|
# 2 Interview
ไม่ใช่ว่าหน่วยงานเราคัดเลือกคนมาแล้วก็จะไปทำงานที่โน่นได้เลย ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกค่ะ
ปีที่ฉันสมัครไปนั้น คล้ายเป็นปีตกรุ่น คือ เขาคิดว่าจะตัดประเทศไทยแล้ว แต่จู่ๆนึกยังไงขึ้นมาก็ไม่รู้ ให้โควต้า Secondee จากประเทศไทยสักคนก็แล้วกัน ช่างประจวบเหมาะกับที่ตัวฉันหมดภาระพอดี ไม่ต้องไปนั่งเรียนหนังสือภาคค่ำแล้ว เลยตัดสินใจสมัครไป มีคนสมัครหลายคนอยู่ล่ะ ที่ทำงาน screen แล้วก็เลือกเหลือ 3 คน จากนั้น Director ชาว NZ ซึ่งเป็นตำแหน่งรองจาก GM (ระดับสูงสุดของหน่วยงาน) ก็บินมาสัมภาษณ์ถึงเมืองไทย และเขาตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียวว่าจะเอาใครไปหรือจะไม่เอาใครไปเลย
ฉันจับสลากได้เข้าสัมภาษณ์เป็นคนสุดท้ายล่ะ นั่งรอสัมภาษณ์ร่วมชั่วโมง Director คนนั้นสัมภาษณ์คนเดียวค่ะ เขาใช้เวลาสัมภาษณ์คนละครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ พอถึงรอบคิวข้าฯ เขาเดินออกมาเข้าห้องน้ำ ฉันแอบเห็นแก้วน้ำในห้ององสัมภาษณ์เลยขอน้องที่อำนวยการสัมภาษณ์ว่าขอน้ำไปดื่มระหว่างสัมภาษณ์ด้วย 1 แก้ว ไม่งั้นตูคงต้องกลืนน้ำลายดูเขาดื่มน้ำระหว่างคุยกันแน่เลย
เขากลับมาจากเข้าห้องน้ำ (เออ ฉากนี้มันสำคัญยังไงหว่า ถึงต้องใส่ ) แนะนำตัวเขาแล้วก็ให้ฉันแนะนำตัวตามลักษณะคำถามเบสิค หลังจากนั้น คาดว่าเขาคงถามคำถามวิชาการเกี่ยวกับงานที่ฉันทำ แต่เขาไม่ถามลงลึกในเนื้อหางาน อาจเป็นเพราะเห็นว่าฉันมีประกาศนียบัตรทางวิชาชีพซึ่งตรงกับลักษณะงานที่ต้องไปทำที่โน่นอยู่แล้วก็เป็นได้ เขาถามเรื่องทั่วๆไปเกี่ยวกับงานของหน่วยงานในไทย แค่นั้นก็กินเวลาไปร่วม 15 นาทีแล้ว จากนั้นก็ถามว่า
เขา: ทำไมถึงสนใจสมัครไปทำงานที่โน่น
ฉัน: ฉันอยากออกไปจากกรุงเทพฯชั่วคราว ฉันอยากรู้ว่าที่ NZ ที่ว่าเงียบสงบนั้น มันเป็นอย่างไร (ทำหน้าจริงจังมาก ไม่พูดถึงงานเลย......โปรดฟังอีกครั้ง นิ่งไปสักพัก เริ่มรู้ตัว เริ่มนึกได้ เลยบอกต่อว่า...) แล้วฉันก็อยากรู้ด้วยว่า Software xxx. ที่ทางหน่วยงานคุณใช้อยู่มันทำงานยังไง จะได้เอามาปรับใช้กับงานของฉันไงล่ะ
เขา: (ยิ้มคล้ายๆ รู้ทันน่ะ) ในใบสมัครของคุณ คุณเคยไปที่ประเทศ....(ขอปิดนะ ส่วนตัวจ้า) มาก่อน อยู่ที่โน่นไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง
ฉัน: หืม...(แอบงง) เอ่อ...เที่ยวหลายที่ เช่ารถกับเพื่อนไปเที่ยวที่.........(ก็เล่าไป...ซะ)
ระหว่างนั้น คู่สนทนาก็วาดแผนที่ตำแหน่งของเมืองที่ไปเที่ยวตามไปด้วย และเสริมเรื่องเที่ยวเป็นระยะ คล้ายว่าบางที่ เขาเคยไปมาแล้วมั้งไม่แน่ใจ และระหว่างที่เล่าไป ฉันก็จิบน้ำไป มิเสียแรงที่อุตส่าห์หยิบติดมือเข้ามาด้วย
