Ride to Raid
Group Blog
 
All Blogs
 
วิถีผู้กล้า ตอน "ล้อเดียว 29 นิ้ว กับสองล้อ 26 นิ้ว เร็วต่างกันแค่ไหน มีข้อสรุปครับ"

สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์ กลับมากับตอนสุดท้ายของการปั่นแบบ super marathon นะครับ


จากจุดสีส้ม ซ้ายบนของแผนที่ ทวนเข็มกลับลงมาที่จุดสีเขียว


จากการปั่นรอบถนนสาย 231 มา ผมเห็นหลักกิโลเมตรที่ 46 ไม่เห็นหลักที่ 0 แล้วก็ไปเห็นหลักที่ 1 เลย เข้าใจว่าครบวงแหวนจะได้ประมาณ 47 km รวมกับระยะปั่นกลับบ้านอีกก็คงจะประมาณสัก 48 km


ปั่นมาถึงจุดสีขาว ไฟสว่างดี เลยแวะพัก ไม่งั้นอาการเจ็บก้นจะกำเริมหนัก ถ้าไปหนักเอาช่วงถนนมืดๆ ก็ไม่รู้จะลงจอดตรงไหน


ตอนนี้เวลาประมาณทุ่มกว่า ถนนโล่ง ไม่ค่อยมีรถ


ตอนนี้ผมทำให้ล้อหมุนมานานประมาณ 2 ชั่วโมง 49 นาที


เก็บระยะทางมาได้เกือบ 40 km แล้ว ระยะมาราธอนอยู่ที่ 42.195 km เกินแน่นอนครับ เหลืออีกแค่ประมาณ 2 km เอง ได้อยู่แล้ว


ความเร็วเฉลี่ย 14.1 km/hr


ไฟฉาย จำเป็นกับทริปนี้มาก ใช้งานหนักมาตลอดทาง สายขาดเลยครับ ก็ต้องถือแบบไม่มีสายคล้องที่นิ้ว ถ้าทำหล่นก็จบเลย ต้องระวังให้มากขึ้น


จักรยานล้อเดียว เหนือยกว่าสองล้อหลายเท่า ผมยืนยัน เพราะผมปั่นมาแล้วทั้งสองประเภท ล้อเดียวใช้กำลังขาเยอะกว่ามาก

ไม่มีเกียร์ ปั่นในอัตรา 1:1 เท่านั้น อยากช้า อยากเร็ว ก็ควบคุมที่ขา
อยากเบรก ก็ใช้ขาในการหยุดล้อ ขาจึงทำงานหนักตลอดการเดินทาง

แต่การจอดพัก กลับไม่ใช่ขาที่เป็นปัญหา เพราะถึงกล้ามเนื้อขาจะล้ามากเพียงได มันก็ยังพอไหว แต่กลับเป็นก้นที่ไม่ไหว เพราะมันถูกกดทับเป็นเวลานานๆ จนเจ็บปวดไปหมด ไม่สามารถปั่นต่อเนื่องได้ เท่าที่ผมประมาณดู น่าจะสัก 10-15 km ก็ควรจะจอดพักก้น ไม่งั้นไม่ไหวจริงๆ ครับ

ช่วงพักไม่มีอะไรทำ ก็โชว์อุปกรณ์เสริม ในภาพเป็นแถบสะท้อนแสง ไว้รัดขายามกลางคืน ช่วยสะท้อนแสงได้ดีครับ (ถ้าขนเยอะเกินไปต้องขออภัย ไม่ได้ตั้งใจ มันงอกเอง)


พักเสร็จ ก็ไปต่อ เลยจุดสีขาวลงมา ก็จะข้ามแม่น้ำครับ


จนมาถึงจุดสีน้ำตาล ซึ่งเป็นสะพานข้ามทางรถไฟ


ใกล้จะวนกลับไปที่จุดเขียวแล้ว


แยกสุดท้าย ก่อนเลี้ยวซ้ายกลับบ้าน


เมื่อกลับมาถึงจุดเขียว ที่เป็นจุด start ก็เก็บสถิติทันทีครับ ผมทำการปั่นไปทั้งสิ้นประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง


ปั่นรวมระยะทางทั้งสิ้น 48.67 km เกินระยะมาราธอน และเป็นสถิติการปั่นล้อเดียวที่ไกลที่สุดในชีวิตแล้วครับ สำหรับตอนนี้


ความเร็วเฉลี่ย อยู่ที่ 14 km/hr บนจักรยานล้อเดียวขนาด 29 นิ้ว ระยะ crank 125 mm


แต่ทั้งหมดนั่น ไม่ใช่สถิติอย่างเป็นทางการ เพราะเป็นการวัดเฉพาะเวลาที่ล้อหมุนเท่านั้น จริงๆ แล้วผมออกเดินทางประมาณ 16 น. จบที่ 20 น. ใช้เวลาไปทั้งหมดประมาณ 4 ชั่วโมง ถ้านำข้อมูลทั้งหมด มาคำนวณใหม่ จะได้ดังนี้ครับ

1) ใช้เวลาในการเดินทางทั้งสิ้นประมาณ 4 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็นเวลาปั่น 3.5 ชั่วโมง และเวลาพักอีกรวมแล้ว ครึ่งชั่วโมง

2) เก็บระยะทางไป 48.67 km แต่ไม่ได้ปั่นต่อเนื่อง มีจอดพัก

3) นำ 48.67 หารด้วย 4 จะได้ความเร็วเฉลี่ยแท้จริงที่ 12.17 km/hr เพราะต้องรวมเวลาที่หยุดรถด้วย


