มองชีวิตอย่างมีมรณานุสติ

มองชีวิตอย่างมีมรณานุสติ








มองชีวิตอย่างมีมรณานุสติ

 


ท่ามกลางในโลกที่สับสน วุ่นวายการมองหาจุดยืนที่แท้จริงเป็นเรื่องยากในโลกชีวิตที่หลอกลวง เราอาจจะถามตัวเองว่า ชีวิตเราอยู่ไปเพื่ออะไร..? แล้วทำไมเกิดมาแล้วต้องตายด้วยอาจไม่มีใครตอบได้ บางทีการได้มอง “มรณานุสติคือ ระลึกถึงความตายเป็นอารมณ์” อาจเป็นการบอกให้เราได้รู้ว่า จุดสุดท้ายของชีวิต อยู่ที่ลมหายใจ แล้วมันอยู่ไม่ไกลแค่ปลายจมูก หยุดหายใจเมื่อไรเป็นอันหมดชีวิตความเป็นมนุษย์ไปหนึ่งชาติ

 


เอ๊ะ! บางทีเราระลึกถึงความตายเป็นอารมณ์แล้ว จิตจะเริ่มสลดลง ใจเราเริ่มสังเวชสังขารคือ กายนี้ถอนจากอารมณ์อื่นๆ เปลี่ยนมาพิจารณา “ความตายเป็นการดำเนินชีวิตขั้นนสุดท้ายของคนเรา” บางทีเราอาจได้จุดเปลี่ยนเป็นหลายอย่างได้ แล้วยังจะมีอะไรเหลืออยู่อีก เมื่อมัจจุราชมาปลิดชีวิตเราไป

 


มนุษย์เรานอกจากความตายแล้วไม่มีอะไรแน่นอน เราควรคิดว่า “ชีวิตเราควรลุกขึ้นมาแล้วทำความฝันให้เป็นจริง ทำความให้กับชีวิต มันก็แล้วแต่เราจะเลือกทำ” ทำไมเราจะต้องมาแย่งชิงกันทำไม ลองคิดให้ดีว่า “คนดีนั้นจะเห็นได้..ในยามยาก ไม่มีพราก..ไม่ถอยหนีรีบแก้ไข วันนี้เราเห็นท่านอยู่..สู้ด้วยใจชัยชนะจึงตามมา” หลายคนอาจพูดเพื่อให้คนอื่นปลง ให้คนอื่นปรับ แต่ตัวเองกลับหลงมากกว่าเดิม น่าเสียดายจริงๆ พอมองตรงนี้แล้วทำให้เราได้คิดว่านอกจากความตายแล้วไม่มีอะไรที่จะทำให้มนุษย์สลดลงได้ แล้วเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจากร้ายให้กลายเป็นดี

 


ส่วน “มรณานุสติ” เวลาใครทำกรรมฐานแล้วได้พิจารณาว่า “เราเกิดมาเพื่อรอวันตาย เราได้เพื่อรอวันเสีย เรามีเพื่อรอวันหมด เราพบเพื่อรอวันจาก เราเจอเพื่อรดวัดพลัดพลาก” เป็นธรรมดานี้เป็นยอดของกัมมัฏฐานที่ภาวนาในใจ ใครจะพิจารณาอะไรๆ ก็ตามเถิด จิตอาจยังไม่เกิดความสลดสังเวชเหมือนพิจารณาความตาย

 


สมัยพุทธกาล...พระพุทธเจ้าทรงตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลายเธอพิจารณามรณสติอย่างไร ภิกษุบางองค์กราบทูลว่า “ข้าฯ พิจารณามรณสติแล้ว กลัวว่าชีวิตจะไม่ข้ามวันข้ามคืนไปได้ กลัวจะตายก่อนไม่ทันฉันบิณฑบาต บางองค์พิจารณาขณะฉันอยู่ ก็กลัวว่าจะตายก่อนฉันไม่ทันเสร็จ แม้ถึงอย่างนั้นพระองค์ยังตรัสว่าประมาทอยู่...เมื่อผู้ใดพิจารณาความตายอยู่ทุกลมหายใจเช้าออกนั้นจึงจะเป็นผู้ไม่ประมาท หายใจเข้าแล้วไม่หายใจออกก็ตาย หายใจออกแล้วไม่หายใจเข้าก็ตาย เป็นอยู่อย่างนี้เรียกว่าเป็นผู้ไม่ประมาท” นี่เป็นพุทธพจน์อันเป็นอมตะจริงๆ

 


มุมมองสุดท้ายของชีวิต

 