เขา: เพื่อนชาติอะไร
ฉัน: เพื่อนคนไทย แต่ละ trip ก็เปลี่ยนหน้าไปเรื่อย มีเพื่อนอยู่หลายที่
เขา: เวลาว่างชอบทำอะไร
ฉัน: อ่านนิยาย
เขา: นิยายเรื่องเกี่ยวกับอะไร เล่าให้ฟังหน่อย
ฉัน: (ก็เล่า....น้ำเน่าซะไม่มี)
เขา: ดูหนังหรือเปล่า
ฉัน: ดูบ้างแต่ไม่บ่อย
เขา: เรื่องสุดท้ายที่ดู เรื่องอะไร
ฉัน: The Day After Tomorrow เคยดูมั้ยคะ
เขา: เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร เล่าให้ฟังหน่อย เอาแบบสรุปๆนะ (ทำหน้าแบบไม่เคยดูจริงๆ แต่คงกลัวว่าต้องฟังเรื่องยาว เลยต้องกำชับตอนท้าย )
ฉัน: เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เปิดฉากมาก็หิมะตกที่อินเดีย จบด้วยน้ำท่วมเมือง New York หิมะตกเต็มยาวไปถึง Mexico ทำให้ฉันนึกถึง Kyoto Protocol ที่บางประเทศไม่ยอมเข้าร่วมสนธิสัญญานี้
เขา: ถ้าพูดถึง New Zealand นึกถึงอะไร
ฉัน: นึกถึง Kiwi ที่เป็นได้ทั้งคน ผลไม้และนก
เขา: (เขายิ้มล่ะ) ถ้าได้ไป จะเตรียมตัวทันมั้ย (ต้องเดินทางอีก 2 สัปดาห์ถัดไป) ผมรู้ว่าทางเราตัดสินใจค่อนข้างกระทันหันที่ให้โควต้ากับประเทศไทยในปีนี้
ฉัน: ทันค่ะ (แหงล่ะ ใครๆก็ต้องตอบแบบนี้ ) ไม่ได้มีงานค้างอะไรที่นี่
เขา: ขอให้โชคดี สวัสดี
ฉัน: ขอบคุณและหวังว่าจะได้เจอกันอีก
หมดไปร่วม 45 นาที คนสุดท้ายแล้วนี่ ไม่ต้องกลัวว่าใครต้องมานั่งรอ
หลังสัมภาษณ์ ฉันไปคุยกับเพื่อนร่วมงานอีก 2 คนที่เข้าสัมภาษณ์ก่อนหน้า เขาบอกว่าฟังไม่ค่อยออก สำเนียงคน Kiwi ฟังยากจริงๆ ยอมรับ แล้วคนไทยเราส่วนใหญ่ชินกับสำเนียง American เพราะดูหนัง Hollywood เยอะ ฉันเองก็ Pardon me, Again please, Do you mean
.. อยู่หลายหนเหมือนกัน ส่วนลักษณะของคำถาม ก็เจอคล้ายๆ กัน เกี่ยวกับงานบ้าง นอกเรื่องบ้าง แต่พอนอกเรื่อง อีก 2 คนเขากลับตอบไม่ค่อยได้ ประมาณว่าไม่ได้เตรียมมา (ทำไมต้องเตรียมล่ะ ก็มันนอกเรื่องนี่นา)
เย็นวันนั้น อดีต Secondee หลายคนที่เคยไปทำงานที่นั่นพาเขาไปเลี้ยงข้าวเย็น ฉันมีเพื่อนอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย เพื่อนช่วยล้วงความลับแต่ความลับไม่ยักรั่วออกจากปาก เขาบอกว่าเดี๋ยวก็รู้เองล่ะ
ยกบทสัมภาษณ์จริงที่พอจำได้มาให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ เผื่อว่าใครต้องสัมภาษณ์เป็นภาษาที่เราไม่ถนัด จะได้รู้ว่า พวกตะวันตก เขาจะมีคำถามนอกเรื่องมาถามด้วย
Create Date : 15 ธันวาคม 2551 | | |
Last Update : 22 ธันวาคม 2551 19:19:52 น. |
Counter : 367 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|
|
|
MY VIP Friends
|
|
|
|