Yu Ki Me . . . Little snow Princess . . . . . . . . . .ยูกิเมะ.....
|
|||||||
Record Book บันทึกลูกน้อย
คือฝั่งซ้ายจะเป็น pocket สำหรับใส่ Post card ที่เอาไว้ติดรูปด้านหลัง ฝั่งขวาจะเป็นที่ใส่สมุด เอาไว้บันทึกเรื่องราวต่าง ทั้งวันเกิด ทริปแรก ก้าวแรก คำแรกที่ลูกพูด ฯลฯ คือมีอะไรให้เขียนเยอะมาก เค้าจะไกด์ไลน์มา ให้เราเติมลงไป ถ้าเขียนเองหมดคงจะนึกเรื่องเขียนไม่ออกค่ะ ตัวอย่าง ซองใส่ผมที่ตัดครั้งแรกค่ะ Recoed book มีแบบอื่นๆ ที่น่าสนใจด้วยนะคะ สำหรับคนที่ไม่ชอบเขียนก็เก็บรูปอย่างเดียวค่ะ แถมอีกนิดค่ะ hand & foot print ขอให้สนุกในการบันทึกความทรงจำดีๆของลูกน้อยนะคะ พาลูกตะลุยต่างแดน How to be on board part 3 (How to Calm a Baby on an Airplane)
Howto Calm a Baby on an Airplane
ถ้าลูกร้องบนเครื่องจะทำยังไง
ปกติเด็กยิ่งเล็กยิ่งง่ายค่ะ ถ้าเริ่มรู้เรื่องแล้วจะเริ่มซนนะคะ
1. เตรียมของล่อทุกอย่างที่คิดว่าลูกจะยอมว่าง่ายค่ะ ทั้งขนม ของเล่นต่างๆหรือหนังสือนิทานค่ะ
เด็กเล็ก แค่เอาเข้าเต้า หรือขวมนมก็เอาอยู่แล้วค่ะ อาจจะมีของเล่นนิดหน่อย เพราะทุกสิ่งรอบตัวเค้าเป็นสิ่งที่น่าสนใจไปหมด เวลาเค้าตื่นเต้นกับสิ่งรอบตัวก็จะไม่งอแงเลยค่ะ
อย่าลืมเช็คผ้าอ้อมด้วยนะคะ ทางที่ดีควรจะเปลี่ยนผ้าอ้อให้ลูกที่ gate ก่อนขึ้นเครื่องค่ะ (อย่าเสียดาย pampers ค่ะ)
2. จุกหลอก (pacifier,soother, comforter, dummy.....) บางคนกังวลว่าจะทำให้ลูกติดและฟันไม่สวย (แต่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่ยืนยันว่าไม่มีผลนะคะ) เอาภาพยูกิตอนเริ่มใช้สิ่งนี้มาให้ดูค่ะ เอามาใส่เองผิดด้านอีกต่างหาก ฝรั่งส่วนใหญ่ 80% ใช้จุกหลอกค่ะเหมือนกับเป็นมารยาททางสังคมอย่างนึง ถ้าเกิดลูกร้องไห้แหกปากในที่สาธารณะ แล้วแม่ไม่ทำอะไรปล่อยให้ร้อง ถือว่าแม่คนนั้นแย่มากๆ ดังนั้นคนส่วนใหญ่เลือกทางออกโดยการใช้จุกหลอกค่ะ มันได้ผลที่สุด เหตุเพราะลูกจะรู้สึกปลอดภัย มั่นใจมากขึ้นเหมือนมีเกราะคุ้มกัน แต่เด็กบางคนก็จะดูดนิ้วค่ะ
3. พาไปเดินเล่นค่ะ บางทีการอยู่ในที่แคบๆจะทำให้เด็กรู้สึกเบื่อแค่พาุลุกเดินก็จะหยุดร้องค่ะ บางทีถ้าร้องหนัก จะต้องพาไปสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำบ้าง
4.ทางออกสุดท้าย คือให้ดู TV เลยค่ะ ต้องสุดๆแล้วนะคะวิธีนี้
มาดูของฝรั่งบ้าง ซึ่งตรงกับประสบการณ์ที่ปุ้มแชร์เลยค่ะ Instructions 1
Pack your carry-on accordingly. TheTransportation Safety Administration has made exceptions for milk and formulawhen you are traveling with a baby so pack as much as you need. Also pack itemsthat hold your baby's interest such as rattles and pacifiers.
2
Change your baby's diaper before boardingthe plane.
3
Feed your baby during take off. This helpswith the pressure build up in the ears.
4
Do what you normally do at home to calmyour baby when he or she begins to fuss. Don't be afraid to walk up and downthe isle if need be, just make sure it's a safe time to do so.