ค่าที่ได้ จะได้นำมาเทียบกับสองล้อได้ เพราะสองล้อผมเคยไปเส้นทางเดียวกันนี้ ทดสอบมา 2 ครั้ง และสองล้อสามารถปั่นต่อเนื่อง โดยไม่ต้องจอดพัก


ปั่นสองล้อ MTB 26 นิ้ว ครั้งแรก ได้ระยะทาง 47.92 km

บางท่านอาจจะสงสัย ว่าทำไมระยะทางต่างจากล้อเดียวอยู่บ้าง อาจเพราะขนาดล้อไม่เท่ากัน ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนจากการตั้งค่าในเครื่องวัด หรือถ้าตั้งค่าได้แม่นยำแล้ว แต่จักรยานล้อเดียว เวลาปั่น ล้อจะแกว่ง ทำใ้ห้ระยะทางจะได้เพิ่มกว่าสองล้อเล็กน้อย เพราะสองล้อ ล้อจะแกว่งน้อยกว่า ยิ่งติดเซ็นเซอร์ให้ล้อหลัง ยิ่งล้อไม่แกว่งเลย แม่นยำที่สุด


ความเร็วเฉลี่ยของสองล้อ ครั้งแรกทำได้ 19.6 km/hr


ปั่นสองล้อครั้งที่สอง เก็บระยะทางได้ 48.16 km ครั้งนี้ได้ระยะทางเพิ่ม เพราะเป็นการปั่นตามเข็มนาฬิกา ก็เหมือนได้ปั่นวงนอกของถนนวงแหวน ทำให้ได้ระยะมากกว่าปั่นวงใน


และเนื่องจากตั้งใจปั่น เพื่อเก็บสถิติให้ดีที่สุด ความเร็วเฉลี่ยจึงดีขึ้นอีกหน่อย ได้อยู่ที่ 21.3 km/hr

ใช้เวลาปั่นแค่สองชั่วโมงกว่าๆ สำหรับสองล้อ

เมื่อมาเปรียบเทียบกันดู ระหว่างล้อเดียว 29 นิ้ว กับสองล้อ 26 นิ้ว พบความแตกต่างดังนี้ครับ

1) ล้อเดียวเหนื่อยกว่ามาก เจ็บก้นมาก จนต้องจอดพัก ส่วนสองล้อก็เหนื่อย แต่ก็ยังไหว เจ็บก้นก็ไม่มากเท่า ทนได้ ปั่นต่อเนื่องได้ตลอดระยะทาง

2) ล้อเดียวทำความเร็วได้ประมาณ 12 km/hr สองล้อทำได้ประมาณ 20 km/hr เทียบกันไม่ได้เลย ถึงแม้ผมจะใช้ล้อเดียวขนาด 36 นิ้ว ถึงแม้ความเร็วจะเพิ่มขึ้น แต่้ล้อเดียวก็ติดตรงที่เจ็บก้น แล้วไม่สามารถยืนพักปล่อยฟรีขณะปั่นได้ ยังไงก็คงไม่สามารถออกทริปปั่นต่อเนื่องกัีบสองล้อได้แน่

3) ล้อเดียวใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง สองล้อใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงกว่า ต่างกันเกือบครึ่งต่อครึ่ง

ที่สรุปให้ดู ล้อเดียวเสียเปรียบทุกอย่างครับ แ่ต่สำหรับผมแล้ว ผมชอบล้อเีดียวในเรื่องความท้าทาย และความรู้สึกที่แตกต่างจากสองล้อ ทำให้ยังคงขี่ต่อไปเรื่อยๆ แต่ก็เข็ดแล้วหละครับ สำหรับการปั่นล้อเดียวระยะมาราธอนแบบนี้ เพราะมันทำผมเจ็บก้นอย่างมาก เจ็บกล้ามเนื้อขาด้วย แต่ไม่มาก

ยังไง ถ้าจะปั่นมาราธอนอีกที ขอให้มีล้อเดียวขนาด 36 นิ้วก่อนก็แล้วกันครับ



Create Date : 27 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2554 23:32:13 น. 2 comments
Counter : 3352 Pageviews.

 
ผมเองก็อยากลองขี่ล้อเดียวนะครับแต่ ไม่รู้จะหาซื้อที่ไหนดี บ้านนอกไม่มีครับ


โดย: กร IP: 122.155.36.163 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2554 เวลา:7:22:20 น.  

 
สุดยอดเลยครับคุณรุต ทำสถิติ ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จากดอยสุเทพ มาถึง มาราธอน นับถือจิงๆ ผมอยากปั่นบ้างแต่ยังไม่มีจิตใจที่แน่วแน่เท่าคุณรุตเลย แต่อย่างไรจะหาโอกาศทำบ้างครับ มี 36" แต่ัยังไม่เคยใช้ให้เกิดประโยชน์ มากๆ อยางนี้สักทีเรา หุ หุ


โดย: ป้อ ล้อเดียว IP: 202.149.29.81 วันที่: 16 ธันวาคม 2554 เวลา:10:35:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

RouteRaideR
Location :
อุบลราชธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




จักรยาน มีล้อเดียว มันเสียวล้ม
ต้องเพาะบ่ม หมั่นฝึกฝน จนคล่องแข็ง
จะได้ขี่ กระโดดเด้ง เร่งหลบแซง
แม้หลุมแอ่ง อุปสรรค กล้าเิผชิญ

ขี่เก่งแล้ว ก็ค่อยออก ไปเที่ยวเล่น
ปั่นแล้วเป็น เหมือนบินลิ่ว ปลิวลมเหิน
นั่งตัวตรง ไม่มีแฮนด์ เป็นส่วนเกิน
ชมวิวเพลิน ผจญภัย ไม่เบื่อเลย

by RouteRaideR
Friends' blogs
[Add RouteRaideR's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.