คิดเขียนวันละนิด เพื่อจิตที่แจ่มใส อ่านเขียนเพียรไป หวังใจได้รื่นรมย์
Group Blog
 
All Blogs
 
ไม่รู้จะเลือกใคร มาใช้วิธีนี้..คุณแม่ขอร้องงงงงง....

ไม่รู้จะเลือกใคร มาใช้วิธีนี้..แต่อย่าโหวตโนเลยนะ..คุณแม่ขอร้อง...

ทุกคนที่เปิดบล็อก ล้วนมีความคิดและจินตนาการของตัวเอง ที่อยากเปิดเผย อยากเล่า อยาก
เขียน เพื่อแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ สู่กันฟัง โดยผ่านสายตาด้วยการอ่าน เพื่อสื่อจากใจสู่..ใจ

ผมก็เหมือนกับอีกหลายๆ คน ที่อยากจะเขียน อยากจะเล่า เรื่องราวต่างๆ ให้ผู้อื่นได้รับรู้
ทั้งบทกวี เรื่องสั้น นิยาย เท่าที่ปัญญาตัวเองจะทำได้ ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องที่กำลังหัดเขียนหัดแต่ง ยังไม่ถึงขั้นเก่งฉกาจแต่อย่างใด...แต่ก็ยังอยากเผยแพร่ ให้คนอื่นๆ ให้ใครต่อใครได้รับรู้ความคิดตัวเอง เพื่ออะไร...ก็ไม่รู้ ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็กระดากปาก...อย่ากระนั้นเลย ไม่ขอพูดดีกว่า

ไปอ่านเจอนักกวีบางท่านระดับ...กวีซีไรท์ ระบายความในใจผ่านคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งว่า...พยายามหลีกเลี่ยงเรื่องการเมือง...เหตุผลท่านไม่ได้อธิบายมากนัก แต่เดาว่า...การเมืองทุกวันนี้อันตรายเหลือเกิน..แม้แต่กวีซีไรท์ก็ยังขยาด
เพราะถ้าแสดงความคิดเห็นแบบกลางๆ..ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ก็จะถูกมองว่า..ขี้ขลาดตาขาว ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นหรือกล้าตัดสินใจ

แต่ถ้าไปแสดงความคิดเห็นเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด...อีกฝ่ายหนึ่งก็จะถือเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งทันที ซึ่งไม่เป็นผลดีต่ออาชีพนักเขียน...เพราะ..จะลามปามถึงขั้นชักชวนกลุ่มและพรรคพวกของตัวรณรงค์ต่อต้าน แอนตี้ผลงานนักเขียนคนนั้น อย่างเปิดเผยและออกหน้าออกตา ด้วยการไม่ซื้อ ไม่อ่าน ใครมีอยู่แล้วก็จะบอกให้นำไปเผาซะ...นักเขียนเลยพากันผวา

เพราะคนที่ทำมาหากินเกี่ยวกับอาชีพการเมืองนี่...เขาจะมีความกล้าหาญผิดมนุษย์มนาสามัญยิ่งนัก..เขากล้าชี้หน้าด่าทอใครต่อใคร..กล้าท้าตีท้าต่อยท้ายิงท้าแทงยังกับเป็นมนุษย์ก่อนยุคประวัติศาสตร์..
ครั้นจะอยู่เฉยๆ หรือยืนอยู่ตรงกลาง..ก็ถูกด่า...ถูกประจาน..จะไปทางไหนล้วนมีได้มีเสีย
แต่ก็มีนักเขียนหลายๆ คนกล้าตัดสินใจว่า...จะไปยืนอยู่ฝ่ายใด
คล้ายเป็นการวัดดวง เหมือนเล่นการพนัน จะได้ตลอดนั้นไม่มี...มันต้องมีได้มีเสีย..ก็เท่านั้น
แต่บางคนก็เลือกข้างไปตามกระแสว่า...ฝั่งนี้น่าจะมีภาษีดีกว่า อันตรายน้อยกว่า หรืออาจจะมีผลประโยชน์ติดปลายปากกามามากกว่า..เลยตัดสินใจแห่ตามกันไป

การเลือกตั้งที่จะมาถึงในเวลาแค่เดือนกว่าๆ นี้...บรรดานักเขียนทั้งหลายจึงไม่ค่อยมีใครกล่าวถึงการเลืกตั้งกันนัก หรือถ้าจะกล่าวก็กล่าวแบบอ้อมๆ แอ้มๆ ...ชนิดไม่เต็มปากเต็มคำดี

