Group Blog
 
All blogs
 
Chapter 6 รูปแบบของความรัก

“ไปไหนมา!”

คำถามออกมาจากปากร่างสูงผมสีเงินที่กำลังนั่งหมิ่นๆ อยู่บนขอบโต๊ะทำงานของเจ้าของตำหนักอย่างถือวิสาสะ มือแกร่งทั้งคู่กอดรอบอกตัวเองหลวมๆ ดวงตาคมสีดำมองตรงมาอย่างหงุดหงิดเพราะการรอคอยมาหลายชั่วยามแล้วร่างบางก็ไม่โผล่มาสักที

ฮิชิงิไม่ตอบแต่เดินเลี่ยงไปหยิบกาน้ำชาและเทลงบนแก้วเล็กก่อนจะยกขึ้นจิบอย่างไม่อนาทรร้อนใจ กิริยานั้นยิ่งทำให้ร่างสูงแทบเดือดเป็นไฟ

“ข้าถามว่าเจ้าไปไหนมา!!” ไม่พูดเปล่ามือแกร่งกระชากแขนเรียวดึงเข้าหาตนจนน้ำชาในแก้วกระฉอกเปื้อนแขนเสื้อของคนถือ

ดีที่น้ำชาไม่ร้อนมากไม่งั้นแขนเขาคงโดนลวกไปแล้ว

“ไปหาเพื่อน” ตอบเรียบๆ แล้วก็รีบถามก่อนที่คนตรงหน้าจะซักมากกว่านี้ “แล้วท่านมีธุระอันใดหรือฟุบุกิ”

“เพื่อนที่ไหน!” ว่าเบี่ยงประเด็นแล้วทำไมถึงไม่ยอมหลงนะ

“ก็...แถวๆ นี้” เสียงตอบก็ยังเรียบเช่นเดิม ทั้งที่หน้าสวยเริ่มขมวดคิ้วกับแรงบีบที่เพิ่มมากขึ้น ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่โวยวายแต่ข้อมือเล็กก็พยายามบิดออกจากการกอบกุมของมือใหญ่ แต่บิดยังไงก็ไม่หลุดซักที

สมกับเป็นหัวหน้าสี่ผู้เฒ่า...แรงช้างสารจริงๆ

“แถวนี้น่ะ...แถวไหน! บอกมาดีๆ ฮิชิงิ อย่าเล่นลิ้น!!”

“แถวนี้ก็แถวนี้สิ! ท่านจะอยากรู้เรื่องของ ‘สิ่งของ’ อย่างข้าไปทำไมกัน” บิดก็แล้ว แกะก็แล้ว แต่ยังไงก็ไม่ยอมหลุด ตัวเขาก็ผู้ชายเหมือนกัน ทำไมแรงถึงได้ต่างกันมากเพียงนี้นะ...

และเหมือนคำถามของร่างบางจะทำให้ร่างสูงเริ่มสำนึกตัวถึงการแสดงออกที่มากเกินควร นั่นสิ กะแค่ ‘ของเล่น’ ชิ้นหนึ่ง ทำไมถึงต้องใส่ใจมากเพียงนี้นะ ดังนั้น ประโยคต่อมาจึงถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันธรรมดา ไม่ได้ตวาดเช่นประโยคก่อน แม้มือแข็งจะกำแน่นไม่ยอมปล่อยก็ตาม

“เพราะข้าแค่สงสัยน่ะสิ ว่าอย่างเจ้า...มีเพื่อนกับคนอื่นเขาด้วยหรือ”

หึ...เจ็บยิ่งกว่าแรงบีบที่ข้อมือซะอีก ที่ข้าไม่มีเพื่อนมันเพราะใครกันล่ะ ไม่ใช่เพราะการทดลองบ้าๆ เพื่อช่วยท่านหรอกหรือที่ข้าต้องทรยศต่อความไว้ใจของหลายๆ คนจนไม่มีใครอยากคบด้วย แต่พอข้าเริ่มจะมีเพื่อนขึ้นมาบ้าง ก็กลับถูกท่านสั่งให้ตัดความสัมพันธ์อย่างไร้เหตุผล ร่างเล็กยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น แต่...ตัวเขาจะทำอะไรได้

ร่างบางได้แต่พยายามกล้ำกลืนความเจ็บปวดไว้ข้างใน มือบางก็เผลอหยุดดิ้นรนปล่อยให้มือแกร่งทั้งคู่กุมข้อมือเขาไว้แน่นตามเดิม หน้ากากที่เผลอหลุดออกไปชั่วครู่ถูกสวมขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าหวานสงบนิ่ง ขณะรอฟังร่างสูงกล่าวต่ออย่างเงียบๆ

“เพราะฉะนั้นตอบมาดีๆ...อย่าทำให้ข้าโกรธนะ...ฮิชิงิ”

