It's The Matter of Time..

ชีวิตสาวออฟฟิศ

ตั้งแต่แปรสภาพมาเป็นคนเดินดิน กินข้าวแกง และใช้เวลาส่วนมากอยู่กับออฟฟิศตัวเอง และอินเตอร์เน็ต
ตื่นไปทำงาน โดยเฉลี่ย 07.45 น.
แต่งตัวไปทำงาน ก็ต้องคิดว่าจะแต่งยังไง ตัวนี้ใส่ไปแล้ว ตัวนี้ดูไม่เก๋ ไม่อินเทรนด์
รองเท้าอะไรดีน๊า ส้นสูงเลิกคิด ทิ้งมันไว้ออฟฟิศ จะไปทำงานต้องส้นเตี้ยเท่านั้น
ออกจากบ้าน 09.00 น. โดยเฉลี่ย (ที่บอกโดยเฉลี่ยเพราะอยู่ระหว่าง 08.45-09.10 น.)
เดินไปขึ้นรถผู้ชาย พี่วิน ไปลงหน้าปากซอย
เดินข้ามถนน เปลี่ยนผู้ชาย ไปลงท่าเรือ
ทั้งหมดนี้ใช้เวลา 5 นาที
ส่วนมากรอเรือคลองแสนแสบไม่เคยเกิน 5 นาที โดยเฉลี่ย
เรือมา หย่อนตัวลงเรือ (ถ้าคนเคยขึ้นจะรู้ว่า หย่อนตัวลงเรือคืออะไร) ได้นั่งเกือบทุกครั้ง
จากรามคำแหง ถึงอโศก ใช้เวลา 30 นาที ไม่เกินกว่านี้
นั่งเรือ คลื่นลมแรง ไม่ใช่เพราะธรรมชาติ แต่เป็นเพราะเรือที่วิ่งสวน
มีโอกาสได้ชื่นชมฟากฝั่งสองข้างทาง ในใจก็ A.L.E.R.T ไป
ถ้าเรือล่ม กูจะทำไงน๊า ต้องทิ้งทุกอย่าง และว่ายเข้าฝั่ง
แต่มันอาจไม่ง่ายอย่างที่คิด คงต้องใช้แรงคลื่นผลักตัวเองขึ้นสู่บนบก
ก็คิดไป.....................
หลายครั้งที่ใส่กระโปรงสั้นแค่เข่า แต่ลมพัดมาเวลาขึ้น-ลงเรือ
คิดว่าคงมีผุ้ชายหลายคนมีโอกาสเห็น ก.ก.น ไม่เป็นไร Make someone's day ไม่เคยลืม
คลื่นลมแรง บางครั้ง น้ำคลองแสนแสบกระเซ็นเข้ามาในตัวเรือ
ตอนแรก ไม่ชิน ..กลัวจะเป็นโรค
แต่หลังๆพอมองเพื่อนร่วมทาง บางคนยังหน้าใสปิ๊งอยู่ เออ..ไม่เป็นไรวะ
แสดงว่าน้ำคลองแสนแสบมีสารเบต้าแคโรทีน ช่วยทำให้หน้าใสปิ๊ง อันนี้พูดจริง
มีครั้งหนึ่ง เห็นเด็กกระโดดน้ำตูมตาม มันยังไม่ตาย ..ไม่เป็นไร
แค่ต้องมีกระดาษทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้าไว้ป้องกัน
บางคน เอาผ้าเช็ดหน้าปิดหน้าตลอดทั้งทริป ก็ตลกดี
มีอะไรให้ขำได้ทุกวัน

ล่าสุดน้ำสาดเข้ามา เปียกกัน ประมาณ 5 แถว ก็ได้เห็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆที่มีให้กัน
คนที่มีทิชชู่เค้าก็แบ่งให้คนที่เปียก แต่ไม่มีทิชชู่ อันนี้ก็ทำให้ยิ้มได้

