Ride to Raid
Group Blog
 
All Blogs
 

วิถีผู้กล้า ตอน "Shift on the land"

สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์


ช่องนี้ ยังคงสนุกตื่นเต้น อยู่กับยางโทนเกียร์ 26 ไทเทเนียม

บล็อกนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องราวของมัน


อุปกรณ์วันนี้ ยางโทนเกียร์ 26 คันตรงกลาง


บล็อกก่อน ผมได้ทำการทดสอบ ยางโทนเกียร์ 26 ปั่นเกียร์สูงตลอด เข้าเมือง พบว่า มันก็ใช้ได้

เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ถ้าจะใช้ในชีวิตประจำวัน

ส่วนวันนี้ จะออกปั่นผจญภัย โดยจะลองใช้เกียร์สูงตลอดดูอีกเช่นกันครับ


วันนี้แดดแรงซะแล้ว


แต่โชคดีจริงๆ มีเมฆก้อนใหญ่ มาช่วยบังแดดให้


ที่ขาจานระยะ 165mm ล้อ 26 นิ้ว การออกตัว การเลี้ยว โดยใช้เกียร์สูง ถือว่าทำได้ไม่ยาก


แต่ขาจาน 165mm ทำความเร็วมากๆ ไม่ได้ บางทีบนทางเรียบๆ โล่งๆ อยากจะเร่งขึ้นอีกหน่อยก็ไม่ได้ ทำความเร็วได้ประมาณนึงเท่านั้น


แวะพักถ่ายภาพ


ฝ่าด่านโหดมา ขาอ่อนไปเอง เลยล้มแบบไม่น่าล้ม


นี่แหละครับ ประโยชน์ของหูหิ้วหน้าอาน ถ้าไม่มีตัวนี้กัน ป่านนี้เบาะขาดไปแล้วหละครับ

กระแทกกับหินลูกรังอย่างแรง


ที่เกียร์สูง ผมปั่นผ่านสภาพถนนแบบนี้ลำบากมาก ปวดขาเลย เพราะล้อ 26 มันเล็ก อำนาจในการกลิ้งผ่านไม่ค่อยดี ควรจะใช้เกียร์ต่ำจะเหมาะกว่า


แต่สำหรับทางลูกรังทั่วไป เกียร์สูง ขาจาน 165mm สนุกมากครับ ความเร็วพอเหมาะ

การควบคุมรถ เพื่อเลี้ยวหลบอุปสรรคต่างๆ ทำได้ง่าย


ทางลูกรังแบบนี้ สามารถเลือกใช้รถได้หลายทางเลือกเลยครับ สนุกไปคนละแบบ

ล้อ 26 ขาจาน 165mm เกียร์สูง ก็ผ่านได้
ล้อ 26 ขาจาน 137mm เกียร์สูง ก็ใช้ได้
ล้อ 29 ขาจาน 150mm เกียร์สูง ก็ไวดี
ล้อ 36 ขาจาน 125mm ไม่มีเกียร์ ก็มันไปอีกแบบ
ล้อ 36 ขาจาน 150mm ไม่มีเกียร์ ก็ควบคุมง่ายดี ไม่หวั่น แม้จะขรุขระมากหน่อย

ส่วนถ้าจะเลือกล้อเล็กกว่านี้ หรือเลือกใช้เกียร์ต่ำกว่านี้ ก็ผ่านได้ และผ่านง่ายอยู่แล้วครับ แต่มันจะช้า ไม่มัน


สังเกตตำแหน่งของขา ด้านหลังของหัวเข่า มักจะมาชนกับเฟรม

เนื่องจากเฟรมตัวนี้ ทำมากว้างพิเศษ รองรับยางได้ดังนี้ครับ

24x4.0 26x4.0 และ 29x2.5

ที่ผมเลือกใช้กับล้อ 26 นิ้ว เพราะบ้านเรา ยาง 26 นิ้ว มีให้เลือกมากมาย

อีกทั้งยังมียางใหญ่ๆ ของ surly ให้เลือกด้วย ล้อ 26 จึงดูยืดหยุ่น และมีทางเลือกมากกว่าเพื่อน

ล้อ 24 นิ้ว บ้านเราไม่ค่อยมียางขาย ล้อ 29 นิ้ว ก็ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก ในบ้านเรา


ต่อจากนี้ไป ทางจะโหดแล้ว วันนี้ อยากจะลองออฟโรดโหดดูครับ



ชื่อบล็อก Shift on the land ก็คือ เปลี่ยนเกียร์ขณะจอดรถครับ

เพราะขาจานระยะ 165mm มันยาวไป ใช้ส้นเท้าตอกขณะปั่นไม่ถนัด

แต่ขาจานระยะ 165mm กับล้อ 26 นิ้ว ผมชอบมาก ในการปั่นออฟโรดโหด



อ้าว เส้นทางออฟโรดโหดที่อยากจะไปวันนี้ ไปไม่ได้แล้วหละครับ น้ำท่วมซะแล้ว


ก็เลยต้องเปลี่ยนเส้นทาง


เข้าใจว่า เฟรมไทเทเนียม ต้องทำสีออกเทาๆ แบบนี้ เพราะกลัวคนไม่รู้ ว่าเป็นไทเทเนียม

ถ้าทำสีแดง สีเขียวเหมือนทั่วไป เดี๋ยวคนอื่นจะเข้าใจว่าเป็นเฟรมธรรมดา

แต่ผมว่า สีแบบนี้ ถ่ายรูปไม่ขึ้นเลยครับ กลืนกับต้นไม้ กลืนกับหินไปหมด

เพราะจริงๆ แล้ว เฟรมไทเทเนียม จุดขาย ไม่ได้มีอะไรเลย มันก็แข็งแรงพอๆ กับอลูมิเนียม ไม่เป็นสนิมเหมือนกัน