ถึงแม้น้ำเสียงที่ถามจะเรียบ แต่แววตาที่มองมากลับไม่เรียบอย่างคำพูด

ฮิชิงิก็อยากจะเถียงอยากจะต่อว่าอยู่หรอก แต่ไม่ใช่วันนี้ วันที่เพื่อนที่มีอยู่เพียงน้อยนิดได้จากไปแล้ว ตัวเขาในตอนนี้อยากจะอยู่คนเดียวเงียบๆ นั่งจมกับความเจ็บปวดจากความรู้สึกผิดที่อยากจะช่วย แต่ก็ช่วยไม่ทัน...ช่วยไม่ได้ ฮิชิงิจึงพยายามตอบอย่างเรียบๆ เพื่อไม่ให้คนตรงหน้าโมโหและรีบออกไปจากตำหนักเขาเร็วๆ

“ข้าก็แค่ไปทำธุระกับเพื่อนนิดหน่อย ไม่ได้สลักสำคัญอันใดจึงไม่ได้รายงานท่าน...” พยายามแกะมือใหญ่ออกอย่างนุ่มนวลที่สุด “และตอนนี้ข้ามีงานที่ต้องไปสะสาง ....” ก้าวเท้าถอยหลังห่างออกมาได้หนึ่งก้าวแล้ว “หากท่านไม่ได้มีธุระอันใด... ข้าก็ขอไปทำงานต่อ” พร้อมกับเบี่ยงตัวไปด้านข้างเพื่อที่จะได้เดินจากไปอย่างแนบเนียน

แต่ฮิชิงิก้าวไปได้ยังไม่ทันถึงหนึ่งก้าว มือแกร่งก็กระชากแขนเรียวให้เข้ามาแนบอกแข็งชิดยิ่งกว่าเดิมซะอีก ฟุบุฟกิตวัดแขนรอบเอวเล็กกันร่างตรงหน้าหนี และกดเข้ามาชิดจนสัมผัสได้ถึงเสียงเต้นของหัวใจกันและกัน ลมหายใจร้อนผ่าวรินรดอยู่บนหน้าผากมน

“เพื่อนผู้หญิงหรือเพื่อนผู้ชาย”

ตาสวยๆ ตวัดขึ้นจ้องหน้าคนพูด...นี่มันน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวของเขามิใช่รึ?

“รู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่!”

นี่ยังจะถามอีกเรอะ!

“ไปทำอะไร! ที่ไหน! อย่างไร!”

ร่างบางหมดความอดทนแล้วตอนนี้ ถึงแม้ตำแหน่งจะด้อยกว่าแต่เขาก็ไม่ได้มีหน้าที่รายงานทุกเรื่องให้ร่างสูงรู้ จากที่เคยยืนนิ่งให้อีกฝ่ายรัดเอวตัวเองแน่น ฮิชิงิจึงพยายามกะท่อนแขนแข็งๆ ออก เมื่อแกะไม่ได้ก็เปลี่ยนมาเป็นผลักร่างหนาออกแรงๆ แทน

“มันเรื่องส่วนตัวของข้า!”


เมื่อผลักยังไงร่างหนานั้นก็ยังไม่ขยับซักนิด มือเรียวจึงเริ่มต้นทุบแทน

“ตั้งแต่ที่เจ้าสาบานว่าจะเป็นของของข้า...ไม่มีสิ่งไหนที่เกี่ยวกับเจ้าแล้วข้าจะไม่รู้ไม่ได้! แล้วก็เลิกดิ้นซะที ถ้าไม่อยากให้ข้าเปลี่ยนวิธีคุยกับเจ้าใหม่!”

ตอนนี้มือเรียวไม่ทุบแล้วแต่เปลี่ยนเป็นชกบนไหล่หนาเต็มแรงแทนเมื่อได้ยินคำว่า ‘ของของข้า’ ออกมาจากปากร่างสูง ก็แค่สิ่งของสินะ หากเขาไม่พอมีประโยชน์บ้าง คนตรงหน้าก็คงกำจัดเขาทิ้งไปนานแล้ว ความเสียใจกับความไร้ค่าของตน ความเจ็บใจในพลังน้อยนิดที่ทำอะไรไม่ได้แม้แต่จะช่วยเพื่อนและช่วยตนเอง ทำให้อารมณ์ที่ตอนแรกสงบลงไปแล้วปะทุขึ้นมาอีกรอบ ร่างบางจึงทั้งดิ้น ทั้งทำร้ายร่างสูงรุนแรงเท่าที่จะทำได้

ฟุบุกิทำเพียงเบี่ยงหน้าหลบหมัดที่ชกมา ก่อนจะใช้มือเดียวรวบข้อมือเล็กทั้งสองไว้แล้วจึงเรียกสายน้ำจากกาน้ำชา ผนึกเวทมัดข้อมือของร่างบางแน่น แขนใหญ่ทั้งสองข้างรัดเอวบางเข้าแนบอก แน่นซะจนได้ยินเสียงกระดูกลั่นจากเอวเล็ก

เพราะทำยังไงก็หลุดออกไปไม่ได้ ฮิชิงิจึงได้แต่กัดริมฝีปากตัวเองจนแน่นด้วยความเจ็บและหายใจไม่ออกก่อนจะสะบัดหน้าจ้องใบหน้าหน้าเรียบสนิทที่มุมปากบางเฉียบยกขึ้นเหมือนจะยิ้มเยาะสภาพพ่ายแพ้ไร้กำลังของเขา