ลงเรือประมาณ 9.30 น. แวะซึ้อแซนวิช 15 บาท และขึ้นรถกับผู้ชายต่อ
จากเรือ ถึง ตึก ใช้เวลา 3-5 นาที แล้วแต่ความคล่องของพี่วิน
อยากกอดพี่เค้านะ แต่ไม่กล้า... ที่อยากกอดเพราะกลัวตก ไม่ใช่ใดอื่น
การนั่งวินในอโศก ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
อย่างแรกต้องปล่อยวาง ให้ได้ก่อน ให้เป็นไปตามกรรม และความพลิ้วของพี่วินแต่ละคน
อย่างที่สอง ต้องท่อง Brace Brace Brace เผื่อในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
พี่วินบางคนก็ใช่ย่อย ขับวินจนซื้อไอพอดได้นะจะบอกให้

มาถึงที่ตึก ยังติดนิสัยแอร์เก่า ไปขอบคุณเค้าด้วยนะนั่น (เป็นข้อดี)

พี่ยามที่ตึกเป็นคนมีน้ำใจมาก เปิดประตู กดลิฟต์ ให้ตลอด ยิ้มแย้มแจ่มใส
แกชอบตบเท้าดัง กริ๊ก (เพราะรองเท้าแกมีเหล็ก)
แม้แต่ละวันจะได้พูดแค่คำว่า สวัสดีค่ะ และขอบคุณค่ะ
ก็ถือว่าพี่แกเป็นอีกคนที่ทำให้ยิ้มได้

ในออฟฟิศ
บางคนที่เคยมา ก็จะเห็นว่าไม่มีอะไรมาก
เช้า ยัน เย็น เล่นเน็ต หาบ้านให้หมาแมว
แต่ค่ำๆบางทีก็มี Task ต่างๆให้ทำ เพราะที่ Germany เพิ่งจะสายๆ

จำได้ว่าตอนเค้าสัมภาษณ์ เค้าถามว่า จะอยู่คนเดียวได้รึเปล่า
กลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ ตอบเค้าไปว่า I love it!

ออฟฟิศบางทีกลายเป็นแหล่งพักพิงเพื่อนๆ
แวะเวียนซื้อขนมมากินอยู่เนืองๆ
ซึ่งก็ไม่มีใครว่าอะไร ถ้างานไม่ยุ่ง
บางทีก็พานิกมาออฟฟิศ
หามุมให้เค้าได้นั่งอ่านหนังสือ หรือ จิบกาแฟ
มีความสุขขึ้นเยอะ

งานที่ทำอยู่ก็แฮปปี้ดี มีเบื่อบ้างตามประสา ทำไปบ่นไป
แต่ก็ไม่ได้ suffer อะไร
เพื่อนร่วมงานดี
เจ้านายไม่จิก
อยู่ในขั้นดีมากทีเดียว

ตอนเย็น จริงๆต้องเลิกงาน 18.30 น.
แต่ถ้าเจ้านายอยู่ บางที เค้าก็เชิญให้กลับแต่หัววัน
แต่ส่วนมากจะอยู่จนถึง 18.00 แล้วไปออกกำลังกาย
ทุกวันพุธ และพฤหัส จะเต้นป๊อปและแจ๊สกับครูสุดเริ่ด
และเล่นโยคะ
ตอนนี้หน้าผากกลับมาแตะหัวเข่าได้เหมือนเดิมแล้ว
และตั้งตารออยู่ว่าเมื่อไหร่จะแหกขาได้อย่างสาวนักบัลเล่ต์

วันจันทร์ ถึง พฤหัส อยู่กรุงเทพ และเย็น ศุกร์ นั่งรถกลับอยุธยา
ไปให้เวลาครอบครัว นิก อิไต แพชเชส และซอร์โรว
(เสียรีจี้ไปแล้ว-แมว)
ไม่ลืมจะถือของไปฝากลูกๆจากกรุงเทพด้วย

ชีวิตสาวออฟฟิศ ก็มีอยู่แค่นี้
เวลาที่มี ให้งาน กับครอบครัว
ได้เจอเพื่อนฝูงมั่ง หากเจียดเวลาตรงกันให้ได้
เงินน้อยลง แต่ยิ้มมากขึ้น
เป็นคน พูด แล้วทำได้มากขึ้น

มีความสุขมากขึ้น

ได้ให้ มากขึ้นด้วย




 

Create Date : 10 มิถุนายน 2551   
Last Update : 10 มิถุนายน 2551 16:07:09 น.   
Counter : 1019 Pageviews.  

