• ตำบอล 2018
• ยอดนักเสียบ 2017
• แปลเพลงไทใหญ่ 2014
• แปลเพลงไทใหญ่ 2013
• Full time 1x1 2013
• ยางโทน 2012
• One man, one wheel 2011
• 29er MTB

วิถีผู้กล้า ตอน "ห้วยหลายห้วย" สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์ กลับมาต่อจากบล็อกก่อน กับภาระกิจปั่นมาราธอน ภาคแก้มือ จากจุดสีน้ำเงินในแผนที่ ก็เดินทางมุ่งหน้าขึ้นทิศเหนือต่อไปครับ แล้วก็จะข้ามแม่น้ำมูล นี่เป็นวิดีโอ ที่ผมถ่ายตอนข้ามแม่น้ำนะครับ เท่าที่ผมกลับมาดูเอง ความเร็วของยางโทนใหญ่ที่ทำได้ พอๆ กับจักรยานสองล้อเลยครับ ถือว่าเร็วดีมาก จากนั้นก็จะเป็นการปั่นผ่านพื้นที่ลุ่ม ทางน้ำผ่าน จะมีหลายห้วยให้ต้องข้าม ตอนนี้แดดส่องทางด้านซ้ายของผม หลายห้วยเลยครับ เดี๋ยวผมถ่ายไว้ให้ดูทุกห้วยเลย ชื่อได้มายังไง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ ปั่นๆ ไป ทางมันจะโค้ง หันหน้าเข้าทางทิศตะวันตกมากขึ้น ตอนนี้แดดแยงหน้าเต็มๆ เลยครับ ร้อนมาก ขอแปลงร่างเป็นนินจานิดนึง เลยห้วยมันปลาไปหน่อยเดียว ก็จะถึงสี่แยก เป็นแยกไป อ.ตาลสุม จุดสีเหลืองในแผนที่ แยกนี้ผมโดนไฟแดงครับ เลยได้ลงเดินข้ามแยกเอา แต่ก็เดินเพียงแค่ให้ข้ามแยกนะครับ ไม่ได้เดินยาวเหมือนครั้งก่อน เพราะใช้วิชายืนปั่น ช่วยลดแรงกดทับที่เป้ามาแล้ว ยืนปั่นเป็นระยะๆ เพื่อให้เลือกไหลเวียนตรงจุดนั้นได้ง่าย ไม่ให้มันชา หรือระบบก่อนเวลาอันควร จากนั้นก็ปั่นต่อเนื่อง มาจนถึงแยกไป อ.ตระการพืชผม จุดสีส้มในแผนที่ ช่วงนี้หันหน้าเข้าหาแดดตลอดเลยครับ แดดแยงตาด้วย จากที่ได้ปั่นถนนโล่งๆ ตอนนี้จะเริ่มเข้าเมืองแล้วหละครับ ด้านหลังผม ที่เพิ่งข้ามมา ก็ห้วยวังนองครับ ห้วยเยอะจริงๆ ติดไปแดงอีกแล้วครับ เป็นแยกเล็ก ก็ใช้วิธีเดินข้ามแยก แล้วปั่นต่อเช่นเคย คิดว่าสถิติ น่าจะดีกว่าครั้งก่อนแน่นอนครับ บริเวณนี้ เคยมาครั้งก่อน มีท่อวางขวางไว้เยอะเลย แต่ตอนนี้ เอาลงดินไปหมดแ้ล้ว ทำให้ปั่นง่ายขึ้น แล้วผมก็เดินทางมาถึงแยกไป จ.อำนาจเจริญ แล้วครับ โดนไฟแดงอีกเช่นเคย เลยจูงข้ามถนนเอา สรุปตั้งแต่ออกจากบ้านมา มีต้องลงจากรถดังนี้ครับ 1) เดินข้ามไฟแดงที่แยกไป อ.เดชอุดม พร้อมปรับระยะขาจานจาก 127 เป็น 110mm ไปเลย ตรงจุดสีฟ้าบนแผนที่ 2) เดินข้ามไฟแดงที่แยกไป อ.ตาลสุม จุดสีเหลืองในแผนที่ 3) เดินข้ามไฟแดงที่แยกไป อ.ตระการพืชผล จุดสีส้มในแผนที่ 4) เดินข้ามไฟแดงที่แยกเข้าซอยแห่งหนึ่ง ระหว่างจุดสีส้ม กับจุดสีแดง 5) เดินข้ามไฟแดงที่แยกไป จ.