ไม่ได้เบากว่าอลูมิเนียมด้วย โดยเฉพาะเฟรมอลูมิเนียม 7005 เบากว่าไทเทเนียมด้วยซ้ำ

แต่จุดขาย อยู่ที่ความแพง แล้วก็พยายามเพิ่มความมูลค่า ด้วยการออกแบบเฟรมให้ใช้ได้หลายขนาดล้อ

ถ้าเป็นเฟรมไทเทเนียม ของจักรยานสองล้อ ผมก็ไม่กล้าซื้อหรอกครับ มันจะแพงมาก 

แล้วผมก็เลิกเล่นสองล้อแบบจริงจังแล้วด้วย เพราะล้อเดียวสนุกกว่า

พอดีเฟรมของจักรยานล้อเดียว ราคามันพอเอื้อมถึง ก็เลยอยากลองเก็บสะสมไว้ดูเล่น


ออฟโรดยากที่สุด เท่าที่หาได้ตอนนี้ ก็ต้องไปทางขวาครับ


สนุกมากครับ ล้อ 26 ขาจาน 165 ปั่นออฟโรด


พอเส้นทางมันค่อนข้างเรียบ ก็ขึ้นเกียร์สูงได้อีกครั้ง



ใช้วิธี Shift on the land อีกครั้งครับ


ปั่นๆ ไป ฝนทำท่าจะตกซะแล้ว


กับทางที่ค่อนข้างจะขรุขระ ถ้าใช้เกียร์สูง ก็พอได้ แต่ก็จะปวดขา และใช้กำลังขามาก ถอนเกียร์จะดีกว่า


พอรู้ว่า จะเหลือแต่เส้นทางที่ไม่โหดแล้ว ก็ปรับไปใช้ขาจานระยะ 137mm

ตอนนี้ สามารถทำการ Shift on the fly ได้แล้วครับ


ขาจานระยะ 137mm เกียร์สูง ล้อ 26 นิ้ว บังคับเลี้ยวเข้าซอยก็ไม่ยากครับ


ทำความเร็วบนทางลูกรังได้มันมาก สำหรับขาจานระยะ 137mm

ถ้าเจอจุดที่ยากหน่อย ก็ถอนเกียร์ด้วยวิธี Shift on the fly ได้ทันที


สรุปแล้ว การปั่นทั่วไป ปั่นเดินทาง ปั่นเข้าเมือง ปั่นออฟโรด ก็ใช้ระยะขาจาน 137mm

ถ้าต้องมีออฟโรดโหด ทางยากๆ ค่อยปรับไปที่ระยะ 165mm แบบนี้เหมาะเจาะที่สุดครับ สำหรับล้อ 26 นิ้วคันนี้


เนื้อสีที่ทำมา สำหรับเฟรมตัวนี้ จะหยาบๆ พ่นทรายมา

ถ้าจะใส่เบรก สำหรับล้อ 26 นิ้ว ต้องไปใส่ข้างหน้า ถ้าล้อ 24 กับ 29 นิ้ว ใส่เบรกข้างหลังตามปกติ


อาทิตย์จะตกแล้วครับ ได้เวลากลับบ้านแล้ว


ฝนมันไม่ได้ตกตรงที่ผมปั่น ก็ถือว่าโชคดีไป


ขาจานระยะ 137mm เกียร์สูง ปั่นกลับบ้านบนถนนใหญ่ได้ไวน่าพอใจมาก

แม้จะไวไม่เท่าสองล้อ แต่แค่นี้ ก็พอใจแล้วครับ สนุกมาก

แล้วพบกันใหม่บล็อกหน้าครับ






 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 29 กรกฎาคม 2555 20:51:33 น.
Counter : 2307 Pageviews.  

วิถีผู้กล้า ตอน "36er vs 39er"

สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์


วันนี้ ผมจะทดสอบปั่นยางโทนเกียร์ 26 เกียร์สูง ปั่นในชีวิตประจำวัน เข้าเมือง

โดยไม่มีการเปลี่ยนเกียร์ใดๆ ใช้ขาจานระยะ 165mm


ปกติแล้ว ในชีวิตประจำวัน ผมมักจะใช้ยางโทนใหญ่ ตัวทางขวา ขนาดล้อ 36 นิ้ว ขาจาน 150mm

เพราะมันเร็วใช้ได นุ่มนวลดี มุมมองสูง แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยการขึ้นรถยาก เล่นยาก เพราะมันใหญ่

สำหรับยางโทนเกียร์ 26 ตัวทางซ้าย ถ้าขึ้นเกียร์สูง จะมีค่าเท่ากับล้อ 39 นิ้ว ขาจานระยะ 165mm

ถือว่าสูสี น่านำมาประกบคู่มวยเป็นอย่างยิ่ง จะได้ดูว่า ตัวไหนจะเหมาะกว่า ถ้าจะเข้าเมือง


เฉพาะน้ำหนักในการปั่นเท่านั้น ที่เทียบเท่าล้อ 39 นิ้ว

แต่ขนาดปรากฏของมัน ก็คือล้อ 26 นิ้วนี่แหละครับ


ขาจานระยะ 165mm ล้อ 26 นิ้ว เกียร์สูง ออกตัวไม่ยาก

แล้วที่ความเร็วต่ำ และการบังคับเลี้ยวขณะใช้เกียร์สูง ก็ยังควบคุมไม่ยากอีกด้วย


ขึ้นเกียร์สูงด้วยมือไว้เลยครับ วันนี้จะไม่มีการเปลี่ยนเกียร์ใดๆ ทั้งสิ้น เกียร์สูงตลอด