Live from Australia

Subject: Live from Australia
Date: Mon, 9 Apr 2007 11:36:27 +0000


Hi all,

How are u? Hope this email finds you well:)

I am in Adelaide, Australia at the moment. Me and Nigel come here to visit his family and join some parties. It's been a week now I am here. Its fantastic just to get away from Thailand now as it too hot!! Here is Autumn..Wonderful weather...Not too hot in the day and a bit chilly in the night ..Make it more nice for me to be in Nige's shoulders.

Spending time with my best and beautiful friend of mine from Emirates,Areeda in Brisbane for 4 days was fantastic!! We went out with the crews to the BBQ picnic in the evening of the first day i arrived Australia. As Brisbane is Semi-Tropical Zone and BBQ is very popular.People go out and do BBQ or having some drink. I thought to myself i am so lucky to be back in Australia again and had a chance to do all of this..We had so much fun. I finished a bottle of Merlot myself (and realized I was drunk just before I finished it ! )

The last day (5th) We went to the area called Hope Island Coomera..AAAHHH it was sooooooooooooo much fun. I had one of my best time there..We went on the boat trip (on the beautiful yacht actually).Then stopped at the place called Tiples( I am sure its wrong spelling). I enjoyed swimming and sunbathing,although I did not get it much. Thanks for Gramme the Captain and Ray the owner of the boat..I had such a wonderful time.

We cruised back and spent the evening in Hope Island. It turned to be a little party. Everybody had fun. We danced and drank and sang songs. It was wonderful. I am so lucky I thought to myself..I am so lucky to be able to come back to Australia and enjoy myself here. Its blessing.

Nigel arrived Brisbane in early morning on the 6th. we said good bye to Areeda and we left the hotel at 9 am to catch the flight to Adelaide..

Here I am in Adelaide, seeing Nigel's family and my sister. My sister's English has improved a lot. I see her as a different person now. She's more outgoing and confident! She's not my little sister anymore and thats great! Nigel's parents love her and want her to come and visit again.

Yesterday I went to the first western wedding in my life. It's Nige's friend's. Everything was so well organized and setting. The religious ceremony was held in the beautiful garden with the beautiful canel scenery. I've seen all the traditional ceremony and all I could say is just ..WOW..WOW.. It was just like in one of the most romantic movie I've ever seen. The groom and bride are gorgeous. They both are lovely together.

We had dinner party there and dancing. It was our first time actually to dance in such a romantic environment. It was so romantic and unforgettable!

Anyway I came home with smiles on my face..What a wonderful experience!

Forgot to tell u guys about my first flight ever after 3 months. It was great! I had Edmunds and Christina in flight and they both are my friends. They looked after me very well. Funny that I can still remember everything..the words in safety video, the service sequence, etc.

I'll be here for another 3 weeks..Might meet up with Sexy June, Cutie Job and some people in Sydney..

Nigel is fine and so is his family. I am very happy out here.

Speak to u all soon,

Sasipanwadee




 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 30 พฤษภาคม 2551 16:19:21 น.   
Counter : 439 Pageviews.  

