สูตรการชงกาแฟ


การชงกาแฟสดให้รสชาติดี มีองค์ประกอบที่สำคัญคือ

- เมล็ดกาแฟต้องเลือกที่คั่วใหม่ที่ดีที่สุดคือ วันที่ 2 หลังจากคั่วเสร็จ และไม่เกิน 21 วันนับจากวันที่คั่ว

- เครื่องชงกาแฟได้ มาตรฐาน แรงดันไม่น้อยกว่า 15 บาร์ ช๊อตชง กาแฟมีขนาดใหญ่ระดับมาตรฐาน

- น้ำที่ใช้ชงกาแฟต้องเป็นน้ำสะอาด ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส และไม่ใช่น้ำกะด้าง

- ต้องบดกาแฟใหม่ทุกครั้งที่ชงกาแฟ ไม่ควรใช้ผงกาแฟที่บดไว้แล้ว นานเกิน 3 ชั่วโมง


กาแฟ เอสเพรสโซ่ ( ขนาดแก้ว : 2 ออนซ์ )



ใช้ ผงกาแฟ 1 ช็อต (8 กรัม) ชง น้ำกาแฟให้ได้ระดับ 2/3 ของแก้ว
เสริฟให้ลูกค้าเลือกเติมน้ำตาลหรือครีมเอง โดยปกติคนดื่ม กาแฟชนิดนี้จะไม่เติมอะไรเลย แต่ก็ควรมีน้ำตาลซองและครีมซอง เผื่อไว้ให้

กาแฟลาเต้ ( ขนาดแก้ว : 4 ออนซ์ )



ใช้ ผงกาแฟ 1 ช็อต (8 กรัม) ชง น้ำกาแฟให้ได้ระดับ 1/3 ของแก้ว
อุ่นนมร้อน แล้วจึง เทนมร้อน ลงแก้วให้ได้ระดับเกือบๆเต็มแก้ว
เสริฟให้ลูกค้าเติมน้ำตาลหรือ ครีมเอง

กาแฟม็อคค่า ( ขนาดแก้ว : 4 ออนซ์ )



ใช้ ผงกาแฟ 1 ช็อต (8 กรัม) ชง น้ำกาแฟให้ได้ระดับ 1/3 ของแก้ว แล้วเติมผงโกโก 1 ช้อนชา อุ่นนมร้อน แล้วจึง เทนมร้อน ลงแก้วให้ได้ ระดับเกือบๆ เต็มแก้ว เสริฟให้ลูกค้าเติมน้ำตาลหรือ ครีมเอง

กาแฟร้อนคาปูชิโน (ขนาดแก้ว : 4 ออนซ์)



ก่อนชงต้องทำฟองนมให้ฟูได้ที่ก่อนแล้วจึงชงกาแฟ ใช้ ผงกาแฟ 1 ช็อต (8 กรัม) ชง น้ำกาแฟให้ได้ระดับ 1/3 ของแก้ว แล้วจึงเทนมร้อน ลงแก้วให้ได้ระดับ 2/3 ของแก้วแล้วจึงใช้ช้อนตักฟองนมที่เหลือเติมให้ เต็มแก้ว ให้พูนเล็กน้อย เสริฟให้ลูกค้าเลือกเติมน้ำตาลเองเมนูนี้ ควรเตรียม ผงอบเชยป่น(ชินาม่อน) หรือผงโกโก้ให้ลูกค้าเผื่อต้องการ โรยหน้าเพื่อเพิ่มความหอมด้วย

-จบ-




 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2550   
Last Update : 5 กรกฎาคม 2550 12:03:31 น.   
Counter : 565 Pageviews.  

ตำนานการดื่มกาแฟ

มนุษย์รู้จักดื่มกาแฟตั้งแต่ศตวรรษที่ ๑๒ แถบทวีปอัฟริกา มีเรื่องเล่าว่าประมาณ ค.ศ. ๑๔๐๐ คนเลี้ยงแพะในเอธิโอเปียชื่อ คัลได สังเกตเห็นแพะที่เขาเลี้ยงกระโดดโลดเต้นอย่าง สนุกสนาน เมื่อกินผลไม้สีแดงๆ คัลไดลองกินดูก็รู้สึกสดชื่น ภรรยาของเขาจึง นำไปถวายพระ พระได้นำไปเผาไฟเพื่อหวังลดอำนาจของผลไม้นี้ลง แต่กลับมีกลิ่นหอมน่าพิสมัย จึงนำมาทุบและใส่น้ำเพื่อดับไฟ เมื่อลอง ดึ่มน้ำนั้นก็รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ต่อมาพวกพ่อค้าจึงนำออกไป เผยแพร่



สำหรับยุโรปนั้นเริ่มรู้จัก กาแฟเมื่อศตวรรษที่ ๑๗ โดยนักแสวงโชคและผู้ที่ทำให้กาแฟได้รับ ความนิยมในยุโรปมากยิ่งขึ้นก็คือ สุไลมาน อัลการาชทูตประจำราชสำนักพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ แห่งฝรั่งเศส หรือราวปี ค.ศ. ๑๗๑๕ จากนั้นกาแฟ ก็มีราคาสูงขึ้น เพราะขุนนางฝรั่งเศส ติดกาแฟ กันงอมแงม ชาวยุโรปได้รู้จักดื่มกาแฟอย่างจริงจังเมื่อศตวรรษที่ ๑๙ แต่อยู่ในกลุ่มนักเขียน และผู้ฐานะดีเท่านั้น ชาวฝรั่งเศสได้นำไปทดลองปลูก ในตอนใต้ของประเทศแต่ไม่ได้ผล ชาวฮอลแลนด์นำไปทดลองปลูกที่ เกาะลังกาและหมู่เกาะอินเดียตะวันออกได้สำเร็จ ฝรั่งเศส จึงทำตามบ้าง ทั้งสองประเทศนี้หวงพันธุ์กาแฟมาก เมี่อฝรั่งเศสกับฮอลแลนด์มีปัญหา เรื่องพรม แดนในกานา กษัตริย์บราซิลได้ส่งทูตไปไกล่เกลี่ย และแอบนำกาแฟมาขยายพันธุ์ในบราซิล จนกลายเป็นแหล่งฝลิตกาแฟ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาจนถึงทุกวันนี้



อีกตำนานหนึ่งกล่าวถึงความเป็น มาของกาแฟว่า มุนษย์ คนแรกที่รู้จักและดื่มน้ำกาแฟคือ มัฟทิ แห่งเอเดนใน สมัย ศตวรรษที่ ๙ ส่วนอีกตำนานหนึ่งบอกว่า ผู้ที่รู้จักรสชาติของ กาแฟ เป็น คนแรกคือนักบวช ในศาสนาอิสลามชาวตะวัน ออกกลางชื่อ เดลี ผู้มักง่วงเหงาหาวนอนเป็นนิจ ในขณะ สวดมนต์ และนักบวชผู้นี้ได้พิชิตความง่วงด้วยการดื่มน้ำต้ม จากกาแฟที่มีคนบอกมาอีกต่อ หนึ่งหลังจากนั้นก็ได้กระจาย ไปทั่วจนเป็นส่วนหนึ่ง ในชีวิตประจำวันของชาวตะวันออกกลาง




 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2550   
Last Update : 5 กรกฎาคม 2550 11:56:48 น.   
Counter : 183 Pageviews.  


เจิ้งเหอ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เมา ไม่ ขับ
[Add เจิ้งเหอ's blog to your web]