rugdongdung1
Group Blog
 
All Blogs
 

!!!พฤติกรรมของแฟนสาว ที่ทำให้หนุ่มถอยห่าง

@@@@@@@@@@

ความรัก


         แม้ความน่ารักและความดีของผู้หญิงทั้งหลายจะสยบคุณผู้ชายที่รักให้อยู่หมัดได้ เที่ยวตามรับตามส่งอยู่ทุกวัน แต่สาว ๆ จ๋า...อย่าชะล่าใจไปเลย เคยได้ยินหรือเปล่าว่าผู้ชายเวลารักล่ะก็สุดรักสุดหวง แต่ถึงคราวจะหมดรัก ความรักก็ร่อยหรอลงอย่างรวดเร็วซะอย่างนั้น แต่สาว ๆ รู้หรือไม่ว่า บางครั้งความรักที่ลดน้อยลงของผู้ชายก็มาจากนิสัยบางอย่างของเรา ๆ นี่แหละ โดยหากนิสัยนั้นมันทำให้เขาปวดหัวหรือหงุดหงิดได้ทุกวี่วัน มันก็จะค่อย ๆ บั่นทอนความรักให้ลดลง และสุดท้ายเขาก็อาจจะเว้นช่องว่างระหว่างคุณกับเขา แล้วหนีไปหาสิ่งใหม่ ๆ (คนใหม่) ที่ทำให้เขาสบายใจได้มากกว่าด้วย

วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอรวบรวม 10 อันดับพฤติกรรมของผู้หญิงที่ทำให้แฟนหนุ่มปวดหัว อึดอัด จนอยากจะหนีไปให้ไกล ๆ มาฝากกัน เพื่อให้สาว ๆ ได้ระมัดระวังพฤติกรรมอันจะนำมาสู่ปัญหาและจุดจบของความรักได้ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่า 10 พฤติกรรมผู้หญิงที่แฟนหนุ่มไม่ปลื้มนั้นมีอะไรบ้าง

1. คุณโทรจิกเขาได้ตลอดเวลา

แม้ว่าคุณจะอยากรู้ว่าเขาทำอะไร อยู่กับใคร ที่ไหน แต่การโทรไปถามได้ตลอดทั้งวันจะทำให้คุณกลายเป็นคนที่น่าเบื่อเอาง่าย ๆ ยิ่งผู้ชายเป็นเพศที่ไม่ชอบอะไรที่ "เยอะ" อยู่แล้ว ดังนั้น ไม่ว่าจะอยากรู้อยากโทรไปสักเท่าไร อดใจไว้สักหน่อย รอให้เขาเป็นฝ่ายเป็นห่วงและอยากรู้ว่าคุณอยู่ไหนบ้าง จะทำให้คุณดูน่ารักและมีค่าในสายตาของแฟนหนุ่มขึ้นเยอะเลย

2. คุณชอบขุดคุ้ยเรื่องแฟนเก่าหรือกิ๊กเก่าของเขา

น่าแปลกที่สาว ๆ มักอยากรู้เรื่องคนเก่าของแฟนหนุ่ม ขณะที่แฟนหนุ่มแทบไม่เคยเอ่ยปากถามคุณเลย เรื่องนี้แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาเปิดโอกาสให้คุณถามได้ แต่ถ้าหากถามไปแล้วคุณต้องเก็บมาคิดเปรียบเทียบ หรืออยู่ในอาการ "โกรธย้อนหลังไปตอนที่ยังไม่รู้จักกัน" แล้วล่ะก็ หยุดพฤติกรรมนี้ด่วน หนุ่ม ๆ เขาไม่แฮปปี้ที่ต้องมานั่งอธิบายเวลาคุณปรี๊ดแตกหรือน้อยใจ เพราะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับแฟนเก่าเขาสักเท่าไรหรอกนะ