เพื่อทดลองเปรียบเทียบกับยางโทนใหญ่


ห่อข้าวไปกินด้วยครับ


ในจังหวะขึ้นรถ และการออกตัว มีความแตกต่างกัน ดังนี้

ยางโทนเกียร์ 26 เกียร์สูง (39er) ผมสามารถส่งตัวเองขึ้นไปอยู่บนเบาะได้ง่ายมากๆ เพราะมันไม่สูง พอขึ้นไปนั่งบนเบาะได้ง่าย การตั้งลำเพื่อเตรียมจะออกตัวก็ทำได้ง่าย โอกาสผิดพลาดแทบไม่มี แต่ในจังหวะการออกตัวจะหนืดกว่ายางโทนใหญ่ เนื่องจากน้ำหนักล้อมันเทียบเท่า 39 นิ้ว แล้วเป็นยางวิบากลมอ่อน อีกทั้งดุมเกียร์ มันจะมีระยะโยกนิดๆ เนื่องจากกลไกของมัน ไม่ได้แน่นนิ่งเหมือนดุมธรรมดา ทำให้เสียความมั่นใจนิดๆ เวลาขึ้นรถ และออกตัว แต่โดยรวมแล้ว ก็ถือว่า ขึ้นรถ และออกตัว ไม่ยาก

มาที่ยางโทนใหญ่ (36er) บ้าง การส่งตัวเองขึ้นไปอยู่บนเบาะ ต้องออกแรงมาก เพราะเบาะมันอยู่สูง เมื่อต้องออกแรงมาก และเบาะอยู่สูง บางทีจังหวะส่งตัวเองขึ้นไป จะเกิดปัญหา น้ำหนักขาด หรือน้ำหนักเกินบ่อยครั้ง แต่ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการกระโดดแต่ง เพื่อตั้งลำให้ได้ ก่อนที่จะออกตัวไป เรียกได้ว่า การขึ้นรถ และการตั้งลำ ทำได้ยากกว่า แต่สำหรับการออกตัว ยางโทนใหญ่ลื่นกว่า เพราะน้ำหนักล้อคือ 36 นิ้ว แล้วเป็นยางทางเรียบ จึงลื่นเวลาปั่น โดยภาพรวมแล้ว การขึ้นรถ การตังลำ และการออกตัว ยางโทนใหญ่จะเป็นรองอยู่


มาที่การบังคับเลี้ยวบ้าง เช่นเลี้ยวเข้าซอยอะไรทำนองนี้

ยางโทนเกียร์ 26 เกียร์สูง (39er) เลี้ยวได้ไม่ยาก ล้อมันเล็ก แม้จะใช้ขาจานที่สั้นลง สัก 137mm เกียร์สูง ก็ยังเลี้ยวง่าย ต่างจากยางโทนเกียร์ 29 ที่พอขึ้นเกียร์สูงแล้วเลี้ยวยากมาก แม้แต่ยางโทนใหญ่เอง ถ้าใช้ขาจานสั้น สัก 125mm ก็เลี้ยวยาก ถ้าใช้ระยะ 150mm ก็ง่ายขึ้น แต่ก็ยังถือว่ายาก ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะจังหวะเลี้ยว ที่พื้นไม่ค่อยเรียบ จะเจอได้บ่อย สำหรับถนนบ้านเรา

ยางโทนใหญ่ (36er) บังคับเลี้ยวได้ยากกว่า ล้อมันใหญ่ โมเมนตั้มของล้อมันเยอะกว่า สะบัดเลี้ยวได้ลำบาก


การหยุดรอ หรือใช้ความเร็วต่ำ เพื่อที่จะข้ามแยก

ยางโทนเกียร์ 26 เกียร์สูง (39er) ปั่นช้าๆ ดูซ้ายดูขวา หรือกระโดดรอ ทำได้ง่ายกว่า เพราะล้อมันเล็ก ล้อปรากฏนั้นมีขนาดแค่ 26 นิ้วเท่านั้น แต่จะเสียความมั่นใจนิดๆ จากตัวดุมเกียร์ ที่มันมีระยะโยกนิดๆ บวกกับเป็นอัตราทด 1:1.5 บันไดกับล้อ ไม่ได้ไปพร้อมกัน แต่ตรงนี้ก็ถือว่าสามารถฝึกให้ชินได้ไม่ยาก

ยางโทนใหญ่ (36er) ปั่นช้าๆ ได้ลำบากกว่าหน่อย เพราะล้อมันใหญ่ จะช้ายังไง มันก็กินพื้นที่ไปได้เยอะ จังหวะกระโดดรอก็เ่ล่นยาก เพราะน้ำหนักที่มาก และตำแหน่งนั่งสูง เสียสมดุลย์ได้ง่ายกว่าตำแหน่งนั่งที่ต่ำกว่า


ที่บรรยายมาทั้งหมด ยางโทนใหญ่ดูจะเสียเปรียบทุกอย่าง

สำหรับเรื่องความเร็ว ผมไม่มีเครื่องมือวัดที่แน่นอน แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงกัน วัดโดยความรู้สึก

เพราะ 36 กับ 39 มันห่างกันไม่มาก แน่นอนว่า ถ้าขาจานเท่ากัน 39 เร็วกว่าแน่ๆ

แต่ในการปั่นครั้งนี้ 39er ก็ใช้ขาจานยาวกว่า จึงทำให้ซอยเท่าได้ช้ากว่านั่นเอง

ทำให้ความเร็วที่ได้ออกมา พอๆ กันครับ


ความได้เปรียบของยางโทนใหญ่ อยู่ตรงนี้ครับ สภาพถนนบ้านเรา มันไม่ได้เรียบเนียน

มันมีรอยต่อต่างๆ ฝาท่อ ถนนแตก ถนนปุปะ ฯลฯ สภาพแบบนี้ ผลที่ได้ก็คือ

ยางโทนเกียร์ 26 เกียร์สูง (39er) ล้อปรากฏก็ืคือ 26 นิ้ว มีโอกาสสะดุดได้ง่ายกว่า ต้องใช้ความระมัดระวัง เวลาผ่านจุดที่ไม่เรียบ

