Ride to Raid
Group Blog
 
All Blogs
 

วิถีผู้กล้า ตอน "11.2 แวะถนนสายน้ำมินิ"

สวัสดีครับ ผมรุตเรเดอร์

กลับมาต่อ กับปฏิบัติการนอกสถานที่ครั้งที่ 11 เดชอุดม
11.1 ซ้อมขนน้ำดูก่อน
11.2 แวะถนนสายน้ำมินิ


ยางโทนใหญ่คันที่ 3 และ 4 ของประเทศไทยครับ ออกปฏิบัติการคู่


กินเสร็จ เจ้าของร้านมอบมาลัยมะลิให้เป็นกำลังใจ ในการพิชิต อ.เดชอุดม

บนโต๊ะจะเห็นไม้กันหมาที่ผมพกมาด้วย เผื่อจำเป็นต้องใช้


ออกเดินทางกันต่อเลยครับ


แวะวัดแห่งหนึ่ง


แย่แล้ว หมาวัดตามมาเห่า เกือบจะได้ใช้ไม้กันหมาอยู่แล้วเชียว


โอเค แค่อยากมาดม ไม่มีปัญหา อยู่ร่วมกันอย่างสันติ


ผ้าบัฟลายเดียวกันโดยมิได้นัดหมาย


ผมใช้ระยะขาจาน 127mm ลูกทีมผมใช้ระยะ 110mm

แน่นอน 110mm กินกำลังขามากกว่า แต่ก็เร็วกว่า ก็ถือว่าเหมาะกับเด็ก เพราะฟิตกว่า


ถึง ม.อุบลแล้วครับ เก็บระยะทางมาได้สิบกว่ากิโลเมตรแล้ว


ม.เงียบมากครับ เป็นช่วงปิดเทอร์ม


เลย ม.อุบลมาหน่อย จะเข้าสู่ช่วงทางไกลเวิ้งว้างแล้วครับ

ไม่มีความเป็นเมืองเหลืออยู่ มีแต่ทุ่งนาป่ากว้าง


สิ่งที่ผมกังวลอย่างเดียว คือยางรั่ว ไม่ได้เอาอุปกรณ์ใดๆ มาซ่อมมาเปลี่ยน

สำหรับยางโทนนั้น การขนอะไรต่างๆ มาด้วยเยอะๆ ไม่เป็นผลดีต่อการปั่น

แล้วโอกาสยางรั่วมันน้อยด้วย ยาง 36 นิ้ว ค่อนข้างจะหนาแน่น หนามตำลำบากอยู่

แต่ถ้ารั่วขึ้นมา แย่เลย คงต้องได้โบกรถกลับ


ถนนกว้าง พื้นที่ไหล่ทางก็กว้าง แบบนี้ปั่นสบายครับ มีสมาธิดี รู้สึกปลอดภัยกว่า

แต่ยางโทนใหญ่ ที่ว่าเร็วมากแล้ว ในโลกของจักรยานล้อเดียว

เมื่อมาอยู่บนถนนใหญ่ๆ แบบนี้ นอกเมืองแบบนี้ ก็รู้สึกช้าเหมือนกัน


สนับแข้ง ใส่มากันแดดเป็นหลัก ป้องกันการกระทบกระเทือนเป็นรอง

ตอนนี้ ผมใส่สนับแข้งไ้ว้จนชินแล้วครับ ปั่นได้ปกติดี ใส่แล้วมั่นใจกว่าไม่ใส่


อยากจะแวะ แต่ก็ไม่มีอะไรให้แวะ มีแต่ทุ่งนา


เข้าสู่ช่วงทางแคบ ช่วงนี้รู้สึกไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ โดยเฉพาะเวลามีรถใหญ่แซง

ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ กระจกมองหลังที่ถุงมือ ต้องใช้ตลอด


เก็บระยะทางมาได้ประมาณครึ่งทางแล้วครับ ตอนนี้


หลายจุดเป็นสะพานแคบ แบบนี้ต้องเพิ่มความระมัดระวังพิเศษเลยครับ

ถ้ามีรถตามหลังมา ให้เขาแซงไปก่อนเลย ปลอดภัยกว่า


เขาเขตตัวเมืองแล้วครับ


เป็นตำบลนาส่วง


มีจัดงานถนนสายน้ำขนาดมินิด้วย เลยแวะเยี่ยมชมสักหน่อย


มีประกวดนางสงกรานต์ด้วย


ก็เป็นการประกวดขนาดมินิเช่นกัน


ลงทุน 50 บาท ได้แว่นกันแดดมา 1 อัน

ไม่ไหวครับ แดดจัดแสงจ้ามาก


บล็อกหน้าก็เป็นตอนจบแล้วครับ

เพราะปฏิบัติการนอกสถานที่ครั้งที่ 11 ของผม ก็เป็นแบบมินิเช่นกัน




 

Create Date : 15 เมษายน 2556    
Last Update : 15 เมษายน 2556 16:36:53 น.
Counter : 1245 Pageviews.  

