5 ปัญหา iOS 8 ที่ควรรู้ ก่อนอัพเดต เชื่อว่าหลังจากที่ Apple ปล่อยระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุดตัวเต็มให้เหล่าบรรดาผู้ใช้ iDevices ได้ดาวน์โหลดกัน หลายท่านคงอยากจะอัพเดตเครื่องของตนให้เป็น iOS 8 เวอร์ชั่นใหม่กันทันที เพื่อที่จะได้ใช้ฟีเจอร์ และความสามารถใหม่ที่พัฒนามาล่าสุด แต่ก็เป็นปกติของทุกระบบปฏิบัติการครับ ไม่แค่แต่ iOS เท่านั้น ทั้ง Android, Windows Phone หรือแม้แต่ BlackBerry ทุกครั้งที่มีการอัพเดตใหม่ ก็จะมาพร้อมกับความไม่เสถียรในการใช้งานบางจุดเสมอ และบทความนี้จะมาแจ้งให้ผู้ที่กำลังจะอัพเดต iOS 8 บนอุปกรณ์ของตัวเอง (หรือจะเป็นผู้ที่อัพเดตไปแล้วก็ตาม) ได้ทราบว่าหากอัพ iOS 8 แล้ว คุณอาจจะพบ ปัญหา iOS 8 อะไรบ้าง 1. ถ้าคุณใช้ iPhone 4S เครื่องคุณจะช้าลง ถ้าเพื่อนของคุณที่ใช้ iPhone 4S อัพเดต iOS 8 แล้วบอกว่า เครื่องก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ ใช้งานได้ปกติดี อย่าไปเชื่อครับ เพราะจากภาพด้านบนที่ทาง ArtTechnica ได้ทดสอบ iPhone 4S ที่ใช้ iOS 8 เทียบกับ iOS 7.1.2 รันแอพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Safari ใช้กล้อง หรือเช็คเมลต่างๆ ผลปรากฏว่าทุกอย่างนี้ช้าลงหมดทั้งสิ้น ดังนั้นทางที่ดี ถ้าเป็นไปได้ หากคุณใช้ iPhone 4S อยู่ ไม่ว่าจะรัน iOS เวอร์ชั่น 7, 6 หรืออะไรอยู่ อย่าเพิ่งรีบอัพเดตครับ รอให้ Apple แก้ไขปัญหาเหล่านี้ก่อนค่อยอัพก็ยังไม่สาย 2. iOS 8 ถูกออกแบบใหม่รองรับกับหน้าจอใหญ่ของ iPhone 6 ไอโฟนรุ่นใหม่ทั้งสองรุ่น มาพร้อมหน้าจอขนาด 4.7 และ 5.5 นิ้ว ที่ใหญ่ขึ้นกว่าไอโฟนรุ่นที่ผ่านๆ มาชัดเจน ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ผู้ใช้ iPhone 4S, 5 หรือ 5S ที่มีหน้าจอ 3.5 และ 4 นิ้วอาจเจอปัญหาการใช้งานในช่วงแรกอย่างแน่นอน เพราะแอพบางแอพบนหน้าจอเหมือนจะถูกบีบให้เบียดกันบนหน้าจอ ยกตัวอย่างเช่น การพิมพ์ข้อความในอีเมล (จากภาพด้านบน) จะเห็นว่ามีข้อความที่พิมพ์เพียงบรรทัดเดียวเท่านั้น โดยคีย์บอร์ดเบียดไปหมด 3. ตอนจะอัพเดต ระบบต้องการพื้นที่ว่างในเครื่องมากเกินไป การจะอัพเดต iOS 8 ระบบจะแจ้งว่าต้องการพื้นที่ในเครื่องว่างถึง 4.7GB! ซึ่งถ้าหากคุณใช้ไอโฟนรุ่น 32GB หรือ 64GB ก็ดีไป แต่ถ้าคุณใช้รุ่น 16GB หรือแย่กว่านั้น คือรุ่น 8GB รับรองว่างานเข้าแน่นอน เพราะคุณต้องลบภาพ ลบแอพ รวมถึงข้อมูลสำคัญต่างๆ ทิ้งซะ หรือไม่ก็ต้องนั่งเสียเวลาสำรองข้อมูล (back up) เป็นชั่วโมงก่อน ถึงจะอัพเดตได้ 4. การเชื่อมต่อ Wi-Fi ของคุณอาจมีปัญหา ปัญหาการเชื่อมต่อ Wi-Fi นี้ก็เคยเกิดขึ้นตอนที่อัพเดต iOS เวอร์ชั่นก่อนเช่นกันครับ ซึ่งแม้อาจจะไม่เกิดขึ้นกับทุกคนที่อัพเดต