ยางโทนใหญ่ (36er) มันโดดเด่นในเรื่องของการกลิ้งผ่าน ร่องหลุมเล็กๆ น้อยๆ ไม่เป็นปัญหาอะไรเลย นุ่มนวลมาก ขอเพียงรักษาความเร็วให้พอเหมาะ ล้อมันจะพากลิ้งผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปโดยง่ายดาย ซึ่งถือว่าเหมาะมากๆ กับสภาพพื้นผิวถนนบ้านเรา


ในเรื่องของมุมมอง

ยางโทนเกียร์ 26 เกียร์สูง (39er) มันก็คือล้อ 26 ตำแหน่งนั่งไม่สูง มุมมองปกติ

ยางโทนใหญ่ (36er) มุมมองสูงมาก มองผ่านเหนือหลังคารถไปได้ รถ suv ก็บังเราไม่ได้ เห็นหมด ปลอดภัยกว่า แต่ก็ต้องระวัง อย่าให้หัวไปชนอะไรก็แล้วกัน

ในเรื่องของการปั่นผ่านช่องแค่บๆ แบบในภาพ มีรถมอเตอร์ไซค์จอดขวางอยู่

ยางโทนเกียร์ 26 เกียร์สูง (39er) ผ่านช่องแคบได้ง่ายกว่า เพราะล้อเล็ก

ยางโทนใหญ่ (36er) ผ่านลำบาก ถ้าไม่มั่นใจจริงๆ ก็ใช้มือช่วยประคองตัวผ่านไปก็ได้ อะไรอยู่ใกล้ก็จับอันนั้นแหละ


โดยภาพรวมแล้ว การทดสอบปั่น 39er ในวันนี้

มันก็รู้สึกเหมือนกับขี่รถคันเล็ก แต่ทำความเร็วได้เท่าคันใหญ่ มุมมองต่างๆ ความนุ่มนวลต่างๆ สู้คันใหญ่ไม่ได้

แต่มันก็ดีที่เล่นง่ายกว่า แล้วก็ดี ที่สามารถถอนเกียร์ได้อีก ปั่นเข้าไปในที่ชุมชนคนเยอะๆ ก็ไหว ซึ่งแบบนี้ ยางโทนใหญ่ทำไม่ได้


ก็เหมือนกับมีทางเลือกอีกทางหนึ่ง เพิ่มให้ แต่ยางโทนใหญ่เอง มันก็ยังมีสเน่ห์ในตัวมันอยู่


ที่ผมได้มาทดสอบปั่น แบบไม่ถอนเกียร์ เพราะขาจานระยะ 165mm ผมเปลี่ยนเกียร์ขณะปั่นไม่ได้ครับ ส้นเท้าไม่ถึงปุ่ม

แต่ถ้าเป็นรูใน ระยะ 137mm ก็ใช้เกียร์ได้ปกติ

เท่าที่ประเมินดู คิดว่า การปั่นในชีวิตประจำวัน การปั่นทั่วไป ขาจานระยะ 137mm แล้วใช้เกียร์ได้ตามปกติ เป็นทางเลือกที่ดีกว่า

เพราะปั่นได้เร็วกว่า เข้าเกียร์ หรือถอนเกียร์ ก็ไม่ได้ยาก สำหรับล้อ 26 นิ้ว



สำหรับยางโทนใหญ่ สเน่ห์ของมัน ที่ไม่มียางโทนใดๆ เทียบได้ ก็คือ ความนุ่มนวล มุมมองสูง

และที่สำคัญ มันคันใหญ่ ปั่นแล้วดูเท่ โดดเด่นกว่าปั่นคันเล็กๆ เป็นอย่างยิ่ง แต่ก็อย่าทำพลาดก็แล้วกันครับ

เวลาหล่น ก็หล่นสูงกว่าเพื่อน

นั่นก็เป็นเรื่องราวทั้งหมด สำหรับวันนี้ ยังมีเรื่องราวของยางโทนให้ติดตามได้อีก บล็อกหน้าครับ





 

Create Date : 27 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 27 กรกฎาคม 2555 20:43:18 น.
Counter : 1537 Pageviews.  

วิถีผู้กล้า ตอน "ผลการทดสอบปั่นยางโทนเกียร์ 26 ไทเทเนียม"

สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์


บล็อกนี้ จะเป็นการออกทดสอบปั่น ยางโทนเกียร์ 26 ไทเทเนียมครั้งแรก

ไม่มีความกังวลไดๆ เพราะฝึกใช้เกียร์มาพอสมควรแล้ว จากการปั่นยางโทนเกียร์ 29


ก่อนออกเดินทาง ก็ต้องเช็คลมยางกันก่อนเลย วันนี้จะไปปั่นออฟโรดด้วย ลมยางที่ 20 psi กำลังดี

