ปริญญา...แห่งชีวิตที่แท้จริง

ปริญญานั้นหรือคือกระดาษ
หาใช่มารถวัดความเป็นคนไม่
ความรู้คุณธรรมและน้ำใจ
อีกนิสัยรู้งานนั่นแหละคน



ปริญญา...แห่งชีวิตที่แท้จริง


วันนี้เจ้าลูกศิษย์คนหนึ่งเขาจบปริญญาตรีแล้ว บอกให้ผู้เขียนถ่ายรูปด้วยกัน เป็นที่ระลึก ทำให้ผู้เขียนคิดว่าผู้คนมากมายเมื่อได้รับปริญญาตรี โท เอกแล้ว ต่างพากันดีใจมาก โดยคิดว่า นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์เพราะคิดว่านี่คือ “ปริญญาแห่งชีวิต” แต่จริงๆ มันยังไม่ใช่...!


เมื่อเรากระทบอารมณ์ที่ขุ่นมัว และที่ไม่พอใจ เราจะแสดงอาการโกรธแค้นออกมา อยากโกรธทุกๆ คนที่ขวางหน้า อย่างนี้ปริญญาที่ได้รับไม่ได้สอนไว้ แต่ปริญญาชีวิตของพุทธเจ้าสอนไว้ว่า ลองปรับเปลี่ยนสภาพอารมณ์เสียใหม่ “พยายามหยุดทำ หยุดพูด หยุดคิด ถึงสิ่งที่เลวร้าย” หายใจออกยาวๆ เข้าลึกๆ เพื่อให้ปอดได้รับออกซิเจนมากๆ แล้วกำหนดใจตัวเองอย่างมีสติสัมปชัญญะ


หายใจออกยาวๆ เพื่อให้ปอดขยาย จนกว่าใจจะสงบเย็นสบาย เมื่อเราไม่พอใจ ไม่ต้องคิด อย่าคิดไปตามอารมณ์ คิดว่า “โลกแห่งความโกรธมีไว้เหยียบ ไม่ได้มีไว้แบกให้มันหนัก” เพราะอารมณ์เป็นบ่อเกิดแห่งกิเลส ตัณหา คิดว่า ทำไมเขาทำอย่างนี้ เขาไม่น่าทำอย่างนั้น เพราะไม่มีใครทำตามความคิดเราได้แม้แต่ตัวเราเอง เพราะถ้าเราทำตามที่เราคิดได้โลกคงพินาสแน่อน เพราะเราเองเดี๋ยวดี เดี๋ยวร้ายนั่นเอง


พิจารณาดูใจสมมติว่า เรากำลังเดินกลับเข้าบ้าน มองเห็นควันมีไฟลุกขึ้น ไฟกำลังไหม้บ้านของเรา สิ่งแรกที่เราคิดคือ อะไร..? ถึงแม้เรามองเห็นว่า มีใครวิ่งหนีไปก็ตาม แต่ใจเราก็อดที่จะกังวลไม่ได้ ตกใจไม่ได้ แล้วเราไม่ต้องคิดสงสัยว่า เขาเป็นผู้ร้ายหรือเปล่า...! ไฟไหม้ได้อย่างไร... แต่ถ้ามี “สติสัมปชัญญะ” ครบบริบูรณ์ เราก็สามารถแก้ไขได้อย่างปกติ


สัญชาตญาณแรกสิ่งที่ต้องทำก่อนทุกอย่างคือ วิ่งเข้าไปหาทางดับไฟ ขณะมีสติให้เร็วที่สุด หาน้ำ หาเครื่องดับไฟ หากระสอบชุบน้ำ ฯ ทำดีที่สุด เพื่อที่จะดับไฟให้สำเร็จ เมื่อดับไฟแล้ว จึงค่อยคิดหาสาเหตุว่า ทำไมจึงเกิดไฟไหม้  มันเป็นอุบัติเหตุหรือมีใครลอบวางเพลิง มีใครประสงค์ร้ายคิดทำลายทรัพย์สมบัติของเราหรือไม่ นั่นคือ ประเด็นรองลงมา เห็นหรือยังว่า “สิ่งที่ได้ผลที่สุดคือ การดับไฟก่อน” รอไม่ได้


เมื่อเกิดอารมณ์ ไม่พอใจ โกรธแค้น ไม่ต้องคิดหาเหตุว่า “ใครผิด ใครถูก ระงับความร้อนใจระงับความโกรธของตัวเองให้ได้เสียก่อน” ดับไฟโกรธเสียก่อน ด้วยการหายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ หายใจออกยาวๆ เพื่อให้สมองได้คิด


เมื่อใจสงบแล้ว จึงค่อยคิดด้วยสติปัญญา ด้วยเหตุผล นั่นคือประตูแห่งสติปัญญา ที่รู้เท่าทันเหตุอันเป็น “ปริญญาแห่งชีวิต” ที่แท้จริงต่างหาก เพราะปริญญาที่แท้จริงคือ การมีธรรม การมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเปกขา ที่มีอยู่ในใจมนุษย์เท่านั้นที่สำเร็จได้จริงๆ


ว. ปัญญาวชิโร







Free TextEditor



Create Date : 23 ธันวาคม 2553
Last Update : 23 ธันวาคม 2553 23:54:01 น. 1 comments
Counter : 827 Pageviews.

 
ขอบคุณค่ะ
ข้อคิดเล็กๆ นี้


โดย: yui IP: 76.167.231.46 วันที่: 25 ธันวาคม 2553 เวลา:7:53:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

samuellz
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชอบชีวิตอิสระที่สุด
รักทุกคนที่มีธรรมะ
[Add samuellz's blog to your web]

MY VIP Friend


 
 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com