แต่ก็มีสิทธิ์อยู่ดี โดยปัญหาก็คือคุณจะไม่สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ หรือแม้จะเชื่อมต่อได้ ความเร็วก็ยังไม่เร็ว ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี อย่างไรก็ตามปัญหานี้ทาง Apple รับทราบเรียบร้อย และเชื่อจะปล่อยอัพเดตแก้ปัญหาเร็วๆ นี้ 5. แบตหมดเร็ว ปัญหายอดฮิตของการอัพเดตใหม่ในหลายๆ ระบบปฏิบัติการ ก็คือปัญหาแบตหมดเร็วครับ ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้แค่เกิดขึ้นกับผู้ใช้ไอโฟนรุ่นก่อนๆ นะครับ แม้แต่ iPhone 6 หรือ 6 Plus ที่เพิ่งเปิดตัวก็เจอปัญหานี้เช่นกัน สรุปนะครับ หากคุณใช้ iPhone 5, 5C, 5S ทางที่ดีเราแนะนำให้รออัพเดต iOS 8 เวอร์ชั่นใหม่ ที่แก้ไขพวก bugs และปัญหาการใช้งานอื่นๆ ก่อนนะครับ แล้วค่อยดาวน์โหลด และถ้าหากคุณใช้ iPhone 4S อยู่ ส่วนตัวคิดว่า iOS 7.1.2 เวอร์ชั่นก่อนก็น่าจะใช้งานได้เสถียรกว่า iOS 8 ตอนนี้แน่นอน ซึ่งคิดว่าตัวอัพเดตเวอร์ชั่นต่อๆ ไปก็น่าจะมีมาแก้ปัญหานี้เช่นกัน source: lifehack   Create Date : 30 กันยายน 2557     0 comment Last Update : 30 กันยายน 2557 22:30:29 น.     Counter : 1371 Pageviews.   Share Tweet

iPad Air 2 เปิดตัว ตค.นี้ สเปคแจ่มกว่า i6, iPad Pro 12.9 นิ้ว เปิดตัวต้นปีหน้า!? ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ จากแหล่งข่าวจากหลายสำนักข่าวรายงานว่า Apple เตรียมเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่อย่างน้อย 1 รุ่น ซึ่งทางแหล่งข่าว TechNews ระบุว่าในเดือนหน้านี้ เราจะได้เห็น iPad Air 2 เปิดตัวเพียงตัวเดียวเท่านั้น iPad Air 2 ตามรายงานบอกว่าจะมาพร้อมกับสเปคที่แรงขึ้น อัพเกรด RAM เป็น 2GB ใช้ระบบประมวลผล Apple A8 รุ่นล่าสุด มีหน่วยความจำเท่ากับทุกรุ่นที่ขายตอนนี้ (16/32/64/128GB) มีตัวเครื่องที่บางลงกว่า iPad Air รุ่นปัจจุบัน (แต่ไม่ระบุว่านั่งทับแล้วงอง่ายเหมือน iPhone 6 Plus หรือไม่) และมี TouchID สำหรับสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม นอกจากนี้ทาง TechNews ยังระบุว่า Apple จะเปิดตัว iPad ตระกูลใหม่ iPad Pro หน้าจอยักษ์ 12.9 นิ้วในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2015 โดยคาดว่าจะมาพร้อมกับ CPU Apple A8X และอาจเปิดตัวพร้อมกับ iPad mini 3 source: bgr   Create Date : 29 กันยายน 2557     0 comment Last Update : 29 กันยายน 2557 23:10:24 น.     Counter : 906 Pageviews.   Share Tweet

iOS 8.0.2 มาแล้ว! แก้ไขปัญหาใหญ่ของ 8.01 ทันใจ หลังจากทาง Apple ได้แนะนำให้ผู้อัพ iOS 8.0.1 ที่เจอบัคปัญหาต่างๆ กลับไปลง iOS 8 เมื่อวานนี้ วันนี้ Apple ก็ได้ออกอัพเดท iOS 8.0.2 เพื่อแก้ปัญหาของ iOS 8.0.1 แล้ว หากใครต้องการอัพเดทเป็น iOS 8.0.2 ตัวล่าสุดก็สามารถกดอัพเดทได้จาก Software Update เลยครับ ปัญหาของ iOS 8.0.1 นั้นถือว่าหนักหนาสาหัสมาก ไล่ตั้งแต่เชื่อมต่อเครือข่ายไม่ได้ Touch ID ไม่ทำงาน แต่ในที่สุด iOS 8.0.2 ก็ออกมาแก้ปัญหาแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีรายงานข่าวว่า iOS 8.0.2 มีปัญหาอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ แต่เพื่อความสบายใจ อยากแนะนำให้ใช้ iOS 8 ไปอีกซัก 1-2 วันก่อน รอจนคนใช้ iOS 8.0.2 ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้วค่อยอัพเดทจะดีกว่าครับ เครดิตภาพ : Cnet   Create Date : 26 กันยายน 2557     0 comment Last Update : 26 กันยายน 2557 22:06:35 น.     Counter : 1151 Pageviews.   Share Tweet

ขั้นตอนการลง iOS 8 เพื่อรอ Apple แก้ปัญหา iOS 8.01 ถือเป็นปีที่ Apple งานเข้ารัวๆแม้ว่า iPhone 6  และ 6 Plus จะมียอดจองหลายล้านเครื่องก็ตาม ต่อจากกระแส iPhone 6 Plus ตัวเครื่องบอบบางงอง่าย ล่าสุด iOS 8.01 ก็มีปัญหาทำให้เชื่อมต่อกับเครือข่ายไม่ได้ รวมไปถึง Touch id ก็ไม่ทำงานด้วย ล่าสุดทาง Apple ถอด iOS 8.01 ออกจากการอัพเดทแล้ว พร้อมทั้งแนะนำให้ผู้ใช้งานกลับไป reinstall iOS 8.0 ใหม่อีกครั้ง และในอนาคตอันใกล้ Apple จะออก iOS 8.02 เพื่อแก้ปัญหาในครั้งนี้ครับ ขั้นตอนการ reinstall iOS 8.0  มีดังนี้ 1. ต้องมี iTunes เวอร์ชันล่าสุด 2. ต่อ iPhone เข้ากับ iTunes 3. Back up iPhone ใน iTunes 4. โหลดไฟล์ต่อไปนี้  - iPhone 6 - iPhone 6 Plus 5. เลือกไฟล์ที่โหลดมาแล้วทำตามขั้นตอนด้านล่างใน iTunes:  - Mac: กดปุ่ม Option key และ คลิ๊ก Check for Update.  - Windows: กดปุ่ม Shift key และคลิ๊ก Check for Update.  6. เลือก Update เพื่อ install iOS 8 ลงบน  iPhone.  Source : MacRumors   Create Date : 25 กันยายน 2557     0 comment Last Update : 25 กันยายน 2557 22:35:24 น.     Counter : 982 Pageviews.   Share Tweet

เทียบกล้อง iPhone 6 อีกครั้ง! งวดนี้กับเรือธงค่ายอื่น หลังจากที่ช่างภาพมืออาชีพ Austin Mann ได้นำ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ออกไปถ่ายภาพเทียบกับ iPhone 5S ในครั้งก่อน  คราวนี้นาย CHRISTINA ASCANI จาก Mashable ได้นำมือถือเรีอธงของหลายค่ายมาถ่ายเทียบกับ iPhone 6 ให้ดู ผลออกมาเป็นอย่างไรนัน ตัดสินใจด้วยตัวเองได้เลย แสงน้อยก็สอยภาพไหว ภาพนี้แม้จะถ่ายในที่แสงน้อยแต่กล้องทุกค่ายก็สามารถเก็บรายละเอียดของภาพและสีได้ครบถ้วน กล้องของ iPhone 6 ที่มุมขวาล่างผู้ถ่ายบอกว่าตัวกล้องสามารถออโต้โฟกัสใบหน้าของคนในภาพได้ด้วย อนึ่ง ภาพทั้งหมดถ่ายแบบไม่ใส่แฟลชนะครับ ถ่ายภาพบุคคลแบบแสงธรรมชาติ ช่างภาพบอกว่าในการถ่ายภาพบุคคลแสงธรรมชาติ ทั้ง Galaxy S5 และ iPhone 6 ภาพออกมาเสมอกัน แต่แอบงงว่าภาพของ S5 ทำไมนางแบบเปลี่ยนชุด? และเปลี่ยนมุม? แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนหรือไม่  เราก็รู้สึกได้ว่ากล้องของ iPhone 6 และ S5 มีภาพที่สว่าง มีสีผิว สีผมที่ใกล้เคียงตัวนางแบบจริงๆ ย้อนแสงไม่เปิดโหมด HDR การถ่ายภาพย้อนแสงเป็นอะไรที่ลำบากใจสำหรับช่างภาพทุกคน แต่แน่นอนบางจังหวะเราก็อดถ่ายภาพจากมุมนี้ไม่ได้ และผลการทดสอบออกมาเห็นได้ว่า ไม่มีภาพจากกล้องไหนเลยที่ออกมาสวย คมชัด แถม iPhone 6 ออกมามืดกว่าเพื่อนด้วยซ้ำ แต่ก็อย่างที่เห็น มันเป็นการถ่ายย้อนแสงแบบไม่เปิด HDR ด้วยจึงหวังผลอะไรมากไม่ได้ ย้อนแสงแบบเปิดโหมด HDR โหมด HDR หรือ High Dynamic Range เป็นโหมดที่มีไว้เพื่อการถ่ายย้อนแสงโดยเฉพาะ ในภาพนี้ค่อนข้างชัดเจนว่า ภาพออกมาสว่างมากขึ้น โดยเฉพาะ Amazon Fire Phone ที่สว่างมากที่สุดเห็นสีเสื่อแดงสดมาก ส่วน S5 แทนที่จะทำให้ออพเจ็คคมชัดสว่าง มั้นกลับไปเน้นที่แบคกราวน์ด้านหลังแทน ภาพกระโดด ในชอทกระโดดนี่แสดงถึงความเร็วในการโฟกัสภาพของกล้องได้่อย่างเต็มที่ ด้วยเทคโนโลยี focus pixels และ phase detection ก็ช่วยให้เราเก็บภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้จังหวะในการกดชัตเตอร์ก็มีผลจึงไม่อาจฟันธงได้ว่าที่ iPhone 6 Plus ได้ภาพคมขนาดนั้นเป็นเพราะเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว ภาพเคลื่อนไหวไม่ไวมาก ภาพสุดท้ายนี้ผู้ถ่าย ถ่ายระหว่างที่กำลังเดิน(เดินไปถ่ายไป) เห็นได้ชัดเจนเลยว่าระบบ OIS ที่มากับ iPhone 6 Plus ทำให้ภาพออกมาคมมากเมื่อเทียบกับเจ้าอื่น ถ้าชอบเดินไป ถ่ายภาพเมืองรอบตัวไปแบบไม่หยุดอยู่กับที่ งานนี้ต้องบอกว่า iPhone 6 Plus กินครับ สุดท้ายนี้อยู่ที่ตัวผู้ใช้ ภาพด้านบนเป็นตัวอย่างของการถ่ายภาพจากกล้องมือถือหลายๆตัวในสถานการณ์เดียวกัน หากจะเลือกกล้องมือถือซักตัวก็ต้องดูรสนิยมของเราเองว่าชอบภาพแนวไหน อย่าง Galaxy S5 แม้จะถ่ายภาพย้อนแสงแล้วคนไม่ชัดแต่แบคกราวน์ชัดมาก หากชอบถ่ายแบคกราวน์กล้องมือถือตัวนี้ก็น่าสน ระบบ OIS ของ iPhone 6 Plus ในรูปสุดท้ายนับว่าเห็นผลชัดมาก ถ้าชอบเดินไปถ่ายไป ยังไงก็ต้องยกให้รุ่นนี้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ราคาของมันกระฉูดเหลือหลาย ล่าสุดดูเห็นว่าเครื่องหิ้ว มี 40,000 ก็ไม่พอสอยกันแล้ว Source : Mashable   Create Date : 22 กันยายน 2557     0 comment Last Update : 22 กันยายน 2557 22:07:33 น.     Counter : 1087 Pageviews.   Share Tweet