|
Chapter 1 แมว
.....มิบุ.....
ตึก! ตึก! ตึก!...
ท่ามกลางสถาปัตยกรรมที่ก่อสร้างอย่างวิจิตร ผู้คนที่แต่งกายประณีตงดงาม
บนระเบียงทางเดินที่ทอดยาวสู่สวนฮารุ สวน...ที่ถูกย้อมด้วยสีชมพูของกลีบซากุระที่ยังบานสะพรั่ง แม้ตอนนี้จะอยู่ในช่วงปลายฤดูร้อนก็ตาม ปรากฏร่างของเด็กชายตัวป้อมๆ วิ่งตึงๆ ไปตามระเบียง ด้วยความเร็วตราบเท่าที่ขาสั้นๆ ป้อมๆนั้น จะอำนวย แรงลมที่ปะทะหน้าส่งผลให้ผมเปียสีเงินปลิวสะบัดตามหลังเจ้าตัว
แต่เมื่อใกล้ถึงปลายทาง เจ้าตัวเล็กก็เริ่มผ่อนฝีเท้าลง จนกลายเป็นเดิน...และ ย่องในตอนท้ายสุด เท้าเล็กๆ จิกลงกับพื้นอย่างระวังไม่ให้เกิดเสียง ด้วยเหตุผลที่เจ้าตัวให้กับตัวเองว่า
‘มารยาทของผู้ดี ต้องเดินอย่างนุ่มนวล แผ่วเบา ท่านแม่สอนเอาไว้’
แต่เหตุผลที่แท้จริงคือ เพียงเพราะไม่ต้องการให้ใครบางคนตื่น!
โดยลืมไปเสียสนิทว่าตนรีบวิ่งออกมาจากห้องเรียนของท่านอาจารย์ฟุบุกิเพียงใด! หลังจากที่ให้เหตุผลในการรีบกลับ กับอาจารย์ตนด้วยหน้าแดงๆ กระสับกระส่ายและนั่งยุกๆ ยิกๆ ตลอด
“คือ ... คือ.. ว่า ..ข้า...จะ..จะ..รีบไปหา..อืม..แมว! แมวน่ะครับท่านฟุบุกิ” เฮ้อ! อ้าว แล้วอะไรต่อดีนะ
“คือ.... ถ้าไม่รีบไปดูแลมัน...เดี๋ยวมันจะจาม..จะ...จะ..เป็นหวัดเพราะ....อืม...” แง้...คิดไม่ออกแล้วง่ะ แมวจะเป็นหวัดได้ไงน้า....
หึ หึ! ฟุบุกินั่งกลั้นยิ้มอย่างสุดความสามารถ กับการนั่งคิดจนหน้าดำหน้าแดงของลูกศิษย์ เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายให้เขาฟัง
“คือ...เพราะ...เพราะ.... ลมมันแรงน่ะครับ!ท่านฟุบุกิ!” เฮ้อ! ลมมันแรงจริงๆ นะ ชินเรไม่ได้โกหกซักหน่อย
อึก! ในขณะที่เจ้าตัวเล็กนั่งถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่หาเหตุผลจนได้ ผู้เป็นอาจารย์กลับแทบหลุดมาดที่เก๊กเอาไว้ตลอดเวลาเพราะจะเผลอหลุดก๊ากออกมา
แต่ที่ทำได้ก็เพียงแค่ยิ้มน้อยๆ กับข้ออ้าง ‘แมวจะเป็นหวัด’ ของลูกศิษย์คนโปรดก่อนจะเอ่ยอนุญาตโดยไม่ติดใจซักถาม
“ไปเถอะชินเร อย่าลืมเอาผ้าห่มไปห่มให้เจ้าแมวน้อยด้วยล่ะ เดี๋ยวเจ้าแมวขนทองจะเป็นหวัดเอานะ”
“ข้าเตรียมมาแล้วขอรับ” เงยหน้ายิ้มแป้นอย่างดีใจที่อาจารย์อนุญาต พลางยกผ้าห่มผืนเล็กๆ สีฟ้าให้ดู เหมือนจะอวดว่าตนเตรียมพร้อมเพียงใด
“ชินเรขอตัวก่อนนะขอรับท่านฟุบุกิ”