อำนาจเจริญ จุดสีแดงในแผนที่ ระยะทางประมาณกว่า 30 km ต้องลงจากรถไปแล้ว 5 ครั้ง เหลือระยะทางอีกสิบกว่ากิโลเมตรที่ต้องเก็บ บล็อกหน้ารู้ผลการปั่นแน่นอนครับ ว่าสถิติจะดีขึ้นหรือไม่ แค่ไหน   Create Date : 08 เมษายน 2555     Last Update : 8 เมษายน 2555 12:37:00 น. Counter : 1620 Pageviews.   0 comment Share Tweet

วิถีผู้กล้า ตอน "ยางโทนใหญ่มาราธอน ภาคแก้มือ" สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์ วันนี้มาในตอนยางโทนใหญ่มาราธอน ภาคแก้มือ เพราะคราวก่อน ปั่นมาราธอนไปแล้ว สถิติไม่ดีเลย ทั้งๆ ที่ล้อใหญ่แล้ว ด้วยปัญหาต่างๆ ที่เจอ ไ่ม่ว่าจะเป็นอาการเจ็บก้น ต้องลงเดินพักบ่อย และปัญหาฟ้ามืดก่อนถึงจุดหมาย ทำให้ความเร็วตกไปมาก ครั้งก่อน ระยะทาง 48 km ทำความเร็วเฉลี่ยได้เพียง 15.4 kph ครั้งนี้อยากจะสร้างสถิติใหม่ของตัวเองขึ้นมาให้ได้ครับ เลือกอุปกรณ์กันก่อนเลยครับ แน่นอนว่า วันนี้ พระเอกคือ ยางโทนใหญ่ ขวาสุด ออกจากบ้านตรงจุดสีเขียว มุ่งลงใต้ แล้วปั่นให้ครบรอบถนนวงแหวน ออกเดินทางเวลา 15.21 ออกแต่บ่าย เพื่อไม่ให้มืดระหว่างทาง จะได้ไม่เสียสถิติ แยกแรกที่เจอ คือแยกไปกัณทรลักษ์ จุดสีม่วงในแผนที่ เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนวงแหวนสาย 231 ได้เลยครับ ปั่นไปเรื่อยๆ แล้วมันจะกลับมาที่เดิมเอง แดดยังแรงอยู่ครับ แต่เดี๋ยวก็เลี้ยวซ้าย มุ่งหน้าทิศตะวันออก หันหลังให้แดด ช่วยได้เยอะเลย ปั่นมาเรื่อยๆ ก็จะมาถึงแยกไปเดชอุดมครับ ผมเดินทางมาด้วยขาจาน 127mm นะครับ ถือว่าวอร์มก่อน ช่วงแรก ตรงแยกนี้ ผมจะหาที่แวะเปลี่ยนระยะขาจาน เป็น 110mm เพือให้ปั่นได้เร็วขึ้น แต่ไม่มีที่แวะเลย ไม่รู้จะจอดตรงไหนดี พอดีโดนไฟแดง เลยจูงข้ามถนน ไปแวะเปลี่ยนระยะขาจาน ตรงเกาะกลางสี่แยกเลยครับ เปิดซิงรูใน ของขาจาน 110/127mm ไม่เคยใช้กับล้อ 36 นิ้วมาก่อน เปลี่ยนเรียบร้อยแล้วครับ แดดร้อนมาก เส้นทางต่อจากนี้ไป ออกนอกเมืองแล้วครับ ขาจาน 110mm กับล้อ 36 นิ้ว เล่นยากมากครับ สำหรับตอนขึ้น กับตอนออกตัว ผมขึ้นครั้งแรกไม่สำเร็จนะครับ มันกะน้ำหนักผิด ยังไม่ชิน แต่พอล้อหมุนไปได้แ้ล้ว ก็ถือว่าเล่นไม่ยากนะครับ ไกลเวิ้งว้างอีกเช่นเคย นี่เป็นวิดีโอ ที่ผมถ่ายไว้ เพื่อจะได้ศึกษาว่า ขาจาน 110 จะเร็วขึ้นแค่ไหน ตอนถ่ายอาจจะปั่นไม่เร็วนะครับ เพราะต้องถ่ายวิดีโอไปด้วย แต่ตอนไม่ได้ถ่าย รู้สึกได้เลยว่า มันเร็วขึ้นชัดเจน