Ride to Raid
Group Blog
 
All Blogs
 
วิถีผู้กล้า ตอน "ยางโทน 26 ออฟโรดหน้าฝน"

สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์ หายไปนาน เพราะไม่มีประเด็นใหม่จะมาเขียน

วันนี้ น่าจะพอมีประเด็นใหม่ๆ บ้าง งั้นเข้าเรื่องเลยดีกว่า


ถ้าจะออฟโรด หน้าฝน ก็ควรจะเลือกคันที่มีดอกยางหนามๆ หน่อย


วันนี้ ยางโทน 26 ได้เป็นพระเอกครับ


เป็นช่วงเย็น แต่แดดก็ยังแรงอยู่


วันนี้มากับขาจานตัวใหม่นะครับ ระยะ 137/165mm สองรู

ออกจากบ้าน บนทางเรียบ ใช้ระยะ 137mm ปั่นครับ

ลองนับรอบเท้าตัวเองปั่นแบบสบายๆ ใน 1 นาที จะได้ประมาณ 103 rpm

ก็ได้ความเร็วประมาณ 12.8 kph

ถ้าเร่งหน่อย ก็ได้ประมาณ 115 rmp ก็จะเร็วได้เป็นประมาณ 14.3 kph


แวะถ่ายรูป กับสะพานไม้ ไม่กล้าปั่นข้ามนะครับ สะพานมันไม่แน่นไม่นิ่ง


ภาพเก่า ที่มาครั้งก่อน เคยใช้เบาะเหลือง เข้ากับล้อเหลือง

แต่ดูไปดูมา มันเหลืองไปหน่อย ตอนนี้เลยเปลี่ยนแล้วครับ


เส้นทางข้างหน้า จะเป็นด่านออฟโรดโหดแล้ว ต้องปรับระยะขาจาน ให้ยาวขึ้น


จาก 137mm เป็น 165mm จะได้มีแรงปีนข้ามอุปสรรคได้มากขึ้น

แต่ก็จะเดินทางได้ช้าลงไปอีก


กรณีที่ต้องถอดบันไดเข้าออกบ่อย ผมแนะนำให้ใช้ประแจหกเหลี่ยมนะครับ

มันพกง่าย เล็ก และเบากว่าประแจแบบก้ามปู


บันไดรุ่นดีๆ ด้านหลังจะเป็นรูน๊อต 6 เหลี่ยม ไว้รองรับประแจหกเหลี่ยม


ลุยต่อเลยครับ


บรรยากาศบนด่านคันนามรณะ


มัวแต่ห่วงถ่ายรูป เลยล้มไปเลย


อุปสรรคหนึ่ง เวลาหน้าฝน คือหญ้ามันจะรกครับ

มองเส้นทาง มองหลุมบ่อลำบากมาก ทำให้พลาด

แล้ววันนี้เติมลมมาแข็งไปด้วยครับ 25 psi (จริงๆ ถือว่าอ่อนแล้ว สำหรับจักรยานทั่วไป)

