ไอ้เราก็กลับมาอยู่บ้านได้หลายวันแล้วนะ ไม่เค้ย ไม่เคยเจอฝนตหนักสักที
เห็นข่าวที่ กทม. ฝนตกหนักมากจนน้ำท่วม
ก็ได้แต่นึกดีใจ โชคดีที่กลับมาอยู่บ้าน
วันนี้เป็นไงล่ะ โป๊ะเช๊ะ
ฝนตกแบบไม่ลืมหูลืมตาจริงๆ
เพิ่งเข้าใจคำว่าฝนตกแบบไม่ลืมหูลืมตา ก็วันนี้
ตกแบบใครที่คิดจะขับและขี่รถออกไปข้างนอก ไปตลาด ไปนั่น มานี่ ต้องชะงัก
ชะโงกหน้าออกมาจากบ้าน ที่ทำงาน เป็นต้องมุดกลับเข้าไปใหม่
ส่วนเรานั่งอยู่ที่ตลาด ฝนตกที รู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก
ตอนแรกที่ฝนตก ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะตกหนักแต่อย่างใด
ตกเป็นฝอย ละอองน้ำฝน
ที่คล้ายกับเวลาเราฉีดสเปรย์รีดผ้าเรียบลงบนเสื้อที่รอรีด
สักพัก จากเสียงเปาะแปะ เปาะแปะ
ก็กลายเป็น ซู่
ซ่า
(กรุณาออกเสียงตาม จะได้อารมณ์มาก)
ซู่
ซ่า
ซู่
ซ่า
.
ซู่
..ซ่า
..
ซู่ซ่า ซู่ซ่า ซู่ซ่า ซู่ซ่า ซู่ซ่า ซู่ซ่าซู่ซ่า ซู่ซ่า ซู่ซ่า
ตกอย่างนี้ทั้งบ่ายประมาณสามรอบ โอ้มายก็อดดดดด
นอกจากนี้ ความเร็วและความถี่ของการตกยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ระดับความดังก็เพิ่มขึ้นเฉียดระดับที่สร้างความรำคาญ แทนความรื่นรมย์
จากเสียง melody กลายเป็น noise ไปซะงั้น
ถึงตอนนี้ ที่ฝนหยุดตกแน่นอนแล้ว
แต่เสียงฝนตกเมื่อบ่ายนี้ ยังคงดังก้องซ้ำไปซ้ำมาในหูอยู่เลย