5
Remain calm at all times. The moreagitated and frustrated you become, the more your baby will continue to cry. Ifyou need to, go to the bathroom and allow your baby to cry him or herselfout.
6
Feed your baby again during descent.Again, this can help with ear pressure.
ไม่ว่าอย่างไรก็ตามพยายามเลือกเดินทางเที่ยวบินดึกหรือช่วงเวลาที่ลูกมักจะหลับกลางวันจะดีที่สุดค่ะ
ส่วนยูกินั้นชอบขึ้นเครื่องบินเป็นที่สุด สนุกสนานไม่ค่อยยอมนอนค่ะ
ขอให้โชคดีในการเดินทางทุกคนนะคะ คราวหน้าจะรีวิวเกี่ยวกับรถเข็นสำหรับเดินทางค่ะ พาลูกตะลุยต่างแดน How to be on board part 2 (select flights & baby seats)
ยูกิเริ่มบินครั้งแรกตอน 1 เดือน เพื่อไปทำ passportที่ลอนดอนค่ะ จำได้ว่าตอนนั้นตื่นเต้นก็มาก กลัวว่าจะยาก กลัวลูกร้องไห้รบกวนคนอื่นเค้า แต่ที่จริงแล้วไม่เลยค่ะ เคยอ่านรีวิวของคนอื่นว่าตอนเครื่องบิน takeoff ต้องให้ลูกดูเนมเพื่อใปรับความดันหู แต่ยูกิไม่ยอมดูดเพราะหลับ ก็เลยกังวลมากกลัวลูกปวดหู แต่ถามแอร์แล้ว เค้าบอกว่าไม่เป็นไร ซึ่งมันก็ไม่เป็นไรจริงๆ ดังนั้นถ้าลูกหลับก็ไม่ต้องปลุกค่ะเค้าปรับตัวได้เองค่ะ
Instructions มาดูคำแนะนำของฝรั่งกันก่อนค่ะ เป็นไอเดียคร่าวๆ (ซึ่งมีประโยชน์นะคะ)
1. Book a nonstopflight during off-peak hours, and hope for empty seats. 2. Book in advance, ifpossible, and select the seats you want. Where there are three-seated rows, youcan often request a window seat and an aisle seat and then have one seat foryour supplies. 3.Check with the airline about what you can bring on the plane. If the flight isnot full, you can often bring an airline-approved car seat onboard even if youdidn't buy an extra ticket. Also, most airlines will allow you to check afold-up stroller at the gate. 4.Inquire about services and amenities when you book the flight. Does the airlineprovide a bassinet? Does it provide special food for babies? 5.Consider taking a red-eye if it's a long flight. Although you may not get agood night's sleep, it may be easier for your baby to travel at night and avoiddramatic changes in routine. 6.Try to fly with another adult, who can offer an extra pair of hands and provideadditional ideas for entertaining the baby. 7.Bring food, bottles and new toys as well as old favorites. Also bring an extrapair of baby clothes and plenty of diapers. Being stranded in a plane with ababy in wet clothes or diapers does not bode well for anyone on the plane. 8.Travel equipped with medical records and your pediatrician's phone number ifyour baby takes medication. 9.Preboard. If you're choosing seats, try to sit near other families. In additionto the distraction other children can provide, another family may tolerate yourchild's temper tantrum better than most other travelers. 10.Offer your baby a bottle, cup or breast on the ascent and descent. Swallowinghelps eliminate any discomfort from changing air pressure.