แต่ว่ามันก็ดูดพลังขาของผมเยอะขึ้นเช่นกัน ยิ่งตอนขึ้นเนิน หนืดมาก ใช้เวลาไม่นาน ก็จะมาถึงแยกไปพิบูลมังสาหาร จุดสีน้ำเงินในแผนที่ การปั่นภาคแก้มือของผมครั้งนี้ ผมแก้เกมมาแล้วหลายเรื่องครับ 1) ออกแต่บ่าย เพื่อไม่ให้มืดระหว่างทาง ไม่งั้นความเร็วจะตก 2) ใช้ขาจาน 110mm จะช่วยให้ปั่นได้ไวขึ้น ผมนับรอบขาตัวเองได้ 123 rpm คำนวณเป็นความเร็วออกมา ก็จะได้สัก 21 kph ก็ถือว่าเร็วใช้ได้ แต่เอาเข้าจริง ก็คงปั่นไม่ได้ถึง 123 rpm ตลอด แล้วก็ต้องไปเฉลี่ยกับช่วงติดไฟแดง ช่วงรถเยอะ และช่วงพักด้วย 3) ใช้เทคนิคยืนปั่น เป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้เจ็บก้น แต่การยืนปั่น ปวดขามากครับ ทำได้แป๊บๆ แล้วความเร็วจะตกนิดหน่อยด้วย แต่ก็ดีกว่าหยุด หรือลงเดิน ภาพกำลังอยู่บนนสะพานข้ามแยก วันนี้ ผมแก้เกมมาสามอย่าง หวังว่าจะช่วยให้สถิติดีขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ต้องมาเจอแดดแรง อากาศร้อนเป็นตัวตัดกำลังเหมือนกัน แล้วบล็อกหน้าค่อยมาต่อครับ   Create Date : 07 เมษายน 2555     Last Update : 7 เมษายน 2555 12:53:22 น. Counter : 1875 Pageviews.   0 comment Share Tweet

วิถีผู้กล้า ตอน "การเลือกความยาวขาจานให้เหมาะกับงาน" สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์ พอดีผมไปเจอข้อมูลดีๆ จากเว็บ //www.municycle.ca/page.html?chapter=10&id=14 เกี่ยวกับการเลือกใช้ขนาดของขาจาน ให้เหมาะกับขนาดล้อ และเหมาะกับลักษณะการใช้งาน เลยเอามาเล่าให้ฟัง พร้อมสรุปจากประสบการณ์ของตัวเองเสริมเข้าไปด้วย ลอกมาเลยนะครับ This is not an easy question, it depends what you want to do with your unicycle. All the unicycles are sold with standard length cranks but you can upgrade your unicycle with different size cranks. As a general rule, the shorter the crank the faster you can ride, the longer the crank the more control and power your can have. การเลือกขาจาน เป็นอะไรที่ไม่มีสูตรสำเร็จนะครับ แล้วแต่จริงๆ แล้วแต่ว่าจะขี่แบบไหน แล้วแต่ชอบ แล้วแต่กำลังขาด้วย โดยทั่วไปแล้ว ขาจานสั้น ปั่นได้ไว แต่จะหนัก และขาจานยาว จะปั่นได้ช้า แต่จะลื่น เบา ควบคุมง่าย 16" unicycles can only be fitted with 110 mm cranks or smaller otherwise the pedals touch the ground when riding.  