“เอาสิ! ดิ้นเข้าไป แต่อย่าลืมล่ะ..ว่ายิ่งเจ้าดิ้นมากเท่าไหร่...ข้าก็ยิ่งเอาคืนเจ้ามากเท่านั้น! แต่จะว่าไป...ข้าก็ไม่ได้เห็นเจ้าระเบิดอารมณ์อย่างนี้มานานมากแล้วนะ นับตั้งแต่คราวที่เจ้ายอมยกชีวิตให้ข้าเพื่อแลกกับชีวิตของหญิงที่เป็นรักแรกนั่น เอ?... เท่าไหร่แล้วนะ อืม... 6 ปีแล้วสิ”

“ท่าน....ผิดสัญญา” เพราะทำอะไรจึงได้แต่กล่าวตัดพ้อคนตรงหน้าด้วยความเจ็บปวด

“ข้าผิดที่ไหน...ในเมื่อข้าไม่ได้ลงมือ และข้าก็ไม่ได้บอกซักหน่อยว่าจะช่วยไปตลอด คนที่ผิดคือเจ้าต่างหาก ในเมื่อสาบานว่าจะเป็นของของข้า ใยถึงขัดขวางงานของเจ้านาย!” ท้ายประโยคเสียงห้าวกล่าวอย่างเหี้ยมเหรียม

“ถ้าเจ้ารู้เรื่องนี้ ก็แสดงว่าคนที่เจ้าไปหาไปหาคือผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม!!” แขนใหญ่รัดแน่นเข้าไปอีกขณะที่ใบหน้าโน้มลงมาชิดหน้านวล “ แล้วไงล่ะ...เจ้าช่วยเพื่อนเจ้าได้หรือไม่...ก็เปล่า ตัวเจ้าที่อ่อนแอเช่นนี้อย่าคิดที่จะไปรักใครช่วยใครเลย ช่วยตัวเองให้รอดก่อนเถอะ!!”

กล่าวเตือนเสียงเข้มก่อนที่มือใหญ่จะเอื้อมมาจับปลายคางเรียวแน่นและดันขึ้นเพื่อรอรับจุมพิตที่จะบดลงมาในนาทีถัดไป

“และหากเจ้ายังทำเรื่องยุ่งยากมากกว่านี้ล่ะก็.....แม้แต่ของต่างหน้าชิ้นเดียวที่รักแรกของเจ้าทิ้งเอาไว้ ข้าก็อาจทำลายทิ้งไม่ให้เหลือซากได้นะ.....ฮิชิงิ” กระซิบเสียงเหี้ยม เรียวลิ้นไล้เลียริมฝีปากบางตรงหน้าอย่างหยอกล้อก่อนที่ริมฝีปากบางเฉียบจะบดลงมาบนริมฝีปากเล็กอย่างหนักๆ ทั้งบด ทั้งเม้ม ทั้งขบ ราวกับจะลงโทษให้ริมฝีปากเล็กนั้นแตกเสียให้ได้

“อื้อ! อื้อ! ปล่อย..อื้อ..”

ร่างบางได้แต่ส่ายหน้าหนีด้วยความทรมาน แต่มือใหญ่ก็บีบกรามเขาซะแน่นเพื่อให้อยู่นิ่งๆ ยอมรับจุมพิตดุดัน ป่าเถื่อน ไม่นานริมฝีปากแข็งก็รับรู้ได้ถึงรสเลือดพร้อมๆ กับที่ฮิชิงิรู้สึกได้ว่าริมฝีปากตนคงจะแตกไปแล้ว แต่หากคิดว่าปากเขาแตกแล้วร่างสูงจะยอมหยุดล่ะก็...เลิกคิดไปได้เลย เพราะเหมือนยิ่งได้กลิ่นเลือดก็เหมือนยิ่งเป็นการกระตุ้นให้ร่างสูงบดริมฝีปากลงมาหนักยิ่งกว่าเดิม หน้าคมๆ เคลื่อนไปมาบนใบหน้าหวานตลอดเวลา ไม่แม้แต่จะหยุดเพื่อให้ร่างที่บางกว่าได้หายใจ

“อ้ะ!”

