หายไปนาน แอบหนีเที่ยว ก็พอดีเป็นการหลีกทางให้กีฬาโอลิมปิคด้วย

เพราะกีฬาของเรามันโนเนม เอามาลงชนโอลิมปิค กลัวไม่มีคนดู

สำหรับปฏิบัติการนอกสถานที่ครั้งที่ 8 ของผม ไปหลายที่เลยครับ

แต่ไฮไลท์อยู่ที่การพิชิตอมก๋อย ซึ่งจะอัพในบล็อกถัดๆ ไป บทแรกๆ จะเป็นการอุ่นเครื่องก่อน

ปฏิับัติการครั้งนี้ พื้นที่เป็นภูเขา ผมลังเลมากๆ ว่าเราควรจะเลือกคันไหนดี

ระหว่าง ยางโทนเกียร์ 26 ที่เหมาะจะปีนเขามากกว่า กับยางโทนเกียร์ 29 ที่เร็วกว่า

เพราะต้องมีการปั่นตามจักรยานสองล้อด้วย

แต่สุดท้าย ก็ตัดสินใจ เลือกยางโทนเกียร์ 29 ครับ

ประเมินเองในตอนนั้น ว่าเราต้องปั่นตามสองล้อ ต้องการความเร็ว เพื่อไม่ให้คอยกันนาน

และถึงแม้ว่าจะเป็นทางเขา แต่ไม่ใช่การปั่นขึ้นดอยล้วนๆ แบบดอยสุเทพ หรือดอยอินทนนท์

ผมจึงคิดว่า ยางโทนเกียร์ 29 น่าจะพอไหว

ลดหลักอานให้ต่ำที่สุด ถอดบันได แล้วหาผ้ามาห่อ แค่นี้ก็เดินทางสบายแล้วครับ

ปกติ ผมจะใช้ลมยาง แค่ 20 psi เพราะเน้นไปปั่นทางวิบาก

แต่ปฏิบัิติการคราวนี้ ปั่นออนโรดอย่างเดียว ยางแข็งหน่อย จะประหยัดแรงหว่า จึงเพิ่มเป็น 35 psi

ตัดภาพมาอีกที ตอนนี้ อยู่ที่ บขส ลำปางแล้วครับ

ขนยางโทนคู่ใจขึ้นรถทัวร์ ไม่มีค่าระวางเพิ่ม เพราะมันคันกระทัดรัด

เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ผมพกติดตัวมาด้วย ก็มี

ประแจหกเหลี่ยม สำหรับขันตัวรัดหลักอานอันนึง และสำหรับขันบันไดอันนึง

ยางในขนาด 29 นิ้ว พร้อมที่งัดยาง สำรองไว้ เผื่อยางรั่ว จะได้เปลี่ยนเลย ไม่ต้องปะ

แล้วก็สูบแบบพกพา

ถ้าย้อนกลับไปดู ภาพยางที่ผมเติมลมข้างต้น ยางในมันดันปูดออกมาทางรูที่ขอบล้อ เยอะมาก

จนผมไม่สะบายใจ เพราะยางรองขอบล้อตัวนี้ ค่อนข้างบาง

พอถอดออกมาดู ยางรองขอบล้อ ถูกดันซะจนเสียทรง กลายเป็นร่องขนมครกไปเลย

ในขณะที่ยางใน มันยืดหยุ่น คืนสภาพปกติได้

ไม่ยากครับ เอาเทปกาวสีเหลือง (จะได้สีเหมือนเดิม) พันทับไปเลยครับ จะได้ช่วยเพิ่มความหนาให้กับยางรองขอบล้อ

พอเติมลมยางในแข็งๆ มันจะได้ไม่ปูดออกทางรูมากเกินไป

เท่านี้ก็เรียบร้อยครับ สีเหลืองสวยกว่าเดิมด้วย เพราะของเดิมมันบาง สีดำจากยางในทะลุมาปนได้

เอาหละครับ ตอนนี้ได้เวลาออกวอร์มอัพแล้ว

กับปฏิบัิติการนอกสถานที่ครั้งที่ 8 บทที่ 8.1 ขึ้นดอยแท่นพระ

มี service bike ตามมาด้วย 2 คัน

ขึ้นเกียร์สูง แล้วปั่นเต็มที่เลยครับ สำหรับยางโทนเกียร์ 29

รั้วของฟาร์ม ม.แม่โจ้

ยางโทนเกียร์ 29 ทำให้ผมพอจะปั่นแจมกันสองล้อได้

ช่วงเส้นทางที่ขึ้นมายังสันเขื่อนของอ่างเก็บน้ำห้วยโจ้ จะค่อนข้างชันมาก แต่ระยะไม่ไกลนัก

ผมสามารถปั่นขึ้นมาได้ด้วยล้อ 29 นิ้ว ขาจาน 150mm

มี service bike มาด้วย ก็จะได้ภาพตัวเองเต็มๆ

จากนั้น ด่านต่อไป จะเป็นการขึ้นดอยแท่นพระครับ

เลยฤษีไป ทางจะชันขึ้นเรื่อยๆ

ผมเคยพิชิตดอยแท่นพระ ด้วยเสือภูเขาสองล้อมาแล้ว ไม่ยาก

เคยใช้ยางโทน 26 ตอนโน้นใช้ขาจาน 7 รูมหัศจรรย์ช่วย ต้องปรับขาจานยาวสุด 205mm แถมต้องปั่นซิกแซ็กช่วย

สำหรับยางโทนเกียร์ 29 รู้ตัวเลย ว่าไม่รอด ไ่ม่ได้คาดหวังด้วย

รถนำขบวนของผม ทิ้งไปไกลแล้ว ความเร็วผมเริ่มตก หัวใจเริ่มเต้นถี่

แล้วก็เรียบร้อยครับ ไม่ไหว ล้อใหญ่ ขาจานสั้น

ไม่อยากฝืนมากด้วยครับ เพราะยังมีอีกหลายบท ที่ต้องไปปั่นต่อ

ขึ้นมาได้ ด้วยการจูง

เสียดายอยู่เหมือนกัน ถ้าเป็นยางโทนเกียร์ 26 จะน่าลุ้นกว่านี้

service bike อีกคัน กำลังตามมา

สมาชิกมาครบแล้ว

ภาพบรรยากาศ บนดอยแท่นพระ

สำหรับยางโทนเกียร์ 29 แล้ว การปีนเขา ไม่ใช่งานถนัดของมัน

ถ้าอยากปีนเขา ล้อต้องเล็ก ขาจานต้องยาว จะช่วยให้ภาระกิจสำเร็จได้

ขาลงก็รู้ตัวอีกเช่นกัน ว่าไม่ไหวแน่

มันหน่วงล้อไม่อยู่ครับ ทางชันมาก แม้จะใช้เกียร์ต่ำแล้วก็ตาม

ผมจำได้ เคยไหลลงด้วยสองล้อ ความเร็วอยู่ที่ประมาณ 60 kph แล้วจะเร็วกว่านี้ด้วย ถ้าไม่มีโค้ง

พอมีโค้ง ทำให้ต้องแตะเบรก ไม่งั้นก็จะแหกโค้ง

พ้นจุดที่ชันมากไปก่อน จึงจะปั่นต่อได้

นี่แหละครับ ท่ามาตรฐานของนักปั่นยางโทน

แวะถ่ายภาพร่วมกันทั้ง 3 เสือ

จากซ้าย

เสือภูเขา 26 นิ้ว

เสือโทน 29 นิ้ว (อยากเป็นเสือกะเขาด้วย)

และเสือไบ (จักรยาน hybrid กึ่งเสือหมอบ กึ่งเืสือภูเขา) ล้อ 28 นิ้ว

มีเบื้องหลังการถ่ายทำด้วย

แล้วมาต่อบล็อกหน้าครับ กับบทที่ 8.2