เจ้าตัวเล็กในท่านั่งคุกเข่าเรียบร้อยโค้งหนึ่งครั้งให้อาจารย์ก่อนจะคลานออกมา เลื่อนประตูเปิดและปิดอย่างนุ่มนวลที่สุด แต่พอห่างจากห้องได้ไม่เกินสามก้าว ชินเรตัวจ้อยก็รีบวิ่งไปตามระเบียงทันที
ร่างกลมวิ่งเลี้ยวซ้ายทีขวาทีอย่างชำนาญทางเพราะจำได้แม่น เนื่องจากเป็นทางไปยังสวนสุดโปรดของเจ้าตัว สวนที่ชอบไปเสมอเวลามีเรื่องกลุ้มใจ เพราะจะไม่มีใครรับรู้ว่าเขาคือชินเร-ลูกชายคนโตของสายตระกูลที่เก่าแก่
ลูกชายคนโตที่ทุกอย่างต้องดีเยี่ยม! แพ้คนอื่นไม่ได้! และต้องเป็นที่หนึ่งในทุกด้าน!
แม้จะมีวัยเพียงน้อยนิด แต่ความกดดันได้ทำให้เด็กน้อยเกิดความรู้สึกเก็บกดในบางครั้ง และสถานที่ที่จะ สามารถตะโกนระบายออกมาได้คือ สวนฮารุ
และแม้ท่านฟุบุกิจะใจดีกับชินเรมากเพียงใด แต่ท่านก็ไม่เคยละเว้นให้ในเรื่องการเรียน หากทำผิดท่านก็ให้คุกเข่าสำนึกผิดอยู่อย่างนั้นจนกว่าท่านจะพอใจ และหากทำไม่ได้ท่านก็จะให้ฝึกอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ และไม่ยอมพูดด้วย จนกว่าจะทำได้ถูกต้อง ซึ่งชินเรคิดว่าถ้าท่านฟุบุกิตีชินเรยังจะดีซะกว่าที่ทำเมินเฉยและไม่สนใจ
‘แต่วันนี้ท่านฟุบุกิก็ไม่ดุชินเรนี่นา.... แถมยังยอมให้ชินเรไปหาเจ้าแมวขนทองอีกด้วย ดีล่ะ! รีบไปก่อนที่เจ้าแมวขนทองจะจามดีกว่า เอ๊ะ! แล้วท่านอาจารย์รู้ได้ยังไงว่าแมวมีขนสีทอง ’ เจ้าตัวเล็กสะดุดคิดในใจ แต่เมื่อไม่ได้คำตอบก็ปัดผ่านไป
‘เอาน่า! แมวที่ไหนๆ ก็คงมีสีทองหมดล่ะมั้ง และที่สำคัญท่านอาจารย์ฟุบุกิของเขารู้ไปหมดทุกอย่างนั่นแหละ’ เจ้าตัวยิ้มอย่างภูมิใจทั้งๆ ที่ไม่ใช่คำชมของตน แล้วก็วิ่งตึงๆ เพื่อไปหาแมวสีทองที่ว่า (ท่านรู้หมดกระทั่งว่าหนูกำลังทำอะไรนะจ๊ะ/ คนเขียน)
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
“หึ หึ”
เสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีทำร่างบางผมสีดำขลับ ที่เพิ่งเลื่อนประตูเปิดเข้ามามองอย่างแปลกใจ
“มีอะไรถูกใจรึไงฟุบุกิ” ฮิชิงิถามพลางเดินเข้าไปหาร่างสูงที่ยังนั่งกลั้นขำอยู่บนโต๊ะตัวเล็กประจำตัว
“เปล่าหรอก หึ หึ แค่ขำในเหตุผลที่ใช้อ้างของลูกศิษย์ข้าน่ะ ชินเรคงไม่รู้หรอกว่า หวัดใช้กับคน ส่วนแมวต้องบอกว่ามันไม่สบาย” พูดไปก็เอามือกุมท้องไป
“ดีนะที่ไม่พูดว่าแมวจะปวดหัว หึ หึ กุมขมับ ฮะ ฮะ......”