จริงๆ แล้ว ส่วนใหญ่ที่ผมเห็น ขาจานที่มากับล้อ 16 นิ้ว จะเป็นระยะ 100 ไม่ก็ 102mm เท่่านั้นนะครับ เพราะอย่างที่เขาว่า ถ้ายาวกว่านี้ พอเวลาเลี้ยวรถ ตัวรถเอียงหน่อย บันไดมันจะแตะพื้นครับ ผมเคยลองปั่นมาแล้ว ตัวรถจะเอียงมากไม่ได้ ไม่งั้นบันไดติดพื้น ขนาดล้อ 16 นิ้ว จึงเหมาะสำหรับเด็กมากกว่า 20" unicycles, 110 mm cranks give a smooth fast ride but make idling harder, 125 mm cranks (standard) give a lot of torque and are good for learners and tricks, 140 mm (Kris Holm and Onza only) are for Trials, 150 mm are a bit long.  เวลาเขาขายยางโทนมาให้เรา มันก็จะมากับขาจานที่เขาให้มา แต่ว่าเราอัพเกรดได้ ตามที่เราชอบ ตัวอย่างเช่น ซ้ายสุด ยางโทน 20 แต่เดิมที่ซื้อมา ขาจานจะเป็นระยะ 100mm ผมว่ามันหนักไป เล่นยาก แต่ถ้ามีโรงยิม พื้นเรียบๆ อันนี้เหมาะ แต่ที่ที่ผมเล่น พื้นไม่ได้เรียบ เป็นถนนปูนธรรมดา ผมเลยเปลี่ยนไปใช้ ระยะ 125mm ปั่นได้ลื่นดี ควบคุมง่าย เล่นง่ายขึ้นเยอะเลย 24" unicycles, 110 mm cranks are very smooth and should only be considered if you are a speed fiend, 125 mm cranks are smooth and still quite fast, although are ok for idling, 140 and 150 mm cranks are great for off road and learners. 170 mm are for Trials. ในภาพ ยางโทน 24 ของผม แต่เดิม เขาให้ขาจานระยะ 125mm มา ก็ปั่นลื่นดี แต่ผมอัพเป็นขาจาน 2 รู คือ 110/127mm จะได้ไว้ปั่นเดินทางได้ด้วย ขี่เล่นเล็กๆ น้อยๆ ก็สนุกดี ส่วนขาจานที่ยาวกว่านั้น ก็จะเหมาะกับแนว off road 26" (& 29") unicycles, 110 mm cranks make a great long distance machine on flat surface but very hard to idle, 125 mm cranks are smooth and a good street machine, 150 mm cranks are great for standard Muni riding and tricks work, 170 mm are for trials riders or mountain climbers, these give you the ability to go up almost anything! ยางโทน 26 ของผม แต่เดิมเขาให้ขาจานมา ระยะ 145mm ตอนนี้ ผมใช้ขาจาน 7 รูมหัศจรรย์ อย่าว่าแต่ระยะ 110 เลยครับ สั้นที่สุดที่เคยลอง คือ 90mm มันก็ปั่นได้นะครับ แต่เอาเข้าจริงๆ ล้อมันเล็ก มันก็เร็วได้ไม่เท่าไหร่หรอกครับ การลดขนาดขาจาน สู้การเพิ่มขนาดล้อไม่ได้ ในเรื่องของความเร็ว ส่วนยาวที่สุดของขาจาน 7 รูมหัศจรรย์ คือระยะ 210mm ยาวมากๆ เอาไว้ขึ้นดอยครับ ส่วนยางโทน 29 ของผม แต่เดิมเขาให้ขาจานมา ระยะ 145mm แล้้วผมก็อัพ ใช้ขาจาน 2 รู ระยะ 125/150mm ก็เอาไว้ปั่นทั้ง ออนโรด โดยใช้ระยะ 125mm ส่วน ออฟโรด ก็ใช้ระยะ 150mm ก็ถือว่าตอบสนองได้ดี ไม่จำเป็นต้องใช้ยาวกว่านี้ 36" Coker, 110 mm cranks, yes; you can put them on a 36" unicycle and they make an incredibly fast unicycle - on the "Ride across Minnesota" I rode with 110 mm cranks and could cruise at 17mph without too much difficulty - but my fractured scaphoid is testimony to my lack of control. 125 mm cranks create an extremely fast machine and gives some control for the experienced rider to idle. 150 mm cranks are standard and should be considered the minimum for all but experienced riders. ขาจานระยะ 110mm กับล้อขนาด 36 นิ้ว ผมยังไม่เคยใช้เลยครับ แต่บล็อกหน้า จะพาไปลองใช้ ดูซิว่า มันจะหนักสักแค่ไหน ช่วงที่ผ่านมา ผมกำลังตัดสินใจครั้งใหญ่อยู่ว่า จะใช้ขาจานตัวไหน ใส่ให้ยางโทนใหญ่ดี มีสองอัน คือ 110/127mm กับ 125/150mm ลองเอาระยะ 150 มาปั่นดู ประทับใจตรงที่ ยางโทนใหญ่มันเชื่องสนิทเลยครับ แบบว่า ขึ้นก็ง่าย ออกตัวก็ง่าย เลี้ยวง่าย หยุดสั่งได้ ปั่นสบายมากๆ แต่ปัญหาคือมันช้า เสียความล้อใหญ่โดยใ้ช่เหตุ เพราะคนที่เล่นล้อใหญ่ หมายถึงต้องการไปเร็วๆ กับระยะ 125-127mm ผมว่ามันก็ยากนิดหน่อย แต่ก็พอไปได้ เคยเอาไปปั่น ออฟโรดดูแล้ว มันก็ไปได้นะครับ เร็วดี เอาความเร็ว และความใหญ่เข้าปะทะไปเลย ยางโทนใหญ่ ตอนใส่ขาจานระยะ 125/150mm ให้ ลองไปปั่นดูแล้ว ระยะ 150mm ทำความเร็วไม่ได้เลย ควบคุมง่ายก็จริง แต่ช้า ตอนนี้เลยกลับมาใช้ 110/127mm เหมือนเดิมแล้ว กะว่า ใช้ระยะ 127mm ให้ชินไปเลย แล้วออกนอกเมืองก็ค่อยใช้ 110mm ผมขอสรุปง่ายๆ ให้ฟังดังนี้นะครับ เป็นคู่มือเลยก็ได้ ถ้าอยากไปเร็ว ต้องอัพขนาดล้อก่อน ดีที่สุด ต่อมาค่อยลดขาจานให้สั้นลง ถ้าอยากควบคุมง่าย ต้องใช้ขาจานยาว แล้วจึงค่อยลดขนาดล้อ เช่น ถ้าคุณมียางโทน 26 แล้วบอกว่าอยากไปเร็วขึ้น สิ่งที่ต้องคิดก่อนเลย คือเปลี่ยนไปใช้ยางโทน 29 เร็วกว่าแน่ๆ แต่ถ้าเปลี่ยนขนาดล้อไม่ได้ ก็ค่อยไปลดขาจานดู ก็จะพอช่วยได้ เช่นกัน ถ้ามียางโทน 26 แล้วบอกว่าขี่ยาก (อาจจะไปปั่นทางยากๆ) สิ่งแรกที่ควรทำคือ เปลี่ยนขาจานให้ยาวขึ้น รับรองขี่ง่ายกว่าเดิม ถ้าล้อ 26 ยังใหญ่ไปสำหรับคุณ ก็คงต้องลดขนาดไปเล่น 24 นิ้ว เป็นต้น แถม ยางโทนใหญ่ เป็นอะไรที่ คอล้อเดียวแท้ๆ จริงๆ จะต้องลองให้ได้นะครับ ผมยังตื่นเต้นทุกครั้งเลยครับ ที่ได้ขี่มัน มันใหญ่ และสูง ท้าทายมากๆ ใหญ่แค่ไหน ว่างจัด เลยเอาไปแปะเทียบกับยางสิบล้อดู เจ็บใจมากครับ ยางมันเล็กกว่าของสิบล้ออยู่สัก 4 นิ้วเห็นจะได้ ยางสิบล้อคงจะมี สผศก. สัก 40 นิ้วแหงเลย ถ้ามีทำใหญ่กว่า 36 นิ้วขาย ผมก็เอาอีกนะครับ ชอบมาก   Create Date : 06 เมษายน 2555     Last Update : 6 เมษายน 2555 21:27:57 น. Counter : 2617 Pageviews.   0 comment Share Tweet

วิถีผู้กล้า ตอน "ถึงตายางโทน 26 ออกโรงบ้าง" สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์ หลังจากที่ผมได้ทดสอบปั่นวิบาก เทียบ ระหว่างยางโทนใหญ่ และยางโทน 29 ไปแล้ว วันนี้ถึงตายางโทน 26 บ้าง ล้อเล็กลงไปอีก มาดูกันว่า จะได้อารมณ์ต่างกันอย่างไร พระเอกวันนี้ เป็นคันกลางครับ ยางโทน 26 เดิมติดตั้งขาจาน 7 รูมหัศจรรย์ให้ แต่ก็ไ่ม่ได้ไปปีนเขาสักที เลยเปลี่ยนออก ไปใช้ขาจาน 2 รูก็พอ ระยะ 125/150mm ออกจากบ้าน เดินทางบนทางเรียบ ล้อ 26 นิ้ว ขาจาน 125mm รู้สึกว่าช้าจัง ก็เพราะเคยปั่นด้วยยางโทนใหญ่ กับยางโทน 29 มาแล้ว ล้อ 26 ยังไงก็สู้ไม่ได้เรื่องความเร็ว แน่นอนว่า เมื่องความเร็วช้ากว่า เวลาที่ใช้อยู่บนอาน ก็นานกว่า ก็เลยส่งผลให้เจ็บก้น ทั้งๆ ที่เดินทางยังไม่ถึงไหน แล้วเบาะสีเหลืองตัวนี้ มันก็แข็งกว่าด้วย แต่สีมันเข้ากับรถ เลยยอมทน บล็อกนี้เน้นประมวลภาพนะครับ อธิบายน้อยๆ ไปไวๆ กองเชียร์ขาประจำ ใ้ห้กำลังใจกันมาโดยตลอด เข้าสู่ทางลูกรัง เสียงยาง เวลาบดไปบนทางลูกรัง ผมว่ามันเพราะดีครับ ผมฝ่าด่านทางขาดมรณะมาได้ ด้วยความสด แรงยังมีเยอะ แต่ก็มาตายด่าน double track ทรายมรณะครับ ขาจานยาว 125mm ไม่เพียงพออีกตามเคย ต้องปรับ ปรับยาวขึ้นเป็น 150mm บวกกับยางหน้ากว้าง 26x2.5 น่าจะผ่านทรายได้นะครับ คิดว่า แต่ก็ไม่ได้ครับ ทรายมันเยอะเกินจริงๆ ต้องไปไต่บนเลนพิเศษ ไปๆ มาๆ ยางโทน 26 ฝ่าด่าน double track ทรายมรณะ ยากกว่ายางโทน 29 ซะอีกครับ จากด่าน double track ทรายมรณะ ก็จะเข้าสู่ด่าน no track มรณะ ด่านนี้ ล้มบ่อยมากครับ ล้มบ่อยกว่ายางโทน 29 ชัดเจนครับ ด้วยระยะขาจาน 150mm เท่ากัน ผมคงคิดผิดแล้วหละครับ ที่ถอดขาจาน 7 รูมหัศจรรย์ออกไป ถ้าเป็นทางเรียบ แน่นอนว่า ขาจานเท่ากัน แต่ล้อเล็กลง จะปั่นได้ลื่นขึ้น แต่ักับทางขรุขระแล้ว ล้อที่เล็กลง มันจะติดร่อง ติดหลุมได้ง่ายขึ้น ทำให้ผมเรียนรู้เพิ่มเติมใหม่อีกว่า ถ้าทางขรุขระ ล้อเล็กลง