ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

ลดพุง ด้วย 8 ทริคง่ายๆ

ลดพุง

       สาวๆ คนไหนที่กำลังมีปัญหาหนักอกหนักใจ กับเรื่องหน้าท้องที่ยื่นออกมาเป็นหลักฐานให้ได้อับอายกัน วันนี้ women.mthai มีวิธีที่จะทำให้ปัญหานั้นหมดไปมาฝากกันค่ะ

ทานผักกันเถอะ เริ่มจากวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำกันได้ทุกมื้อออาหารที่รับประทานกันทุกวันนะคะ เพียงแค่คุณสาวๆ รับประทานผักให้มากๆ การรับประทานผักให้มากๆ ให้ได้สัก 5 ครั้ง/วัน ทำให้ ลดพุง ได้เลยทีเดียว คุณอาจเลือกรับประทานผักเป็นอาหารว่าง ระหว่างวันบ้างก็ได้ และสำหรับคนที่เกลียดผักจริงๆ อาจจะเริ่มรับประทานแต่น้อยๆ ก่อนก็ไม่ว่ากัน ส่วนเนื้อสัตว์ คุณก็ไม่จำเป็นต้องอด เพียงแต่ลดประมาณลงบ้าง และรับประทานเนื้อสัก 2 – 3 มื้อ/อาทิตย์ก็พอ

อาหารเช้า สาวๆ ควรที่จะรับประทานแต่เช้าและรับประทานบ่อยๆ   การรับประทานอาหารแต่เช้า จะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีตลอดทั้งวัน และมีโอกาสได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์มากกว่า เพราะถ้าคุณรับประทานอาหารเช้า ก่อนเวลาเที่ยงคุณจะไม่หิวแน่นอน แต่ถ้าคุณอดช่วงเช้า ก่อนเที่ยงคุณจะเริ่มหิวและอาจจะหาของขบเคี้ยวต่างๆ มารับประทานเล่น ซึ่งไม่มีประโยชน์ และทำให้อ้วนมากกว่าอาหารหลักอีก

การเดิน ควรเดินให้ได้ทุกวัน แรกเริ่มคุณอาจไม่ต้องเดินเยอะมากมายอะไรนัก เพียงเดินให้บ่อยขึ้นกว่าปกติ เช่น เปลี่ยนมาใช้บันไดแทนลิฟต์ หรือ ลองเดินไปรับประทานอาหารกลางวันไกลๆ ดูบ้าง

ออกกำลังกาย โดยการบริหารหน้าท้องและเพิ่มกล้ามเนื้อ ก่อนนอนลองซิตอัพสัก 15 ครั้ง และถ้ามีเวลา ก็ออกกำลังกายบ้าง โดยจะเข้าฟิตเนสส์ เล่นแบดมินตัน หรือว่ายน้ำก็ได้ เพราะการออกกำลังกายทุกชนิด จะช่วยสลายให้ไขมันแปรสภาพเป็นกล้ามเนื้อ

เสริมวิตามิน รับประทานวิตามิน E เนื่องจากวิตามิน E จะช่วยป้องกันโรคหัวใจ ไข้หวัด และมะเร็งได้แล้ว วิตามิน E ยังช่วยป้องกัน หน้าท้องขยายได้ด้วย เพราะวิตามิน E นั้นมีสารต่อต้านอิซูลิน อันจะทำให้เราอ้วนได้

เปลี่ยนนิสัยบอกใจตัวเองไม่ให้เครียด เพราะถ้าคุณเอาแต่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดเก็บกดเวลาเครียดแล้ว ความเครียดตัวร้ายนี้จะไปเร่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ให้ทำงานมากขึ้น และเมื่อเรามีฮอร์โมนตัวนี้มากขึ้นเมื่อไร เจ้าฮอร์โมนตัวนี้ก็จะส่งไขมันของเราไปกองที่หน้าท้องจนหมด อันจะทำให้เราพุงยื่นเหมือนชูชกได้ เพราะฉะนั้น ถ้าเครียดจงหลับตาสูดหายใจลึกๆ ทำใจให้สบายจะดีกว่า