ในขณะที่ฮิชิงิขาดอากาศหายใจจนมึนตื้อไปทั้งหัว ฟุบุกิก็พลิกตัวดันร่างเล็กติดกับโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของตัวเอง ก่อนจะแทรกเข่าแข็งเข้ามาเสียดสีแนบแน่นซะจนอากาศก็ผ่านไม่ได้

ริมฝีปากแกร่งถอนออกห่างพอที่แมลงซักตัวจะบินผ่านได้เพื่อเปิดโอกาสให้คนตรงหน้าหยุดพักหายใจรีบเอาอากาศอัดเข้าปอด ร่างบางหอบหายใจหนักๆ เรียวลิ้นอุ่นชื้นก็ตวัดไล้เลียเลือดบนริมฝีปากเล็กออกให้อย่างเอาใจและติดใจในรสชาติ

หากแต่พอหน้าสวยๆ เริ่มหายแดง และจังหวะการเต้นของหัวใจที่ถี่รัวเมื่อครู่ได้ผ่อนช้าลง วาจาเชือดเฉือนถือดีก็หลุดออกมาอีกทันทีแม้เจ้าตัวจะยังหอบหายใจหนักๆ อยู่ก็ตาม

“ท่าน...มันเลือดเย็น...ฮ้า...ถ้าเพื่อ....ความต้องการ..ก็ทำได้ทุกอย่าง...โอ้ย!” ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อมือแกร่งบีบกรามเขาแน่นจนคิดว่ากระดูกคงใกล้จะร้าวแล้ว

แต่อารมณ์โกรธและเสียใจก็ทำให้ร่างโปร่งพูดประณามคนตรงหน้าอย่างไม่ยอมหยุด มือที่ถูกมัดทั้งคู่ก็พร้อมใจกันทุบลงบนอกหนาไม่ยั้ง

“คนอย่างท่าน...ก็สมควร...อึก...แล้วล่ะ..ที่จะไม่เหลือใคร...อ้ะ! ทั้งท่านมุรามาสะ..และฮิโทคิ..อื้อ! อื้อ!”

ปากดีอย่างนี้ไม่ต้องหายจงหายใจมันแล้ว!!

ริมฝีปากแข็งนาบลงมาอีกรอบจนกลิ่นเลือดคาวคลุ้งไปทั่ว เท่านั้นไม่พอลิ้นร้อนก็ตวัดเลือดเหล่านั้นเข้าไปละเลงทั่วในโพรงปากของร่างบาง ทั้งดูด ดุน ดัน เกี่ยวกระหวัดลิ้นของอีกฝ่ายราวกับจะสูบลมหายใจออกไปให้หมดร่าง

“อื้อ! อื้อ! อย่า...อ้ะ!”

ร่างโปรงสะดุ้งเฮือกขึ้นมาเมื่อมือทั้งสองข้างเลื่อนลงจากเอวบางและปลายคางไปเกาะกุมสะโพกมนแน่นก่อนจะขยำอย่างไม่ปราณีพร้อมๆ กับที่เข่าแข็งที่แทรกอยู่ด้านหน้าก็เริ่มขยับเสียดสีอย่างต้องการกระตุ้นเต็มที่

“อ๊า! อือ..ข้าเกลียด....อื้อ!”

แทนที่ปลายคางที่เป็นอิสระจากมือแกร่งจะทำให้ใบหน้าเล็กเบือนหนีจูบที่รุนแรงได้ แต่ความเชี่ยวชาญของริมฝีปากอีกฝ่ายก็ตามประกบปิดปากเขาได้ทุกครั้งไป และไม่เพียงแค่ประกบแต่ลิ้นร้อนชื้นก็แทรกเข้ามาตวัดรัดลิ้นเขาอย่างไม่ยอมเหนื่อย

ริมฝีปากบดเบียด ปลายลิ้นรุกรานแถมมือและขายังประสานงานร่วมกันอย่างสามัคคี ทำให้อารมณ์ของร่างบางในตอนนี้ถูกปลุกขึ้นมาซะจนเจ้าตัวเริ่มจับต้นชนปลายไม่ติดแล้ว ความร้อนทั้งหมดเหมือนจะลงไปรวมกันที่ส่วนกลางลำตัว ร้อน....ร้อนซะจนเกือบจะระเบิดออกมาแม้เนื้อตัวจะยังมีเสื้อผ้าอยู่ครบก็ตาม

แต่อยู่ๆ อารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้นมาซะสูงลิ่วก็กลับค้างเอาซะดื้อๆ เมื่อร่างสูงผละออกมา ลิ้นเรียวถูกถอนออก ใบหน้าคมก้มลงมองผลงานที่ตัวเองทำเอาไว้อย่างพอใจ ฝ่ามือใหญ่เลื่อนไปสัมผัสส่วนกลางของร่างบางผ่านกางเกงสีดำสนิทแนบเนื้ออย่างจาบจ้วง

“หึ...ปากเจ้าบอกว่าเกลียด...แต่ร่างกายเจ้า....” ฝ่ามือใหญ่ทั้งลูบคลำและจับแรงๆ สลับกันไป “กลับบอกตรงกันข้ามนะ...”

มือเล็กที่ถูกพันธนาการได้แต่ผลักอกหนาอย่างแรงทั้งๆ ที่เจ้าตัวยังหอบหายใจหนักๆ อยู่ ขาเรียวหมดแรงเอาดื้อๆ หากไม่มีเข่าแข็งแทรกเข้ามาพยุงไว้ก็คงทรุดลงไปกองกับพื้นแล้ว

“ตกลง...เจ้าชอบหรือไม่ชอบกันแน่...ฮิชิงิ” กระซิบแผ่วๆ ข้างหูบางก่อนจะกัดใบหูนั้นอย่างมันเขี้ยว

“มันไม่แปลกหรอก...อ้ะ!” ฮิชิงิกัดฟันพูด เพราะต้องสะกดกั้นอารมณ์และเสียงครางของตนที่เกิดจากการปลุกเร้าของร่างสูง “อึก! เพราะมัน...อื้อ..ไม่เป็น...ฮ้า! ...แค่กับท่าน...อ้ะ!”