มีระยะยุบตัวของยาง มันจะนุ่มนวล เล่นง่าย เวลาตกหลุม


ตอนแรก กะว่าจะเดินทางด้วยระยะขาจาน 165mm เกียร์สูงไปเลย

ล้อ 26 นิ้ว ที่เกียร์สูง จะเทียบเท่าล้อ 39 นิ้ว

มันก็เหมือนเราปั่นขนาดล้อ 39 นิ้ว โดยใช้ขาจานระยะ 165mm

ผมลองออกตัว และปั่นเล่นๆ ในบ้านแล้ว ก็ออกตัวไม่ยาก

แต่เพราะยังไม่ถนัดนัก เลยใช้แบบที่ถนัดก่อนดีกว่า เป็นทริปแรกกับยางโทนเกียร์ 26

จะได้เมคชัว ว่าไม่มีอะไรผิดพลาด

เลยใช้ระยะขาจานที่ 137mm ขาจานระยะนี้ ใช้ส้นเท้าตอกเปลี่ยนเกียร์ได้ถนัดดี

ล้อ 26 นิ้ว ขาจาน 137mm ก็มีสัดส่วนที่พอๆ กับ ล้อ 29 นิ้ว ขาจาน 150mm ที่ผมปั่นบ่อยๆ

เรียกได้ว่า ความหนืดในการปั่น ตามทฤษฎีแล้ว ใกล้เคียงกัน


วันนี้บรรยากาศค่อนข้างครึ้มฟ้าครึ้มฝนเป็นพิเศษ มีลมแรง

ต้องลุ้นหนัก ว่าอย่าให้ฝนตกใส่ตรงที่ผมทดสอบปั่นก็แล้วกัน

เพราะเรื่องตก มันตกแน่ครับ


ที่ผมไม่เลือกใช้ขาจาน 125/150mm กับล้อ 26 เหมือนที่ผมใช้กับล้อ 29

เพราะผมจะเน้นให้ล้อ 26 คันนี้ ปั่นออฟโรด ขาจาน 137/165 จะยาวกว่า เล่นออฟโรดได้ง่ายกว่า

บวกกับความที่ล้อเล็กกว่า ทำให้ยิ่งเล่นง่ายมากขึ้น มันจะสามารถพาเราฝ่าด่านโหดได้ดีกว่า สนุกกว่า


ความเร็วที่ทำได้ รู้สึกได้ว่าเร็วใช้ได้ แต่ก็เร็วได้ไม่เท่าล้อ 29 นิ้วครับ

แน่นอนว่า วงล้อที่ใหญ่กว่า ย่อมกลิ่งกินพื้นที่ไปได้มากกว่า และไวกว่านั่นเอง


ขาจานระยะ 137mm ผมว่า เป็นระยะที่ พอดีที่สุด ในการตอกปุ่มเกียร์

คือส้นเท้าด้านใน บริเวณกระดูดที่นูนๆ ออกมา มันจะพอดีตรงปุ่ม ไม่ขาดไม่เกิน

ถ้าขาจานระยะ 125mm มันก็สั้นไปหน่อย แต่ก็ยังพอขยับเท้าให้พอดีกับปุ่มได้อยู่

ถ้าขาจานระยะ 150mm ก็เกือบจะยาวไป แต่ก็ยังพอดีตอกเกียร์ได้

เท่่าที่ผมลองเกียร์ลูกนี้ กับเกียร์ลูกก่อน ความรู้สึกในการตอบสนองของเกียร์ ไม่แตกต่างกัน


แวะถ่ายภาพให้ชมปริมาณเมฆฝน หนาแน่นมาก


พอเราได้ฝึกใช้เกียร์ กับยางโทนเกียร์ 29 มาก่อน

แล้วมาลองปั่นยางโทนเกียร์ 26 รู้สึกได้เลย ว่าเล่นง่ายมากๆ เพราะล้อมันเล็กกว่า

ที่เกียร์สูง ยังสามารถบังคับเลี้ยวได้ง่าย สามารถเล่นที่ความเร็วต่ำได้ไม่ยาก

แตกต่างจากยางโทนเกียร์ 29 ชัดเจน ในเรื่องของความคล่องตัว และการควบคุมที่ง่ายกว่า

ในจังหวะเปลี่ยนเกียร์ก็เช่นกัน พออัตราทดเปลี่ยน ก็รับมือง่ายกว่า

ผมจิตนาการไปถึง ยางโทนเกียร์ 24 ผมว่ามันยิ่งจะเล่นง่ายมากๆ แต่ผมก็ไม่เอาแล้วหละครับ

เพราะยางโทนเกียร์ 24 มันช้าไป คิดว่าไม่คุ้มค่ากับการติดเกียร์


ข้อเสียของยางโทน 26 ที่เดินทางออนโรดได้ช้า ได้ถูกแก้ไขแล้ว ด้วยการเพิ่มเกียร์

ในภาพจะเห็นตำแหน่งส้นเท้า ที่พอดีตรงกับปุ่มเกียร์ เมื่อใช้ขาจานระยะ 137mm


แต่ทางข้างหน้าจะโหดมากขึ้น ขาจานระยะ 137mm จะสั้นเกินไป ถ้าจะปั่นออฟโรดโหด


ถ้าต้องมีการถอดบันไดบ่อยๆ ผมแนะน้ำให้ใช้ประแจหกเหลี่ยม สะดวกกว่า

มันพกง่าย ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ขันจากด้านใน โดยเลือกใช้บันไดที่มีรูด้านหลัง รองรับประแจหกเหลี่ยมด้วย


ตอนนี้ ขาจานยาวกลับไปอยู่ที่ 165mm แ้ล้ว พร้อมลุยออฟโรดโหด


แต่ขาจานระยะนี้ ส้นเท้าผมไปไม่ถึง ตอกปุ่มเกียร์ไม่ถนัด จะเห็นว่า ส่วนนูนๆ ของส้นเท้าด้านใน

มันได้เลยจากปุ่มไปแล้ว ก็ต้องทดลองหาวิธีแก้ไขต่อไปครับ

เบื้อต้นที่คิดไว้ ก็คือ เปลี่ยนเกียร์ขณะจอด แล้วค่อยขึ้นรถ ออกตัวด้วยเกียร์สูงไปเลย