3. คุณขอตามติดเขาไปทุกที่

ยอมรับมาเถอะว่าคุณรู้ดีอยู่แล้วว่าผู้ชายเป็นเพศที่รักอิสระ แต่คุณก็ห้ามความต้องการอยากไปนู่นมานี่กับเขาไม่ได้ ซึ่งมันจะดีมากถ้าหากแฟนหนุ่มของคุณเป็นคนที่ชอบอยู่กับคนรัก ไม่ค่อยอยากเฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงเท่าไร แต่ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นล่ะก็ ห่าง ๆ จากเขาบ้าง ปล่อยให้เขาไปทำอะไรกับเพื่อนฝูง หรือไปคนเดียวบ้างก็ดี ไม่งั้นล่ะก็ ถ้าเขาอึดอัดจนเบื่อคุณเมื่อไรอย่าหาว่าไม่เตือนนะ

4. คุณขี้หึงมาก

ผู้หญิงหึงเล็ก ๆ เป็นเรื่องที่น่ารัก แต่ถ้าหากถึงขั้นห้ามคุยโทรศัพท์กับผู้หญิง หรือห้ามไม่ให้ไปเขาเฮฮากับกลุ่มเพื่อนที่มีผู้หญิงอยู่ด้วยแล้วล่ะก็ เตรียมตัวโดนตีตัวออกห่างไว้ได้เลย ก็แหม...โลกใบนี้มันมีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเพศที่สามเท่านั้น คุณจะให้เขาเลี่ยงคบผู้หญิงไม่ได้หรอก ตัวคุณเองก็มีเพื่อนผู้ชายอยู่มากมายเหมือนกันไม่ใช่รึ?

5. คุณเช็คโทรศัพท์มือถือ

หรือขอพาสเวิร์ดอีเมล เฟซบุ๊ก ประวัติแชทของเขา อะ ๆ อย่าลืมว่าคนเราแม้ว่าจะคบกันถึงขั้นไหน แต่ก็ควรจะให้เกียรติเขาและเคารพความเป็นส่วนตัวของเขาบ้าง ผู้ชายไม่แฮปปี้หรอกถ้าหากแฟนสาวของเขาไม่เชื่อใจจนถึงขั้นต้องเช็คกันอย่างจริงจังขนาดนั้น เผลอ ๆ เขาจะยิ่งรู้สึกไม่เป็นตัวเอง เพราะต้องระวังคำพูดคำจาเวลาคุยกับใครให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้แฟนสาว "คิดไปไกล" ซึ่งมันอึดอัดสุด ๆ ไปเลยล่ะ

6. คุณดูแลตัวเองไม่เป็น

ผู้หญิงที่อยู่คนเดียวไม่เป็น ไม่มีเสน่ห์เลยสักนิดในสายตาผู้ชาย และถ้าหากเขารู้อย่างนั้นตั้งแต่ก่อนเข้าจีบคุณ เชื่อหรือไม่ว่าเขาจะไม่เลือกจีบคุณแน่ ๆ เพราะมันคือการหาภาระ หากรงขังให้ตัวเองเลยล่ะ ไม่มีใครอยากมีแฟนแล้วรู้สึกเหมือนต้องดูแลเด็กเล็กไม่รู้ประสา ทำอะไรเองไม่เป็นหรอกนะ

7. คุณระรานแฟนเก่า

หยุดพฤติกรรมประเภทระรานแฟนเก่า อาละวาดเพื่อนผู้หญิงที่มาคุยกับเขา เพราะมันจะทำให้คุณเสียคะแนนในสายตาแฟนหนุ่มไปมาก มันแสดงถึงความไม่รู้จักควบคุมอารมณ์และแยกแยะอะไรไม่ออก แน่นอน...คุณทำให้เขาขายหน้าได้ขนาดนี้ มีหรือที่เขาจะยินดี และอยากจะมีแฟนจอมวีนอย่างคุณ

8. คุณบ่นด่าเขาได้ทุกเรื่อง

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่อย่างคุยหยอกล้อกับสาวอื่น หรือเรื่องเล็กกะจิ๋วอย่างการรีดเสื้อไม่เนี้ยบก็เถอะ ถ้าคุณสามารถหยิบยกเอาทุกอย่างที่สร้างความไม่พอใจให้กับคุณมาเป็นปัญหา มาบ่นด่าได้ตลอด ไม่มีการมองข้ามเรื่องเล็ก ๆ ล่ะก็ ไม่มีใครเอาด้วยแน่ ๆ แม้ตอนนี้เขาจะรักคุณมากก็เถอะ แต่หากคุณมีนิสัยอย่างที่ว่าและไม่ยอมเปลี่ยนแปลงแล้ว เห็นทีว่าความรักของคุณจะคงอยู่อีกไม่นาน