สิ้นคำ! ร่างสูงก็ผลักร่างเล็กลงไปนอนกับพื้นโต๊ะ ฝ่ามือแกร่งกวาดของทุกอย่างลงไปกองอยู่กับพื้น ก่อนที่เจ้าตัวจะตวาดก้องอย่างโกรธเกรี้ยว!!

“ถ้าไม่ใช่แค่ข้า! แล้วเจ้าไปทำกับใครมาฮิชิงิ!!” ฝ่ามือใหญ่เขย่าร่างบางซะจนหัวสั่นคลอนไปหมด “ใคร!! ตอบข้ามาเดี๋ยวนี้นะ!”

หึ...นี่เขาคงไปปลุกเสือหลับให้ตื่นขึ้นมาจริงๆ แล้วสินะ ท่านฟุบุกิที่แสนอ่อนโยน หัวหน้าสี่ผู้เฒ่าที่น่าเกรงขาม แต่กลับแสดงอารมณ์ต่อหน้าเขาราวกับคนบ้า ต่อหน้าเขา...คนเดียวเท่านั้น

ร่างบางยิ้มเยาะขึ้นมานิดๆ อดจะภูมิใจหน่อยๆไม่ได้ว่าตนเองก็มีอิทธิพลต่อร่างสูงบ้างเหมือนกัน แผน...ที่วางเอาไว้ว่าจะอยู่คนเดียวเงียบๆ ถูกโยนทิ้งไปแล้ว เวลานี้การยั่วโมโหคนตรงหน้าเล่นก็น่าสนุกไม่น้อยเลย

“ท่านจะอยากรู้ไปทำไมกัน ก็ทำ...เหมือนๆ กับที่ทำกับท่าน...” น้ำเสียงหวานกล่าวเรื่อยๆ เหมือนไม่รู้สึกถึงอารมณ์ของคนตรงหน้า “ก็แค่ปลอบใจกัน...มีความสุขด้วยกัน หลังจากนั้น...ก็จบ”

คำโกหกคำโต มาพร้อมกับความเจ็บปวดที่หนักหน่วง เมื่อไหล่ของเขาถูกบีบแน่น แน่นมากๆ เจ็บ...จนเหมือนข้อต่อจะหลุดจากกัน แต่ที่ฮิชิงิทำก็เพียงกัดริมฝีปากด้วยความเคยชินเพราะขัดขืนไม่ได้เนื่องจากข้อมือทั้งคู่ถูกสายน้ำที่เคยพันธนาการดึงราบไปกับพื้นโต๊ะ พร้อมกับที่สายน้ำนั้นก็ไหลผ่านใต้โต๊ะ แยกออกเป็นสองสายลอดโต๊ะมามัดข้อเท้าทั้งสองข้างของเขาไว้

ในตอนนี้ ร่างบางจึงได้แต่ถูกขึงพืดอย่างแน่นหนาไร้หนทางต่อสู้โดยสิ้นเชิงต่อหน้าร่างสูงที่โมโหจนเกือบจะถึงขีดสุด แต่กระนั้นใบหน้าหวานก็ยังคงเรียบเฉยแถมมุมปากยังยกยิ้มยั่วขึ้นมาหน่อยๆ ด้วย

“ไม่เห็นจำเป็นต้องมัดเลยนี่ เพราะถึงยังไงข้าก็ไม่ขัดขืนท่านอยู่แล้ว ก็แค่ปิดหูปิดตา เดี๋ยวเดียวก็เสร็จ”

แคว่ก!!

เสื้อสีดำถูกดึงอย่างแรงทีเดียวขาดคามือใหญ่ ตามมาด้วยกางเกงสีดำที่ถูกกระตุกลงไปกองอยู่กับข้อเท้าที่ห้อยลงมาจากโต๊ะ

“งั้นก็ปิดหู ปิดตาไปนะ ‘เดี๋ยวเดียว’ จริงๆ นั่นล่ะ”

น้ำเสียงเรียบนิ่งนั้นช่างขัดกันเหลือเกินกับปลายนิ้วที่รุกรานเข้ามาในกายเขาอย่างรุนแรง ฮิชิงิรู้ดีว่าคนตรงหน้าโกรธมากแค่ไหน เพราะโกรธสุดๆ ของฟุบุกิไม่ใช่อาละวาดหากแต่เป็นโกรธจนนิ่ง...นิ่งจนน่ากลัวต่างหาก เหมือนๆ กับไฟใต้น้ำที่คุกรุ่นรอเวลาระเบิด

มือข้างหนึ่งจับข้อเท้ายกขาทั้งสองข้างของร่างบางขึ้น เปิดเผยส่วนน่าอายให้ร่างสูงเห็นจนหมดในขณะที่นิ้วมืออีกข้างก็ขยับเข้าออกโดยไม่สนใจเลยว่าคนถูกกระทำจะเจ็บมากแค่ไหนที่ไม่มีอะไรหล่อลื่นเลย แต่แค่นิ้วเดียวก็เล่นเอาร่างบางกระตุกแล้วกระตุกเล่าได้

“อึก! อื้อ!”