เราลองสังเกตุให้ดีว่า “ที่สุดท้าย...หรือจุดจบของชีวิต” มักจะมีจุดเริ่มของทุกๆ เรื่อง...ที่ใครต่อใครมักวาดฝันไว้ ในวินาทีสุดท้าย ในที่สุดของชีวิตนั่นคือ “วินาทีสุดท้ายแห่งลมหายใจ...จะทำให้ดีที่สุด” บางคนคิดได้ แต่หมดหนทางแก้จะมีประโยชน์อะไรกับชีวิตของลมหายใจสุดท้าย คนมากมายมาคิดได้ตอนลมหายใจสุดท้ายที่จะทำความดี แล้วจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อไม่คิดพิจารณาขณะมีชีวิตเป็นๆ มีร่างกายแข็งแรง

 


เราต้องพิจารณาให้ดีว่า “เสียใจในตอนที่ทำผิด คิดได้คุณในตอนสุดท้าย คิดหวลกลับในตอนที่เสียไปแล้ว เสียดายในตอนที่ลาจาก เผลอโง่ ในตอนที่โกรธ ขอโทษในตอนที่สายเกินไป รู้ตัวในตอนที่หมดเวลา เห็นค่าในตอนที่จากไปแล้ว จะมีประโยชน์อะไร ถ้าไม่รู้จักค่าในปัจจุบัน” พูดง่ายๆ ว่า ปล่อยเวลาให้ล่วงไปอย่างไร้โอกาสแล้วกลับมาคิดได้

 


ลมหายใจสุดท้ายของชีวิตเราจะเป็นอย่างไร? มันขึ้นอยู่ที่ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในชีวิตของเราได้สร้างสิ่งดีๆ อะไรไว้ในชีวิตบ้าง ลมหายใจสุดท้ายจะเป็นตัววัดตัวบอกให้ มิใช่สักแต่ว่า “หายใจไปเพียงวันๆ”เท่านั้นหรือ..? ถ้าเราหายใจไปด้วยพลังแห่งความศรัทธาในศีล สมาธิ ปัญญา ด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณที่รวมตัวเป็นพลังใจอันยิ่งใหญ่ที่งดงามที่สุด เราจะได้คุณค่า ได้ประโยชน์ทุกวินาทีด้วยใจที่เป็นปกติสุข

 


เหือก...!! สุดท้ายของลมหายใจในชีวิตที่จะหยุดสงบนิ่งหรือร้อนรน ทุรนทุราย... ที่เต็มไปด้วยวินาทีแห่งความทุกข์มันขึ้นอยู่กับการปรับสภาพจิตใจไว้อย่างพอดีในขณะที่เรามีชีวิตพร้อมเสมอ อย่างไม่ประมาท เราควรคิดพิจารณาในขณะมีชีวิตเป็นๆ เสมอว่า “ยิ้มได้เมื่อทุกข์มา ชะตาชีวิตลิขิตด้วยใจที่พร้อมสู้คือชีวิตที่สะอาด สว่าง สงบเย็น...ชีวิตที่เผชิญทุกข์ได้อย่างเป็นสุขคือชีวิตที่พร้อมสิ้นใจอย่างไม่ประมาท” นั่นเอง

 


จากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ของชีวิตที่ผ่านเข้ามา มันเป็นสิ่งเตือนใจตัวเราเองเสมอว่า ทุกสิ่งมีสุขมีทุกข์พร้อมที่จะมอบให้ในช่วงของวันเวลา...แต่ละวินาทีนั้นๆ หากสิ่งที่งดงามในชีวิต จากสิ่งเล็กๆ นี้อาจนำมาซึ่งพลังแห่งศรัทธาอันเต็มเปี่ยมด้วยความดีงาม มาสู่จิตใจของชีวิตที่จะนำพาสู่มวลมนุษย์ที่งดงามและผาสุก ทำให้เราพร้อมเสมอว่า “เห็นถูกต้อง พูดถูกต้อง ทำถูกต้อง ได้ถูกต้อง เป็นถูกต้องนี่คือ สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตที่เป็นมนุษย์” นี่เป็นจุดสำคัญของชีวิตในวาระสุดท้าย


ว. ปัญญาวชิโร







Create Date : 22 พฤษภาคม 2555
Last Update : 22 พฤษภาคม 2555 22:42:46 น. 2 comments
Counter : 927 Pageviews.

 
ขอบพระคุณค่ะท่านยอาจารย์


โดย: นางฟ้า แสงแห่งธรรม IP: 217.120.220.221 วันที่: 23 พฤษภาคม 2555 เวลา:3:50:12 น.  

 




โดย: sanya IP: 71.165.36.182 วันที่: 23 พฤษภาคม 2555 เวลา:3:52:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

samuellz
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชอบชีวิตอิสระที่สุด
รักทุกคนที่มีธรรมะ
[Add samuellz's blog to your web]

MY VIP Friend


 
 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com