Ride to Raid
Group Blog
 
All Blogs
 

วิถีผู้กล้า ตอน "ไปหัดตัดต่อคลิปมาครับ ได้ 2 คลิป"

สวัสดีครับ ผมรุตเรเดอร์


วันนี้จะเอาคลิปที่ผมตัดต่อเอง สองคลิปแรกในชีวิตมาอวด

กำกับเอง ถ่ายทำเอง แสดงเอง ตัดต่อเอง ทั้งกองถ่ายมีคนเดียว

คลิปแรก เป็นประมวลภาพการปั่นยางโทน 26 29 และ 36

ตัดต่อโดยเรียงตามลำดับเหตุการณ์ไปเลยครับ ตั่งแต่ปลายปี 2011 ที่ผมถ่ายคลิปแรก

ไปจบที่ประมาณกลางปี 2012 จะมียางโทนใหญ่เยอะกว่าเพื่อน เพราะกำลังเห่อล้อใหญ่



คลิปที่สอง ถ่ายตั่งแต่ได้ยางโทนเกียร์ 29 มา ประมาณกลางปี 2012

ผมก็บรรยายไว้คร่าวๆ ถึงการใช้เกียร์ และการฝึกหัด

แล้วก็ตามมาด้วยยางโทนเกียร์ 26 ที่ได้มาเป็นคันที่สอง



คิดว่าคลิปที่สองจะเป็นคลิปสุดท้ายที่ผมจะตัดต่อ กับการถ่ายแบบความละเอียดต่ำ

คราวต่อๆ ไป อยากจะได้กล้องแบบ HD มาเล่นบ้าง


บล็อกนี้สั้นที่สุดเท่าที่เคยเขียนมาครับ เพราะเน้นให้ชมวิดีโอ


แล้วพบกันใหม่บล็อกหน้าครับ




 

Create Date : 23 กันยายน 2555    
Last Update : 23 กันยายน 2555 20:20:06 น.
Counter : 1670 Pageviews.  

วิถีผู้กล้า ตอน "ยางโทนเกียร์ 26 สำลักน้ำ"

สวัสดีครับ ผมรุตเรเดอร์


กลับมาต่อ จากบล็อกก่อนหน้า ที่ผมกับยางโทนเกียร์ 26 พากันตกน้ำป๋อมแป๋มไปเรียบร้อย


ขึ้นมาจากน้ำได้ ก็ออกเดินทางต่อครับ


ตอนนี้ เท้าเปียกไปเรียบร้อย

จังหวะถ่ายภาพนี้ ตรงกับจังหวะที่บันไดอยู่ต่ำสุดพอดี ขาจานสองรู 137/165mm มีปัญหาเหมือนกัน

ถ้าจะปรับให้ที่ระยะ 165mm ปั่นพอดี ที่ระยะ 137mm ขาก็งอเกินไป ปั่นไม่สนุก

ที่เห็นในภาพ เป็นขาจานระยะ 165mm ขาตึงเกินไป ถ้าบันไดอยู่ในตำแหน่งแบบนี้ แล้วต้องเจอกับอุปสรรค จะควบคุมรถยาก

แต่ที่ผมตั้งไว้แบบนี้ ก็เพื่อให้ที่ระยะ 137mm ปั่นพอดี ขาอาจจะงอบ้างเล็กน้อย เพราะส่วนใหญ่ใช้ 137 ส่วนน้อยจะใช้ 165 

ระยะมันต่างกันอยู่ถึงเกือบ 3 เซนติเมตร ทำให้มีปัญหาเรื่องช่วงขา

เว้นแต่จะปรับความสูงเบาะไปด้วย พร้อมกับการปรับระยะขาจาน แบบนี้ก็พอจะช่วยได้ แต่มันก็เป็นการเพิ่มขั้นตอนให้ยุ่งยากมากขึ้น


เดินทางต่อครับ


เจอทางขาดอีกแล้วครับ แต่ก็ไม่กลัวแล้วหละครับ ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ลุยโลด