9. คุณมีเงื่อนไขในการคบกันมากมาย

หรือก็คือการห้ามนู่นห้ามนี่ ถ้าทำอย่างนี้ต้องเป็นอย่างนั้น สารพัด มันทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเอง และแน่นอนว่า ถ้าหนุ่ม ๆ อยู่กับใครแล้วเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นนกในกรง โดนบังคับอยู่ตลอด ความเบื่อหน่ายก็จะเกิดขึ้นได้ไม่ยากเลย

10. คุณชอบขุดคุ้ยความผิดเก่า ๆ ของเขามาพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก

ไม่มีใครอยากจะรู้สึกผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก มันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่ายสำหรับผู้ชายมาก หากปัญหาหลายเรื่องจบลงแล้ว มีข้อสรุปแล้ว หรือให้อภัยเขาไปแล้ว แต่คุณก็ยังเอามันมาพูดอยู่ซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น มันยิ่งทำให้เขารู้สึกว่า คุณไม่ได้ให้อภัยเขาจริง ๆ นี่นา และที่สำคัญไม่เคยลืมปัญหา (ซึ่งอาจเป็นปัญหาเล็ก ๆ) ได้เลยด้วย

และนี่ก็คือ 10 พฤติกรรมสาว ๆ ที่ทำให้แฟนหนุ่มอยากถอยออกห่าง ที่เราได้นำมาฝากกันวันนี้ คราวนี้ก็ถึงเวลามาส่องกระจกมองดูตัวเองพร้อม ๆ กันแล้วล่ะค่ะว่า ก่อนที่คุณจะไปกล่าวหาว่าแฟนหนุ่มของคุณเปลี่ยนไป หรือเริ่มรักคุณน้อยลงนั้น จริง ๆ แล้วมาจากพฤติกรรมของเราเองหรือเปล่า


















 

Create Date : 21 มิถุนายน 2555    
Last Update : 21 มิถุนายน 2555 11:35:48 น.
Counter : 1051 Pageviews.  

วัตถุดิบจากธรรมชาติ ที่เป็นสครับชั้นเยี่ยม

##########

ผิวสวย




ผิวพรรณของสาว ๆ จะสวยใสได้ ไม่ได้มาจากการบำรุงแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังต้องอาศัยการสครับหรือการขัดผิวร่วมด้วย เพื่อเป็นการขัดลอกเซลล์ผิวชั้นนอกที่ตายแล้วให้หลุดออกไป เผยผิวชั้นล่างที่กระจ่างใสสุขภาพดีกว่าขึ้นมา แถมเมื่อสครับไปแล้วก็ทำให้ผิวสามารถซึมซับสารบำรุงต่าง ๆ ได้ดีขึ้นด้วย เพราะไม่มีผิวที่เสื่อมสภาพคอยกั้นขวางการซึมลึกเพื่อบำรุงผิวชั้นที่อยู่ลึกกว่า แต่ผลิตภัณฑ์ที่สาว ๆ นำมาสครับผิวกายและผิวหน้าก็ควรจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาจากธรรมชาติ อย่างที่ว่าอะไรที่ใช้กับผิวหน้าของเราก็ควรจะอ่อนโยนที่สุด ถ้าอย่างนั้นลองมาดู วัตถุดิบจากธรรมชาติ 5 อย่าง ที่เป็นสครับชั้นเยี่ยมแก่ผิวหน้าของสาว ๆ กันดูนะคะ

1. น้ำตาล

          น้ำตาลคือเม็ดสครับแสนวิเศษที่สามารถขัดเอาเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดออกไปได้อย่างอ่อนโยน ด้วยเม็ดน้ำตาลเล็ก ๆ ที่จะค่อย ๆ ละลายไปเมื่อได้สัมผัสอุณหภูมิร่างกายอุ่น ๆ จากผิวหน้า มองหาผลิตภัณฑ์เพื่อสครับผิวที่มีส่วนผสมของเม็ดน้ำตาล หรือจะทำสครับน้ำตาลสูตรโฮมเมดเองก็ได้นะคะ

สครับน้ำตาล สูตรโฮมเมด

ส่วนผสม

น้ำตาลทรายขาว 1 ส่วน

น้ำมันกลีเซอรีน หรือ น้ำมันสำหรับผิวอื่น ๆ 1 ส่วน

เอสเซนเชียลออยล์กลิ่นที่ชอบ 2-3 หยด

อโลเวรา เจล หรือ อโลเวรา ออยล์ เล็กน้อย เพื่อเพิ่มสรรพคุณในการปลอบกระโลมผิว

วิธีทำ & วิธีใช้

          ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน จากนั้นสามารถนำมาใช้ได้ทันที โดยนำมานวดเบา ๆ ที่ผิวหน้ารวมทั้งลำคอ ทิ้งเอาไว้ 5 นาที จากนั้นจึงล้างออก ส่วนผสมที่เหลือสามารถนำมาสครับผิวกาย หรือจะเก็บไว้ใช้ในครั้งต่อไปก็ได้

2. ข้าวโอ๊ต

          ข้าวโอ๊ตดิบก็สามารถใช้เป็นสครับได้เช่นกัน มีผลิตภัณฑ์สครับผิวมากมายที่มีเม็ดสครับจากข้าวโอ๊ต หรือคุณก็สามารถทำใช้เองที่บ้านได้เช่นกันค่ะ

สครับข้าวโอ๊ต สูตรโฮมเมด

ส่วนผสม

ข้าวโอ๊ตดิบ 3 ช้อนชา

น้ำผึ้ง 1/4 ช้อนชา

แอปเปิ้ล ไซเดอร์ วีนีการ์ เล็กน้อย

วิธีทำ & วิธีใช้

          ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน หากยังข้นเป็นก้อนเกินไปสามารถเติมน้ำผึ้งลงไปได้อีก ใช้ส่วนผสมขัดนวดผิวหน้าในทิศทางวงกลม จากนั้นทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น

3. เกลือ

          เกลือนับเป็นเครื่องปรุงสามัญประจำบ้านที่ต้องมีติดก้นครัวไว้อย่างแน่นอน และมันก็กลายร่างจากเครื่องปรุงเพิ่มรสชาติของอาหารมาเป็นสครับชั้นเยี่ยมได้ด้วย อย่างที่หลาย ๆ คนเคยได้ยินว่า การใช้เกลือขัดผิว ทำให้ผิวใส เรียบเนียนขึ้น แถมยังช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเส้นเลือดใต้ผิวหนังได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

สครับเกลือ สูตรโฮมเมด

ส่วนผสม

เกลือ 1 ถ้วย

น้ำมันมะกอก 1 ถ้วย

เอเซนเชียลออยล์กลิ่นที่ชอบ 5 หยด

วิธีทำ & วิธีใช้

          ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน โดยคุณสามารถเพิ่มหรือลดเกลือและน้ำมันมะกอกจากปริมาณแนะนำตามสูตรได้ เพื่อให้ได้ความข้นและความหนืดของเนื้อสครับตามที่ต้องการ ใช้ขัดผิวกายได้ทั่่วตัว ส่วนผสมที่เหลือใส่ในภาชนะมีฝาปิดมิดชิด เก็บไว้ใช้ได้อีก

4. วอลนัท

          วอลนัทเป็นอีกหนึ่งตัวสครับที่น่าสนใจ ยิ่งเมื่อได้ผสมกับโยเกิร์ตก็จะกลายเป็นส่วนผสมการสครับที่ลงตัว เมื่อวอลนัมป่นจะช่วยขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ส่วนโยเกิร์ตก็ทำหน้าที่ต่อต้านแบคทีเรีย ทำให้ผิวหน้ารู้สึกสะอาดสดใส ทั้งกรดแลคติกในโยเกิร์ตยังช่วยเรื่องการปลอบประโลมผิวแห้ง และชะลอการเกิดริ้วรอยได้ด้วย

สครับวอลนัท สูตรโฮมเมด

ส่วนผสม

วอลนัทป่น 1 1/4 ถ้วย

โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/4 ถ้วย

วิธีทำ & วิธีใช้

          ส่วนส่วนผสมทั้งสองเข้าด้วยกัน นำไปนวดผิวหน้า จากนั้นจึงพอกทิ้งไว้ 10-15 นาที ล้างออกด้วยน้ำเย็น ผิวหน้าจะรู้สึดสดใสสะอาดมากขึ้น

5. ชาเขียว

          ชาเขียวไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่มหอมกรุ่นที่มีประโยชน์เท่านั้น ด้วยความที่อุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ มันยังสามารถนำมาเป็นส่วนผสมในสครับทุก ๆ สูตรได้ เพื่อการบำรุง ปกป้องผิว รวมทั้งช่วยลดอาการอักเสบ ทำให้มันเหมาะมากกับผิวที่เป็นสิวง่าย หรือว่าผิวแพ้ง่ายด้วยค่ะ ..อย่าลืมเติมน้ำชาเชียวลงไปในสครับสูตรโฮมเมดแบบต่าง ๆ ที่เรานำมาฝากกันดูบ้างนะคะ


ธรรมชาติได้มอบสิ่งที่สุดให้กับเราแล้ว อย่าลืมเลือกไปใช้กันดูบ้างนะคะ




 

Create Date : 20 มิถุนายน 2555    
Last Update : 20 มิถุนายน 2555 11:15:06 น.
Counter : 1141 Pageviews.  

กลเม็ดกินสารอาหารที่คุณขาดไม่ได้

!!!!!!!!!!




         "โภชนาการที่ดี" หมายถึงอาหารที่คุณกินแล้วทำให้อิ่ม และยังให้สารอาหารซึ่งทำหน้าที่บำรุงร่างกายและป้องกันโรคต่าง ๆ เรามีเทคนิคเพื่อที่คุณจะได้รับสารอาหารเหล่านี้ทุก ๆ วันมาฝาก

+3 ใยอาหาร 

         ใยอาหารมีประโยชน์กับร่างกายตั้งแต่ลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ และอาจป้องกันโรคมะเร็งได้ด้วยซ้ำ

1. อ่านฉลากอาหาร เพื่อหาขนมปังหรือซีเรียลที่ให้ปริมาณใยอาหารมากกว่า 3 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค เพียงแค่ชามเดียว ก็น่าจะเพียงพอต่อความต้องการในหนึ่งวันของร่างกายแล้ว
2. กินผักและผลไม้อย่างน้อย 5-9 หน่วยบริโภคต่อวัน ประมาณครึ่งหนึ่งของมื้อ ต้องเป็นผักหรือผลไม้ ทั้งนี้ น้ำผลไม้ไม่เกี่ยวนะจ๊ะ เพราะไม่มีใยอาหารเท่ากับผลไม้สด
3. ถั่วมีทั้งโปรตีนและใยอาหาร คุณจึงอาจใส่ถั่วได้ทั้งในซุป สตูว์ สลัด ไข่ ฯลฯ

+3 แคลเซียม 

         แคลเซียมเป็นสารอาหารมหัศจรรย์สำหรับผู้หญิง เนื่องจากช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง ข้อดีก็คือ แม้แต่ในผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำก็ยังมีแคลเซียม คนที่กำลังลดน้ำหนักจึงไม่ต้องกลัวอ้วน

1. เริ่มเช้าวันใหม่ด้วยกาแฟดำผสมกับนมไขมันต่ำ สำหรับคนชอบซีเรียลก็ควรจะราดด้วยนมไขมันต่ำอยู่แล้ว และอย่าลืมใส่ผลไม้สดลงไปด้วยล่ะ
2. กินอาหารว่างเป็นโยเกิร์ตไขมันต่ำหรือเนยแข็ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มพลังงานได้ดีรวมถึงน้ำผลไม้หรือซีเรียลแบบเสริมแคลเซียม
3. อย่าลืมวิตามินเอ (ตับ ผลไม้สีเหลือง ส้ม และผักใบเขียว) วิตามินซี (ฝรั่งพริกหวาน) แมกนีเซียมและฟอสฟอรัส (เมล็ดพืชต่างๆ และธัญพืช เนยแข็ง งา) เพราะถ้าไม่มีวิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้ ร่างกายอาจดูดซึมแคลเซียมไม่ได้ด้วยซ้ำ