ฮิชิงิขมวดคิ้วมองร่างสูงอย่างแปลกใจอีกครั้ง เพราะไม่เห็นฟุบุกิหัวเราะอย่างนี้มานานแล้ว นับตั้งแต่เหตุการณ์ตอนนั้น.....
“แล้วยังบอกอีกด้วยนะว่าแมวมันจะจาม เพราะลมมันแรง ฮ่าๆๆๆๆ”
ฮิชิงิยังยืนมองร่างสูงอย่างแปลกตา ขณะนึกถึงร่างน้อยของชินเรที่วิ่งไปตามระเบียงอย่างที่ปกติไม่เคยทำ ก่อนจะถอนสายตาไปมองใบเมเปิ้ลสีแดงที่ร่วงหล่นจากต้นปลิวผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้อง สีแดงที่เจิดจ้าทำให้คิดถึงหญิงสาวผิวขาว ผมสีเงินยาว
หนึ่งในสี่ยอดหญิงงามที่สวมกิโมโนสีแดงได้สวยที่สุดในดินแดนมิบุแห่งนี้....ฮิโทคิ!
“นั่นสินะ! ข้างนอกลมแรงจริงๆ นั่นล่ะ ฤดูใบไม้ร่วงคงใกล้จะมาถึงแล้วสินะ อากาศถึงได้หนาวอย่างนี้” ก่อนจะยกมือกอดอกที่ไม่รู้ว่าหนาวเพราะลม หรือเพราะใจตัวเองกันแน่
หญิงงาม....ที่เป็นน้องสาวของท่านมุรามาสะ หญิงงาม....ที่เป็นแม่ของโทคิโตะ หญิงงาม....ที่เป็นอดีตคนรักของฟุบุกิ และหญิงงามเพียงคนเดียว ที่เคยทำให้คนตรงหน้าหัวเราะอย่างนี้มานับครั้งไม่ถ้วน!
“เฮ้อ.... เอ๊ะ!” ในขณะที่ร่างบางผ่อนลมหายใจออกมาจากอกอย่างแผ่วเบา ก็ต้องอุทานอย่างตกใจ เมื่อร่างสูงกระตุกแขนเขาอย่างแรงจนล้มลงไปนั่งเกยอยู่บนตักของอีกฝ่าย
“คงใช่ล่ะมั้ง เพราะข้าก็เริ่มรู้สึกหนาวๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว ” กระซิบติดริมหูร่างบาง มือแกร่งๆ โอบตวัดรอบเอวบางที่ทำท่าจะดิ้นหนีเมื่อเริ่มรู้สึกตัว
“ทำให้ข้าอุ่นขึ้นมาหน่อยสิ ฮิชิงิ ” กระซิบเสียงแผ่ว ก่อนจะก้มหน้าประทับริมฝีปากร้อนที่แอ่งชีพจรแถวลำคอเล่นเอาร่างน้อยสะดุ้งขึ้นมาสุดตัวกับการถูกโจมตีอย่างกะทันหัน
“เอ๊ะ! เดี๋ยว! นี่! ไม่นะ! อ๊ะ! หยุดนะ! ”
ฮิชิงิพยายามยกมือดันหน้าเข้มๆ ที่กำลังซุกไซร์แถวซอกคอเขาออก แต่ก็ไม่อาจสู้แรงคนตรงหน้าได้เลยไม่ว่าตอนนี้หรือก่อนหน้านี้ จึงได้แต่เบี่ยงหลบหน้าของคนตรงข้าม ที่นอกจากจะไม่หยุดแล้วยังลากไล้ปลายลิ้นจากลำคอขึ้นมาบนใบหน้าเขา
“อย่าดื้อสิ ฮิชิงิ! หน้าที่ของเจ้าคือช่วยรักษาคนในตระกูลนะ” เสียงดุๆ ลมหายใจร้อนๆ เป่ากระทบข้างหู ก่อนที่เสียงนั้นจะอ่อนลงอย่างเว้าวอนอ่อนหวาน
“และตอนนี้ข้าก็กำลังหนาว ช่วยเพิ่มความร้อนให้ข้าทีสิ...ฮิชิงิ” พร้อมกับแลบลิ้นไล้เลียใบหูเล็กอย่างจาบจ้วง
“อึก! อื้อ! ไม่! อ๊ะ! อย่ากัดสิ! อ๊ะ! ขะ...ข้า อื้อ! มียา... อื้อ!”