ขาจานยิ่งต้องยาวขึ้น เพื่อช่วยงัดล้อขึ้นจากร่องหลุมบ่อต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ขาจาน 150mm กับล้อ 26 นิ้ว คิดว่าไม่พอครับ สำหรับด่าน no track มรณะ ตอนนี้ผมปวดขามากครับ เพราะต้องออกแรงงัดล้อขึ้นจากหลุมบ่อต่างๆ อยากหนัก ถัดไป จะเป็นด่าน ทุ่งหญ้ามรณะครับ ก็ล้มบ่อยอีกเช่นเคย อยากจะปรับขาจานให้ยาวขึ้น สัก 165 ไม่ก็ 187mm ไปเลย แต่ก็ทำไม่ได้ ล้อเล็ก นอกจากเดินทางช้ากว่าแล้ว ยังต้องมาล้มบ่อยอีก เสียเวลาสุดๆ เลยครับ ปวดขามาก น้ำก็ลืมเอามา นั่งพักก่อนก็แล้วกัน ยอมรับว่า ล้อเล็ก การเก็บรายละเอียด ทำได้ง่ายมากๆ ไม่ว่าจะใช้ท่ากระโดด เพื่อรักษาสมดุลย์ร่างกาย ใช้ความเร็วต่ำๆ ค่อยๆ ปั่นผ่านอุปสรรคยากๆ หรือแม้แค่ไต่คันนาแคบ แบบนี้ ล้อเล็กได้เปรียบมากครับ จะมืดแล้วครับ เพราะเดินทางได้ช้ามาก ล้มก็บ่อย ตอนนี้อยู่ที่ด่าน double track มรณะครับ ด่านนี้เป็นด่านง่าย มากับยางโทนใหญ่ และยางโทน 29 ไม่เคยล้มเลย แต่มากับยางโทน 26 ล้มซะแล้ว ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ขามันอ่อน โดนตัดกำลังมาอย่างหนัก แค่โดนทรายนิดเดียว ไม่น่าจะล้ม ก็ล้มไปได้ แล้วก็ไปถึงด่านสุดท้าย คันนามรณะ ถ้าใ้ห้เทียบกับยางโทนใหญ่ และยางโทน 29 ยางโทน 26 เสียเปรียบทุกอย่างเลยครับ ไม่ว่า ความเร็ว ความนุ่มนวล ได้เปรียบแค่ขึ้นรถง่าย ควบคุมง่ายที่ความเร็วต่ำเท่านั้นครับ ขากลับบนทางเรียบ ไม่ต้องพูดถึงครับ มืดแล้วอยากถึงบ้านสุดๆ ทำไมมันถึงได้ช้าขนาดนี้ ยางโทน 26 สรุปว่า ยางโทน 26 ไว้ปั่น off road โหดๆ เท่านั้น และควรจะใช้ขาจานยาวกว่านี้ด้วย   Create Date : 03 เมษายน 2555     Last Update : 3 เมษายน 2555 13:36:04 น. Counter : 1632 Pageviews.   0 comment Share Tweet

วิถีผู้กล้า ตอน "มาดูจะๆ 29er vs 36er บนเส้นทางเดียวกัน" สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์ กลับมาต่อ กับปฏิบัติการปั่นยางโทน 29 ทดสอบเทียบกับยางโทนใหญ่ นี่เป็นแผนที่เส้นทางปั่นทั้งหมดครับ จุดเขียวใหญ่ขวามือ คือจุดที่ออกจากบ้าน แล้วปั่นตามจุดเขียวเล็ก จุดสีฟ้า คือด่านทางขาดมรณะ จุดสีน้ำเงิน คือด่าน double track ทรายมรณะ จุดสีขาว คือด่าน no track มรณะ จุดสีม่วง คือด่านทุ่งหญ้ามรณะ แล้วไปกลับรถที่จุดสีเหลือง ข้ามรางรถไฟ และจุดสีส้ม คือด่าน double track มรณะ ทุกด่านที่ว่าไป สองบล็อกก่อนหน้านี้ ผมได้พายางโทน 29 ฝ่ามาหมดแล้วครับ ตอนนี้ผมอยู่ที่จุดสีแดง