อะไรจะอัศจรรย์เท่าจิต เปิดกว้างไม่มีอะไรเสมอจิตเลยนะ เวลาปิดบังไม่มีอะไรเสมอกิเลส มืดไปหมดเลย ตามีสิ
อะไรจะอัศจรรย์เท่าจิต เปิดกว้างไม่มีอะไรเสมอจิตเลยนะ เวลาปิดบังไม่มีอะไรเสมอกิเลส มืดไปหมดเลย ตามีสิบตาก็ไม่มีความหมาย มีกี่หูกี่ตากี่ดวงใจ ถ้าใจกิเลสครอบไว้แล้วดำหมดด้วยกัน ไม่มีความหมายอะไรเลย พอเราบำเพ็ญธรรมนี้ค่อยสว่างขึ้น ๆ ทีนี้กิเลสค่อยจางไป ๆ ความมืดดำกิเลสมันครอบไว้ ความมืดดำคือกิเลสมันครอบเอาไว้ เวลาชำระสะสางสร้างคุณงามความดีเข้าไป นี่เรียกว่าชะล้างเข้าไป ๆ ไหลเข้าไป ๆ จุดสุดท้ายก็ลงทำนบใหญ่คือจิตตภาวนา บุญ กุศล ศีล ทาน มากน้อยนี้เป็นเหมือนกับแม่น้ำสายต่าง ๆ ที่ไหลมาจากที่ต่าง ๆ จะลงมาทำนบใหญ่คือจิตตภาวนา เป็นที่รวมแห่งกุศลทั้งหลายที่เราสร้างมามากน้อย ไม่หายไปไหน จะไหลป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่นั้นแหละหากยังไม่เข้าจุด ไปไหนไม่ไป ทีนี้พอจะเข้าจุดแล้ว สายบุญทั้งหลายที่เราสร้างมามากน้อยนั้นจะมารวมลงที่จิตตภาวนา พอจิตตภาวนาแล้วก็พุ่งเลย พ้นทุกข์ไปเลย คือจิตตภาวนามีอยู่ด้วยกันแต่ยังไม่ได้หลักเกณฑ์มันก็มี เวลาได้หลักเกณฑ์มันก็พุ่งของมัน เวลาไม่ได้หลักได้เกณฑ์นี้ภาวนานี้มันก็พาวนไปเสีย ไม่ได้ภาวนาอบรมใจให้สงบ มันพาวนให้วุ่นวายไป นี่รวมเข้าไป เมื่อเวลาวาสนาบารมีแก่กล้าแล้วมันหากเป็นเองในจิต เพราะอำนาจแห่งกุศลนี้แหละหนุนมัน บันดลบันดาล เรื่องจิตตภาวนามันขี้เกียจขนาดไหนมันหากเป็นของมันเองไม่ขี้เกียจ มันหากหมุนของมันไป ๆ อย่างนั้น ต่อไป ๆ มันก็พุ่งของมันไปได้เลย นี้เป็นที่รวมของกุศลของเราที่สร้างมามากน้อย แหล่งใหญ่คือทำนบใหญ่ได้แก่ภาวนา ลงในจุดนี้ทั้งนั้น ลงนี้ก็พุ่งเลย นี่เป็นที่รวมแห่งกุศลทั้งหลายมารวมที่จุดนี้ . . โอวาทธรรมคำสอนของหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน . ในวาระเทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓.
Create Date : 05 เมษายน 2564 |
Last Update : 5 เมษายน 2564 20:24:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 605 Pageviews. |
|
|
|
| |