+3 สารต้านอนุมูลอิสระ 

        กลุ่มนี้ช่วยป้องกันเซลล์จากากรทำลายของอนุมูลอิสระ อาหารที่มีอนุมูลอิสระ เช่น อัลมอนด์ เบอร์รี่ ผลไม้ตระกูลส้ม ผักโขม มะเขือเทศ และพริกหวาน

1. หากคุณชอบซีเรียล ก็ควรลองโรยอัลมอนด์ หรือเบอร์รี่ลงไปในชามก่อนกิน คนที่ชอบแซนด์วิชก็ควรจะหั่นผักและมะเขือเทศลงไปด้วย หรือหั่นพริกหวาน หรือผักโขมทับลงไปเป็นชั้นก็ได้
2. แพ็กของกินยามว่าง เช่น ถั่วสักถุง พกเบบี้แครอตไว้เคี้ยวเพลิน ๆ มะเขือเทศราชินี หรือพริกหวานหั่นบาง ๆ ก็จะช่วยให้คุณไม่หิวโหยในระหว่างมื้อ
3. เก็บกราโนล่าบาร์ผสมถั่วหรือผลไม้เอาไว้ในกระเป๋า ซึ่งมันให้ทั้งพลังงาน สารอาหาร และมีรสชาติอร่อยด้วย


     ทิปสำหรับคนรักกาแฟ  .. ในระหว่างที่คุณกำลังรอน้ำเดือด เพื่อชงกาแฟ ให้ดื่มน้ำผสมมะนาวในระหว่างรอ และหลังจากดื่มเสร็จก็ให้ดื่มน้ำอุ่นตาม เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำในร่างกาย

Smiley








 

Create Date : 19 มิถุนายน 2555    
Last Update : 19 มิถุนายน 2555 18:00:16 น.
Counter : 730 Pageviews.  

ยอมให้กันบ้าง เพื่อรักที่เข้าใจมากขึ้น

##########

ความรัก

ยอม (แย่งกันยอมดีกว่ายอมกันเถียง) (ใยไหม)


เรื่องโดย : ออนอุมาร์

           ไม่มีใคร "เถียงกัน" แล้ว "เข้าใจกันมากขึ้น" หรอก มีแต่ "ยอมฟังกันและกัน" ต่างหาก ถึงจะเข้าใจกันได้จริง ๆ

บ่อยครั้งที่คนรักกันจะเจออุปสรรคทางความคิด บางทีคิดไม่ตรงกัน ก็เกิดเป็นความขัดแย้ง ยิ่งถ้ามีฝ่ายไหนเอาแต่ใจว่าตัวเองคิดถูกฝ่ายเดียว อีกฝ่ายก็จะเถียงโดยอัตโนมัติ เถียงกันบ่อย ๆ ก็เหมือนกับการสร้างแผลทางใจให้กันอยู่เรื่อย ๆ ครั้งแรกอาจแค่ถลอก แต่ถ้าเถียงบ่อย ๆ ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตอย่างที่เราคาดไม่ถึง รู้อย่างนี้แล้ว ยังจะทำให้ความรักมีแผลไปถึงไหน นานไปก็จะกลายเป็นแผลเป็น แล้วจะนึกถึงกันแบบเจ็บปวด เพราะมีแต่คำพูดร้าย ๆ ที่ฟังแล้วไม่ได้รู้สึกอบอุ่นขึ้นสักนิด

ยิ่งเถียงกันด้วยอารมณ์ ก็ยิ่งควบคุมได้ลำบาก "บางครั้งคำพูดแรง ๆ บางคำ ก็จะหลุดออกมา ทั้ง ๆ ที่คนพูดไม่ได้ตั้งใจจะพูดออกมาจริง ๆ" ถึงจะอธิบายในตอนหลังว่าไม่ได้ตั้งใจ มันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี เพราะคนฟังมันเสียใจไปแล้ว อย่างนี้นี่เอง เขาถึงให้ระมัดระวังอย่าปล่อยให้ความรัก ถูกกระทบกระเทือนบ่อย ๆ ไม่ว่าจะทั้งการกระทำและคำพูด ถ้ายอมกันไม่ได้...การจะเดินไปด้วยกัน ให้ถึงจุดหมายมันก็ลำบาก