ลูกนั่งอย่างไร เอาคาร์ซีทไปได้มั้ย หรือใช้ Bassinet ดี
ปกติแล้วสายการบินอนุญาตให้เอาคาร์ซีทกับรถเข็นไปได้ค่ะ 1. ตอนเช็คอินให้ถามเค้าว่าเราจะเอาคาร์ซีท on board ได้มั้ย + ถ้าเครื่องไม่เต็ม + ถ้าเราไม่ได้ที่นั่งด้านหน้าที่สามารถติด Bassinet ได้ + ลูกเล็กยังนั่งเองไม่ได้ (น้อยกว่า 6เดือน) เราจะได้สิทธิ์ในการถือคาร์ซีทขึ้นเครื่องเลยซึ่งจะสะดวกที่สุด เพราะลูกจะนอนสบาย หลับตลอดไฟล์ท
ตอนยูกิ 3 เดือนครั้งแรกที่ยูกิบินกลับเมืองไทย ใช้เวลา 22 ชม. ด้วย EMIRATE เป็นไฟล์ทที่สบายที่สุดเพราะเหตุนี้ค่ะ
2. ขอที่นั่งด้านหน้าโบกกี้ (Bassinet seat) สำหรับเด็กเล็กหนักไม่เกิน 10 kg. อันนี้เป็นทางเลือกที่คนเลือกมากที่สุดดังนั้นคุณจะต้องเช็คอินและจองที่นั่งออนไลน์ค่ะ ปกติจะเช็คอินออนไลน์ได้ได้ก่อนบิน 24 ชม.ค่ะ ที่นั่งส่วนนี้พอเครื่องขึ้นเรียบร้อยมีสัญญาณปลดเข็มขัดนิรภัยแล้ว แอร์จะเอา กระเช้าสำหรับให้ลูกนอน มาติดให้ ที่ฝนังหน้าที่นั่งเรา
ข้อดี ลูกจะนอนหลับสบาย (ในกรณีเด็กที่หลับง่ายนะคะ) มีพื้นที่กว้างนั่งเล่นที่พื้นได้ ข้อเสีย ถ้าเด็กข้างงอแง ลูกคุณก็จะไม่ได้นอนเช่นกันค่ะ
ยูกิเคยไดีที่นั่งส่วนนี้ 2 ครั้ง ครั้งแรกตอน 4เดือน ปรากฎว่ายูกิไม่ยอมนอนในกระเช้าค่ะพอนอนยากต้องอุ้มกล่อมหลับ และติดเต้ามาก สรุปไฟลท์นั้นต้องอุ้มหลับตลอดไฟล์ค่ะ (คุณแม่อาจจะต้องเตรียม baby sling ไปด้วยนะคะหรือจะใช้ผ้าห่มที่เค้าให้มาดัดแปลงเอาค่ะ) ครั้งที่สอง ตอน 17เดือน (ตอนนั้นหนัก 9.25 kg.) ครั้งนี้เยี่ยมมาก ยูกิยอมนอนในกระเช้าแล้ว สะดวกมากๆค่ะแต่เด็กข้างๆงอแงไม่ยอมนอน โชคดีที่บินไฟล์ทดึก ยูกิง่วงนอนจัดก็เลยไม่ค่อยตื่นค่ะ
3. ไฟล์ทเต็ม ต้องนั่งบนตักอย่างเดียวค่ะ ให้เลือกที่นั่งติดทางเดิน
บางทีไม่มีที่นั่งติดทางเดินว่าง โดนจับติดหน้าต่าง (3 seat) สำหรับคนที่เจอกรณี มันไม่ได้แย่เสมอไปนะคะ (โดนแบบนี้ประจำค่ะ) แทบจะทุกครั้งที่เป็นแบบนี้ค่ะ ดังนั้นอย่าเพิ่งเครียดนะคะ
เมื่อไปถึงที่นั่ง ให้ดูว่าคนที่นั่งข้างๆ ยอมแลกที่นั่งมั้ยให้เค้าไปนั่งติดหน้าต่างแทน 80% ยอมค่ะ (บางคนไม่ยอม ดังนั้นเราก็นึกในใจเลยว่า ถ้าไม่ยอมเตรียมตัวซวยแน่ พร้อมอวยพรในใจ โชคดีนะเพื่อน) ไอคนที่ไม่ยอมแลกเป็นบุคคลที่ยอมซวย ด้วยทางเลือกตัวเอง ช่างมัน
ปกติคนที่บินบ่อยๆจะมีประสบการณ์และรู้ว่าเด็กจะต้องออกไปเดินเล่นบ่อยๆหรือเข้าห้องน้ำบ่อย ก็จะยอมแลกแต่โดยดี
แต่บางไฟลท์ อย่าง Emirateที่บินบ่อย เด็กบินเยอะ แต่ไฟลท์ไม่เต็มเท่าไร่ เราก็จะได้ที่นั่ง 3 ที่ริมหน้าต่างเลย ทำให้เรามีขยับขยายมากขึ้นค่ะ (นานๆที)
บางคนบินบ่อยขนาดเตรียมหมอนใหญ่ๆมาด้วย เอาถาดวางอาหารลงแล้วเอาหมอนวางเสร็จจับลูกนอนสบายมากค่ะ ดิ้นยังไงก็ไม่ร่วง ถ้ามีเงินหน่อยก็ซื้อตั๋ว Frist class หรือ Bussiness class เลยค่ะ รับรองสบายที่สุด มีความสุขที่สุด คุ้มมากค่ะ (จะเอาไมล์สะสมอัพเกรดก็ได้นะคะ) ติดตามตอนต่อไปนะคะ วิธีทำให้ลูกไม่งอแงบนเครื่องค่ะ
พาลูกตะลุยต่างแดน How to be on board part 1 (packing)
ปฎิบัติการหย่านมแม่
|
poompooee
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?] Group Blog All Blog
|
||||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |