Group Blog
 
All blogs
 
น้ำมันมะกอกวันละ 1 ช้อนโต๊ะ เพื่อสุขภาพ




"มะกอก" หรือ ซัยฏูน ที่มุสลิมเรารู้จักกันดี เป็นพืชที่กำลังอยู่ในกระแสของความสารพัดประโยชน์ ไม่ว่าจะนำมาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง ยา อาหาร และยังนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย

โดยเฉพาะเป็นส่วนประกอบของอาหารชั้นเลิศตามภูมิปัญญาชาวบ้านมาตั้งแต่อดีต ยกตัวอย่าง สมัยที่ท่านนบีมูฮัมหมัดศ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมยังทำการเผยแผ่อิสลามอยู่นั้น ท่านก็ได้อาศัยน้ำมันมะกอกนำมาทาบนขนมปัง และรับประทาน หรือ ใช้ในส่วนผสมของการทำขนมปัง หรือ อาหารประเภทอื่นๆ ที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ และยังเป็นพืชที่ได้ถูกกล่าวไว้ในอัลกุรอานหลายครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นพืชที่มีความจำเริญ น้ำมันมะกอกที่ผู้เขียนอยากจะแนะนำให้รับประทานนั้น ควรบริโภคน้ำมันมะกอกที่เป็นสินค้านำเข้าจากอรับมากกว่าที่จะเลือกสินค้าที่มาจากประเทศสหรัฐฯ และประเทศแถบตะวันตก เนื่องด้วยการเป็นการบอยคอตสินค้าอย่างหนึ่ง น้ำมันมะกอกที่มาจากกลุ่มประเทศทางอรับมักจะบรรจุในกระป๋องอลูมิเนียม อีกทั้งราคาย่อมเยาว์กว่า

น้ำมันมะกอกไม่จำเป็นต้องนำมาทานควบคู่กับอาหารแพง อย่างในบทความข้างล่างนี้ เพียงแต่ต้องการเสนอให้เป็นแนวทางในการประยุกต์มาใช้กับอาหารแบบมุสลิมบ้านเรา หรือ อาหารที่ทำรับประทานง่าย ๆ ไม่ฟุ่มเฟือย แต่ให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย ช่วยให้เรามีเรี่ยวแรงความสามารถทำอามัลอิบาดะหฺ ต่อองค์อัลลอฮฺ ผู้สร้างทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ และมวลสรรพสิ่งทั้งหลายเป็นของพระองค์

ยิ่งช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กระแสอาหารเพื่อสุขภาพมาแรงเหลือเกิน และมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกวัน ไม่ตกยุค ด้วยเหตุนี้ นันทินี แทนเน่อร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอช แอนด์ โก จำกัด จึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับคุณภาพมาให้คนไทยได้ลิ้มลองในงาน "โอลีฟ ออย เทสติ้ง แนะนำ น้ำมันมะกอกโอลิวิเย่ร์ แอนด์ โก" ที่ร้านโอลิวิเย่ร์ แอนด์ โก ชั้น 2 ศูนย์การค้า เพนนินซูล่า พลาซ่า เมื่อเร็วๆ นี้

เจอราร์ด มอริส ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ โอลิวิเย่ร์ แอนด์ โก ประจำประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่บินมาเมืองไทยเพื่อร่วมงานนี้กล่าวถึงวิธีการชิมน้ำมันมะกอก ว่าการชิมที่ต่างประเทศจะใช้แก้วสีชาหรือเข้มๆ เพื่อไม่ให้สีของน้ำมันมะกอกมีอิทธิพลจูงใจผู้ชิม และใช้การหมุนแก้ววนๆ ให้น้ำมันมะกอกได้สัมผัสกับอากาศ เกิดความร้อนของน้ำมันจะได้ไอน้ำมันมะกอกที่จะส่งผลต่อรสชาติได้ดี