ปากที่แตกอยู่แล้วถูกกัดเอาไว้จนจะแตกเพิ่มเข้าไปอีก ใบหน้าหวานแหงนเงยสะบัดไปด้านหลัง ฟันเล็กกัดริมฝีปากตัวเองไว้แน่น เขาจะต้องไม่แสดงอารมณ์ให้ร่างสูงได้ใจยิ่งกว่านี้

แต่ปลายนิ้วที่รุกรานก็เหมือนจะรู้ดีว่าจุดอ่อนของร่างตรงหน้าอยู่ตรงไหน มันเลื่อนเข้าไปแตะจุดกระตุ้นก่อนจะขยับขูดขีดอย่างไม่ใยดี

“อ้ะ! ไม่! อื้อ!” ทั้งๆ ที่ถูกกระทำรุนแรงถึงเพียงนี้ แต่ส่วนน่าอายกลางลำตัวเขากลับตื่นตัวขึ้นมา โดยไม่สนใจเจ้าของเลยสักนิด

“มักมากจริง! ชู้รักของเจ้าคงปรนเปรอเจ้าได้ไม่อิ่มสินะ เป็นไงฮิชิงิ...มันรู้จักร่างกายเจ้าดีเท่าข้ารึเปล่า” แล้วเร่งจังหวะนิ้วให้เร็วขึ้น

“อ้ะ!”

อยากเถียง อยากเย้ยหยันอยู่หรอก แต่นิ้วที่เพิ่มเข้ามาอีกนิ้วหนึ่งในร่างและขยับควานไปทั่วนั้นเล่นเอาเขาแทบระงับอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ หากเผลออ้าปากมาตอนนี้คงต้องเปล่งเสียงครางให้ตัวเองอายเล่นเป็นแน่

ฟุบุกิมองร่างที่ไร้ทางสู้ตรงหน้าอย่างพอใจ มือเรียวเล็กที่จิกระบายอารมณ์กับพื้นโต๊ะ ใบหน้าหวานที่แหงนเงยลากลงมาเป็นเส้นโค้งที่คออย่างสวยงาม ปากแดงๆ เม้มแน่น แดงเรื่อ...น่าจูบ แต่เขาจะยังไม่จูบตอนนี้หรอกนะ ขอสั่งสอนความปากดีของคนตรงหน้าให้พอใจก่อนที่บังอาจโกหกเขาจนเกือบบ้า หากเพราะไม่ได้เห็นผิวขาวเนียนที่มีแค่รอยที่เขาทำไว้กับร่างกายที่คับแน่นยืนยันความบริสุทธิ์นี่ล่ะก็....เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะทำอะไรลงไปบ้าง

.......ไม่มีใครที่ได้ครอบครองร่างกายนี้แล้วจะหยุดอยู่แค่ครั้งเดียวหรอกแล้วยิ่งไม่ทำรอยประทับแสดงความเป็นเจ้าของเอาไว้...ไม่มีทางเป็นไปได้แน่.......

“อ้ะ! ฮะ! อื้อ!”

ร่างตรงหน้าเขายิ่งดิ้นยิ่งกระตุกมากขึ้นเมื่อจำนวนนิ้วที่เพิ่มเข้าไปกลายเป็นสาม ส่วนนั้นที่แข็งชันเริ่มมีน้ำซึมออกมาบ้างแล้ว แต่มือใหญ่กลับเลื่อนไปกระชับและกดนิ้วปิดปากรูเอาไว้

“ใครอนุญาตให้ไปได้กัน”

“ฮึก! ไม่! ปล่อย!” ทั้งมือทั้งขาต่างก็ถูกพันธนาการ ร่างบางจึงได้แต่บิดตัวไปมาดิ้นรนอาละวาดอยู่ใต้ร่างสูงเพราะความปั่นป่วนที่สูญเสียทางออก สติสัมปชัญญะในตอนนี้ถูกคนตรงหน้ากระชากไปหมดแล้ว

“อย่าดิ้นสิ! ฮิชิงิ ‘เดี๋ยวเดียวก็เสร็จ’ไง”

พูดพลางก็ดึงกางเกงที่กองอยู่ตรงข้อเท้าผ่านสายน้ำที่รัดไว้ออก เมื่อกางเกงผ่านออกไปได้แล้วสายน้ำนั้นก็ไหลเชื่อมมาประกบกันตามเดิม

ร่างสูงแยกปลายเท้าทั้งสองข้างของร่างบางออกจากกัน เคลื่อนตัวเข้าแทรกกลางร่างบาง ก่อนจะถอนนิ้วออกแล้วจรดความแข็งขึงของตน เข้ากับปากทางที่ฉ่ำเยิ้มนั้นแทนที่ ส่วนอีกมือก็ยังกุมกระชับร่างบางไว้ไม่ยอมปล่อย มองร่างเล็กที่บิดตัวไปมาด้วยความทรมานใต้ร่างเขาอย่างพอใจ

“จะให้ข้าทำยังไงดี...ฮิชิงิ”

“ฮึก!”