มาคบเพื่อนให้มากๆ เพื่อให้คุณได้สามารถพูดคุยหรือปรึกษาได้ โดยเฉพาะมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ในการลดน้ำหนักเหมือนกัน จะยิ่งทำให้คุณลดน้ำหนักได้ดีขึ้นและสนุกขึ้น โดยคุณอาจจะแข่งกันออกกำลังกาย หรือแข่งกันรับประทานผักให้เยอะๆ โดยถ้าใครลดน้ำหนักได้มากที่สุดจะได้รางวัล แบบนี้การลดน้ำหนักจะยิ่งดูมีสีสันและสนุกขึ้น

ลดละเลิกแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด เพราะเบียร์จะทำให้หน้าท้องคุณ ยื่นได้อย่างน่าเกลียดแต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ให้ดื่มแต่น้อย หรือจะเปลี่ยนมาดื่มไวน์แทนก็ไม่เลวเลย เพราะไวน์จะช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ดี

       เพียงแค่นี้คุณทำตาม 8 ข้อนี้ คุณก็จะมีเอวที่คอดสวยไว้อวดใครต่อใคร และหมดปัญหาเรื่องหน้าท้องที่ยื่นออกมาได้อย่างหายห่วง

ขอบคุณเนื้อหาจาก : ไทยซ่าดอทคอม




 

Create Date : 02 มีนาคม 2556   
Last Update : 2 มีนาคม 2556 23:31:01 น.   
Counter : 1480 Pageviews.  

เครื่องสำอางค์แต่งดวงตาอิยิปต์โบราณฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

เครื่องสำอางค์ของชาวอียิปต์สมัยโบราณ มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

จะเห็นได้ว่ารูปภาพฟาโรห์ และนักบวช จากอียิปต์สมัยโบราณ ล้วนแล้วแต่ทาขอบตาเป็นสีดำกันทั้งนั้น ซึ่งในปัจจุบัน ดูเหมือนว่าการแต่งหน้าแบบนั้น ไม่เพียงแต่เป็นการตกแต่งดวงตาให้สวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการป้องการดวงตาจากการติดเชื้อ หรือการอักเสบอีกด้วย

นักวิจัยชาวฝรั่งเศสกล่าวว่า การแต่งขอบตาเข้มๆ ของราชวงศ์อียิปต์โบราณนั้น มีผลดีต่อสุขภาพ นักวิจัยทดสอบตัวอย่างที่เขียนขอบตา ที่เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ Louvre ในฝรั่งเศส 52 ตัวอย่าง ซึ่งอาจจะเป็นที่เขียนขอบตาของชาวอียิปต์สมัยโบราณในระยะแรกๆ ปรากฎว่าที่เขียนขอบตาดังกล่าวมีประสิทธิภาพ ในการต่อต้านการติดเชื้อมากเป็นทวีคูณ เนื่องจากมีส่วนผสมของสารตะกั่วชนิดต่างๆ ถึง 4 ชนิด

แม้ว่าสารตะกั่วจะมีพิษในปริมาณสูง และมีการห้ามใช้สารตะกั่วในสีต่างๆ หรือน้ำมันเชื้อเพลิงในปัจจุบัน แต่การใช้ในปริมาณเล็กน้อย อย่างในเครื่องสำอางค์ของชาวอียิปต์ กลับมีคุณสมบัติเหมือนยาปฏิชีวนะ

คุณ Neal Lingerman ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และความปลอดภัยเกี่ยวกับสารเคมี กล่าวว่า สารตะกั่วในปริมาณที่พอเหมาะ จะช่วยปิดกั้นไม่ให้ตาเชื้อแบคทีเรีย แต่ก็ไม่มากเกินไปที่จะทำให้เป็นอันตราย หรือเจ็บป่วยได้

ผ้เชี่ยวชาญท่านนี้ ได้ทบทวนการศึกษาดังกล่าว และบอกว่าเครื่องสำอางค์ที่มีสารตะกั่วเป็นส่วนผสมเหล่านั้น ถ้าใช้ในส่วนผสมที่ถูกต้อง ก็จะช่วยให้ผู้ใช้ปลอดภัยจากการติดเชื้อที่ดวงตาได้ และแน่นอนว่า นักเคมีชาวอียิปต์โบราณ อาจไม่ทราบว่าเครื่องสำอางค์ของพวกเขานั้น มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ และอาจไม่ทราบว่าเครื่องสำอางค์ที่มีส่วนประกอบของสารตะกั่วนั้น อาจช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทานของร่างกาย ในการต่อสู้กับโรคต่างๆ ได้

นอกจากนี้ นักวิจัยชาวฝรั่งเศสยังพบว่า เมื่อพวกเขาใช้เครื่องสำอางค์โบราณ กับเซลมนุษย์ที่เพาะขึ้นในห้องทดลอง สารเคมีดังกล่าวผลิตกรดไนตริก ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการส่งสัญญาณกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ให้เพิ่มมากขึ้นเกือบถึง 4 เท่า

การศึกษาเรื่องนี้ ตีพิมพ์อยู่ในวารสาร Analytical Chemistry

ที่มา: //www.jaowka.com/




 

Create Date : 01 มีนาคม 2556   
Last Update : 1 มีนาคม 2556 23:38:17 น.   
Counter : 1552 Pageviews.  

คลอดธรรมชาติ หรือ ผ่าคลอดดีนะ

คลอดธรรมชาติ หรือ ผ่าคลอด

คลอดธรรมชาติ หรือ ผ่าคลอด ดีนะ


การคลอดในปัจจุบัน แบ่งได้เป็น 2 วิธีการหลักๆ คือ การคลอดเองตามธรรมชาติ และการผ่าตัดคลอด

การเลือกว่าจะ คลอดธรรมชาติ หรือ ผ่าคลอด ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย คุณแม่ควรตัดสินใจร่วมกับสูติแพทย์ที่ฝากครรภ์ โดยดูจากข้อจำกัดหรือปัจจัยต่างๆ หมอจะอธิบายคร่าวๆ นะคะว่า การผ่าตัดคลอดเกิดขึ้นในกรณีใดบ้าง


1. คุณแม่ตัวเล็ก, ทารกตัวโต หรือแพทย์ตรวจพบว่า อุ้งเชิงกรานของแม่ไม่สมดุลกับขนาดของทารก
2. ท่าของทารกไม่เหมาะสม เด็กไม่เอาหัวลงมาในอุ้งเชิงกรานของแม่ แต่เอาก้นหรือเท้าลงมาแทน เด็กบางคนอาจนอนขวางกลางหน้าท้องของแม่เสียเลย อย่างนี้คลอดเองไม่ได้ค่ะ
3. ภาวะครรภ์แฝด ท้องคุณแม่ใหญ่มาก แพทย์จะแนะนำว่า ควรผ่าตัดคลอด
4. คุณแม่เคยมีประวัติผ่าตัดคลอดในท้องแรก หากท้องนี้คลอดเอง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการที่มดลูกจะแตกในช่วงเจ็บท้องหรือช่วงเบ่งคลอด การผ่าตัดคลอดจึงปลอดภัยกว่า
5. คุณแม่มีโรคประจำตัวที่ทำให้เบ่งคลอดไม่ได้ เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง หรือแม่อายุมาก ไม่มีแรงเบ่งคลอด อย่างหลังนี่พบบ่อยในยุคปัจจุบัน เพราะผู้หญิงแต่งงานช้า ทำให้มีบุตรช้า กว่าจะมีลูกคนแรกก็อายุมากแล้ว
6. เกิดภาวะที่ทำให้คลอดเองไม่ได้ หรือคลอดไม่ออกในช่วงที่รอคลอด เช่น ปากมดลูกเปิดค้างอยู่แค่ 6 เซนติเมตร หัวลูกเริ่มบวม ปากมดลูกไม่เปิดต่อ หรือกราฟหัวใจเด็กลดลง หากมีภาวะเหล่านี้ สูติแพทย์จะตัดสินใจผ่าตัดคลอดเพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่และทารกค่ะ


อยากคลอดเองแต่กลัวเจ็บ…มีทางแก้

สำหรับคุณแม่ที่อยาก คลอดธรรมชาติ แต่กลัวว่า ช่วงที่เจ็บท้องคลอดจะเจ็บจนทนไม่ไหว หมอแนะนำให้เลือกวิธี ฉีดยาชาที่ไขสันหลัง หรือที่เรียกว่า บล็อกหลัง อย่างที่ได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ค่ะ


ส่วนใหญ่แพทย์จะบล็อคหลังเมื่อคุณแม่เริ่มเจ็บครรภ์พอประมาณ ปากมดลูกเปิดประมาณ 4-5 เซนติเมตร จะทำให้คุณแม่ไม่รู้สึกเจ็บท้องคลอด ตอนที่คุณหมอเย็บซ่อมแผลช่องคลอดก็จะไม่เจ็บเหมือนกัน ยาชานี้ไม่ผ่านไปสู่ทารก ดังนั้นจึงปลอดภัยกับลูก คุณแม่ที่ตั้งใจจะผ่าตัดคลอด ก็สามารถเลือกวิธีบล็อคหลังได้เช่นเดียวกัน ตอนผ่าตัดจะไม่เจ็บ และได้เห็นหน้าลูกทันทีที่ลูกเกิด ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบแล้วหลับตลอดการผ่าตัด แต่ถ้าคุณแม่กลัวบรรยากาศตอนผ่าตัด ก็เลือกใช้ยาสลบแทนได้

ปรับตัวหลังผ่าคลอด


ในการคลอดแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะคลอดด้วยวิธีใด คุณแม่จะต้องเสียเลือดมาก ดังนั้นคุณแม่จึงควรกินยาบำรุงเลือดเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนที่ท้องอ่อนๆ (ประมาณสัปดาห์ที่ 12) ไปจนถึงช่วงคลอด จะได้มีเรี่ยวแรงไว้เลี้ยงเจ้าตัวเล็กที่คลอดออกมา ถ้าคุณแม่ซีดเพราะไม่ได้กินยาบำรุงเลือด หลังคลอดคุณแม่อาจมีอาการวิงเวียนและหมดแรงได้ค่ะ
สำหรับคุณแม่ที่ผ่าตัดคลอด หลังผ่าตัด 1 วัน คุณแม่ก็สามารถลุกเดินเองได้ตามปกติแล้วค่ะ ลุกเดินไปดูลูกที่ห้องเด็กอ่อน และสามารถเดินเข้าห้องน้ำเองได้ อาจจะรู้สึกปวดแผลบ้าง แต่จะไม่ปวดมากเท่าใด สายน้ำเกลือและสายปัสสาวะที่ระโยงระยางช่วงผ่าตัดคลอดก็เอาออกไปได้หมด


ข้อควรระวังก็คือ ในช่วง 2-3 เดือนหลัง ผ่าคลอด คุณแม่ไม่ควรยกของหนักหรือทำงานหนัก เพราะจะทำให้แผลผ่าตัดบวมนูน กลายเป็นแผลเป็นไม่สวย ระหว่างนี้ หมอแนะนำให้ใช้ครีมทาป้องกันแผลเป็น เริ่มทางได้ตั้งแต่ปลายสัปดาห์แรกหลังผ่าตัด และทาต่อไปเรื่อยๆ จนถึงเดือนที่สาม แต่ถ้าแผลผ่าตัดยังเป็นแผลนูนอยู่ คุณแม่อาจปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อฉีดสเตียรอยด์ หรือรักษาด้วยเลเซอร์ก็ได้ค่ะ

ผู้เขียน: แพทย์หญิง สิรนาถ นุชนาถ สูตินรีแพทย์ ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
คุณแม่ของน้องมะปราง เด็กหญิงปรางญรีย์ มีแต้ม วัย 3 ขวบ 8 เดือน และน้องปังปอนด์ เด็กชายธีทัต มีแต้ม วัย 2 ขวบ 2 เดือน

ที่มา: MTHAI




 

Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2556   
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2556 22:23:24 น.   
Counter : 1288 Pageviews.  

อยากสวยหรอ!! มีเซ็กซ์ สิ

 ไม่มีครีมสุดวิเศษกระปุกไหนสามารถเพิ่มพลังความสวย (และซาบซ่าน) ให้คุณได้แบบเดียวกับ กิจกรรมบนเตียง หรือ มีเซ้กซ์ แบบสุดสนุกที่ทุกคนก็ชอบอยู่แล้ว มาดูเหตุผลทั้ง 8 ข้อว่าการ มีเซ็กซ์ ทำให้คุณสวยได้ยังไงกันเลย

มีเซ็กซ์

เมกอัพตามธรรมชาติ
     ทุกเช้าคุณต้องแต่งหน้า แล้วก็ต้องคอยเติมเมกอัพไปตลอดวัน แต่ถ้าคุณใช้เวลา 15 นาทีทำเรื่องอย่างว่า การสูบฉีดโลหิตจะทำให้แก้มของคุณแดงเปล่งปลั่ง ริมฝีปากแดงระเรื่อ แล้วผิวโดยรวมก็จะดูเปล่งปลั่งตามไปด้วย ใช่แล้ว เซ็กซ์เป็นเมกอัพตามธรรมชาติ โดยผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า เซ็กซ์จะทำให้คุณตื่นตัว และหลอด-เลือดทั่วเรือนร่างจะขยายตัวแบบเดียวกับที่เกิดในอวัยวะเพศชาย ซึ่งจะแข็งตัวขึ้นจากเลือดที่เข้าไปคั่ง ทำให้ผิวคุณแดงระเรื่อและดูเปล่งปลั่งแล้วผลที่เกิดจากเซ็กซ์ยังอยู่ได้นานหลายชั่วโมงด้วยนะ

ดูแลผิวหน้า
     ถึงแม้คุณจะอยู่ห่างจากแสงแดดแล้ว คุณก็ยังเสี่ยงที่จะเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้อยู่ดี เพราะนอกจากการเผชิญกับแสงแดดแล้ว สิ่งหลักที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยได้ก็คือหลอดเลือด การไหล-เวียนโลหิตที่ดีนำพาสารอาหารและออกซิเจนมาที่ผิวหนังที่ช่วยขับไล่ริ้วรอยให้คุณได้ ลองเดาสิว่าอะไรที่เพิ่มการสูบฉีดโลหิตและทำให้ผิวของคุณอ่อนเยาว์–คุณเดาถูกแล้วล่ะ… เซ็กซ์ไง

สร้างความมั่นใจ
     ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเซ็กซ์ทำให้ผู้หญิงเดินได้อย่างมั่นใจ และสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดใจผู้ชายมากที่สุดก็คือ ท่วงท่าการเคลื่อนไหวของผู้หญิง ซึ่งยิ่งหลังจากที่เธอเพิ่งได้จ้ำจี้มา เธอจะเยื้องกรายด้วยท่าทีที่เป็นผู้หญิงมากขึ้น ศีรษะตั้งตรง สะโพกแกว่งไกว และการเยื้องกรายอย่างมั่นใจนี่แหละที่จะทำให้คุณดูดี และในขณะเดียวกันมันก็ดึงดูดผู้ชายให้เข้ามาหาคุณอีก

เซ็กซ์เพื่อผมสวย
     เนื่องจากรากผมจะหล่อเลี้ยงด้วยหลอดเลือด และเมื่อมีเลือดสูบฉีดไปเลี้ยงมากขึ้น ก็หมายความว่าเส้นผมของคุณได้รับสารอาหารมาบำรุงมากขึ้น ผมจึงสวยเป็นประกายเงางามตามไปด้วย

อย่ากังวล มีความสุขเถอะ
     มันมีเหตุผลที่ริ้วรอยถูกเรียกว่าริ้วรอยแห่งความกังวล และไม่ว่าจะทาครีมมากแค่ไหนก็ไม่อาจทำให้จิตใจคุณปลอดโปร่งได้เท่ากับกิจกรรมแนวนอนแบบนี้ เซ็กซ์เป็นกิจกรรมคลายความเครียดชั้นยอด เนื่องจากการออกัสซั่มเป็นเรื่องของการผ่อน-คลายและการหายใจ เมื่อคุณมีเซ็กซ์เป็นประจำ คุณจะรู้สึกถึงความสงบในระยะยาว กิจกรรมทางเพศกินเวลาโดยเฉลี่ยประมาณ 20-30 นาทีซึ่งไม่นานเท่าไหร่เลย แต่มันสามารถส่งผลต่อคุณได้ตลอดทั้งวัน–หรืออาจจะอีกหลายวันด้วย

หน้าอกตู้ม
     ในระหว่างมีเซ็กซ์ คุณจะมีอะไรให้อวดมากขึ้น เพราะหน้าอกจะขยายขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ หัวนมชูชันขึ้นครึ่งนิ้ว คุณจะทำให้หนุ่มๆ ตาวาวได้โดยไม่ต้องอาศัยบราเลย

ออกกำลัง
     ในขณะที่มันอาจจะยากที่จะกระตุ้นตัวเองให้ไปยิม แต่เซ็กซ์สามารถให้การบริหารหัวใจแก่คุณได้อย่างดีเยี่ยม รวมทั้งช่วยเผาผลาญแคลอรีด้วยท่ามิชชันนารีสามารถเผาผลาญได้ 293 แคลอรี ใน 30 นาที ท่าด็อกกี้ เผาผลาญได้ 313 แคลอรี ใน 30 นาที คิดดูแล้วกันว่าคุณจะได้ทั้งสุขภาพดีและผอมสวย

ยาอายุวัฒนะ
     ถ้าผู้หญิงมีเซ็กซ์สม่ำเสมอตามปกติ เธอจะดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริง 2-8 ปี มันลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลักๆ อย่างโรคหัวใจ มะเร็ง และอื่นๆ เช่น ซึมเศร้า การฆ่าตัวตาย อารมณ์แปรปรวน

ฉะนั้น คนสวยจ๋า ครั้งต่อไปที่มีคนถามคุณว่าอะไรคือเคล็ดลับความงามของคุณ ก็ตอบเขาไปเลยนะว่า… เซ็กซ์ไงล่ะจ๊ะ!

ที่มา: MTHAI




 

Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2556   
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2556 22:21:19 น.   
Counter : 1851 Pageviews.  