ไม่ไ้ด้พูดถึงเฟรมไทเทเนียมเลย

ความเห็นผม ผมว่าไม่ต่างจากอลูมิเนียม เป็นเรื่องของความรู้สึกเท่านั้น ปั่นได้เหมือนกัน

ปัจจัยสำคัญในการปั่น ผมว่ามันอยู่ที่ยาง ขนาดล้อ ขาจาน เบาะนั่ง อะไรพวกนี้เสียมากกว่า

วัสดุของเฟรม คิดว่าเป็นเรื่องรอง แล้วแต่ความชอบ


ทางโหดไม่ว่า แต่หญ้ารกมาก จนมองไม่เห็นหลุม เล่นยากสุดๆ

หญ้ารกขนาดที่ว่า สามารถวางจักรยานไว้ แล้วไม่ล้ม หญ้าช่วยพยุงได้ เอาอยู่ว่างั้น


ด่านแอ่งน้ำอันนี้ ผมยกจักรยานเดินข้ามเอาครับ

เสียดายเกียร์ กลัวน้ำดินน้ำโคลนจะหยดใส่ วันแรกในการทดสอบ ไม่ต้องทุ่มเทมากก็ได้


นี่เป็นคลิปการทดสอบปั่น ยางโทนเกียร์ 26 ไทเทเนียมวันแรก

ช่วงแรกของคลิป ผมพยายามถ่ายให้เห็นว่า ระยะขาจาน 165mm นั้น ส้นเท้าผมตอกเกียร์ไม่ถึง

ช่วงต่อมา ปั่นๆ อยู่ รถไฟวิ่งมาให้ถ่ายพอดี เลยถ่ายไว้ด้วย

ช่วงต่อไปอีก ทางมันดันมีแต่น้ำขัง เลยหาที่จอดเหมาะๆ เพื่อที่จะลงแล้วเปลี่ยนเกียร์ไม่ได้

พอได้ที่จอดเหมาะ ก็ลองใช้ส้นเท้าตอกปุ่มเกียร์ให้ดูอีก ว่าที่ระยะขาจาน 165mm ตอกยาก

แล้วก็สาธิตวิธีขึ้นรถด้วยเกียร์สูง พบว่า เกียร์สูงของล้อ 26 ขาจาน 165mm ขึ้นไม่ยาก ออกตัวไม่ยาก

ขณะปั่นที่เกียร์สูง จะเห็นว่า ความเร็วเพิ่มขึ้นมาอย่างชัดเจน ด้วยอัตราทด 1:1.5


ยางโทนเกียร์ 26 เล่นก็ง่าย เร็วใช้ได้ด้วย สนุกมากครับ

ถ้าเทียบกับยางโทนเกียร์ 29 แล้ว ผมว่า ผมลำเอียง ให้คะแนนคันนี้ มากกว่าหน่อย ด้วยความที่มันเล่นง่าย


คลิปนี้ ให้ดูความเร็วของยางโทนเกียร์ 26 เกียร์สูง ขาจาน 165mm ปั่นบนทางลูกรัง

ความเร็วใช้ได้เลยครับ มันมาก


แล้วก็เข้าไปปั่นในวัดอีกแล้วครับ


เฟรมที่ออกแบบมากว้างพิเศษ เพื่อให้รองรับยางอ้วนๆ ได้นั้น

ถ้าเราปรับระยะช่วงขาจนขาตึง หรือเกือบตึง เวลาบันไดอยู่ต่ำสุด

ด้านหลังของหัวเข่า จะไปชนกับเฟรมครับ เวลาปั่น กับเฟรมปกติ ก็เป็นอยู่แล้ว

แต่ถ้าเป็นเฟรมแบบกว้างพิเศษอย่างนี้ ก็จะเป็นมากขึ้น

แต่สำหรับผม ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร ขาไปชนเฟรมบ้างก็ดี จะได้รู้สึกได้ว่า เฟรมยังอยู่

สีเทาของเฟรมไทเทเีนียม มันชั่งเข้ากับหิน กับปูนดีจริงๆ


ในวัด มีทางเรียบ ไม่มีคน ผมเลยได้ลองเปลี่ยนเกียร์ขณะปั่น กับขาจานระยะ 165mm

ก็ต้องใช้วิธีขยับ ให้บันไดไปอยู่ปลายเท้ามากขึ้น ก็ปั่นไม่ค่อยถนัด และไม่ค่อยมั่นคงนักด้วย

แต่ก็สามารถเปลี่ยนเกียร์ขณะปั่นได้

โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่ค่อยชอบวิธีนี้ เพราะต้องขยับปลายเท้า ออกจากตำแหน่งถนัด เพื่อตอกเกียร์

เสร็จแล้ว ก็ต้องขยับปลายเท้า กลับมาที่ตำแหน่งถนัดใหม่ เสียสมาธิในการปั่นมาก

ในขณะที่ ถ้าเป็นระยะขาจาน 125 137 และ 150mm ปลายเท้าอยู่ที่เดิมตลอด ปั่นมั่นใจ และต่อเนื่องกว่า


หลังจากทดลอง ทดสอบทุกอย่าง จนพอใจแล้ว ก็ได้เวลากลับบ้าน

ระยะทางที่เหลือ เป็นออนโรดล้วนๆ ก็ปรับระยะขาจานกลับไปที่ 137mm

การใช้เกียร์ ก็ทำได้อย่างเป็นปกติแล้ว


วิดีโอสุดท้าย ถ่ายให้ดูความเร็วออนโรด ของยางโทนเกียร์ 26 ขาจาน 137mm เกียร์สูง

เร็วดีครับ ชอบมาก ต่อไปนี้ ยางโทน 26 จะไม่ทำให้ผมท้อแท้เวลาเดินทางกลับบ้านแล้วครับ

แต่ก่อน ขาก็เมื่อย ก้นก็เจ็บ เดินทางกลับไม่ถึงบ้านสักที ท้อมาก เพราะปั่นออฟโรดโหดมา

แต่ตอนนี้ กลับบ้านได้ไวขึ้นแล้วครับ



นั่นก็เป็นผลการทดสอบปั่นยางโทนเกียร์ 26 ทั้งหมด สำหรับวันนี้

แล้วพบกันได้ใหม่ บล็อกหน้าครับ






 

Create Date : 25 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 25 กรกฎาคม 2555 22:33:01 น.
Counter : 1617 Pageviews.  