Don't forward this email กรุณาอย่าส่งต่อ

คำว่าเพื่อน

ฉันคิดถึงเพื่อน
คิดถึงเวลาเก่าๆที่เราเคยได้ใช้ชีวิต
บางครั้งโลกดูโหดร้าย
แต่เวลาที่ฉันมองกลับไป...ฉันรู้สึกอบอุ่นใจเสมอ
ว่าอย่างน้อย..ฉันยังมีเพื่อนที่ยังคอยรับฟัง

ฉันเขียนมาเพื่อบอกกล่าว
ว่าฉันยังคิดถึงพวกเธออยู่มิหาย...
รูปภาพเก่าๆทำให้ฉันยิ้ม
คำพูดเก่าๆของเพื่อน ทำให้ฉันอุ่นใจ
เวลาเก่าๆที่เราได้อยู่ด้วยกัน ฉันยังจำได้
และรอแล้ว..รอเล่าว่าเมื่อไหร่เราจะได้เจอกันอีก

แต่ฉันรู้ว่าทุกคนต่างมีชีวิตเป็นของตนเอง
การได้พบเจอกันนั้นเป็นเรื่องยาก
ฉันรู้ว่าเราไม่เคยลืมกันและกัน
..ทุกวันเรามีเรื่องยุ่งๆ
บางครั้งเราไม่ได้เขียนถึงกัน
แต่นั่น..ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
ฉันรู้ว่าเธอยังอ่านเรื่องราวของฉันเสมอ
และรู้สึกยินดียินร้ายไปด้วย

ฉันอยากให้เธออ่านอีเมล์อันนี้
สิ่งที่เขียนมาจากใจฉัน...ฉันไม่ได้เอามาจากจดหมายที่ส่งต่อเป็นทอดๆ
ฉันเขียนขึ้นมาเอง
และฉันก็ยังเป็นฉันคนเดิม
ที่ยังอยากจะรู้เรื่องราวเป็นไปของเพื่อนฉันอยู่เสมอ

จดหมายนี้ห้ามส่งต่อ
เพราะฉันส่งถึงพวกเธอ เธอเป็นเพื่อนของฉัน
ห้ามส่งต่อ..นี่คือคำขอ
เพราะมันไม่ได้ทำให้ความรักของคุณสมหวัง
เพราะมันไม่ได้ทำให้คุณโชคดี
มันไม่ได้ทำให้คุณพบกับรักแท้
ขอให้อ่านและจำไว้ว่า
ฉันยังคิดถึงพวกเธออยู่เสมอ
และยังอยากรู้ข่าวจากเธอ
จากปากของเธอเอง
ว่าเธอสบายดี

ด้วยรักและคิดถึง

โบ๊ต




 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 30 พฤษภาคม 2551 15:21:43 น.   
Counter : 539 Pageviews.  

รักแห่งสยาม RIT

Ost.เพลงประกอบภาพยนต์เรื่อง รักแห่งสยาม - กันและกัน (Q วง Flure).mp3 -

15.00 เรานัดเจอกันที่สยาม..

ตามสโลแกนที่ว่า ทุกชีวิตเติบโตได้ด้วยความรัก.. ลอกเลียนหนังเรื่อง รักแห่งสยาม..

ออกจากอยุธยา 13.50 ถึง อนุสาวรีย์เกือบๆ 15.00

เสียงริงโทนดังขึ้นง

"ฮัลโหล โบ๊ตอยู่ไหนอ่ะ นกมาถึงแล้วนะ"

555+ สมเป็นหัวหน้าห้องจริงๆ ถึงก่อน รอเช็คชื่อ

" อีกสิบนาทีถึงนะนก ไว้เจอกัน"

สยาม... ไม่ใช่ที่ๆเราคุ้นเคยกันนัก รุ้สึกผิด ที่นัดเพื่อนมาในที่ๆค่อนข้างจะ วัย รุ่น

เด็กหนุ่มสาว แต่งตัวหลากสีสัน..ถ่ายรูป นั่งเม้าท์

เฮ้อ นึกถึงสมัยยังเด็ก..