วิถีผู้กล้า ตอน "ปฏิบัติการนอกสถานที่ครั้งที่ 11 เดชอุดม"

สวัสดีครับ ผมรุตเรเดอร์

ห่างหายไปนาน เนื่องจากหมดมุกจะเขียน

เพราะเทนนิคการปั่นต่างๆ อุปกรณ์ต่างๆ ก็ได้เขียนไปแทบทุกประเด็นแล้ว

ก็คงเหลือแต่การออกปั่นไปในสถานที่ใหม่ๆ ที่พอจะนำมาเขียนได้

วันนี้จึงกลับมาในปฏิบัติการนอกสถานที่ครั้งที่ 11


มีการแต่งรถเพิ่มเล็กน้อยครับ สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้

พระเอกคือยางโทนใหญ่


นำมาเพิ่มขากระติก ซึ่งจำเป็นมากสำหรับการเดินทางไกล จะได้มีน้ำกิน


ได้ไฟใำหม่มาเพิ่มด้วยครับ เพราะผมปั่นในชีวิตประจำวันเวลากลางคืนด้วย


ไฟท้าย ย้ายมาติดที่ด้านข้างตะเกียบแทน เพราะติดขากระติกน้ำ

กรณีถ้าไม่ได้เดินทางไกล ไฟท้ายก็จะอยู่ใต้อานเหมือนไฟหน้าครับ


ปฏิบัติการนอกสถานที่ครั้งที่ 11 เดชอุดม
11.1 ซ้อมขนน้ำดูก่อน

เนื่องจากผมยังไม่เคยปั่นแบบมีกระติกน้ำเลย อยากลองซ้อมปั่นในชีวิตประจำวันก่อน


กระติกน้ำที่เพิ่มมา ไม่ได้เกะกะอะไร แต่น้ำหนักรถมันเพิ่มขึ้น

รู้สึกไม่ชิน ในจังหวะขึ้นรถ แต่จังหวะปั่นรู้สึกปกติ


อากาศร้อนมากครับ


พื้นที่ใต้อาน เกือบจะไม่พอใส่กระติกน้ำครับ หวุดหวิดจริงๆ


ขากลับก็ได้ทดสอบไฟหน้า และไฟท้ายใหม่ รู้สึกมั่นใจมากครับ

คนอื่นจะได้เห็นเราชัดๆ ทั้งจากด้านหน้า และด้านหลัง


ชอบที่ตัวไฟเป็นแบบปลดเร็ว เราสามารถย้ายไปติดรถคันอื่นได้เลย กรณีมีรถหลายครับ

เพราะเป็นระบบยางรัด


ขากระติกก็เป็นแบบปลดเร็วเช่นกันครับ ถ้าไม่ได้เดินทางไกล ก็ปลดออกเก็บไว้ก่อน


ยางโทนใหญ่ กรณีปั่นในชีวิตประจำวัน ตอนนี้หน้าตาจะเป็นแบบนี้ครับ

มีไฟหน้า และไฟท้าย เพื่อความปลอดภัยยามค่ำคืน


เอาหละครับ หลังจากซ้อมขนน้ำดูแล้ว พบว่าไม่มีปัญหาอะไร

ตอนนี้ ได้เวลาออกปั่นเดินทางไกลกันแล้วครับ ไป อ.เดชอุดม

ปฏิบัติการนอกสถานที่ครั้งที่ 11 นี้ มีอะไรที่เป็นครั้งแรกของผมเยอะเลย

1) เป็นปฏิบัติการครั้งแรก ที่เริ่มออกเดินทางจากบ้านตัวเองเลย ที่ อ.วารินชำราบ
ระยะทางประมาณ 45km


2) เป็นปฏิบัติการครั้งแรก ที่มีผู้ติดตามเป็นยางโทนเหมือนกัน ยางโทนใหญ่ทั้งคู่


3) เป็นครั้งแรกที่ปฏิบัติการในจังหวัดบ้านตัวเอง แต่ก็จัดให้เป็นนอกสถานที่ เพราะข้ามอำเภอ
แล้วก็เป็นอำเภอที่ไม่ค่อยได้ไปบ่อยด้วย