ฮิชิงิกัดริมฝีปากตัวเองแน่น สติที่ยังพอมีเหลืออยู่บอกให้ทำอย่างนั้น อย่าเผลอหลุดเสียงอ้อนวอนออกไปเป็นอันขาด

“ต้องการอะไร...ฮิชิงิ” ฝ่ามือใหญ่ทั้งบีบทั้งเคล้นคลึงขณะที่ร่างกายที่ใหญ่โตยังเสียดสีอยู่แค่ภายนอกไม่ยอมเข้าไปซักที

“อื้อ! อ้ะ!”

ใบหน้าหวานที่แดงเรื่อเพราะความต้องการสะบัดไปมา ความยั่วยวนนั้นเล่นเอาฟุบุกิแทบจะหมดความอดทน แต่ยังหรอก...ยัง...ไม่...ในตอนนี้ ขอทำลายความภาคภูมิใจของคนปากดีตรงหน้าอีกหน่อย ดังนั้นน้ำเสียงที่ถามก็ยังคงเรียบเรื่อยไม่เปลี่ยนแปลง

“ไม่บอก....ข้าก็ไม่รู้นะ” ขยับรูดขึ้นลงเร็วขึ้นและเร็วขึ้น แต่นิ้วมือก็ยังกดปากรูไว้แน่น

“อึก!” ปากแดงที่ถูกกัดตอนนี้เริ่มมีเลือดซึมออกมาแล้ว เพราะเจ้าของไม่ยอมปล่อยให้มันเปิดออกมาอ้อนวอนคนตรงหน้า

ปากแข็งจริงๆ แต่ท่าทางอย่างนี้คงอีกไม่นานแล้วสินะ

“ว่าไง...ฮิชิงิ” พลางกดนิ้วแทรกลงไปในรูนั้นเล่นเอาสะโพกบางกระตุกขึ้นมาอย่างแรงทันทีพร้อมๆ กับที่ความอดทนได้หมดลง

“อ้ะ! ฮ้า! อือ...ได้โปรด...ฮึก..” ใบหน้าหวานช้อนสายตาที่ฉ่ำเยิ้มและแพขนตาเปียกชื้นขึ้นมองเขา “อื้อ...เข้ามา...อ้ะ!อ๊า...”

ขาดคำ! ร่างสูงที่รอคำนี้อยู่แล้วก็แทรกความแข็งขึงที่ใหญ่โตเข้าไปในร่างบางในคราวเดียว สะโพกเล็กถูกยกขึ้นบิดเร่าไปมาด้วยความร้อนรุ่มที่ปะทุมากขึ้น มากขึ้น แต่ก็ยังระบายออกไปไม่ได้อยู่ดี!

ความร้อนและความคับแน่นของร่างตรงหน้าแทบจะทำเอาร่างสูงหมดความอดทน ขณะที่มือหนึ่งยังกุมกระชับร่างบางไว้ไม่ยอมปล่อย อีกมือก็จับข้อเท้าเล็กข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่าแล้วเริ่มขยับเข้าออก

“อ้ะ....ฮ้า...ไม่....อื้อ...”

การขยับที่เนิบช้าไม่อาจเติมเต็มร่างบางในตอนนี้ได้ ทำไมกัน...ทั้งๆ ที่เขาต้องการความรุนแรงเพื่อลบล้างความผิดในใจ และปกติทุกทีร่างสูงก็กอดเขาอย่างนั้นอยู่แล้ว ไม่ใช่อย่างวันนี้...แบบนี้...แบบที่ทำให้เขาแทบคลั่งตายเพราะความปรารถนา

“อ้ะ! เร็วกว่า...อ๊า”

“จะรีบไปไหนกัน...” จากจังหวะที่เนิบช้าอยู่แล้วก็กลับหยุดนิ่งไปซะเฉยๆ ร่างเล็กจึงดิ้นรนแทบอาละวาด “ข้ามีเวลาให้เจ้าทั้งคืนเลยฮิชิงิ”

“อื้อ! ไม่! ขยับ...” พลางพยายามเป็นฝ่ายขยับสะโพกซะเอง

“บอกมาซิ...ว่าเจ้าจะเป็นของของข้าแค่คนเดียว...จะไม่ยุ่งกับใคร...”

ในตอนนี้เขาไม่สนอะไรทั้งสิ้นแล้ว ความต้องการที่พลุ่งพล่านทำให้ได้ยินอะไรลางๆ เลือนๆ แต่ถ้าเพื่อให้ความทรมานนี้ถูกปลดปล่อยออกไป ถามอะไรเขาก็ยอมตอบทุกอย่างแล้ว...

