กลับมาต่อ จากบล็อกก่อน กับการตามรอย ATU (All Terrain Unicycle)

เพื่อยืนยันถึงความแตกต่าง ระหว่างยางใหญ่ กับยางเล็ก

ในด่านดงหญ้ามรณะนั้น ความยากอยู่ที่เรามองไม่เห็นพื้นผิวความขรุขระ ต้องลุยไปแบบเดาๆ

จึงไม่แปลก ที่ ATU ที่ใช้ยาง 26x3.8 จะผ่านได้ง่ายกว่า เนื่องจากมียางอ้วนๆ ช่วยซับแรงกระแทก

ในขณะที่ยางโทนเกียร์ 29 เล่นที่ลมยางอ่อนมากไม่ได้ เพราะระยะยุบของยางมีน้อยกว่า

ทำให้ผ่านด่านดงหญ้ามรณะได้ยากกว่า มาได้เกือบจะจบด่านแล้ว พลาดไปนิดเดียว

ยาง 29x2.3

รถไฟมาพอดี

อันนี้พลาดจากจังหวะเปลี่ยนเกียร์ เห็นลายมันเรียบดี อยากจะขึ้นเกียร์สูง

ปั่นเร็วไปหน่อย พอตอกเกียร์เข้าแล้วรับมือกับอัตราทดใหม่ไม่ทัีน ก็เลยพลาดไป

ขี่ยางโทนเกียร์ 29 มาจะเป็นปีแล้วครับ ยังไม่ 100% เลย สำหรับการเปลี่ยนเกียร์

ก็ต้องฝึกไปเรื่อยๆ ครับ นี่แหละเป็นสเนห์ของยางโทน

ที่เกียร์สูง บนทางลูกรัง ยางโทนเกียร์ 29 ปั่นได้มันที่สุดครับ เพราะ

1) ยางโทนเกียร์ 26 ล้อเล็กกว่า ช้ากว่า อำนาจการกลิ้งผ่านน้อยกว่า

2) ATU ยางใหญ่อ้วนเกินไป ทำให้อืดอาด ปั่นได้ไม่ไว กินแรงมาก แ้ม้จะนุ่มนวลกว่าก็ตาม

ปกติ ถ้าเจอทราย ผมจะพยายามหลีกเลี่ยนนะครับ

แต่วันนี้เป็นปฏิบัติการตามรอย ATU ก็ต้องลองลุยดู เพื่อให้รู้ชัด ว่ามันจะต่างกันมากน้องอย่างไร

ผลคือ ล้อมีอาการสะดุ้งทรายครับ คุมไม่อยู่ 

ยิ่งปั่นมาเร็วๆ พอล้อมันเริ่มเป๋ออกจากแนวการขี่ก็เรียบร้อยทันทีครับ

ในขณะที่ ถ้าเป็น ATU กับด่านทรายตื้นๆ แบบนี้ ไม่มีปัญหาครับ

ให้ดูเทคนิคการให้น้ำแบบหยด

มาถึงด่านโคลนแข็งมรณะ พลาดอีกแล้ว โดนย้ำแค้นประจำเลยครับ สำหรับด่านนี้

วันนี้ล้มบ่อยจริงๆ ครับ สงสัยฟอร์มตกด้วย

อันนี้ไม่แน่ใจว่าสะดุดอะไร สงสัยจะเป็นยอดหญ้า

ด่านทรายก่อสร้างมรณะ ปั่น ATU ผ่านสบายเลยครับ

ผมก็พยายามเต็มที่แล้วครับ สำหรับยางโทนเกียร์ 29 เกือบจะผ่านได้อยู่แล้ว

แต่มันก็เป๋มาตั้งแต่กลางด่านแล้วหละครับ สุดทายก็พลาดไป นิดเดียวจริงๆ

ไปกันต่อครับ ล้มลุกคลุกคลานจริงๆ สำหรับบล็อกนี้

พูดไม่ทันขาดคำ เอาอีกรอบ

ผ่่านด่านปุ๋ยคนมรณะไป ก็จะถึงด่านทรายดูดมรณะครับ

ด่านทรายดูดมรณะ รู้ตัวดีว่า ยางโทนเกียร์ 29 ผ่านยากอยู่แล้ว

ผมก็พยายามดูลายที่ทรายตื้นที่สุด ตั้งใจเต็มที่ครับ แต่ก็ไปได้แค่ครึ่งด่าน ไม่รอด

ในขณะที่ ATU ใช้ขาจานระยะ 165mm ผ่านฉลุย

มาถึงสถานีบุ่งหวายแล้วครับ วันนี้กะจะปั่นออนโรดกลับ

เพราะยางโทนเกียร์ 29 ทำผลงานได้ดีบนทางเรียบ

ถ้าเป็น ATU ผมก็คงกลับทางเก่า เพราะมันอืดอาดบนทางเรียบ แถมกินแรงด้วย

อ้อมไกลอยู่เหมือนกันครับ สำหรับขากลับ เวลาก็บีบด้วย เพราะจะมืดแล้ว วันนี้ออกจากบ้านมาเย็นมาก

อัดเกียร์สูงอย่างเดียวเลยครับ

สำหรับผมแล้ว การปั่นออนโรดมันน่าเบื่อมาก เพราะมันก็คือปั่นไปเรื่อยๆ

ไม่มีด่านต่างๆ ให้ได้ฝ่า ใ้ห้ได้ตื่นเต้นเหมือนออฟโรดที่มีด่านมรณะมากมาย

อ้อมกลับมาจนถึงเส้นทางที่คุ้นเคย แต่ว่าตอนนี้ฟ้ามืดแล้วหละครับ ยังเหลือระยะอีกไกลเลย

แต่ก็โชคดีีที่เป็นเส้นทางที่่คุ้นเคยแล้ว พอเดาๆ ไปได้

แล้วพบกันได้ใหม่ บล็อกหน้าครับ