รอชมครับว่า ที่ อ.เดชอุดม จะมีอะไรให้ดู


ปั่นในวันสงกรานต์เลยครับ 13 เมษา 56 แดดจัด


ยางโทนใหญ่ของผม เคยปฏิบัติการนอกสถานที่มาแล้ว 1 ครั้ง คือครั้งที่ 6 เชียงของ-ห้วยทราย

แต่ครั้งนั้นปฏิบัติการล้มเหลว เพราะ service bike ได้รับบาดเจ็บ

ครั้งนี้มาปั่นในวันสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วง 7 วันอันตรายด้วย

บอกลูกทีมเสมอครับ ความปลอดภัย ไม่ประมาท และมีสติตลอด สำคัญมาก


มุ่งหน้าไปเดชอุดมกันเลย

แผนการปั่นเป็นดังนี้ครับ จะปั่นกันแบบไม่เร่งรีบ มีอะไรน่าสนใจก็แวะ เหนื่อยก็พัก

ไปให้ถึง จุดหมายคือเขื่อนยางครับ จากนั้นก็นั่งรถโดยสารกลับ ง่ายๆ


เผลอแป๊บเดียว 11 ครั้งแล้ว สำหรับปฏิบัติการนอกสถานที่

ก็ยังจะมีไปเรื่อยๆ ครับ ตราบที่มีโอกาส และตราบที่ยังไหวอยู่


มื้อเช้าก็ง่ายๆ ครับ ก๋วยเตี๋ยวข้างทาง


พักกินข้าวก่อนนะครับ และบล็อกหน้ามาต่อ




 

Create Date : 14 เมษายน 2556    
Last Update : 14 เมษายน 2556 21:26:40 น.
Counter : 1138 Pageviews.  

วิถีผู้กล้า ตอน "พาล้อเล็กไปเจิม"

สวัสดีครับ ผมรุตเรเดอร์


กลับมาต่อ จากบล็อกก่อนหน้า ที่ผมได้พายางโทนเกียร์ 19 ออกทดสอบปั่นผจญภัย


ประทับใจมากครับ ในเรื่องของความคล่องตัว เล่นง่าย ควบคุมง่าย

แม้จะใช้เกียร์สูงฝ่าทางวิบาก ก็ยังเล่นง่าย


ไม้กันหมาที่เหน็บไว้ที่เอว ทริปนี้ได้ใช้บ่อยมากครับ

อาจเพราะมากับคันเล็ก หมาเลยไม่ค่อยเกรงใจ

แต่หารู้ไม่ว่า คันเล็ก การจะลงจากรถมาป้องกันตัว ทำได้เร็วมากเช่นกัน


สำหรับล้อเล็กแล้ว อำนาจการกลิ้งผ่าน น้อนกว่าล้อใหญ่แน่นอน

แต่เท่าที่ผมปั่นดู ปัญหาการสะดุดหลุมบ่อต่างๆ ก็ไม่มีนะครับ

น่าจะด้วยเหตุผลสองประการ คือยางอ้วนใหญ่ลมอ่อน ใช้ลมเพียง 15psi ช่วยประทะหลุมบ่อได้ดี

บวกกับความเล็กกระทัดรัด ทำให้คล่องตัวมาก ล้มยาก


ด่านดงหญ้ามรณะ ผ่านได้ไม่ยากเลย ช่วงนี้หญ้ามันสั้นแล้วด้วยครับ เลยง่ายเข้าไปใหญ่


ลุยกันต่อ


ฝืนใช้เกียร์สูง แต่ทางมันขรุขระเกินไปครับ เลยเอาไม่อยู่ ล้มไป

ถ้ามาตอนยังเผาอยู่ น่าจะมันกว่านี้


ทางแบบนี้ขึ้นเกียร์สูง มันมากครับ


ปั่นผ่ายทรายดู ก็ไม่มีปัญหาครับ

โอกาสหน้า น่าเอาไปลองกับด่านทรายดูดมรณะ

ไม่แน่เหมือนกัน ความคล่องตัวในแบบล้อเล็กๆ อาจจะผ่านได้ก็เป็นได้


บางทีไม่ค่อยอยากถอนเกียร์ เพราะล้อมันเล็ก ที่อัตราทด 1:1 มันช้ามาก

แต่ถ้าทางขรุขระมาก ต้องถอนครับ ถ้้าไ่่ม่ถอนก็จะเล่นยาก


ขาจานระยะ 137mm ถือเป็นระยะที่ยาวพอเหมาะพอดีกับเท้าผมเลย ส้นเท้าพอดีตอกปุ่มเกียร์

ถ้าให้คะแนนเรื่องการเ้ข้าเกียร์ถอนเกียร์ประเด็นนี้ประเด็นเดียว

ยางโทนเกียร์ 19 ได้ 10 เต็มเลยครับ เพราะเข้าเกียร์ถอนเกียร์่ง่ายที่สุด

ไม่เหมือนยางโทนเกียร์ 26 และโดยเฉพาะยางโทนเกียร์ 29 ที่เล่นเกียร์ยากกว่ามาก


ออฟโรด สลับออนโรด


ผมลองปั่นแบบเร่งหน่อย แล้วได้ถามมอเตอร์ไซค์ที่ขนาบมาดู เขาบอกว่าความเร็วผม 20kph

หลังจากนั้น ผมลองนับรอบเท้าผมดู ใน 1 นาที ปั่นไป 112 รอบ

เส้นรอบวงยางยาวประมาณ 160cm หรือ 1.6m x 112

1 นาทีปั่นไปได้ระยะทาง 179.2m

ุ60 นาทีปั่นได้ 10752m หรือ 10.752 kph (กรณีไม่มีเกียร์)

แต่เมื่อเป็นยางโทนเกียร์ 19 ใน 1 รอบเท้าเท่ากับ 1.5 รอบล้อ

นำ 10.752x1.5 จะได้ประมาณ 16kph ก็ไม่ถึง 20kph

ไว้อนาคตมี GPS ค่อยวัดความเร็วกันดูใหม่ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่


จะเจิมก็ต้องมาที่วัดครับ


ไม่ว่าจะ Shift on the Fly จะ Shift on the Land แล้วออกตัวด้วยเกียร์สูง ง่ายทุกอย่าง

หรือจะเปลี่ยนเกียร์ขณะทำท่ากระโดด ก็ทำได้ไม่ยากเลยครับ สำหรับ 19 นิ้ว


ความเร็วที่ทำได้จากการคำนวณ ได้ไม่เร็วมาก ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากขาจานที่ยาว

ปกติแล้ว ล้อเล็กขนาดนี้ เมื่อปั่นทั่วไปมักใช้ขาจานระยะ 125 ไ่ม่ก็ 110mm

จะช่วยให้ซอยเท้าได้ไวมากขึ้น


บรรยากาศร่มรื่นมากครับ ข้างนอกอากาศร้อน แต่ในวัดอากาศเย็นดี


เมื่อล้อเล็ก ขาจาน และบันได ก็สามารถเป็นขาตั้งได้


แค่พามาวัด ก็ถือว่าได้มาเจิมแล้วหละครับ


ขากลับสลับไปออฟโรดอีกครั้ง ต้นข้าวโพดสูงกว่าคนอีก


แล้วก็ออนโรดกลับบ้าน

โดยภาพรวมแล้ว ยางโทนเกียร์ 19 ก็ถือว่าปั่นผจญภัยในระยะทางรอบๆ แถวบ้านได้สนุกดีครับ

สนุกอย่างที่ไม่เคยได้จากล้อเล็กๆ มาก่อน


แล้วพบกันใหม่บล็อกหน้าครับ




ตอนนี้ตั้งฉายาให้พาหนะคู่ใจแล้วครับ

จากซ้าย
ชื่อจริง: จักรยานล้อเดียวขนาด 36 นิ้ว
ชื่อเล่น: ยางโทนใหญ่
ฉายา: ไอ้ล้อเกวียน

ชื่อจริง: จักรยานล้อเดียวขนาด 29 นิ้ว ดุมเกียร์ 2 สปีด
ชื่อเ่ล่น: ยางโทนเกียร์ 29
ฉายา: เกือบจะใหญ่

ชือจริง: จักรยานล้อเดียวขนาด 26 นิ้ว ดุมเกียร์ 2 สปีด
ชื่อเล่น: ยางโทนเกียร์ 26
ฉายา: ชายกลาง

ชื่อจริง: จักรยานล้อเดียวขนาด 24 นิ้ว
ชื่อเล่น: ยางโทน 24
ฉายา: ใกล้สูญพันธุ์ (เพราะคนเล่นน้อยสำหรับล้อขนาด 24 นิ้ว ถ้า MTB ก็ 26 ถ้า BMX ก็ 20)

ชื่อจริง: จักรยานล้อเดียวขนาด 19 นิ้ว ดุมเกียร์ 2 สปีด
ชื่อเล่น: ยางโทนเกียร์ 19
ฉายา: กะเหรี่ยงคอยาว




 

Create Date : 11 มีนาคม 2556    
Last Update : 11 มีนาคม 2556 12:29:14 น.
Counter : 1115 Pageviews.  