ไปแค่ ฟิวเจอร์

เดินเข้าไปในร้าน..ก็เห็น นก นั่งอยู่กะฝนก่อนแล้ว




สวยทั้งคู่

ได้นั่งคุยกับแป๊บๆ โทรศัพท์ก็ดังอีก

"โบ๊ต อยู่ไหนอ่ะ นี่จีอยู่ที่สยามแล้ว เอ่อ..อยู่ตรง เนี่ย อ่ะ information..ร้านอยู่ตรงไหนเหรอ"

" ยืนอยู่ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวเดินไปหา"

ห่างกัน 100 เมตร เพื่อนจีมองไม่เห็นร้าน..

พอเจอหน้า โบ๊ตต้องขอโทษจีก่อนนะ ที่นัดมาสยาม 55+

พอได้มานั่งคุยในร้าน ซักพัก.. อ้าว จีท้องนี่หว่า...

เนี่ยถ้าฝนไม่ทัก ก็นึกว่า กินเยอะนะนั่น

จี ท้องได้ 6 เดือนแล้วค่ะเพื่อนๆ (พวกไม่มีลูก โปรดพิจารณาตนเอง)


นั่งคุย นั่งเม้าท์ไป อัพเดต นั่น โน่น นี่

แน่นอน ใครไม่ได้มา โดนเม้าท์หมด

ผ่านไปอีกครึ่ง ชม. สามสาว พาวเวอร์พัฟเกริ์ลก็มา..

จอย เบว เบ๊น นั่นเอง

โห.ไม่ได้เจอ เบว นานมาก น่าเหมือน เบ๊น เลยอ่ะ

สก๊อยเหมือนเดิม

เบ๊น กะ เบว ก็ตัดผมทรงเดียวกัน สก๊อยสไตล์เดียวกัน

ส่วนจอย.. เรากำลังคิดถึงเรื่องที่จะพาเธอไปทำผม และ เปลี่ยนลุค



นั่งรออยู่นาน สั่งอะไรกินนิดหน่อย..

เป็นอันรู้กัน..ว่า โดนเบี้ยว 55+
เพื่อนที่เหลือ คงไม่มากันแล้ววว




ทนหิวไม่ไหว เลยตกลงกันว่า เออ งั้นไปกิน sizzler กันดีกว่า




คุ้มดี..ในยุคประหยัดเช่นนี้
ตอนที่ย้ายร้าน..ขวัญและครอบครัวกำลังเดินทางมา..
นั่งสั่งอาหารที่ sizzler ซักพัก ขวัญก็มา พร้อมกับครอบครัว
พ่อแม่ลูก ..
เห็นแล้ว ทุกคนอยากมีลูกขึ้นมาตะหงิดๆ โดยเฉพาะโบ๊ต




นั่งคุยกันจนห้าโมงกว่า ขวัญก็กลับ..
ส่วนพวกเรา หก สาว พาวเวอร์แรงเจอร์
จะนั่งรอผู้ชาย..ชื่อสรวง
จริงๆก็ไม่เชิงหรอก ติดคุยต่างหาก
แต่จนแล้วจนเล่า It’s not gonna happen..
น้ำคำผู้ชาย เชื่อไม่ได้แล้วฤา
เรามองหน้ากัน ..
แล้วตัดสินใจว่า ผู้ชาย สมควรได้รับการจิก
จึงได้โทรจิก..เสมือนหนึ่งว่า เป็นแฟน
โดย จอย ชนัน ได้โทรไป..
แต่เหมือนเป็นการข่มขู่ มากกว่า การจิก
โบ๊ตจึงคุยแทน
สรวงบอก ขอ 30 นาที
เราโอเค..จะรอ
ระหว่างนั้น พวกเราก็ทำตัวเป็น สาวๆ คลับ เอฟ
ถ่ายรูปกันอย่างไม่เกรงใจผู้จัดการร้าน
แต่ก็เนอะ...นานๆทีอ่ะ


