปอีกต่างหาก

"ขึ้นได้ยังไง เงินในกระเป๋าไม่มีซัีกบาท คนจะเอาเงินจากไหนมาจ่าย VAT"

ย้ำ "เงินไม่มีซักบาท"

ทีมเศรษฐกิจก็ต้องคิดทำโครงการต่างๆ นานา จนได้เงินกลับเข้ามาในระบบ Mega Project ทั้งหลาย ที่เห็นก็ สนามบินฯ ที่พวกคุณๆ ตราหน้าว่าโกงหนักหนานั่นไง (จนป่านนี้ก็ยังหาข้อสรุปไมไ่ด้ว่าโกงยังไง ตรงไหน) ทักษิณเป็นคนพูดๆๆๆๆ แต่ทำได้อย่างทีพูด จนเกิดความเชื่อมั่น นักลงทุนรายใหญ่ในสินทรัพย์ถาวรเขาก็อยากมาลง และอีกหลายโครงการที่ถ้าไม่มี 19 ก.ย. ป่านนี้เรามีถนน มีทางรถไฟเชื่อมไปไหนต่อไหน

เคี่ยวเข็ญนักการเมือง รัฐมนตรี ราชการ จนทำงานหลายโครงการสำเร็จ ปั่น OTOP ให้เข้ามาหมุนเวียนในเมือง ปั่น SMEs ให้ออกไปต่างประเทศและนำเงินเข้ามา

สุดท้าย ก็มีเม็ดเงินไหลเข้าประเทศ เพราะเกิดความเชื่อมั่น จนใช้หนี้เขาได้ก่อนกำหนด ที่สุด IMF ยังต้องมาขอโทษเลยที่บังคับให้เขาขึ้น VAT 10 เปอร์เซนต์ในวันนั้น


รู้ว่านายไม่เชื่อ เพราะไม่มีตัวเลขหรือหลักฐานและลิงค์มากมายมาอ้างอิง
แต่ก็อย่าได้บิดเบือนให้มันเกินความจริงมากนัก คนทำงานเขาท้อใจ (ว่ะ)

ระวังไว้ให้ดีเหอะ เด็กสองคนที่พวกคุณยกย่องว่าเก่งนักเก่งหนาน่ะ
ขึ้น VAT 10 เปอร์เซนต์ เมือ่ไหร่ เป็นไปได้ว่าอาจจะเอาประเทศไปจำนำกับ IMF เห็นร่ำๆ หยั่งเสียงจะขึ้นมาหลายทีแล้วนี่ สงสัยอยากจะไปกู้ใจจะขาด นี่ถ้าเพื่อไทยไม่ออกนโยบายดักไว้ว่าจะลด VAT เด็กสองคนนั่นคงขึ้นไปนานแล้ว

ประโคมข่าวเหลือเกินว่าเศรษฐกิจดี เพราะเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า จะได้ขึ้น VAT ได้ง่ายๆ?

อยากจะให้เืพื่อนๆ ที่ไม่ได้เชียร์อภิสิทธิ์ช่วยสอดส่องดูแลด้วยนะคะ ถ้าขึ้น VAT 10 เปอร์เซนต์ อาจเป็นสัญญาณไม่ดี ประเทศเรามีบทเรียนมาแล้วจาก IMF ครั้งก่อน
=========================

ตัวเลขมากมายที่ยกมา ถามคำเดียว
"กู้มาแจก กับกู้มาลงทุน" อันไหนมันมีเงินหมุนเวียนในระบบมากกว่ากัน?


โคงการไทยเข้มแข็งที่คุณลิงค์มาให้ พอเข้าไปดูแล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไรแปลกใหม่ เป็นโครงการที่ล้วนแล้วแต่มีงบประมาณประจำทำได้อยู่แล้วทั้งนั้น อาทิ ซ่อมแซมอาคารเรียน สร้างถนน สร้างทาง (อย่างมากก็สร้างในประเทศ) เชื่อมระหว่างประเทศ ถ้าจะทำจริง คิดเหรอว่าจะมีใครเขาเชื่อ อยากจะมาลงทุน (กับผู้นำแบบนี้)

และอะไรที่ควรจะปั่นให้ไทยเข็มแข็งจริงๆ กลับยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ให้งบก็ให้แบบแปลกๆ ดันไปให้คนที่ไม่ควรจะให้ "สะเปะสะปะ" มากๆ

เฮ้อ.. ไม่อยากพูดเยอะ พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง
เข้าทำนองหยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ...


คนนึงเก่ง กู้กับแจก
อีกคน เก่งออกพันธบัตร กับ (เล่น) หุ้น

เจริญล่ะประเทศไทย!!!