ด่านคันนามรณะ ซึ่งเป็นด่านที่ซ้ำกับที่เคยปั่นด้วยยางโทนใหญ่มาแล้ว ไปกันเลยครับ เริ่มตั้งแต่ออกตัวเลย ดูเทียบกับยางโทนใหญ่ได้เลยครับ ยางโทน 29 เป็นการปั่นขากลับ แต่ยางโทนใหญ่เป็นการปั่นขาไป เมื่อศึกษาเทียบกันแล้ว พบความต่างดังนี้ครับ ยางโทนใหญ่ไปได้เร็วกว่ามาก นุ่มนวลกว่า มุมกล้องสูงกว่าเยอะเลย ยางโทน 29 ไปแบบเชื่องช้า สะเทือนมาก สุดท้ายทำกล้องหลุดมือไปเลย แต่ไม่ได้หลุดตกพื้นนะครับ ติดสายคล้องอยู่พอดี จากคันนามรณะ ก็จะเข้าสู่ทางลูกรังเล็กน้อย  แล้วกลับไปเชื่อมกับจุดสีเขียวในแผนที่เพื่อปั่นกลับบ้าน ส่วนข้อสรุป สำหรับ 29er vs 36er เป็นดังนี้นะครับ 29er unicycle มีจุดเด่นคือ 1) เก็บรายละเอียดได้ดีกว่า เช่นอุปสรรคเป็นคันนาแคบๆ ก็ไต่ง่ายกว่า จะใช้ท่ากระโดด เพื่อรักษาสมดุลย์ร่างกาย หรือจะกระโดดข้ามหลุมบ่อต่างๆ ก็ทำได้ง่ายกว่า 2) ขึ้นขี่ได้ง่ายกว่า ควบคุมรถง่ายกว่าที่ความเร็วต่ำ 29er unicycle มีจุดด้อยคือ 1) ล้อเล็กกว่า มุมปะทะเยอะ สะเทือนกว่า สะดุดง่ายกว่า 2) เดินทางได้ช้ากว่า ช้ากว่ามากด้วย 36er unicycle มีจุดเด่นคือ 1) เดินทางได้เร็วกว่ามาก เก็บระยะทางได้น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง 2) นุ่มนวล กลิ่งผ่านหลุมบ่อไปอย่างง่ายดายกว่า 36er unicycle มีจุดด้อยคือ 1) ขึ้นขี่ได้ยากกว่า โดยเฉพาะตอนที่เหนื่อยจนขาอ่อนไปแล้ว จะขึ้นขี่ยากมาก และควบคุมรถยากกว่าที่ความเร็วต่ำ 2) เก็บรายละเอียดไม่ได้ จะไต่คันนาแคบ จะกระโดดเหย๋งๆ เพื่อทรงตัว หรือเพื่อข้ามหลุมบ่อ ต้องใช้แรงเยอะมาก เพราะขนาดที่ใหญ่ และน้ำหนักเยอะกว่ามาก 3) โมเมนตั้มเยอะมาก การจะหยุดรถกระทันหัน การจะเลี้ยวหักศอกกระทันหัน ทำไม่ได้ จบการทดสอบแล้ว ก็ได้เวลากลับบ้านครับ จากที่ใช้ระยะขาจาน 150mm ปั่นฝ่าด่านมรณะต่างๆ พอจะขึ้นทางเรียบ ก็กลับไปใช้ระยะ 125mm จะได้ไวขึ้นอีกหน่อย แต่ยังไงยางโทน 29 ก็ไวไม่เท่ายางโทนใหญ่หรอกครับ เทียบกันไม่ได้เลย เดียวนี้ผมหันมาพกประแจหกเหลี่ยมแทนแล้วครับ มันจะพกง่าย และเบากว่าประแจธรรมดาเยอะเลย เวลาใช้ ก็ให้ไปขันบันไดฝั่งด้านในของขาจานครับ มันจะมีรูสำหรับประแจหกเหลี่ยมอยู่ เรียบร้อยแล้วครับ พร้อมออนโรดกลับบ้านได้ แล้วพบกันใหม่บล็อกหน้าครับ   Create Date : 31 มีนาคม 2555     Last Update : 31 มีนาคม 2555 11:40:38 น. Counter : 1578 Pageviews.   2 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang