Ride to Raid
Group Blog
 
All Blogs
 
วิถีผู้กล้า ตอน "ยางโทน 24 ออฟโรด"

สวัสดีครับ ผมรุตเรเดอร์

บล็อกนี้จะเป็นการนำยางโทน 24 ออกปั่นผจญภัยจริงๆ จังๆ


คันซ้ายสุด เป็นพระเอกสำหรับบล็อกนี้

ยางหน้ากว้าง 3 นิ้ว กว้างที่สุดเท่าที่ผมมี จะช่วยให้ปั่นออฟโรดได้สนุกแค่ไหน มาดูกัน


ยางยิ่งอ้วน ยิ่งทำให้เราสามารถเล่นที่ความดันลมอ่อนๆ ได้

สำหรับยางโทน 24 คันนี้ ผมใช้อยู่แค่ประมาณ 15 psi

นุ่มนวลดีมาก กระโดดก็ง่าย


ก่อนจะไปถึงด่านออฟโรด ก็ต้องปั่นออนโรดก่อน จำเป็นต้องปรับระยะขาจานให้สั้นไว้ก่อน

เพื่อให้ออนโรดได้ไวหน่อย ตอนนี้ระยะขาจานอยู่ที่รูใน 125mm ครับ


ที่ยางโทน 24 ไม่ค่อยถูกเลือก ในเรื่องของการปั่นเดินทาง เพราะล้อมันเล็ก ช้า

แม้ขาจานจะสั้นแล้ว ก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก


ยางลมอ่อน อาจจะปั่นหนืดไปบ้าง สำหรับทางออนโรด

แต่ก็ไม่เป็นปัญหา ในเมือเรามาเพื่อออกกำลังกายอยู่แล้ว


ปกติแล้ว ล้อเล็ก เวลาผ่านความขรุขระ ความนุ่มนวลสู้ล้อใหญ่ไม่ได้

แต่พอได้ลมยางอ่อนๆ ช่วย ก็นุ่มนวลไม่แพ้กันเลย


ออนโรดช้ามาก เพราะมันถูกเปรียบเที่ยบกับอีก 3 คันที่ผมมี

ทำให้ทริปนี้ ระยะทางรวมไม่น่าเกิน 8 km


เมื่อมันเดินทางได้ช้า ในระยะทางเดียวกัน เวลาที่ใช้ในการนั่งอยู่บนเบาะก็นานกว่า

ผลคือ เจ็บก้นในขณะที่เดินทางยังไม่ถึงไหนเลย


ตอนนี้เข้าด่านออฟโรดที่อยากทดสอบปั่นแล้วหละครับ


กับทางออฟโรดที่ไม่โหดมาก ขาจานระยะ 125mm กับล้อขนาด 24 นิ้ว ก็เล่นไม่ยาก


น้ำยังมีให้เห็น


แฟนคลับ มารอชมการปั่น


ล้อ 24 นิ้ว มันเป็นขนาดที่ขี่ง่าย เล่นง่าย

พอได้ใส่ยางอ้วนๆ ลมอ่อนๆ แล้วมาปั่นออฟโรด สนุกเลยครับ


นุมนวล ควบคุมง่าย

ค่อยๆ ฝ่าด่านโหดไป ช้าๆ ชัวร์ๆ


ตอนนี้ทางเริ่มยากขึ้น


ก็ปรับขาจานไปที่ระยะ 150mm จะได้ปั่นลื่นขึ้น งัดล้อขึ้นจากหลุมบ่อได้ง่ายกว่า

สะดุดอุปสรรคต่างๆ ได้ยากกว่า


แต่ก็สะดุดอยู่ดี เพราะหญ้ารกมันมองหลุมยาก


ไม่มีคันไหนที่สมบูรณ์แบบ ต้องเลือกให้ถูกกับงาน

ถ้าต้องการความควบคุมง่าย ได้ดังใจบนเส้นทางออฟโรด ล้อ 24 นิ้วคือคำตอบ


แต่ถ้าอยากได้ความเร็วจากล้อ 24 นิ้ว ก็คงไม่ได้


อากาศเย็นแล้วครับช่วงนี้ ปั่นสนุกมาก ไม่เปลืองน้ำ


ฝ่าดงไฟมรณะ


ไปข้างหน้าอีกหน่อยก็ต้องวกกลับแล้วหละครับ ไม่งั้นจะมืดซะก่อน


เส้นทางอีกฝั่งที่ผมจะใช้ปั่นขากลับ ไม่รู้จะใช้ได้หรือยัง เพราะอาจยังมีน้ำขังอยู่


ฝ่าด่านตอซังมรณะ ไม่รอด


เป็นไปตามคาด น้ำยังไม่แห้ง


ผมปั่นอยู่ระหว่างสองข้างของทางรถไฟ ตอนนี้กำลังปั่นขากลับ


ข้ามไปกลับทางเก่าดีกว่า


ฝ่าดงน้ำไม่ไหว เลยต้องกลับมาฝ่าดงไฟมรณะแทน


นี่แหละ ต้นเหตุของหมอกควัน


ยางหน้ากว้าง จัดท่าดีๆ ก็ตั้งได้ไม่ยาก


ระยะทางที่เหลือข้างหน้า ทางไม่โหดแล้ว


ปรับขาจานกลับไปที่ 125mm จะได้กลับบ้านได้ไวขึ้นหน่อย ฟ้าจะมืดแล้ว


สะพานอันนี้ปั่นไม่ได้นะครับ ต้องเดินย่องๆ เอา กลัวมันพัง


สรุปแล้ว ล้อ 24 นิ้ว ปั่นออฟโรดสนุกมากครับ ควบคุมง่าย ได้ดังใจที่สุด ล้มยากที่สุด

แต่ขอเป็นใส่รถ แล้วเอาลงปั่น ณ ที่หมายเลยจะดีกว่า เพราะมันออนโรดช้าเกินไป


แล้วพบกันใหม่ บล็อกหน้าครับ



Create Date : 13 ธันวาคม 2555
Last Update : 13 ธันวาคม 2555 10:46:13 น. 0 comments
Counter : 1430 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

RouteRaideR
Location :
อุบลราชธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




จักรยาน มีล้อเดียว มันเสียวล้ม
ต้องเพาะบ่ม หมั่นฝึกฝน จนคล่องแข็ง
จะได้ขี่ กระโดดเด้ง เร่งหลบแซง
แม้หลุมแอ่ง อุปสรรค กล้าเิผชิญ

ขี่เก่งแล้ว ก็ค่อยออก ไปเที่ยวเล่น
ปั่นแล้วเป็น เหมือนบินลิ่ว ปลิวลมเหิน
นั่งตัวตรง ไม่มีแฮนด์ เป็นส่วนเกิน
ชมวิวเพลิน ผจญภัย ไม่เบื่อเลย

by RouteRaideR
Friends' blogs
[Add RouteRaideR's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.