=============================

โพสต์เสร็จมีคนมาให้กิฟตั้งเยอะในเวฃาไม่เท่าไหร่ แต่โดนลบซะงั้น

แล้ว เจ้าของกระทู้ที่แตกมาดันหลังไมค์มาบอกอีกนะว่า

"Refresh เวบเห็นกระทู้แล้วครับ ตอบไว้ให้เรียบร้อยแล้วด้วยครับ และกรุณามีสติและใช้วิจารณญาณอ่านเนื้อความในกระทู้ของผมให้ดีเสียก่อนครับ เพราะคุณพลาดหลงประเด็นไปไกลครับ

:) "


เหอๆๆ เชื่อเขาเลย




Create Date : 28 ธันวาคม 2553
Last Update : 28 ธันวาคม 2553 19:45:01 น. 3 comments
Counter : 262 Pageviews.  
 
 
 
 
ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องลบกระทู้นะ

ก็โต้ตอบกันไปในประเด็นแท้ๆ

อาจเป็นเพราะมีบางคำเช่น

"กล้ามากๆ กล้าพูดมากๆ thyrocyte
นายแน่มาก... ยอมเลย ยอมจริงๆ
นี่ถ้ายืนตรงหน้า จะ "ขอคาระวะในฐานะช่างบิดเบือน"

ตรงนี้มั๊ง ที่ทำให้โดนอุ้มทั้งกระทู้ ทั้งที่เนื้อหาส่วนอื่นมีสาระที่น่าสนใจ
 
 

โดย: บางระจันวันเพ็ญ วันที่: 29 ธันวาคม 2553 เวลา:9:03:00 น.  

 
 
 
เฮ้อ เก๋เอ๊ย เพิ่งรู้เหรอว่าความบิดเบือนของนายคนนี้มีมากแค่ไหน ที่เราจับ ๆ กันได้ไปตั้งกี่รอบ หายไปพัก ก็กลับมาบิดเบือนเรื่องใหม่ ๆ

ใครอยากเชื่ออะไรก็เชื่อไปเถอะ อนาคตก็ตัวใครตัวมัน ถ้าเค้าคิดว่ามีความสุขกับการยกย่องคนประเภทงานไม่ทำ เก่งแต่พูด (อาจจะนิสัยประมาณเดียวกันก็ได้) ก็ปล่อย ๆ เขาไปเถอะ
 
 

โดย: hang around วันที่: 29 ธันวาคม 2553 เวลา:18:34:16 น.  

 
 
 
เงินกู้ IMF มาพร้อมกับเงื่อนไข(แกมบังคับ)มากมาย เช่น

1. ปฎิรูปสถาบันการเงิน
2. ปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ
3. แปรรูปรัฐวิสาหกิจ
4. ควบคุมนโยบายด้านการเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ย
5. ควบคุมนโยบายการคลัง เช่น ตั้งเป้าหมายงบประมาณเกินดุล/ขาดดุล ไม่เกินร้อยละเท่าไหร่ของ GDP
6. ควบคุมนโยบายอื่นๆ เช่น ขึ้น VAT ค่าแรง เป็นต้น
ฯลฯ

สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่การควบคุมเหล่านี้ทำให้รัฐบาลขาดความเป็นอิสระในการบริหารประเทศเป็นอย่างมาก

ของบางอย่างต้องรีบทำ บางอย่างผ่อนปรนได้ บางอย่างต้องใช้เวลา บางอย่างต้องกระตุ้นให้เกิดความเปลี่ยนแปลง

การตัดสินใจขึ้นอยู่กับการชั่งน้ำหนักความสำคัญ ผลได้ผลเสียทั้งในปัจจุบันและในอนาคต บางครั้งอาจจะต้องใช้ gut feeling ใช้ความกล้าตัดสินใจจากประสบการณ์ที่สั่งสมมา นี่คือการบริหาร

และที่สำคัญ ทุกอย่างในขณะนั้นต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น จึงจะประสบความสำเร็จ ถ้ามัวเชื่องช้าจะเสียโอกาสฟื้นตัว

คุณทักษิณ เป็นนักบริหาร หากขาดความเป็นอิสระในการบริหาร ก็เหมือนถูกมัดมือมัดเท้า ไม่ได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่

เมื่อสถานะทางการเงินดีขึ้น รัฐบาลมีกำลังความสามารถจ่ายคืนหนี้ เพื่อให้หลุดพ้นพันธนาการของ IMF ได้เร็วกว่าที่กำหนด และสามารถดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนภาคธุรกิจได้อย่างเต็มที่ ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ก็เป็นสิ่งที่สมควรทำและควรชื่นชมครับ ไม่ว่าจะรัฐบาลไหน

ปล.
ระยะหลังนี้ ผมรู้สึกเบื่อหน่ายสภาวะการเมือง ความแตกแยกของคนในชาติ ความรุนแรงจนถึงกับต้องเอาสไนปอร์มาลอบยิงคนไทยกันเอง รวมทั้งสิ่งต่างๆที่มันบิดเบือนกลับดำเป็นขาวเป็นอย่างมากครับ

ขอบคุณ จขบ. ที่ให้พื้นที่ระบายความในใจ คริๆ
 
 

โดย: Springfield วันที่: 29 ธันวาคม 2553 เวลา:23:44:37 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

SassyKate
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




SassyKate is a Sassy girl.

Dream what you want to dream, Go where you want to go, Be what you want to be, Because you have only one life and one chance to do all the things you want to do.
[Add SassyKate's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com