|
มนุษยสัมพันธ์
ข้อแนะนำในการสร้างมนุษยสัมพันธ์ด้วยวิธีง่ายๆ กับบุคคลทั่วไปทั้งในวงสังคมและในการทำงาน ที่ผู้เขียนคือ คุณสุรัศมิ์พรรณ ดุลยจินดา คุณประสิทธิ์ โชติกวณิชย์ และคุณวรภา ประเสริฐสม ซึ่งได้เผยแพร่ไว้ในวารสารข้าราชการของสำนักงาน ก.พ. เมื่อหลายสิบปีก่อนมาให้อ่านกัน 1. ยิ้ม ว่ากันว่ายิ้มเป็นการลงทุนที่น้อยที่สุด แต่ได้ผลมากที่สุดในการพบปะกับบุคคลอื่น พยายามให้ตัวเองมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มเปิดเผยอย่างจริงใจ คือยิ้มทั้งกายภายนอกและยิ้มที่ใจ การยิ้มแสดงถึงความสุข มีไมตรีจิต มีเมตตาจิตต่อผู้อื่น
2. พูดน้อยฟังมาก ในการติดต่อกับผู้อื่น เขาบอกให้พยายามพูดแต่น้อยๆ พูดแต่เรื่องดีๆ มีสาระ และเป็นเรื่องที่น่าสนใจของคู่สนทนา ไม่ใช่พูดแต่เฉพาะเรื่องที่เราสนใจคนเดียว ใครไม่สนก็ช่าง (อย่างนี้เธอก็พูดคนเดียวไปเถอะ ก็ชั้นไม่สนใจด้วยนี่นา) ว่ากันว่าธรรมชาติสร้างให้มีปากเดียวแต่มีสองหู เหมือนเป็นการบอกใบ้ให้ใช้อย่างเหมาะสมคือพูดให้น้อยฟังให้มาก ที่สำคัญการพูดน้อยฟังมากเป็นเสน่ห์อย่างง่ายๆ ซึ่งใครๆ ก็ชอบ (โดยเฉพาะคนชอบพูดจะชอบมากเวลามีคนฟังเราพูด) และควรงดการพูดเพ้อเจ้อนินทาคนอื่น ยุแหย่ ส่อเสียด อิจฉาริษยา ประชด ฯลฯ โดยเด็ดขาด เพราะไม่เกิดผลดีแก่ใครทั้งสิ้น มีแต่เรื่องเสียหาย (พระท่านว่าร้อนเขาร้อนเรา-ไม่ดี ร้อนเขาไม่ร้อนเรา-ก็ไม่ดี ไม่ร้อนเขาแต่ร้อนเรา-ก็ไม่ดี ถ้าจะให้ดีต้องไม่ร้อนทั้งเขาและเรา อันนี้พูดเลย)
3. หลีกเลี่ยงการพูดตำหนิติเตียน บางครั้งคนเราชอบตำหนิคนอื่นเมื่อเห็นว่าเขาทำผิดพลาด ความจริงทุกคนมีจุดอ่อน มีความบกพร่องทั้งทางร่างกายและการปฏิบัติตัวกันทั้งนั้น ไม่มากก็น้อย อย่างในเรื่องการทำงาน-เราอาจมองว่าเขาผิดเขาบกพร่อง แท้จริงเขาอาจจะไม่ผิดก็ได้ แต่เป็นการมองคนละทัศนะเท่านั้น แม้ที่สุดเขาจะทำผิดจริงบกพร่องจริง เราก็ควรพยายามทำใจเปิดกว้างเห็นอกเห็นใจเขา เพราะการผิดพลาดเป็นวิสัยธรรมดาของปุถุชนอย่างเราๆ ท่านๆ จงระลึกไว้เสมอว่า คนที่ไม่ทำผิดก็คือคนที่ไม่ทำอะไรเลย ฉะนั้น ถ้าไม่จำเป็นแล้ว เราควรพยายามหลีกเลี่ยงการบ่นว่าวิพากษ์วิจารณ์ ตำหนิติเตียนผู้อื่นให้มากที่สุด เพราะจะทำให้คนถูกตำหนิ ถูกประณาม เสียหน้า เสียใจ ที่สำคัญคือมันไม่ได้ช่วยให้สิ่งที่ผิดไปแล้วคืนดีมาได้ นอกจากจะเสียงานแล้วยังจะทำให้เสียน้ำใจกันอีก
4. หลีกเลี่ยงการฉีกหน้า บางครั้งในกลุ่มคนหรือในที่ประชุม มีบางคนกล่าวผิดพลาด กล่าวคลาดเคลื่อน แต่การโต้แย้งอย่างฉับพลันทันทีเอาความจริงมาพูดหักล้างกัน ก็จะทำให้เขาเสียหน้ามาก ดังนั้น จึงต้องระวังที่สุด โดยเฉพาะถ้าเป็นกรณีผู้บังคับบัญชากล่าวผิดพลาดคลาดเคลื่อน ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ ถ้าจำเป็นจะต้องแย้งเพื่อมิให้เสียงานเสียการกันจริงๆ ก็ให้ใช้วิธีเงียบๆ เช่น อาจเขียนโน๊ตส่งไปให้อ่าน หรือทำเฉยไว้ก่อนแล้วค่อยมาโต้แย้งภายหลังเมื่ออยู่เฉพาะสองต่อสอง เป็นต้น อย่าลืมว่า การฉีกหน้าคนเป็นการทำลายมิตร และก่อศัตรูโดยแท้