“เป็นของท่าน...คนเดียว...ได้โปรด...”

“อย่างนั้นล่ะ...เด็กดี!” สิ้นคำ! ร่างสูงก็ขยับเข้าหาร่างที่เล็กกว่าอย่างรุนแรง

“อ๊า! อ้ะ..”

โต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่ใช้รองรับน้ำหนักกระทบพื้นสั่นสะเทือนดังก้องไปทั้งห้อง ร่างสูงขยับกายเข้าออกอย่างรุนแรง ราวกับจะฉุดกระชากสติสัมปชัญญะทั้งหมดออกไป ในขณะที่ร่างบางทั้งบิดตัวทั้งร้องครางจนเสียงเริ่มแหบ

“อา...อือ...อ๊า....”

เมื่อใกล้มาถึงปลายทางร่างใหญ่ก็เกร็งแน่น กระตุก แล้วฉีดพุ่งของเหลวเข้าไปในร่างข้างใต้ ก่อนจะซบหน้าลงไปหอบหายใจแรงๆ บนอกเนียน

แต่ฝ่ามือใหญ่ก็ยังกุมกระชับแก่นกายของร่างบางไว้ไม่ยอมปล่อย!!

“อื้อ! ไม่...ปล่อย... ได้โปรด...ฮึก!” ร่างกายที่ยั่วยวนบิดเร่าไปมาด้วยความทรมานจนแทบคลั่ง

“ปล่อย...ท่านฟุบุกิ...ฮึก...ได้โปรด...ปล่อยมือ...เจ็บ...”

“จะรีบทำไม...ฮิชิงิ...ข้าบอกแล้วไงว่ามีเวลาให้เจ้าทั้งคืน”

‘ก็ตัวเองปลอดปล่อยสบายไปคนเดียวแล้วนี่’

ฮิชิงิได้แต่ตัดพ้อในใจอย่างขมขื่น ขณะพยายามเสียดสีร่างกายของตนเองกับคนตรงหน้าเพื่อระบายอารมณ์ ใบหน้าหวานเหยเกอย่างทรมาน

“ ‘เดี๋ยวเดียวก็เสร็จ’ นะ...ทนหน่อยฮิชิงิ”

“อ้ะ!!”

ทันใดร่างโปร่งก็ถูกอุ้มลงมายืนข้างล่างและพลิกตัวหันหลังให้กับร่างใหญ่ พร้อมกับที่มือแกร่งกดหัวเล็กคว่ำลงกับพื้นโต๊ะ พอข้อมือเรียวถูกปลดปล่อยเจ้าตัวก็รีบใช้มันมายันมือที่กอบกุมแก่นกายตัวเองออก แต่...เช่นเคย...ทั้งแกะทั้งทึ้งยังไงก็ไม่หลุดอยู่ดี

แล้วมือเล็กก็ต้องรีบเปลี่ยนไปยันขอบโต๊ะเอาไว้แน่น เมื่อสัดส่วนใหญ่โตข้างหลังที่ยังไม่ถูกถอดถอนออก เริ่มเหยียดขยายใหญ่ขึ้นและเคลื่อนตัวไปมาในร่างเขาอีกแล้ว

“เวลายังมีอีกเยอะ...ค่อยๆ ทำละกันนะฮิชิงิ...” กระซิบเสียงพร่าริมหูอีกฝ่าย

ร่างสูงเริ่มขยับเข้าออกรุนแรงอย่างสะดวกเพราะช่องทางที่เปียกชื้นไปด้วยของเหลวที่ปลดปล่อยในครั้งแรก โดยที่มือใหญ่ขยับรูดแก่นกายของร่างบางให้แต่ก็ยังไม่ยอมให้ปลดปล่อยอยู่ดี

“อ้ะ! อ๊า...ไม่...ฮึก!” ร่างข้างใต้ที่ทำได้เพียงร้องครางเพราะทำอะไรไม่ได้นอกจากจะเอามือยันขอบโต๊ะไว้แน่นเพื่อกันกระแทก เอวบางขยับเคลื่อนไหวไปมาตามจังหวะที่คนข้างหลังกำหนด หัวใจดวงเล็กในตอนนี้มีแต่ความเจ็บใจในพลังที่น้อยนิดของตน พลางก็คิดในใจอย่างขมขื่น

‘ในเมื่อข้าเลือกที่จะรัก....อย่างเจ้ารัก...ในตอนสุดท้าย.....ข้าก็อาจจะมีจุดจบเช่นเจ้าสินะ.....ฟูจิโนะมิยะ! ’

แล้วน้ำตาสายเล็กที่พยายามเก็บกดเอาไว้ไม่ให้ร่างสูงเห็น ในตอนนี้จึงได้หลั่งออกมา.....ผ่านร่องแก้มเนียนและตกลงสู่พื้นโต๊ะ....ไหลริน...ไม่ขาดสาย




Create Date : 30 ธันวาคม 2551
Last Update : 30 ธันวาคม 2551 19:16:31 น. 0 comments
Counter : 302 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ryoshin
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ryoshin's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.