วิถีผู้กล้า ตอน "ยางโทนเกียร์ 26 Triple Titanium"

สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์


วันนี้เอาของเล่นใหม่มาโชว์อีกแล้วครับ


จะเรียกว่าเป็นการอัพเกรดให้ยางโทน 26 คันเก่าก็ได้

เพราะคันเก่า (คันล้อสีเหลือง) มันปั่นออฟโรดได้สนุกมาก แต่เดินทางออนโรดได้ช้าเกินไป เลยอยากเพิ่มเกียร์ให้มัน


บรรยากาศตอนไปรับของที่ไปรษณีย์


เสียใจมากครับ มาเห็นทีหลัง ว่าปุ่มเกียร์มันทะลุกล่องออกมา ถลอกหมดเลยครับ

แต่ก็ยังโชคดี ที่ชิ้นส่วนยังอยู่ครบ ถ้าหายไปแม้แต่ชินเดียว จบกันแน่ๆ


อันนี้เป็นภาพเทียบขนาดเฟรม

ตัวสีเทา เป็นเฟรมไทเทเนียม รุ่น triple คือทำมาให้ใส่ได้ทั้งขนาดล้อ 24 26 และ 29 นิ้ว

ส่วนสีขาว คือเฟรมอลูมิเนียม ขนาด 29 นิ้ว

จะเห็นว่าเฟรมไทเทเนียมตัวนี้ ออกแบบมากว้างกว่ามาก รองรับยาง 26x4.0


ประกอบเสร็จแล้วครับ พื้นที่ใต้ไหล่เฟรม ดูโหลงเหลงมาก เพราะใชักับล้อ 26

ยางที่ผมใช้ 26x2.5 จริงๆ ก็ใหญ่แล้วนะครับ แต่ก็ไม่พอเติมเต็มพื้นที่ว่าง

กะว่าใช้ยางนี้ให้หมด จะถอยยาง surly 26x3.8 มาใส่แทนครับ แต่กว่าจะใช้หมดก็คงนานมากๆ เพราะขี่หลายคัน


สิ่งที่ยืนยันความเป็น triple frame ก็คือช่องใส่เบรกครับ จะมีอยู่ 3 ชุด


ไม่รู้จะเรียกอัพเกรด หรือซื้อคันใหม่

ของเดิมที่มีคือ เบาะ หลักอาน ตัวรัดหลักอาน ขาจาน และยาง ส่วนอื่นมาใหม่หมดเลยครับ


รุ่นน้อง กับรุ่นพี่ ยางโทนเกียร์ 26 ไทเทเนียม vs ยางโทนเกียร์ 29 อลูมิเนียม

เท่าที่ผมจับๆ ดู ความแข็งแรงของตัวเฟรม และน้ำหนักก็ไม่ต่างกันมาก 

เนื้อไทเทเนียม แข็งแรงกว่าอลูมิเนียมจริง จึงรีดท่อได้บางกว่า

แต่เนื้อไทเทเนียม ก็หนักกว่าอลูมิเนียม พอทำบางกว่า ก็เลยเหลือน้ำหนักพอๆ กัน

สุดท้ายก็ออกมาแข็งแรงพอๆ กัน และได้น้ำหนักพอๆ กันนั่นเองครับ

แต่ที่อยากได้ไทเทเนียมเพราะ อยากรู้ ว่ามันจะเป็นยังไง แล้วเฟรมมันกว้างด้วย ไว้เราอยากอัพเกรดใส่ยางใหญ่ๆ จะได้ไม่ติดเฟรม



การบ้านใหม่ ที่ต้องไปแก้โจทย์คือ ขาจานระยะ 165mm ส้นเท้าผมตอกปุ่มเกียร์ไม่ถึง

ที่ขาจานระยะนี้ เวลาจะใช้เกียร์ อาจจะลง แล้วใช้มือกดปุ่มเกียร์ แล้วค่อยขึ้น แล้วออกตัวด้วยเกียร์สูงไปเลย

ล้อ 26 นิ้ว ที่เกียร์สูง จะใหญ่เทียบเท่าล้อ 39 นิ้ว แล้วขาจานระยะ 165mm เชื่อว่าออกตัวไม่ยาก

ต้องไปลองดูอีกที

ส่วนรูในของขาจาน เป็นระยะ 137mm ใช้ส้นเท้าตอกเกียร์ได้ปกติ


เกียร์ลูกแรก M0528 ลูกที่สอง M0550 เป็นยางโทนเกียร์คันที่สองของเมืองไทย

แต่เป็นยางโทนเกียร์ไทเทเนียมคันแรกของเมืองไทย


หวังว่า ปุ่มเกียร์ที่ถูกกระทบกระเทือนจากการขนส่ง จะไม่กระทบถึงกลไกภายในตัวเกียร์

คงต้องรอเวลาว่างไปทดสอบปั่นดูอีกที






 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 24 กรกฎาคม 2555 11:07:45 น.
Counter : 1504 Pageviews.  