สำหรับผมนั้น..ไม่ค่อยจะเหมือนชาวบ้านเขาเท่าไหร่นัก เพราะมองว่า...การเมืองแม้เป็นเรื่องน่ากลัว แต่อนาคตลูกหลานเราที่จะเลวจะดีจะชั่วแค่ไหนนั้น...การเมืองมีส่วนกำหนดชะตาชีวิตของพวกเขา...นี่คือ..ความกลัวที่มีมากกว่า
ถ้าเล่นการเมืองแล้วเอาแต่..แข่งกันประชานิยม แข่งกันแจก แข่งกันแถมอย่างทุกวันนี้...อนาคตข้างหน้า ลูกหลานเราง่อยเปลี้ยเสียขาแน่ๆ และประเทศชาติก็อาจถึงขั้นล่มสลายได้ง่ายๆ กลายเป็นประเทศที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว

เพราะ..ประเทศเราไม่ใช่ประเทศร่ำรวย แต่ที่นักการเมืองคิดโครงการและคุยโวออกมาแต่ละคำนั้น...ยังกะพิมพ์ธนบัตรได้เองยังงั้นแหละ

สมัยก่อนการเลือกตั้ง พวกเราจะพูดกันว่า...ให้เลือกคนดี แต่ปัจจุบันนี้ คนดีแทบไม่มีให้เลือก ...
หรือถ้ามีก็แทบนับหัวได้...เพราะส่วนมากจะมีความเลวเข้ามาแปดเปื้อนทันทีที่ก้าวเข้ามาเล่นการเมือง

การที่คุยว่า..จะปราบคอรัปชั่น แต่ปราบไม่ได้ หรือไม่ปราบ หรือบางทีก็แกล้งเอาหูไปนาเอาตาไปไร่...แบบนี้ความเป็นคนดีก็หายไป เมื่อดีหาย..เลวก็เข้ามาแทนที่
ส่วนฝ่ายที่ต้องการกุมอำนาจรัฐกลับคืน..ก็ปลุกระดมผู้คนประท้วง ก่อกวนระราน ยิ่งกว่าอันธพาลในจอหนัง..ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้คน เผาบ้านเผาเมือง เผาศาลากลาง แล้วก็ป้ายความผิดให้รัฐ...
..รัฐหรือจะยอมรับง่ายๆ จึงแย้งว่า...เป็นแผนพวกปลุกระดมกลุ่มตัวเองนั่นแหละ...ที่ฆ่าเอง เผาเอง แล้วก็ปัดความผิดออกจากตัว...เลยไม่รู้ความจริงว่า...ใครกันแน่คือตัวการ แห่งความอำมหิตครั้งนี้

...ที่แน่ๆ ทั้งสองฝ่ายจะต้องมีคนเลวมากๆ อยู่หนึ่ง...แต่ไม่มีใครยอมรับ

เมื่อเป็นดังนี้..ความเป็นคนดีก็หายไปเช่นกัน...เมื่อดีหายก็กลายเป็นเลวเท่านั้น
ดังนั้น..เลือกตั้งที่จะใกล้จะถึงนี้ มาใช้สูตรของผมคัดเลือกคนที่จะไปทำหนาที่แทนพวกเราในสภากันเถอะ...

คือ..จงเลือกคนที่เลวน้อยที่สุด ไหนๆคนดี...ก็ไม่มีให้เลือกอีกแล้ว

อ้อ..ขอแถมอีกนิดว่า..อย่าไปเผลอโหวตโนเหมือนที่คนบางกลุ่มที่เขากำลังรณรงค์อยู่ล่ะ เพราะเป็นความคิดที่..อนุบาลจริงๆ

แม้..น้องทราย คุณแม่ขอร้อง..ตัวจริงจะล้มหายตายจากลาโลกไปแล้ว..แต่เลือกตั้งครั้งนี้ อยากจะปลุกวิญญาณ..น้องทรายขึ้นมา แล้วก็ให้พูดว่า...ถ้าไม่รู้จะเลือกใคร ก็จงเลือกคนที่เลวน้อยที่สุดเถิด...คุณแม่ขอร้อง..อีกสักครั้งจะได้ไหมหนอ ?


...รณบุตร สุดสะเหล่อ




Create Date : 23 พฤษภาคม 2554
Last Update : 23 พฤษภาคม 2554 17:59:29 น. 0 comments
Counter : 536 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รณบุตร สุดสะเหล่อ
Location :
ศรีสะเกษ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นชายหัวใจนุ้มหนุ่ม ส่วนร่างครึ่งศตวรรษนิดๆ ชอบความรื่นรมย์ทุกอย่าง แม้สิ่งนั้นจะจุดจุดจุด...ก็ตาม
เขียนวันละนิด จิตแจ่มใส อ่านวันละนิด จิตก็ใสแจ่ม
Friends' blogs
[Add รณบุตร สุดสะเหล่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.