5. หลีกเลี่ยงการโต้แย้งถกเถียงทะเลาะกันในเรื่องไร้สาระ บางครั้งคนเราชอบโต้แย้งถกเถียงกันในเรื่องต่างๆ ที่เป็นปัญหาโลกแตกไม่มีที่ยุติ การโต้แย้งโต้เถียงกันอย่างเคร่งเครียด อาจนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งวิวาทกัน ผิดใจกัน ทำให้เกิดอารมณ์เครียดโกรธและเป็นอันตรายต่อร่างกายและสุขภาพจิตมาก ผลการโต้แย้งไม่ทำให้ผู้แพ้ ผู้ชนะ หรือสังคม ได้ประโยชน์อะไรเลย มีแต่ความเสียหายจึงควรงดเว้นอย่างเด็ดขาด ผู้อื่นพูดคิดเห็นแตกต่างกับเรา เราก็ยอมรับฟัง แล้วก็เฉยเสียก็จบเรื่อง ตัดปัญหาไปเลย
6. รู้คุณคนทำดีให้ไม่มีวันลืม บุญคุณต้องทดแทน ใครทำความดีให้แม้เพียงเล็กน้อย เราควรต้องรู้สึกรำลึกถึงบุญคุณของเขาอยู่เสมอ ไม่ลืมเลือนและแสดงออกมาให้เขารู้และพยายามตอบแทนบุญคุณท่าที่จะทำได้ แม้ยังตอบแทนไม่ได้ก็พูดออกมา แสดงออกมาว่าเรารู้สึกสำนึกในบุญคุณ ก็เป็นการทำดีแล้วชั้นหนึ่ง ความกตัญญูรู้คุณเป็นคุณสมบัติที่สำคัญยิ่งอย่างหนึ่งของมนุษย์ เป็นมงคลเป็นศรีแก่ผู้ปฏิบัติ ผู้ที่เจริญก้าวหน้าทั้งหลายล้วนมีคุณธรรมข้อนี้ทั้งสิ้น
7. พยายามเห็นใจและให้อภัยเมื่อใครทำอะไรให้เราไม่พอใจ เมื่อใครทำสิ่งที่ไม่เป็นที่พอใจแก่เรา อย่าเพิ่งโกรธและตอบโต้ พยายามเห็นอกเห็นใจเขา พยายามดูสาเหตุที่เขาทำ เพราะเขาอาจทำด้วยความเข้าใจผิด หรือด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ฯลฯ เมื่อเห็นสาเหตุแห่งการทำผิด ควรพยายามเห็นใจเข้าใจและให้อภัยเขา เพราะการให้อภัยเป็นเมตตาธรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ใจเราสบาย ใจเขาก็สบาย เป็นการลดศัตรูและก่อมิตรภาพทางหนึ่ง
8. เมื่อทำผิดจงรับผิดอย่างเต็มใจ การรับผิดอย่างจริงใจจะมีผลทางจิตวิทยา ทำให้ผู้อื่นลดความโกรธความไม่พอใจ และเกิดความเห็นอกเห็นใจ เกิดความนิยมนับถือในจิตใจที่กว้างขวางเป็นนักกีฬาของเรา ทั้งยังช่วยให้อีกฝ่ายหนึ่งเกิดความคิดให้อภัยได้ง่ายขึ้นด้วย ตรงข้ามการดื้อรั้นโต้เถียงไม่ยอมรับผิด จะทำให้ผู้เกี่ยวข้องยิ่งไม่พอใจ และจะพยายามหาเหตุผลมากล่าวเอาความผิดจากเราให้ได้ในที่สุด
ทั้ง 8 ประการนี้ นอกจากเอามาย้ำเตือนสติให้ได้คิดกันแล้ว เราเองก็มีโอกาสได้ทบทวนตัวเองด้วยว่ายังขาดตกบกพร่องในเรื่องใดอีกบ้าง คงไม่มีใครอยากได้ศัตรูเพิ่มกระมัง ทำเช่นที่ผู้เขียนแนะนำมานี้ รับรองว่านอกจากลดศัตรูได้แล้ว ยังเกิดมิตรภาพใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน
อย่าลืมถามตัวเองทุกวันว่า วันนี้คุณได้มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นแล้วหรือยัง ?
Create Date : 17 พฤศจิกายน 2551 |
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2551 2:53:22 น. |
|
2 comments
|
Counter : 824 Pageviews. |
|
|
|
โดย: a IP: 98.18.27.42 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:6:39:43 น. |
|
|
|
โดย: 63 IP: 124.120.101.82 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:47:36 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
เชียงราย Netherlands
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เป็นตัวของตัวเองในบางครั้ง กล้าบ้างกลัวบ้างในบางที ไม่ได้ต้องการเป็นคนที่ดีที่สุด และก็ไม่อยากเป็นคนเลวที่สุด อยู่แบบกลางๆ เป็นคนแบบนี้ดีละ (- -)"
|
|
|
|
|
|
|
|
|