8 เทคนิคทำ ออรัลเซ็กส์ ได้ดังใจคุณ

เชื่อกันว่าผู้หญิงเกือบทุกวัย ที่เคยผ่านประสบการณ์ทางเพศมาแล้วนั้น อยากที่จะหาลีลาท่วงท่ารักแบบใหม่ๆ เพื่อให้เป็นบทรักที่แตกต่างและช่วยเสริมสร้างความตื่นเต้น เร้าใจ และความหฤหรรษ์ให้กับทั้งผู้หญิงเอง และคู่ของเธอ

ออรัลเซ็กส์

จากผลการวิจัยพบว่า ผู้หญิงส่วนมากอยากที่จะให้คู่รักของเธอทำรักด้วยปาก และยอมรับว่า “ออรัลเซ็กส์”เป็นกระบวนการอย่างหนึ่งของการร่วมรักที่มีความสุข

ดังนั้นเมื่อคุณผู้หญิงทั้งหลายต่างก็ชอบที่จะให้คู่รักของตน
ฝังลิ้นนุ่มๆ และประทับริมฝีปากที่เร่าร้อน ลงบนกลีบเนื้อ ซอกหลืบต่างๆ
อันเป็นพื้นที่สงวนของคุณผู้หญิงแล้วละก็
คุณผู้หญิงทั้งหลายเอง ก็ควรที่จะเรียนรู้เคล็ดลับว่า
ทำอย่างไรที่จะให้เขาทำรักด้วยปากให้คุณอย่างมีความสุข

1. เนินน้อยต้องสะอาด
     อันดับแรกที่คุณควรที่จะทำก็คือ การ ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น เพราะจุดๆ นั้นไม่ได้มีกลิ่นหอม เหมือนดังดอกกุหลาบ หากคุณสามารถอาบน้ำก่อนที่จะเริ่มบทรักได้จะเป็นการดีที่สุด แต่หากคู่รักของคุณ เป็นประเภท “ไอ้เสือบุกปานสายฟ้าฟาด” คุณก็ควรจะเตรียมความพร้อมไว้ให้ดี ทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ ควรทำความสะอาด “เนินน้อย” ของคุณให้สะอาดที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดปัญหากลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ซึ่งผู้ชายร้อยละ 90 อาจจะต้องเบือนหน้าหนีคุณไปเลยก็เป็นได้

2. ช่วงระยะเวลา
ช่วงเวลาที่ไม่เหมาะ เลยที่คุณจะให้คู่รักของคุณทำ “ออรัลเซ็กส์” ให้คือ ช่วงก่อนมีประจำเดือน 1 สัปดาห์ เพราะช่วงเวลานั้น อวัยวะเพศของผู้หญิงนั้นจะมีกลิ่นค่อนข้างรุนแรง ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ที่ต่างพร้อมใจกันสามัคคีชุมนุม ออกมาเจริญเติบโตอยู่บริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีรสของตกขาว ที่ปนเปื้อนออกมา ซึ่งจะมีรสฝาดและเปรี้ยว ไหนจะกลิ่นอีกจนเขาไม่อยากจะลิ้มลองอีกเลย

ส่วน ช่วงระยะเวลาที่เหมาะที่สุด ก็คือ หลังจากที่ ประจำเดือนหมดสนิทจนถึงช่วงตกไข่ ซึ่งช่วงนี้ “เนินน้อย” ของคุณจะอุดมไปด้วยความชุ่มชื้น และจะขับน้ำเมือกออกมามาก จึงทำให้ “เนินน้อย” มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งเราเรียกว่า “ฟิโรโมน” ซึ่งจะมีผลเย้ายวนต่อชายหนุ่มเป็นอย่างมาก

3. เตรียมตัวก่อนและหลัง “ออรัลเซ็กซ์”
ควร ปัสสาวะก่อนและหลัง การปฏิบัติกิจรักของคุณ เพื่อป้องกันการเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เพราะปากของเขาอาจะมีแบคทีเรีย ซึ่งอาจจะสะสมมาจากมื้ออาหารก็เป็นได้ หากได้ แปรงฟัน และบ้วนปาก ก่อนสัก 10 นาทีก่อนทำ “ออรัลเซ็กส์” ก็จะดีมาก (เพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวคุณ และคู่รักของคุณเองนะคะ)