“น้ำมันมะกอกของโอลิวิเย่ร์ แอนด์ โก จะแบ่งได้ 3 ประเภท น้ำมันมะกอกประเภทแนวกลิ่นผลไม้ ,น้ำมันมะกอกกลิ่นพืชสมุนไพร และน้ำมันมะกอกกลิ่นเครื่องเทศ ซึ่งการแบ่งประเภทนี้ได้มาจาก สายพันธุ์ ซึ่งมีสายพันธุ์มะกอกที่หลากหลาย พื้นที่เพาะปลูกที่มาจากดินและสภาพอากาศ ภูมิประเทศที่แตกต่างกัน และขั้นตอนกระบวนการผลิต ผู้ก่อตั้ง โอลิวิเย่ร์ โบซอง จะจัดให้มีการคัดเลือกน้ำมันมะกอกจากกว่า 300 แห่งเป็นประจำทุกปี และคัดให้เหลือเพียง 20 แห่งที่จะเลือกนำมาจำหน่าย ซึ่งน้ำมันมะกอกจะมีการแบ่งระดับชั้นเหมือนไวน์" มอริส กล่าว

"ส่วนบรรจุภัณฑ์จะใช้การบรรจุในกระป๋องอะลูมิเนียม เพื่อควบคุม 3 ปัจจัยที่มีผลต่อน้ำมันมะกอกนั่นคือ แสงแดด อุณหภูมิ และอากาศ ซึ่งตัวการเหล่านี้ จะทำให้น้ำมันมีการเปลี่ยนแปลงได้ และอย่าลืมว่าน้ำมันมะกอกแต่ละชนิดจะมีรสที่ต่างกัน และยังเหมาะกับอาหารที่ต่างชนิดกันด้วย"

ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ยังเล่าย้อนถึงจุดกำเนิดของมะกอกจริงๆ มาจากอินเดีย และแพร่ขยายไปตามอาณานิคมและการขยายประชากร ต้นมะกอกในโลกเรานี้มีถึง 3,000 สายพันธุ์ แต่มีเพียง 80 พันธุ์เท่านั้นที่นำมาทำน้ำมันมะกอกแล้วได้รสดี ชาวสวนที่ปลูกมะกอก เขาจะปลูกให้ต้นมะกอกห่างกัน 4 เมตร เพื่อไม่ให้มะกอกแย่งน้ำและอาหารกัน จะได้ผลมะกอกที่อิ่มและสมบูรณ์ที่สุด ฤดูของการเก็บเกี่ยวมะกอกจะมีขึ้นทุกๆ 2 ปี


นอกจากนี้เขายังกล่าวเสริมอีกว่า "แพทย์ยังแนะนำอีกว่าถ้ารับประทานน้ำมันมะกอกกันเพียวๆ วันละ 1 ช้อนโต๊ะ ก่อนอาหารเช้าทุกวันจะช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ และยังส่งผลดีต่อกระเพาะอาหาร ช่วยป้องกันการย้อนกลับของอาหารสู่หลอดอาหาร ที่ลำไส้ก็ทำให้ย่อยง่าย ด้านระบบเลือด ก็มีคอเลสเตอรอลที่ดีเพิ่มขึ้น ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ ทั้งยังพบกรดโอลิกที่จำเป็นในกระบวนการสร้างมวลกระดูก ในน้ำมันมะกอกด้วย ที่สำคัญช่วยบำรุงสมอง ป้องกันการเกิดภาวะความจำในสมองลดลง (โรคสมองเสื่อม) ซึ่งผลพิสูจน์ออกมาแล้วว่า ผู้ที่มีอายุยืนยาวโดยมากจะพบในประเทศกรีก ซึ่งประชากรของประเทศจะบริโภคน้ำมันมะกอกถึง 26 ลิตรต่อคนต่อปี"