ผ่านได้ครับ พอดีดินมันแน่น

วันนี้ดุมเกียร์ เจอบททดสอบอย่างหนัก ผ่านการจมน้ำไป 1 รอบ


มองทางข้างหน้าแล้วครับ ว่าไม่ยากแล้ว ได้เวลาขึ้นเกียร์สูง

แต่ต้องเปลี่ยนเกียร์ด้วยวิธี Shift on the land เพราะขาจานระยะ 165mm ยาวเกินไป ส้นเท้าตอกไม่ถึง


ขึ้นเกียร์สูง แล้วออกตัวจากหยุดนิ่งด้วยเกียร์สูง ก็ถือว่าไม่ยาก

แต่ความรู้สึกก็จะแปลกๆ เพราะผมเองก็ไม่ค่อยได้ใช้วิธีนี้บ่อย

ส่วนใหญ่จะใช้ขาจาน 137mm มากกว่า


พอทางมันง่าย เกียร์สูง ขาจาน 165mm ก็รู้สึกว่าช้าเกินไป


แต่ถ้าประเมินแล้วว่า ข้างหน้ายังมีจุดที่ยากรออยู่ ขาจาน 165mm ก็จะเหมาะ และใช้ต่อไปได้


แต่ประเมินแล้ว ว่าทางข้างหน้า ไม่มียากแบบบล็อกก่อนอีกแล้ว

เปลี่ยนกลับไปใช้ระยะ 137mm จะเหมาะกว่า เปลี่ยนเกียร์แบบ Shift on the fly ได้ด้วย


พูดถึงเบาะนิดนึง

ผมเคยใช้เบาะผ้า ถ้าเจอฝน หรือตกน้ำ เบาะผ้าจะเปียก แล้วทำให้ก้นเราเปียกไปด้วย

เบาะหนังจะเหมาะกว่า มันแห้งง่าย ไม่ทำให้เราก้นเปียก


เดินทางต่อครับ กลับบ้านต้องไปล้างรถอีกตามเคย

ช่วงนี้ปั่นทุกรอบ ล้างทุกรอบ


ต้องระวังเหมือนกันครับ ตอนนี้มีดินมีทรายเข้าไปอยู่ในรูน๊อตของปุ่มเกียร์

ในรูเล็กๆ นี้ จะมีน๊อตเล็กๆ ที่เป็นตัวยึดปุ่มให้อยู่กับแกนหมุนของดุมเกียร์อยู่

ถ้าเกิดดินเข้าไปอุดตันหมด เราจะไม่สามารถถอดปุ่มเกียร์ออกมาได้


ช่วงที่ผมกำลังตรวจสอบสภาพรถอยู่ ยางโทนเกียร์ 26 ของผม ก็สำลักน้ำออกมาครับ

ผมก็งงเลย ที่ปั่นๆ มาหลังจากตกน้ำ ผมได้บรรทุกน้ำมาเต็มเฟรมแบบไม่รู้ตัว

พอจับรถนอนลง มันไหลโจ๊กเลยครับ ออกมาทางรูที่ไว้ติดตั้งเบรก


ออกมาเยอะเลย จากตะเกียบทั้งสองข้าง


เอาน้ำออกหมดแล้ว ก็เดินทางต่อครับ


หาทางลัด รีบกลับบ้าน เดี๋ยวเป็นฮ้องกงฟูท เท้าแช่น้ำนาน


ผมก็เพิ่งรู้ ว่าไอรูที่ไว้ติดตั้งเบรกอันนี้ มันทะลุเข้าไปในตัวเฟรมเลย สำหรับเฟรมไทเทเนียม

เพราะเฟรมอลูมิเนียม และเฟรมเหล็กที่ผมเคยมี รูน๊อตจะไม่ได้ทะลุเข้าไปในตัวเฟรม

แบบนี้ ถ้าไม่อยากให้น้ำเข้า คงต้องหาน๊อตมาขันปิดไว้

แต่เฟรมไทเทเนียม มันมีความโอเวอร์ของมันอยู่แล้วครับ คือแข็งแรงสุดยอด ทนการกัดกร่อนสุดยอด

ถ้าคนในวงการจักรยานจะเข้าใจกันว่า ซื้อครั้งเดียว ปั่นไปจนตาย

ดังนั้น แค่เรื่องน้ำเข้าจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่


ลุยต่อครับ


พอดีเงามันได้องศา บวกกับบรรยากาศสองข้างทางที่เป็นทุ่งนา เลยอยากเก็บภาพวิดีโอไว้

จะเห็นยอดข้าวไหวๆ ไปตามแรงลม เพราะช่วงนี้ ลมหนาวเริ่มมาแล้วครับ นิดๆ

เสียงลมจะเยอะสักหน่อย เพราะยัง edit วิดีโอไม่เป็น ไว้จะหัดตัดต่อดูครับ ในอนาคต ใส่เพลงด้วย


ระหว่างเส้นทางออนโรดกลับบ้าน


กลับบ้านมา ก็มานั่นแคะดินออกจากปุ่มเกียร์ครับ อารมณ์ประมาณแคะขี้หูเลย


พอดีน๊อตใต้เบาะมันไม่แน่น แล้วบล็อกก่อนมีโยนจักรยานด้วย

เวลาปั่นมันเลยมีเสียงก๊อกๆ แก๊กๆ ผมก็เครียดมาตลอดทาง นึกว่าเกียร์พังหรือเปล่า พาไปจมน้ำมา

พอดีเสียงมันดังที่เบาะ เพราะน๊อตหลวมก็โล่งอกไป ขันให้แน่นก็จบ


แล้วพบกับยางโทนได้ใหม่ บล็อกหน้าครับ


ปล. บล็อกนี้เป็นบล็อกที่ 100 พอดีเลยครับ สำหรับกลุ่มบล็อก "ยางโทน 2012"

ไม่รู้เอาอะไรมาโม้ได้มากมายขนาดนี้




 

Create Date : 16 กันยายน 2555    
Last Update : 16 กันยายน 2555 10:55:44 น.
Counter : 1850 Pageviews.  

วิถีผู้กล้า ตอน "พายางโทนเกียร์ 26 ตกน้ำ"

สวัสดีครับ ผมรุตเรเดอร์


ตอนนี้ลมหนาวเริ่มพัดมาแล้วนะครับ รู้สึกได้

เย็นนี้ เลยอยากออกปั่นรับลมหนาวสักหน่อย


ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นหรอกครับ กะจะให้ชื่อบล็อกว่า "ปั่นรับลมหนาว" อะไรทำนองนี้

แต่พอดีเกิดเหตุตื่นเต้น ก็เลยได้ชื่อบล็อกอย่างที่เห็น

วันนี้เลือกยางโทนเกียร์ 26 ครับ เล่นง่ายปั่นสนุก


ฟ้าใสแดดแจ่ม แต่ลมเย็น

ออกจากบ้านออนโรดไปหาเส้นทางออฟโรด


ผมก็ปั่นด้วยขาจานระยะ 137mm มาเรื่อยๆ ครับ แต่ตอนนี้ทางมันโหด และยากมากขึ้นแล้ว

จำเป็นต้องเพิ่มความยาวขาจาน จะได้ปั่นง่าย และลื่นขึ้น


ปรับจาก 137mm


เป็น 165mm พร้อมลุยออฟโรดโหด


หลายๆ จุดยังมีน้ำขังอยู่เลยครับ ทำให้ทางมันเละ และลื่น จนเสียหลัก


ตั้งสมาธิ แล้วไปต่อครับ


กับสภาพเส้นทางโหดแบบนี้ เรื่องเกียร์ไม่ต้องพูดถึงครับ ไม่ได้ใช้เลย 1:1 เท่านั้น


เป็น single track บนคันนา แต่เป็นคันนาที่ใหญ่หน่อย


พอหญ้ารก ก็ยากขึ้นครับ มองไม่เห็นหลุม


ไม่รอดครับ มองพื้นไม่เห็นเลย


เดินกลับไปถ่ายคลองเล็กๆ ผมใช้เทคนิคกระโดดข้าม ทำได้สำเร็จ เลยถ่ายเก็บไว้

มันแหงอยู่แล้ว คลองกว้างแค่ 20cm


ฝ่าดงหญ้าต่อครับ เดินเอาซะส่วนใหญ่ จุดหมาอยู่ใต้สะพาน


แย่แล้วครับ เจอด่านยาก เป็นแอ่งน้ำกลางพงหญ้า


กว้างประมาณ 1.5 เมตรได้

ผมเลยตัดสินใจ โยนจักรยานข้ามไปก่อน จะเห็นมันตกอยู่ไกลๆ ในพงหญ้า

แล้วผมค่อยกระโดดตามไป เพราะไม่อยากเท้าเปียก และไม่อยากย้อนกลับ

คิดว่าข้างหน้าน่าจะพอไปต่อได้


ยางโทนนั้น ชิ้นส่วนมันไม่มาก สามารถโยนทิ้งๆ ขว้างๆ ได้ โดยไม่เกิดความเสียหาย

แต่กรณีนี้ไม่ได้โยนทิ้งโยนขว้าง เป็นความจำเป็น เพราะทางขาด แล้วมีพงหญ้ารับ เลยโยนได้


แย่แล้วครับ ก่อนถึงสะพาน มันมีคลองเล็กๆ อีกอัน ผมคิดว่ามันน่าจะน้ำไม่เยอะมาก

แต่น้ำมันเยอะมากครับ ความกว้าง 4 เมตรเห็นจะได้

คิดหนักเลยครับ จะโยนจักรยานอีก ตัวเองก็ไม่สามารถกระโดดตามไปได้


จะย้อนกลับก็มาไกลแล้ว แถมต้องไปกระโดดข้ามไอ้ต่านก่อนหน้าอีก

คิดหนักจริงๆ


ต้องยอมทุ่มทุนสร้างแล้วครับ ถอดรองเท้าลุยก็แล้วกัน

ค่อยไปเช็ดเท้าเอาที่หลัง


เย็นดีจริงๆ อย่ามีปลิงก็พอ


ข้ามมาได้แล้วครับ

ก็เอาถุงเท้านั่นแหละครับ เช็ดเท้า แล้วก็ใส่รองเท้าอย่างเก่า

ยังไงก็ยอมให้เท้าเปียกไม่ได้ครับ เพราะมันจะปั่นไม่สนุก


ใต้สะพานก็ยังมีน้ำขัง


ใช้วิธีเดินเลี่ยงๆ เอาครับ กะว่าไปข้างหน้าอีกหน่อย น่าจะพอปั่นได้แล้ว


เข้าสู่ด่านทางลูกรังแล้วหละครับ แต่ว่ามองไปไกลๆ ถนนมันขาดอยู่

ยังไงต้องปั่นไปดู ไปตัดสินใจอีกที ว่าจะลุยได้หรือไม่


ทางขาดอยู่สัก 20 เมตรเห็นจะได้ ลังเลเหมือนกันครับ

รู้เลยว่า โอกาสรอดมีแค่ 30% แต่ก็ไม่รู้อารมณ์ไหน อยากลองดู


ผลที่ได้คือ ยางโทนเกียร์ 26 คู่ใจของผม ตกน้ำป๋อมแป๋มเรียบร้อย

นี่ถ้าน้ำไหลเชียว มันคงลอยหนีผมไปแล้ว ดีที่น้ำไม่ไหล

ปั่นไปแล้วดินมันเละ เลยควบคุมรถไม่ได้

ยังอุตส่ามีเวลาถ่ายรูปไว้ดูเล่นอีก ดุมเกียร์โดนแช่น้ำเป็นครั้งแรกด้วย


มันเจ็บปวดตรงที่ว่า ที่ทุ่มทุนสร้างมาตั่งแต่ต้น เพื่อไม่อยากเท้าเปียก มันจบสิ้นแล้ว

ทั้งโยนจักรยาน แล้วกระโดดข้ามตาม ทั้งถอดรองเท้าลุยน้ำ หมดกัน

รู้งี้ลุยซะแต่แรกก็จบ


เดินๆ ไป ไปตกหลุมลึกอีกครับ ถ้าปั่นยังไงก็ไม่รอดแน่นอน หาเรื่องแท้ๆ

แต่ยังไงก็ตาม เวลายางโทนล้ม ไม่อันตรายนะครับ ผมก็ลงมายืนได้ตลอด ปล่อยจักรยานตกน้ำไป


คือความตั้งใจวันนี้ กะจะมาปั่นรับลมหนาวนะครับ

แต่กลายเป็นมาปั่นลุยน้ำท่วม หักมุมสุดๆ


อยากกลับบ้านแล้วหละครับ เท้าเปียกแล้ว น้ำเต็มรองเท้าเลย ปั่นไม่สนุก


เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามต่อได้ในบล็อกหน้าครับ




 

Create Date : 15 กันยายน 2555    
Last Update : 15 กันยายน 2555 19:53:51 น.
Counter : 2197 Pageviews.  