4. วอร์มอัพก่อนลงสนามจริง
     หากให้เขาได้มีเวลากลั้วปากและคอด้วยน้ำอุ่น สัก 3-5 นาที เพื่อเป็นการ วอร์มอัพให้ริมฝีปากและลิ้นอุ่นขึ้น เวลาที่เขาลงภาคสนาม “เนินน้อย” จะได้สัมผัสรักที่อบอุ่นและนุ่มนวลไงคะ

5. เพื่มดีกรีความเร่าร้อนด้วยท่าสุดคลาสิก
     ถ้าอยากให้เกมชิวหาพาเพลินนี้จบลงด้วยความอิ่มเอมกันทั้งสองฝ่ายละก็ ควรที่จะเป็นทั้ง “ผู้ให้” และ “ผู้รับ” ในพร้อมๆ กันนะคะ ในท่าสุดคลากสิกที่เรียกว่า “69″ แบบนอนตะแคงข้าง หรือสลับกัน ” Up and Down” ก็ไม่ว่าคะ เพราะระหว่างที่กำลังปฏิบัติกิจกันอยู่นั้น คุณและคู่ของคุณก็ยังสามารถมองตากันและกันได้ ซึ่งจะเพิ่มอารมณ์รักได้เป็นอย่างดี

6. โล๊ะทิ้งความเชื่อเก่าๆ
ความเชื่อหัวโบราณประมาณเต่าล้านปีเรียกแม่ ทิ้งไปได้เลยนะคะ เลิกอายเถอะคะ การ “ร่วมรัก” เป็นความพร้อมใจและเต็มใจของกันและกัน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายมีความสุขไปพร้อมๆ กัน การร่วมรักด้วยการ “ออรัลเซ็กส์” เป็นเพียงสีสันและลีลาของชีวิตรักเท่านั้น ซึ่งมันสามารถช่วยปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงรสชาติให้ถูกปากได้ อย่าไปคิดว่ามันน่ารังเกียจ หากคุณและเขา “เต็มใจ” ที่จะใช้มัน

7. บรรยากาศสร้างสีสัน
     ลอง เปิดเพลงเบาๆ โรแมนติกบ้างสิคะ ไฟก็ลองเป็นแบบสลัวๆ ขณะที่กำลัง “ปฏิบัติกิจ” อยู่นั้น นอกจากจะช่วยลดความอายของคุณผู้หญิงมือใหม่แล้ว แสงไฟสลัวๆ ยังช่วยเพิ่มอารมณ์ให้กับคู่รักได้อีกด้วยคะ เสียงเพลงที่เปิดก็ควรจะเป็นเพลงช้า ได้อารมณ์ เพื่อเพิ่มความรู้สึก และยังเป็นการป้องกันเสียง “ครวญ” กับเพื่อนข้างบ้าน

8. อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
     เชื่อไหมคะว่า อาหารที่เราทานเข้าไป จะมีผลต่อกลิ่นที่จะออกมาตรงบริเวณ “เนินน้อย” ด้วย เช่น อาหารหมักดอง ส้มตำ ปลาร้า ปลาเค็ม และถั่วชนิดต่างๆ กลิ่นเหล่านี้ สามารถละเหยออกมาทางอวัยวะเพศได้ นะคะ และอาหารบางชนิดก็เป็นตัวก่อให้เกิดก๊าซในลำไส้ ลองจินตนาการสิคะว่า ทุกอย่างกำลังจะไปได้สวย แต่คุณดันปล่อย “ปู๊ด” ออกมา ขณะที่ลิ้นของเขากำลังพันตูอยู่กับ “เนินน้อย” ของคุณ ไม่อยากจะคิดเลยคะว่าอะไรจะเกิดขึ้น

ที่มา: mthai.




 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2556   
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2556 22:07:57 น.   
Counter : 1912 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  

zulander
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




หวยซอง เลขเด็ด
หวยซอง เลขเด็ด หวยซองแม่นๆ หวยซองดัง รวมหวยซอง






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add zulander's blog to your web]