สำหรับบางคน การ "ยอม" อาจหมายถึงความพ่ายแพ้ ก็แปลว่าคนคนนั้น...ไม่ได้พร้อมที่จะมีความรัก ไม่ควรที่จะรักใคร และไม่สมควรที่จะถูกใครรัก เพราะถ้าพร้อมที่จะรักได้จริง สิ่งสำคัญบางอย่างที่เราต้องยอมปล่อยมันทิ้งระหว่างทางบ้างก็คือ "ทิฐิ" การมีทิฐิจะกี่มากน้อยไม่สำคัญเท่ากับครั้งหนึ่งรู้จักวางทิฐิลง เพื่อที่จะประคับประคองความรักให้ยังอยู่ ไม่ใช่ถือทิฐิแบบวางไม่ลง พาลทำให้ความรักเกิดแผล และมานั่งเจ็บปวดทรมานกับแผลที่ตัวเองสร้างขึ้นภายหลัง

ยอมให้กันบ้างก็ได้...มันไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไรเลย ฝึกที่จะ "ยอมฟังกันและกัน" ให้คุ้นเคย แล้วจะรู้ว่ามันคุ้มค่าที่ได้เข้าใจกัน และความรักก็จะนั่งยิ้มอยู่ข้าง ๆ เรา

การชนะอะไรก็แล้วแต่ ไม่มีการชนะใดจะสำคัญเท่าการชนะใจตัวเอง ลองดูนะ ลองชนะใจตัวเองดูสักครั้ง แทนที่จะแย่งกันเถียง ๆ ๆ ๆ ก็เปลี่ยนมาแย่งกันยอม ๆ ๆ ๆ ถ้าทำได้อย่างนี้ สถานการณ์จะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ...ฉันเห็นออกจะบ่อยว่าพอมีอีกคนยอม อีกคนก็จะยอมตาม ถ้ามีอีกคนยอมรับว่าตัวเองผิด ก็จะมีอีกฝ่ายบอกว่า "ไม่หรอก ผมต่างหากที่ผิด" จากนั้นการสลับกันตัวเล็กตัวใหญ่ก็จะเกิดขึ้นอีกครั้ง เห็นไหมว่าคำคำเดียว สามารถพลิกเหตุการณ์เลวร้ายให้กลับมาดีขึ้นได้ คำว่า "ยอม" ..."ผมก็ยอม" ฟังดูดีกว่าคำว่า "ฉันไม่ยอม!" "ผมก็ไม่ยอม!" เป็นไหน ๆ

           เรื่องความรักยังมีอีกหลาย ๆ องค์ประกอบที่จะเกิดขึ้น เวลารักใครสักคนก็เหมือนเวลาทำข้อสอบ ต้องทำไปทีละข้อ ๆ และพร้อมที่จะสอบอยู่เสมอ อย่าบั่นทอนความรักให้แย่ลงด้วยการเถียงกันเลย มาทำความรักของเราให้ดีกันดีกว่า ครั้งหน้าถ้ามีเรื่องไม่เข้าใจกัน จนถึงขั้นต้องเถียงกันอีกรอบล่ะก็...เราลองเป็นฝ่ายพูดก่อนสิว่า "ยอม" ฉันเชื่อว่าต่อให้เป็นคนใจแข็งที่สุดในโลก ลองถ้าเจอคำคำนี้เข้าก็ต้องเผลอใจอ่อนพูดคำว่า "ยอม" ออกมาเหมือนกันนั่นแหละ จำไว้นะ...โลกนี้ไม่มีใครใจแข็งเท่าเราหรอก ถ้าคนใจแข็งอย่างเราไม่ยอมก่อนแล้วใครจะกล้ายอมบ้างล่ะ...จริงไหม?


Smiley




 

Create Date : 18 มิถุนายน 2555    
Last Update : 18 มิถุนายน 2555 12:19:49 น.
Counter : 703 Pageviews.  