วิถีผู้กล้า ตอน "ยางโทนเกียร์ 29 พ้นโทษแบนแล้วครับ"

สวัสดีครับ ผมรุตเรเดอร์


เป็นเวลาประมาณ 1 เดือนแล้ว ที่ยางโทนเกียร์ 29 ถูกโทษแบนไป

เนื่องจากทำให้ผมได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าในปฏิบัติการนอกสถานที่ครั้งที่ 8


ช่วงเย็น จึงได้ใช่แต่ยางโทนเกียร์ 26 ออกผจญภัย เพราะคันเล็กกว่า เล่นง่ายกว่า

หัวเข่าจะได้พัก


และในชีวิตประจำวัน ก็ใช้ยางโทนใหญ่เป็นประจำครับ

ล้อ 36 นิ้ว ยังไงก็ยังเบาแรงกว่า เมื่อเทียบกับล้อ 29 นิ้วที่ขึ้นเกียร์สูง


วันนี้ ยางโทนเกียร์ 29 นิ้วพ้นโทษแบนแล้ว และคิดว่าหัวเข่าผม น่าจะหายดีแล้ว จึงได้นำมันออกผจญภัยอีกครั้ง


ปั่นยางโทนเกียร์ 26 อยู่หลายวัน พอมาปั่นยางโทนเกียร์ 29 รู้สึกได้เลยถึงความแตกต่างกันอย่างชัดเจน


หลักๆ แล้ว ยางโทนเกียร์ 29 จะเล่นยากกว่า

ที่ความเร็วต่ำ เมื่อขึ้นเกียร์สูง จะหนักและอืดอาดกว่า แต่ทำความเร็วปลายได้เร็วกว่าชัดเจน

ด้วยความที่เล่นยากกว่า จังหวะเปลี่ยนเกียร์ของผมยังมีพลาดหล่นจากจักรยานอยู่เลยครับ อาจเพราะไม่ได้จับมานานด้วย

ในขณะที่กับยางโทนเกียร์ 26 ไม่พลาดเลย


จากบล็อกก่อน ผมได้รับ sms ในโทรศัพท์ กรมอุตุฯ บอกว่าฝนจะลด ผมเห็นมันตกหนักกว่าเก่าอีก


ยางโทนเกียร์ 29 ผมใช้ระยะขาจานที่ 150mm

ในขณะที่ยางโทนเกียร์ื 26 ใช้ 137mm

ถ้าจับตัวเลขหารกันออกมาให้เป็นสัดส่วน จะได้ 0.193 กับ 0.190 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน

ตามทฤษฎีแล้ว ความหนืดความหนักในการปั่น น่าจะพอๆ กัน

แต่จริงๆ แล้วไม่เป็นเช่นนั้น ยางโทนเกียร์ 29 หนัก และหนืดกว่า

ด้วยระยะทางที่เท่าๆ กัน สภาพถนนเดียวกัน ปั่นยางโทนเกียร์ 29 เหนื่อยกว่า


รู้สึกได้เลย โดยเฉพาะที่เกียร์สูง ว่าต้องใช้กำลังขา และเ่ข่าเยอะมาก เมื่อเล่นยางโทนเกียร์ 29

ด้วยเหตุนี้เอง ผมจึงมั่นใจ 100% เลยว่า ไม่อยากได้ยางโทนเกียร์ใหญ่แล้ว

เพราะมันยิ่งจะหนักมหาโหดสำหรับผม


สีน้ำเงิน ถ่ายรูปแล้วตัดกับบรรยากาศสีเขียวได้ดี


จุดเด่นของยางโทนเกียร์ 29 อยู่ที่ความนุ่มนวล เวลากลิ้งผ่านความขรุขระ แบบถนนปูนที่หน้าไม่เรียบ

ปั่นเทียบกับยางโทนเกียร์ 26 พบว่า 29 นุ่มนวลกว่าชัดเจน


พามาดูประตูลับเข้าหลังวัด ที่ผมมาปั่นเป็นประำจำ


เข้าไปแล้ว จะได้พบกับบรรยากาศวิเวกเอกา ปั่นแบบมีสมาธิสุดๆ


ออกจาวัดมาได้ ก็กะจะลุยออฟโรดต่อครับ ล้อ 29 มันก็ปั่นมัน และท้าทายไปอีกแบบ


แบบนี้ใช้อัตรทด 1:1 ค่อยๆ ไต่ไปตามสันของแอ่งน้ำ เล่นยากครับ

สถานการณ์โหดแบบนี้ ล้อ 26 จะควบคุมได้ดั่งใจกว่า


แต่ว่าทางที่อยากไป ตอนนี้น้ำนองเต็มพื้นที่เลยครับ เนื่องจากฝนหนักช่วงสองสามวันก่อน

ประเมินสถานการณ์แล้ว คิดว่าเล่นยากเกินไป เรามองไม่เห็นพื้นท้องน้ำเลย

ถ้าเจอกับจุดที่เละ หรือจุดที่ลึก ไม่มีทางรอดแน่


จึงตัดสินใจย้อนกลับทางเก่า ไปออนโรดดีกว่า


บนทางเรียบ ยางโทนเกียร์ 29 เร็วกว่า 26 ชัดเจน

ส่วนถ้าใครที่เป็นคอทางเรียบ ก็สามารถเปลี่ยนยางให้เป็นยางทางเรียบ ก็จะยิ่งเร็วขึ้นไปอีก


ช่วงนี้ ปั่นไปทางไหนก็แฉะไปหมด


แวะผ่านอีกวัด รูปนี้ถ่ายเสร็จ รถก็กลิ่งตกน้ำ แต่วิ่งไปคว้าไว้ทัน


ลัดผ่านวัดนี้ เพื่อไปออกถนนใหญ่กลับบ้านครับ


วันนี้ก็ปั่นไม่เยอะครับ อยากออฟโรดก็ไม่รู้้จะไปไหน น้ำมันท่วมอยู่


สรุปการเผชิญหน้า ระหว่างยางโทนเกียร์ 26 กับยางโทนเกียร์ 29 เป็นดังนี้ครับ

ยางโทนเกียร์ 26 โดดเด่นในเรื่องความคล่องตัว เล่นง่าย ควบคุมง่าย

ส่วนยางโทนเกียร์ 29 โดดเด่นในเรื่องความเร็ว และความนุ่มนวล

ถ้าเป็นมือใหม่กับยางโทนเกียร์ ผมแนะนำให้เล่นยางโทนเกียร์ 26 ก่อน จะเหมาะกว่า


แล้วพบกับยางโทนได้เรื่อยๆ ในบล็อกวิถีผู้กล้าครับ


วันนี้จบการบรรยายแค่นี้ก่อน




 

Create Date : 14 กันยายน 2555    
Last Update : 14 กันยายน 2555 12:15:58 น.
Counter : 2228 Pageviews.  

วิถีผู้กล้า ตอน "ปั่นหลังพายุกับยางโทนเกียร์ 26"

สวัสดีครับ ผมรุตเรเดอร์


ตอนนี้ กรมอุตุฯ บอกว่าพายุอ่อนกำลังลงแล้ว ฝนจะน้อยลง


บล็อกนี้ เลยได้ชื่อว่า ปั่นหลังพายุ


ความแฉะก็ยังคงหลงเหลืออยู่ วันนี้กะว่าจะปั่นออนโรดลัดเลาะตามซอกซอยอย่างเดียว ไม่เล่นโหด


จะได้ไม่ต้องล้างรถด้วยครับ


ปั่นชิวๆ ชมวิวไปเรื่อยๆ


แน่นอนว่า พายุจากไปแล้ว ฟ้าก็ใส่แจ่มจรัสอีกครั้ง


ภาพก่อนหน้า ถ่ายดำไปหน่อย ผ่านเงานี้ไป เดี๋ยวลองเล็งใหม่


ใช้การกะเอาครับ ขาวขึ้นเล็กน้อย


ปั่นเพลินๆ สุดทางปูนเสียแล้ว

ผมก็มาปั่นตามซอกซอยใหม่ๆ วันนี้ไม่กะจะปั่นทางลูกรังเลยครับ แต่ถ้าย้อนกลับมันก็มาไกลแล้ว


ลุยครับ ด้วยอัตราทด 1:1 ธรรมดา ขาจาน 137mm ล้อ 26 นิ้ว ถือว่าเล่นไม่ยาก


ลัดเลาะไปตามลายที่ดินแน่นที่สุด


แต่แล้วก็ต้องมาเจอกับบอสประจำด่านอยู่ดีครับ ทางเละแบบไม่มีช่องให้ไปเลย


ผมก็แอบโกงเล็กน้อย ปั่นไปบนหญ้าข้างทาง

แต่ก็ไม่ง่ายเลยครับ มันขรุขระ แล้วเอียงด้วย เลยเล่นยาก เสียหลัก จูงเอาครับ

ก็ถือว่ายังปราบบอสด่านนี้ไม่ได้ เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด

คิดว่าปั่นลุยบนทางลูกรังเลยจะง่ายกว่า คงต้องยอมเลอะบ้าง


สถานะการณ์ดีขึ้นแล้วครับ แบบนี้เล่นไม่ยาก


ขึ้นถนนปูนอีกครั้ง แดดแจ่มดีจริงๆ


พื้นที่สีเขียวดูหนาแน่นมาก จนแทบจะทะลักขึ้นมาบนถนน


ช่วงนี้ปั่นยางโทนเกียร์ 26 พจญภัยตลอดครับ


ปั่นเพลินชมทุ่ง


อ้าว!!! ถนนหายกลางอากาศเลยครับ ปั่นมาเพลินๆ


ไม่รู้จะไปทางไหนต่อหละครับ งานนี้

ถ้าปั่นเข้าไปต่อ ก็เข้าบ้านเข้าไร่ชาวบ้านแล้ว เข้าไปก็ไม่รู้จะมีทางออกหรือเปล่า

ดีไม่ดีโดนหมาเห่าลำบากอีกครับ


ก็ต้องย้อนกลับทางเก่า แล้วค่อยหาซอยเลี้ยวออกถนนใหญ่

ไม่รู้เหมือนกันว่า จะไปออกตรงไหน


ออกถนนใหญ่แล้วครับ


เป็นซอยทุ่งเศรษฐีครับ ที่ผมไปพจญภัยมา มีใครรู้จักไหมครับ ผมก็เพิ่งรู้จักนี่แหละ


จากนั้นก็ออนโรดกลับบ้าน แอบถ่ายรถกู้ภัยไว้ ซิ่งมาก

วันนี้ปั่นนิดเดียว เพราะออกจากบ้านมาเย็นมากแล้ว


ว่าจะไม่ล้างรถ ก็ต้องได้ล้างอยู่ดี เพราะโดนโคลนมา


แล้วพบกับวิถีผู้กล้าได้ใหม่ บล็อกหน้าครับ




 

Create Date : 10 กันยายน 2555    
Last Update : 10 กันยายน 2555 12:49:47 น.
Counter : 1809 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  

RouteRaideR
Location :
อุบลราชธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




จักรยาน มีล้อเดียว มันเสียวล้ม
ต้องเพาะบ่ม หมั่นฝึกฝน จนคล่องแข็ง
จะได้ขี่ กระโดดเด้ง เร่งหลบแซง
แม้หลุมแอ่ง อุปสรรค กล้าเิผชิญ

ขี่เก่งแล้ว ก็ค่อยออก ไปเที่ยวเล่น
ปั่นแล้วเป็น เหมือนบินลิ่ว ปลิวลมเหิน
นั่งตัวตรง ไม่มีแฮนด์ เป็นส่วนเกิน
ชมวิวเพลิน ผจญภัย ไม่เบื่อเลย

by RouteRaideR
Friends' blogs
[Add RouteRaideR's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.