เวลาตกหลุม หรือประทะเนินต่างๆ มันกระด้างสะเทือนไปหมด

ควบคุมรถยาก ตรงจุดนี้ ผมเลยตัดสินใจปล่อยลมออกอีก

ให้ยางมันอ่อนๆ น่าจะเหลือประมาณ 20-22 psi

พอดีเป็นยางแก้มใหญ่ เลยใช้ลมอ่อนได้ครับ มีระยะยุบตัวเยอะ


อุปสรรคใหญ่ สำหรับหน้าฝน ก็คือสภาพน้ำขัง และถนนเละีนี่แหละครับ

ด่านนี้ ต้องตั้งสมาธิดีๆ ก่อนปั่นผ่านเลยครับ เลือกลายที่เซฟที่สุด


หลังจากปล่อยลมออกแล้ว ยางอ่อนๆ ช่วยได้เยอะเลยครับ

บนถนนขรุขระ ปั่นผ่านแล้ว มันจะกระเด้งกระดอนน้อยลง นุ่มนวลขึ้น


ลายนี้ พลาด ว่าจะไต่ข้าม ระหว่างร่องน้ำ กับร่องแห้ง

แต่โคลนมันลื่น ทำให้แฉลบลงน้ำเสียหลักไป


ดอกยางแบบหนามๆ มันจะช่วยจิกดินได้ดีกว่า

แต่เวลาเอาไปปั่นทางเรียบ มันก็เกิดแรงต้านมาก

ยิ่งถ้าใช้ลมอ่อน ยิ่งหนืด ดังนั้น ดอกยางแบบนี้ เหมาะกับทางวิบากเท่านั้นครับ


ในอนาคต เส้นทางนี้จะยากกว่าเดิมมากครับ

เพราะมีการนำเศษปูนมาทิ้งเป็นทาง แล้วก้อนมันใหญ่

จะเกลี่ยให้เรียบ น่าจะยากอยู่ ไว้วันหลังมาฝ่าด่านดู


ก็ปั่นไปเรื่อยๆ ครับ ชมวิว ชมวิถีชาวบ้าน


คนนี้กำลังหว่างปุ๋ย


แผ่นซีดีครับ ไม่แน่ใจว่าใช่ไล่แมลงหรือเปล่า

แล้วมันได้ผลเหรอเนี่ย


หน้าฝนดีอย่าง ตรงจุดที่เคยเป็นทราย ดินมันจะแน่นขึ้น ปั่นง่่าย


ปั่นแบบโดดเดี่ยว เอกา


ปั่นไปปั่นมา ทางชักเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ


ลายที่ดินแน่นที่สุด ก็ถูกรถไถทำให้เป็นลูกระนาดไปแล้ว


ไม่ไหวแล้วครับ ตรงนี้จูงเอา ทั้งขรุขระ ทั้งลื่น ทั้งเละ


ยางดอกหนาม ช่วยอะไรไม่ได้แล้วหละครับ

กลายเป็นเพิ่มภาระ เก็บเอาดินขึ้นมาพอก ทำให้รถหนักขึ้นมาก

แล้วดอกยางก็หายไปหมด มีค่าเท่ากับไม่มีดอกยาง


ด่านต่อมา ทางดีขึ้นแล้วครับ


ผมว่าจะไปยืนถ่ายใต่สะพานนะครับ แต่เกรงใจ กลัวโดนปุ๋ยคน


ลมยางอ่อนๆ ช่วยได้เยอะเลยครับ กับด่านที่หินเยอะๆ แบบนี้


ผมชอบด่าน single track มรณะมาก

เพราะเราไม่ต้องคิดมาก มันมีลายเดียว ปั่นลุยไปเลย


ความยาก อยู่ที่การคุมรถ ให้อยู่ในลายให้ได้ตลอด

ถ้าออกนอกเส้นทาง มันก็ยิ่งขรุขระ


แบบนี้ ถ้าออกนอกเส้นทาง ก็คือเข้าป่าครับ


เพิ่มบรรยากาศ ให้ด่านดูมรณะสมชื่อมากขึ้น ด้วยกะโหลกแมว

ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอก เอามาหารูปเปรียบเทียบในเน็ต

อุตส่าเก็บกลับมาด้วย นึกว่าจะเป็นกะโหลดสัตว์ประหลาดอะไร


ช่วงนี้ เป็นการปั่นขากลับแล้วครับ อยู่อีกฝั่งของทางรถไฟแล้ว


เนื่องจากขาจานระยะ 165mm มันเดินทางได้ช้ามาก กลัวจะมืดก่อน

เลยปรับเป็น 137mm เพื่อรีบกลับบ้าน

ตอนนี้เจ็บก้นแล้วด้วยครับ เลยอยากรีบกลับ


ไ่ม่ว่าจะระยะ 165mm หรือ 137mm ก็ถือว่าเป็นระยะที่ค่อนข้างยาว

ทำให้ปั่นได้ไม่เร็วนัก แต่มันก็มีแค่สองรู ปรับสั้นกว่านี้ไม่ได้แล้วครับ


สำหรับยางโทน พอก้นระบมแล้ว ลำบากครับ

จะหยุดพัก ก็ยิ่งเสียเวลา จะยืนปล่อยฟรีเหมือนสองล้อก็ไม่ได้

จะยืนปั่น ก็ปวดขามาก นั่งปั่นออฟโรดก็ปวดขาพออยู่แล้ว

ตอนนี้อยากกลับบ้านสุดๆ มาไกลไปหน่อย


ภาพด่านโหดด่านสุดท้าย ก่อนขึ้นถนนใหญ่กลับบ้าน


รอดมาได้แล้วครับ เหนื่อยสุดๆ ต้องมาล้างรถอีก

แต่ก็ล้างง่ายมากครับ ฉีดๆ เช็ดๆ นิดหน่อยก็เสร็จแล้ว

สรุปว่า กับยางโทน 26 คันนี้ จะไม่ไปไกลอีกแล้วครับ มันช้า

แต่สำหรับการปั่นออฟโรดแล้ว สนุกมากครับ

แล้วพบกันใหม่บล็อกหน้าครับ





Create Date : 31 พฤษภาคม 2555
Last Update : 31 พฤษภาคม 2555 13:46:02 น. 0 comments
Counter : 2847 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

RouteRaideR
Location :
อุบลราชธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




จักรยาน มีล้อเดียว มันเสียวล้ม
ต้องเพาะบ่ม หมั่นฝึกฝน จนคล่องแข็ง
จะได้ขี่ กระโดดเด้ง เร่งหลบแซง
แม้หลุมแอ่ง อุปสรรค กล้าเิผชิญ

ขี่เก่งแล้ว ก็ค่อยออก ไปเที่ยวเล่น
ปั่นแล้วเป็น เหมือนบินลิ่ว ปลิวลมเหิน
นั่งตัวตรง ไม่มีแฮนด์ เป็นส่วนเกิน
ชมวิวเพลิน ผจญภัย ไม่เบื่อเลย

by RouteRaideR
Friends' blogs
[Add RouteRaideR's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.