จิตใสไร้ทุกข์...สุขภาพใจดี



โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก


สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเราคือการทำจิตใจให้ผ่องใส เรามักจะให้ความสำคัญกับสิ่งภายนอกไม่ว่าจะเป็นด้านวัตถุก็ดี ความรู้ต่างๆ ก็ดี สิ่งที่มองข้ามไปก็คือเรื่องของจิตใจ ค่านิยมในการฝึกจิตหรือการพัฒนาจิตใจของเรายังมีน้อย พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ใจเป็นประธาน ใจเป็นหัวหน้าของชีวิต" เมื่อจิตใจดี เราจึงจะคิดดี พูดดี ทำดี แล้วเราก็จะทำหน้าที่ได้ถูกต้องต่อครอบครัว ต่อสังคมของเรา ถ้าจิตใจไม่ดีแล้ว ถึงแม้ว่ามีความรู้ดีมากขนาดไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ เพราะฉะนั้นเราต้องนึกว่าทำอย่างไรจึงจะมีสุขภาพใจดี เมื่อพูดถึงชีวิตของเราซึ่งประกอบด้วยกายและจิตใจ เราเอาใจใส่เรื่องทางกายมากพอสมควร เรื่องความปลอดภัยทางกายหรือสุขภาพกาย หรือการเตรียมตัวไปอยู่อาศัยในถิ่นกันดาร สิ่งที่เราทุ่มเทส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องทางกายทั้งนั้น


ทีนี้มาดูเรื่องสุขภาพจิตใจของเรากันบ้าง สุขภาพใจที่ดีนั้นต้องเข้าใจว่าธรรมชาติของจิตเราทุกคนมีความประภัสสร ผ่องใสโดยธรรมชาติ ถ้าเป็นน้ำก็เป็นน้ำที่ใสสะอาด มนุษย์ทุกคนธรรมชาติก็มีจิตประภัสสร แต่จิตใจของเราที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ อาจสังเกตได้ว่าบางครั้งก็ขี้เกียจ ขี้น้อยใจ ขี้อิจฉา ขี้กลัว ขี้โกรธ ขี้วิตกกังวล ขี้อวด ซึ่งเป็นความรู้สึกทางจิตใจที่ไม่สะอาด พูดง่ายๆ คือเป็นปฏิกูลทางจิตใจ ด้านร่างกาย เรารับประทานอาหารทุกวันแล้วก็เข้าห้องน้ำทุกวัน เมื่อเรามีชีวิตอยู่ ก็จำเป็นต้องรับประทานอาหารกันทุกคน และสิ่งที่จำเป็นก็คือการเข้าห้องน้ำ หน้าที่ของเราคือเข้าห้องน้ำให้ทัน ปิดประตู ขับถ่าย ชำระร่างกาย แล้วก็กลับเข้ามาในสังคมต่อไป


ทางด้าน จิตใจก็เหมือนกัน เป็นปุถุชนหรือแม้แต่อริยบุคคลก็ตาม ยังมีกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความรู้สึกต่างๆ เกิดขึ้นเมื่อประสบกับความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ ถือเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อเราประสบเหตุการณ์ที่ไม่น่าปรารถนา ความรู้สึกทางจิตใจ น้อยใจ เสียใจ กลัว โกรธ วิตกกังวลต่างๆ ก็เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา อารมณ์ต่างๆ เหล่านี้ ทั้งความขี้เกียจ ขี้โกรธ ขี้น้อยใจ ขี้อิจฉา ขี้กลัว ก็เหมือนเป็นสิ่งปฏิกูลทางจิตใจ ถ้าเป็นทางกายก็รับประทานอาหารแล้วเข้าห้องน้ำ จัดการในห้องน้ำ สำหรับ อารมณ์ทางจิตใจเหล่านี้ เราก็จำเป็นต้องจัดการให้ทัน พูดภาษาธรรมะก็คือ การกำหนดให้รู้เท่าทัน ถ้าพูดแบบอาจารย์ก็คือ การสร้างห้องสุขาให้แก่จิตของเรา เราต้องรู้จักสร้างห้องสุขาที่สะอาด ห้องสุขาที่ไว้รองรับอารมณ์นี่แหละ...


##########




 

Create Date : 16 มิถุนายน 2555    
Last Update : 16 มิถุนายน 2555 20:10:58 น.
Counter : 720 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

rugdongdung1
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




......... .......
Friends' blogs
[Add rugdongdung1's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.