เหลือบไปเห็นโต๊ะอื่น ที่คาดว่า น่าจะอายุประมาณ 18
เค้านัดเจอกันมากกว่า สิบคน
เราก็เลยพูดกันว่า พอเราโตขึ้น อะไรๆมันก็ยากขึ้น
ต่างคนต่างมีครอบครัว เวลาว่างก็ไม่ตรงกัน
หรือแม้ว่า ว่าง แต่มันไม่ใช่ priority อ่ะ
จะให้นัดเจอกันเหมือนตอนเด็กๆ...ไม่ได้แล้ว
สองทุ่มแล้ว..
สรวงยังไม่มา..รถติด
เราทั้งหก จึงพากันเดินไป Centralworld..ฝนอยากดูกระเป๋า
อ่ะดี..ได้ยืดเวลาคุยกันไปได้อีก..


ร่วมๆสามทุ่ม
เราจึงได้แยกย้ายกันกลับบ้าน
เป็นการพบกัน ที่คุ้มค่ามาก
ได้นั่งคุย ได้อัพเดต ในสิ่งที่บางเรื่องเราไม่รู้
อย่างเช่น
.. ใครรู้บ้างว่า ตอนเกิด Tsunami เบวก็อยู่ภูเก็ต อันนี้เราไม่รู้เลยว่าเบวอยู่ในเหตุการณ์ ดีใจมากที่เบวปลอดภัย
... ใครรู้บ้างว่า จอยชนัน หันมาเรียน ภาษาญี่ปุ่นแล้ว (ไม่แน่ใจว่า ภาษาจีนคล่องแล้วหรืออย่างไร)
...ใครรู้บ้างว่า ฝนสนุกกับงานมากซะจนกลับบ้านดึกทุกวัน.. ขับรถกลับดึกๆ และเป็นแฟนของ ซีรีย์ส Desperate Housewives..เหมือนโบ๊ต
…ใครรู้บ้างว่า จี กินข้าวไม่ได้ หรือ กินของหวานไม่ได้ ต้องกินแค่ ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ เพื่อบำรุงลูกในท้องไม่เช่นนั้นจะเกิดภาวะเสี่ยง..
... ใครรู้บ้างว่า นก ทำงานหนักมาก จนขอเจ้านายไม่ให้เลื่อนขั้น เพราะกลัวจะหนักกว่านี้..
... ใครรู้บ้างว่า เบ๊น กะ เบว มี ตุ๊กตา blythe แบบเดียวกันเด๊ะๆ
ตอนเราแยกย้ายกัน โบ๊ตนั่งรถกลับบ้าน คิดว่า การมาครั้งนี้คุ้มดีนะ
“I had a good time” โบ๊ตบอกกะนิกอย่างนี้
อยากให้มันมีซักวันนึง ที่มันเป็นไปได้ ที่เราทั้งหมดจะมาเจอกันอีก..
แต่ไม่รู้เมื่อไหร่..มันยาก..แต่ก็เข้าใจ
แค่เท่านี้ก็คุ้มค่าแล้ว..










 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 26 พฤษภาคม 2551 16:25:15 น.   
Counter : 741 Pageviews.  


Kassie K
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เป็นคนที่พยายามอย่างยิ่งยวด ที่จะ "ทำ" ให้ได้อย่างที่"พูด" แม้บางครั้งมันยาก แต่ก็พยายามให้ถึงขีดสุด กับทุกๆเรื่อง
เคยเป็นลูกเรือ ให้กับสายการบิน สองแห่ง
ปัจจุบัน ไม่ทำแล้ว เพราะ อิ่มตัว อยากมองหาอะไรทำใหม่ๆ
เป็นคนชอบคิด และ ทำอย่างที่คิด

มีความเชื่อว่าในความคิดของตัวเองมากที่สุด หากใจบอกว่าใช่ นั่นคือใช่..

บทความที่เขียนในบล็อคทั้งหมดเป็นผลงานของผู้เขียน
ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต กรุณารับทราบไว้ด้วยนะคะ
[Add Kassie K's blog to your web]