ในงานวันนั้นเขายังนำน้ำมันมะกอกหลากหลายแบบมาให้ลองลิ้มชิมรสแบบเพียว เช่น "มูแลง โดแซล" ที่มีกลิ่นอ่อนๆ เหมาะกับอาหารประเภทปลา แกะ "มอนติเนีย แอนด์ อาเวีย" มีกลิ่นของเครื่องเทศ แตงกวาอ่อน เวลากลืนจะรู้สึกอุ่นคอ เหมาะกับอาหารประเภทสลัดเข้มข้น รสร้อนแรง พาสต้า "น้ำมันมะกอกผสมใบเบซิล" มีกลิ่นที่โดดเด่นคือ ใบกะเพรา ได้มาจากวิธีการมัดใบกะเพราแล้วแช่ร่วมในถังน้ำมันมะกอก ใช้กินกับมะเขือเทศ ชีสมอสซาเรลล่า สลัด พาสต้า "น้ำมันมะกอกผสมเลมอน" มีกลิ่นเจือของมะนาวเหลือง โดยใส่มะนาวทั้งผลในกระบวนการคั้นด้วย เหมาะรับประทานกับปลา เนื้อที่เสิร์ฟแบบเย็น ไก่ ผัก มันฝรั่ง พาสต้า

"น้ำมันมะกอกผสมส้มแมนดาริน" โดยการใส่ผลส้มคั้นรวมกันกับมะกอก จะให้กลิ่นสดชื่นแบบส้มเหมาะรับประทานกับของหวาน ช็อกโกแลต ไอศกรีมวานิลา สลัดรสขม อาหารจำพวกซีฟู้ด "น้ำมันมะกอกชนิดผสมชิลีเปเปอร์" มาจากพื้นที่เพาะปลูกที่มีผล จะให้กลิ่นพริกแต่ไม่มีรสเผ็ด เหมาะกับการรับประทานกับไข่คน พิซซ่า สลัด เนื้อย่าง และน้ำมันมะกอกที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก คือ "โอลีฟ ออย แอนด์ กรีน เลมอน" ที่เป็นน้ำมันมะกอกที่คั้นรวมกับมะนาวเขียว จะมีกลิ่นเข้มข้น สดชื่นกว่ามะนาวเหลือง ใช้รับประทานกับปลาและสลัด

ในวันนั้นทางร้านยังนำเสนออาหารจานเด็ดที่มีส่วนผสมน้ำมันมะกอกหลากหลายจานฝีมือเชฟ นอร์แมน ธนกมลนันท์ เจ้าของร้านบลองซ์ที่โด่งดังในออสเตรเลีย ที่บินมาโชว์รสมือในงานนี้โดยเฉพาะ เช่น "ขนมปังบาเกต เสิร์ฟพร้อมน้ำมัน พาร์เมซานชีส มะกอก และถั่วโรสแมรี่" เมนูนี้มีส่วนผสมของน้ำมันมะกอกมูแลง โดแซล กับพาร์เมซานชีส

"สลัดรวมผักกาดวีทโลฟ กับแอปเปิ้ล ถั่ววอลนัท และน้ำสลัดสมุนไพรโยเกิร์ต" เมนูนี้ก็ยังคงมีส่วนผสมของน้ำมันมะกอกมูแลง โดแซล โดยนำน้ำมันมาราดก่อนเสิร์ฟ "สตูหอยลายแซฟฟรอนกับซอสมะเขือเทศและโหระพาทอดกรอบ" มีส่วนผสมของเกสรดอกไม้แซฟฟรอนในน้ำซอส "กุ้งลายเสือย่าง กับกระเทียม มะนาว น้ำมันมะกอก และสมุนไพรจาก โพรวองซ์" เมนูนี้มีส่วนผสมของน้ำมันมะกอกผสมเลมอน ใช้เป็นส่วนผสมในการหมักกุ้ง และราดก่อนเสิร์ฟและท้ายสุดกับ "แซลมอนหนังกรอบ เสิร์ฟกับนิซัวสลัด และแคปเบอร์ และมะกอกบด" โดยใช้น้ำมันมะกอกผสมเบซิล เป็นเดรสซิ่งราดก่อนเสิร์ฟ


ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก ออนไลน์
//www.baanmuslimah.com/searchpre.php?idarticle=08v19&idroom=08&idsubroom=v




Create Date : 01 มิถุนายน 2550
Last Update : 1 มิถุนายน 2550 17:48:04 น. 0 comments
Counter : 18025 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เสบียง 2 โลก
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮฺผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ
Google
Friends' blogs
[Add เสบียง 2 โลก's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.