วิถีผู้กล้า ตอน "ปั่นตามหาฝน"

สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์


วันนี้ก็ออกปั่นเรื่อยเปื่อยอีกแล้วครับ ไปสำรวจเส้นทางที่ไม่เคยไป


เพื่อประดินประต่อเป็นแผนที่ในหัวตัวเอง


เพราะซอกซอยมันเยอะมาก สามารถหาเรื่องให้ได้ปั่นสำรวจได้อีกหลายครั้งเลย


ถนนเส้นเดียว 3 รสชาติ ปูน ยางมะตอย แล้วก็ต่อด้วยลูกรัง


วันนี้ท้องฟ้าก็มีเมฆฝนพอสมควรครับ แต่มีเป็นหย่อมๆ


ตอนนี้ผมอยู่หย่อมแดดพอดี แจ่มจ้ามาก


จะเห็นหย่อมฝนอยู่ไกลๆ ในภาพ


เส้นทางลูกรัง มันมีเสน่ห์ตรงที่ มันให้ความรู้สึกย้อนยุค รู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติชนบท

ปั่นบนเส้นทางลูกรังแล้วมันผ่อนคลาย ได้ฟังเสียงยางบดลูกรังกล่อมเกลาจิตใจไปด้วย เพลินดี

แล้วมันเป็นเส้นทางที่ไม่ค่อยมีการสัญจร สงบเงียบ มีสมาธิในการปั่นมาก


ช่วงนี้ วิวก็จะเป็นทุงนาสีเขียวเป็นหลักครับ ดูสดชื่นมาก


ถนนลูกรัง สลับปูน แล้วแต่ว่า อบต. จะมีงบ หรือหมดงบ


ช่วงนี้ ผจญภัยด้วยยางโทนเกียร์ 29 ตลอดเลยครับ สนุกมาก


ไปมั่วซั่วเลยครับ ไม่รู้ทางหรอก บางทีปั่นไป ก็ไปเจอทางตัน


สลับกลับมาโหมดลูกรังอีกครั้ง


เมฆดำๆ มีอยู่เต็มท้องฟ้าเลย แต่มีเป็นหย่อมๆ


นั่นไงครับ ฝนตกอยู่ตรงโน้น


วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะตามหาฝนหรอกครับ บังเอิญต้องปั่นไปทางนั้นพอดี เป็นทางกลับบ้าน

ในกระสอบนั่น เป็นหินครับ ชาวบ้านทนความขรุขระไม่ไหว เลยเอาหินใส่กระสอบมาอุดหลุม


รถสีน้ำเงิน ตัดกับฉากสีเขียว


เปลี่ยนเข้าสู่โหมดถนนปูน


ผมก็ปั่นด้วยเกียร์สูงแทบตลอดทางครับ เพราะถนนมันค่อนข้างเรียบ ทั้งปูน และลูกรัง


ตอนนี้มุ่งหน้าเข้าหาฝนแล้วครับ


เส้นนี้ ลูกรังยาวเลยครับ


ขาจาน 150mm เกียร์สูง ทางลูกรัง มันมากครับ


ไม่รู้จะไปโผล่ไหน


ผ่านชุมชน มีวัด เลยแวะพัก


ทุกๆ 1 ปี ต้องเติมน้ำมันเกียร์เพิ่มเข้าไป เพราะเวลาปั่น

น้ำมันมันจะซึมๆ ออกมาจากตัวเกียร์ตลอด ต้องเติมไปชดเชยส่วนที่พร่องไป

ก็ถือว่า ไม่มีอะไรต้องดูแลมากมาย ที่เหลือก็ปั่นอย่างเดียว


ออกจากวัด มีคนสะกดรอยครับ เลยแอบถ่ายไว้


ปั่นไปปั่นมา ก็จะมาโผล่ที่ รันเวย์แสนสุขอีกแล้ว


ทีนี้ก็รู้ทางแล้วหละ ปั่นกลับทางวัดป่าดีกว่า


พลาดท่าอย่างหนัก ตกหลุมมองไม่เห็น หลุ่มลึก อยู่ตรงเบาะในภาพครับ หญ้าบังอยู่


ตั้งใจจะลุยขึ้นสะพานนี้เลยด้วยซ้ำ แต่ตกหลุมไปก่อน


ผ่านเส้นทางออฟโรดโหดเล็กน้อย


อยางได้เส้นทางแบบนี้แหละครับ ยาวๆ ไม่รู้จะไปหาที่ไหน

ฝนมันตกอยู่แถวบ้านผมเองครับ มาถึงก็สายไปแล้ว


มันตกเสร็จไปแล้ว เลยอดได้รับความชุ่มฉ่ำ

แล้วพบกันใหม่บล็อกหน้าครับ






 

Create Date : 21 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 21 กรกฎาคม 2555 11:52:46 น.
Counter : 1556 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  

RouteRaideR
Location :
อุบลราชธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




จักรยาน มีล้อเดียว มันเสียวล้ม
ต้องเพาะบ่ม หมั่นฝึกฝน จนคล่องแข็ง
จะได้ขี่ กระโดดเด้ง เร่งหลบแซง
แม้หลุมแอ่ง อุปสรรค กล้าเิผชิญ

ขี่เก่งแล้ว ก็ค่อยออก ไปเที่ยวเล่น
ปั่นแล้วเป็น เหมือนบินลิ่ว ปลิวลมเหิน
นั่งตัวตรง ไม่มีแฮนด์ เป็นส่วนเกิน
ชมวิวเพลิน ผจญภัย ไม่เบื่อเลย

by RouteRaideR
Friends' blogs
[Add RouteRaideR's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.