วิถีผู้กล้า ตอน "ล้อเล็กผจญภัย"

สวัสดีครับ


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว สมัยที่รุตเรเดอร์ยังไม่ได้ถือกำเนิดขึ้น

ได้มีนักปั่นจักรยานล้อเดียวคนหนึ่ง เพิ่งหัดเป็นได้ใหม่ๆ ยังไม่แข็งดี

ก็นำจักรยานล้อเดียวคันเล็ก ออกผจญภัยด้วยความห้าว


ตอนนั้นจำได้ว่า ขี่ไม่แข็งเลย ตกหลุมก็ไม่ได้

ขยับก้นขณะปั่นก็ไม่ได้ นั่งทับอย่างเดียว เจ็บก้นมาก

ขาก็ปวดมาก เพราะเรามือใหม่จริงๆ มันเกร็งไปหมด


ทริปแรกในชีวิตกับยางโทน มีลุยน้ำท่วมด้วย เมื่อ 3 ปีมาแล้ว

หลังจากช่วงนั้น และหลังจากได้ล้อใหญ่ ก็ไม่เคยอยากจะปั่นล้อเล็กผจญภัยอีกเลย

เพราะล้อเล็กมันช้ามาก ช้ามากจริงๆ



แต่หลังจากเปิดตัวยางโทนเกียร์ 19 คันแรกของโลกไปในบล็อกก่อน

การผจญภัยด้วยล้อเล็กจึงหวนกลับมาในความคิดอีกครั้ง เพราะตอนนี้ มีเกียร์แล้ว

หลังจากที่ได้ลองปั่นเบื้องต้น เดินทางในชีวิตประจำวัน พบว่าตอบโจทย์ได้ดีมาก

ความเร็วน่าพอใจ เปลี่ยนเกียร์ก็ง่าย ความคล่องตัวก็สูงมาก เวลาเจอกับสถานการณ์คับขัน


และวันนี้ จะได้นำยางโทนเกียร์ 19 ออกผจญภัยยามเย็น แบบที่เคยพาพวกล้อใหญ่ไปบ่อยๆ

ลองดูว่า มันจะตอบโจทย์ได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร

อุปกรณ์วันนี้คันขวาสุดครับ เล็กที่สุด ยางโทนเกียร์ 19

ในภาพ ยางโทน 24 หายไป เกือบถูกปลดถาวรแล้ว เพราะโดนยางโทนเกียร์ 19 ขโมยซีน

แต่เปลี่ยนใจครับ ตอนนี้รออัพเกรดใหม่เล็กน้อย

ไว้คอยติดตามต่อไปครับ ว่าจะอัพมาแบบไหน


หลังจากลองปั่นเบื้องต้นมาหลายวัน ยางโทนเกียร์ 19 มีข้อดีเยอะมากครับ

น้ำหนักไม่มาก (6.5 kg) กระทัดรัดพกพาสะดวกมาก ปั่นเล่นเล็กๆ น้อยๆ สนุกมาก

ซ้อมท่าโน้นท่านี้ก็ง่าย กระโดดไปกระโดดมาก็ง่าย เดินทางก็ไวใช้ได้

เทียบเท่าล้อ 30 นิ้ว เมื่อขึ้นเกียร์สูง เหมาะเดินทางเล็กๆ น้อยๆ ปั่นเข้าเมือง หรือปั่นกินลมชมวิว


วันนี้จะได้ทดสอบเดินทางไกล รวมแล้วราวๆ 20 km ได้


ความรู้สึกเมื่ออยู่บนถนนใหญ่ รู้สึกว่ามันก๊องแก๊งง๊องแง๊ง

หมายความว่า มันรู้สึกไม่บึกบึน ไม่มั่นคงเหมือนกับพวกล้อใหญ่ๆ

ตั้งแต่ขนาดล้อ 24 นิ้วขึ้นไป รู้สึกมั่นคงดี เวลาปั่นเดินทางบนถนน


เนื่องจากล้อมันเล็ก ขนาดทั้งคันก็เล็ก น้ำหนักก็เบา จึงไม่แปลกที่จะรู้สึกก๊องแก๊งบ้าง

คล้ายกับขับรถเล็ก เทียบกับขับรถใหญ่นั่นเอง


ที่เกียร์สูง ความเร็วไม่ขี้เหร่เลยครับ เทียบเท่าล้อ 30 นิ้ว

นั่นหมายความว่า มันเร็วกว่ายางโทน 29 ธรรมดา เป็นรองแค่ยางโทนใหญ่ 36 นิ้ว

ถ้ายางโทน 29 เร็วเฉลี่ยที่ 15 kph และเร่งหน่อยอาจจะได้สัก 18 kph

ยางโทนเกียร์ 19 ที่เกียร์สูง ก็น่าจะเฉลี่ยที่ 16 kph และถ้าเร่งๆ หน่อย ก็จะได้ถึง 20 kph


ล้อเล็กมากจริงๆ ครับ รองเท้ายังบังล้อได้เลย


แน่นอนว่า มันเร็วไม่เท่ายางโทนเกียร์ 26 และยางโทนเกียร์ 29 แน่ๆ

แต่มันต่างกันตรงที่ ยางโทนเกียร์ 19 เราสามารถสปีด เร่งรอบเท่าได้เต็มที่ เรียกว่าใส่ไม่ต้องยั้ง

ในขณะที่ยางโทนเกียร์ 26 และโดยเฉพาะ 29 ใส่เต็มไม่ได้ เพราะมันจะหยุดล้อไม่อยู่

กรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน ทำให้ไม่กล้าปั่นเต็มที่เหมือนกับยางโทนเกียร์ 19


สรุปก็คือ ล้อเล็ก ทำอะไรก็ง่ายไปหมด คล่องไปหมด จะเร่ง จะหยุด สั่งได้

ไม่เหมือนล้อใหญ่ ที่โมเมนตั้มมันเยอะ เร่งก็อืด หยุดก็ยาก


ถึงทางออฟโรดโปรดแล้วครับ จะได้ลองประสิทธิภาพล้อเล็กบนทางวิบากบ้าง


ที่เกียร์สูง ก็เล่นไม่ยากครับ แม้ทางจะขรุขระบ้าง

ความง๊องแง๊งก๊องแก๊งบนทางเรียบ กลายเป็นความคล่องแคล่วบนทางวิบาก

ถ้าเอาไปเทียบกับยางโทนใหญ่ จะเห็นชัดว่า ยางโทนใหญ่จะเทอะทะเกะกะบนทางวิบาก

เรียกได้ว่า แต่ละขนาดล้อ ตอบสนองได้ต่างกัน บนเส้นทางที่ต่างกัน


พักถ่ายบรรยากาศเส้นทาง


ที่ผมเลือกล้อ 19 นิ้วมาเพิ่มเกียร์ ไม่เลือกล้อ 20 นิ้ว ก็เพราะยางอ้วนๆ ครับ

ไม่ผิดหวังครับ มันช่วยให้ผ่านความขรุขระได้นุ่มนวลกว่า

แล้วเส้นผ่านศูนย์กลางยางจริงๆ ก็ใหญ่เท่า หรือใหญ่กว่าล้อ 20 นิ้วด้วยซ้ำ

เรียกได้ว่า ต่างแค่ขอบล้อเท่านั้น


ความคล่องตัวสูงเสียจนอยากจะปั่นผ่านด่านสะพานไม้มรณะ

แต่ก็ไม่กล้า เพราะสะพานมันไม่มั่นคงพอ


แล้วค่อยมาทดสอบกันต่อบล็อกหน้าครับ

ขอพักเจรจาเปิดเส้นทางกับเจ้าตัวนี้ก่อน







 

Create Date : 10 มีนาคม 2556    
Last Update : 10 มีนาคม 2556 20:52:19 น.
Counter : 963 Pageviews.  

วิถีผู้กล้า ตอน "เปิดตัว ยางโทนเกียร์ 19 คันแรกของโลก"

สวัสดีครับ ผมรุตเรเดอร์


วันนี้อยากจะนำของเล่นใหม่มาโชว์ครับ ยางโทนเกียร์ 19


ท้าวความก่อนครับว่า ผมเคยแนะนำไปในบล็อกนี่แหละ ว่าล้อเล็กๆ ไม่ควรติดเกียร์

เพราะว่าไม่คุ้มค่า ความเร็วที่ได้มาก็จะเร็วขึ้นได้ไม่มาก เมื่อเที่ยบกับติดให้ล้อใหญ่

ก่อนหน้าผมมีคนทำครับ ใช้ล้อ 20" ติดเกียร์ เพื่อเดินทางในเมือง ซึ่งไม่ต้องเร็วมากก็ได้

แล้วล้อเล็กมันพกสะดวกกว่า


ในเว็บ unicyclist.com จะมีกระทู้ที่รวบรวมผู้ที่ใช้ดุมเกียร์ครับ ผมเช็คแล้ว

คันนี้น่าจะเป็นของนาย Wolfgang Schaper อยู่ที่เยอรมัน รหัส M0494

M0494, Wolfgang Schaper, Wiesloch, Germany (KH20)
M0496, Dida, Regensburg, Germany (KH29)
M0497, Cyc, Freiburg, Germany (KH36)
M0501, Tony Melton, Auckland, New Zealand (KH36)
M0502, Wolfgang Schaper, Wiesloch, Germany (Muni Surly/Triton 26")
M0505, Jakob Flansberry, Gatineau, QC, Canada (custom KH24)
M0521, Kenneth Adelman, Corralitos, CA, USA
M0524, Chuck Edwall, Sunnyvale, CA, USA (KH36)
M0525, Chad Nibert, Palm Bay, Florida USA (KH36)
M0526, Dirk Bringezu, Potsdam, DE
M0528, RouteRaideR, Thailand (KH29)
M0529, Cyc, Freiburg, Germany (KH26)
M0536, Griffyn Branagh, Melbourne, Australia (KH26)
M0542, Nathan Hoover, Los Gatos, CA, USA (KH36)
M0550, RouteRaideR, Thailand (Triton 26)
M0557, Kimberly Burgess, Las Vegas, NV, USA (KH36 from SilvaCyles)
M0558, Peter Morgan, Ma on Shan, Hong Kong (KH36)
M0560, Nick Brazzi, California, USA (SilvaCycles custom KH36 - "Space Cruiser")
M0563, Ken Looi, New Zealand, Triton 36"
M0565, Rowan Chivers, Taranaki, New Zealand (KH 36")
M0566, Kevin "Gilby" Gilbertson, Minnesota, USA (KH26)

ส่วนของผมก็จะมี
M0528 คือยางโทนเกียร์ 29
M0550 คือยางโทนเกียร์ 26

และตรวจสอบดูแล้ว ไม่มีใครใช้ยางโทนเกียร์ 19 เลย

ผมก็เลยคาดว่า ของเล่นใหม่ของผมคันนี้ น่าจะเป็นคันแรกของโลก (มันจะได้ดูอลังการ)


วันนี้จะเปิดกล่องให้ดูเลยครับ


นี่ครับ วงล้อ 19 นิ้ว


นำมาประกอบกับตัวถังที่ผมเตรียมไว้แล้ว ออกมาหน้าตาแบบนี้ครับ

วัตถุประสงค์ที่ผมอยากได้คันเล็ก และอยากได้ 19 นิ้ว

เพราะว่ามันจะได้พกง่าย ล้อเล็กๆ ขึ้นดอยก็ง่าย ไว้ปราบดอยอินทนนท์โดยเฉพาะเลย

แล้วยางอ้วนๆ ที่ใส่กับขอบล้อ 19 นิ้วนั้น มันช่วยให้เกิดความนุ่มนวล แล้วกระโดดง่ายด้วย

ซึ่งถ้าผมใช้ขอบล้อ 20 นิ้วแบบนายวอล์ฟกังข้างบน ก็จะไม่มียางอ้วนๆ ให้เลือกใ้ช้


ขาจานก็ยาวพิเศษเลยครับ ระยะ 137/165mm

ปั่นทั่วไปใช้ 137mm ที่ระยะ 165mm จะใช้ก็ต่อเมื่อปะทะกับดอยสูงเท่านั้น



ชุดเบญจภาคีครับ 36 29 26 24 และ 19

ลำดับความอลังการจะเป็นดังนี้ครับ

36 คือยางโทนใหญ่คันที่ 3 ของเมืองไทย

29 คือยางโทนเกียร์คันแรกของเมืองไทย คือยางโทนเกียร์ 29 คันแรกของเมืองไทย

26 คือยางโทนไทเทเนียมคันแรกของเมืองไทย คือยางโทนเกียร์คันที่สองของเมืองไทย คือยางโทนเกียร์ 26 คันแรกของเมืองไทย คือยางโทนเกียร์ไทเทเนียมคันแรกของเมืองไทย และคือยางโทนเกียร์ 26 ไทเทเนียมคันแรกของเมืองไทย (จะงงไหมเนี่ย)

24 ไม่แน่ใจว่ามีอะไรเด่น

19 คือยางโทนเกียร์ 19 คันแรกของโลก (คือยางโทนเกียร์คันที่ 3 ของเมืองไทย)

เพราะคนเล่นน้อยครับ การจะเป็นคนแรกนั้น ยังพอทำได้อยู่


่จริงๆ แล้ว คนที่เล่นล้อขนาด 19 นิ้ว เขาจะเน้นผาดโผน กระโดดไปกระโดดมาแบบโหดๆ

ซึ่งเหมาะกับวัยรุ่นมากกว่า ถ้าผมมี 19 นิ้วธรรมดา คิดว่าเล่นมันไม่คุ้มค่าแน่

การอัพเกรดให้มันมีเกียร์ ก็จะได้ช่วยให้มันเดินทางได้ดีด้วย เพิ่มความอเนกประสงค์ให้มันไป

เน้นพกพา เดินทางได้บ้าง ปั่นเล่นกระโดดบ้าง และเน้นขึ้นดอย


เทียบขนาดล้อให้ได้ชม ตอนนี้ถ้าเรียงลำดับความเร็ว จะได้

1) ยางโทนเกียร์ 29 ที่เกียร์สูงเร็วเทียบเท่าล้อ 44 นิ้ว (คันสีน้ำเงิน)
2) ยางโทนเกียร์ 26 ที่เกียร์สูงเร็วเทียบเท่าล้อ 39 นิ้ว (คันตรงกลาง)
3) ยางโทนใหญ่ (คันซ้ายสุด)
4) ยางโทนเกียร์ 19 ด้วยความที่ยางมันใหญ่ มันเลยใหญ่เทียบเท่าล้อ 20 นิ้ว
เพียงแต่เรียก 19 นิ้ว เพื่อจะได้แยกกันชัดว่า ขอบล้อไม่เท่ากัน ใช้ยางนอกร่วมกันไม่ได้
ที่เกียร์สูง จะเร็วเทียบเท่าล้อ 30 นิ้ว

และอันดับ 5) คือยางโทน 24 ตอนนี้มีแววตกงานแล้วหละครับ


ตัวถังเป็นแบบคอยาว


ขาจานรุ่นใหม่ รองรับจานดิสเบรก แต่ผมก็ไม่ใส่หรอกครับ ใช้ขาตัวเองนี่แหละเบรก


19 คอยาว vs 19 คอสั้น

วันนี้จะได้ทดสอบปั่นเล็กน้อย


คันนี้ M0567 ครับ


19 vs 24

ยางโทน 24 ขึ้นดอยอินทนนท์ได้สำเร็จไม่ดีนัก เพราะยังต้องมีเดินด้วย

แต่ถ้าเป็นยางโทนเกียร์ 19 หละ มันน่าลุ้นจริงๆ ครับ ยังไงต้องไปลองให้ได้


ทดสอบปั่นเบื้องตน ก็ปั่นง่าย เล่นง่าย ความคล่องตัวสูงมากๆ ตามสไตล์ล้อเล็ก


ขาจานระยะ 137mm ส้นเท้าพอดีถึงปุ่มเกียร์ครับ พอดีมากๆ

แล้วล้อเล็ก เล่นเกียร์ไม่ยากครับ เมื่อเทียบกับล้อใหญ่


ทดสอบปั่นขึ้นดอยเทียมดู ขึ้นง่ายกว่าล้อ 24 นิ้วเยอะเลยครับ

นำหนักรถอยู่ที่ 6.5 kg เพราะตัวดุมมันหนักอยู่พอสมควร


ส่วนการทดสอบปั่นจริงๆ จังๆ จะเป็นเช่นไร โปรดติดตามตอนต่อๆ ไปครับ





 

Create Date : 05 มีนาคม 2556    
Last Update : 6 มีนาคม 2556 19:43:37 น.
Counter : 1078 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  

RouteRaideR
Location :
อุบลราชธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




จักรยาน มีล้อเดียว มันเสียวล้ม
ต้องเพาะบ่ม หมั่นฝึกฝน จนคล่องแข็ง
จะได้ขี่ กระโดดเด้ง เร่งหลบแซง
แม้หลุมแอ่ง อุปสรรค กล้าเิผชิญ

ขี่เก่งแล้ว ก็ค่อยออก ไปเที่ยวเล่น
ปั่นแล้วเป็น เหมือนบินลิ่ว ปลิวลมเหิน
นั่งตัวตรง ไม่มีแฮนด์ เป็นส่วนเกิน
ชมวิวเพลิน ผจญภัย ไม่เบื่อเลย

by RouteRaideR
Friends' blogs
[Add RouteRaideR's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.