เสียงต่อต้านเงียบหายไปเมื่อริมฝีปากร้อนควานหาริมฝีปากเล็กเจอ สัมผัสแผ่วเบาในตอนแรก ก่อนจะบดลงไปอย่างหนักๆ เพื่อปิดกั้นเสียงประท้วงจากร่างบาง แต่สัมผัสแผ่วบ้างหนักบ้างตามอารมณ์ของเจ้าตัวก็เล่นเอาร่างเล็กในอ้อมกอดสั่นสะท้านซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะอารมณ์ที่ถูกจุดขึ้นเริ่มแผ่ลามไปทั่วร่างจนเริ่มร้อนไปทั้งตัว
“อื้อ! อื้อ! ”
นาน.....จนพอใจนั่นล่ะค่อยถอนริมฝีปากขึ้นมาเพียงเพื่อกระซิบติดริมฝีปากของร่างตรงหน้าที่ตราปรือๆ หน้าแดงๆ อกบางหอบสะท้านหนักๆ เพราะจุมพิตเมื่อครู่เล่นเอาเจ้าตัวหายใจแทบไม่ทัน
“ข้าไม่ได้ต้องการยาของเจ้า” นิ้วแกร่ง ถูกสอดเข้าไปในปากเล็กเพื่อดันให้อ้าออก พร้อมกับที่นิ้วหยอกล้อลิ้นนุ่มๆ ร้อนๆ นั้นไปด้วย
“แต่ข้าต้องการเจ้า!” นิ้วถูกถอนออกเพื่อเลื่อนไปกระชับท้ายทอยกันร่างบางส่ายหน้าหนีจูบที่จะรุนแรงยิ่งกว่าตอนแรก ก่อนจะสอดลิ้นร้อนชื้นของตนเข้าไปแทนที่ พร้อมควานหาความหวานจากริมฝีปากร่างตรงหน้าอย่างไม่เกรงใจ
“อ๊ะ! ตรงนั้น! อย่าจับนะ! อื้อ!” ผลักให้ตายก็สู้แรงคนตรงหน้าไม่ได้อยู่ดี จนมือเล็กที่ผลักอกหนาเริ่มอ่อนแรง เสียงท้วงเริ่มอ่อนลง เนื่องจากเจ้าของมือเริ่มเบลอเพราะหายใจไม่ได้ กับฤทธิ์ปลายลิ้นของร่างสูงที่เกี่ยวกระหวัดรัดจนเขาคิดอะไรไม่ออก จึงได้แต่ปล่อยให้มือใหญ่รุกรานไปทั่วตัวเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“อื้อ! อื้อ! ฮ้า... ท่านมัน! อื้อ!”
เสียงท้วงเริ่มเงียบลง.....แผ่วเบา.....และหายไปในที่สุด
Create Date : 30 ธันวาคม 2551 |
Last Update : 30 ธันวาคม 2551 19:12:08 น. |
|
1 comments
|
Counter : 180 Pageviews. |
|
|
|
โดย: I am NiC (I am NiC ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2555 เวลา:1:58:45 น. |
|
|
|
| |
|
|
คุณ ryoshin ให้เกียรติไปเม้นท์ด้วย surprise มากค่ะ เลยตามมาอ่านเรื่องอื่นๆด้วย
แล้วจะตามอ่านนะคะ ^^