ตำนานผีปอป :หลวงปู่ดู่ ปอบ " มีต้นกำเนิดมาจากผู้ที่มีวิชา ไสยศาสตร์ มนต์ดำจนแก่กล้า สามารถใช้อำนาจอัน เข้มขลังจากเวทมนตร์คาถาไปกระทำร้ายหรือทำลาย ชีวิตผู้อื่นได้ เช่น ทำ เสน่ห์ยาแฝด ฝังรูปฝังรอยเสกหนังควาย เสกตะปู เข้าท้อง หรือใช้มนตราบังคับวิญญาณ ภูตผีไปเข้าสิง วิชาไสยศาสตร์เหล่านี้มีข้อห้าม ข้อปฏิบัติกำกับอยู่ด้วย ผู้ที่มีวิชาอาคม ทาง ไสยศาสตร์ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงระบุว่า เป็นเดียรฉานวิชา จะต้องระวังไม่ให้ละเมิดข้อห้าม ข้อปฏิบัติโดยเด็ดขาด หากกระทำผิดข้อห้าม ชาวอีสานจะเรียกกันว่า "คะลำ" จะเกิดโทษหนักในข้อ"ผิดครู" วิญญาณ บรมครู จะลงโทษ ให้กลายเป็น ปอบ หรืออีกประการหนึ่งของผู้ที่กลายเป็นปอบก็คือ เล่นคาถาอาคมอย่างคลั่งไคล้ และใช้ความขลังแห่งวิชา มนต์ดำไปทำลาย ทำร้ายผู้อื่นอย่างไม่กลัว บาปกลัวกรรมกระทำชั่วเป็นอาจิณกรรม กระทั่งถูกอาถรรพณ์ของไสยเวทย์ย้อนกลับมาเข้าตัวเอง กลายเป็นปอบไป ในที่สุด "ผีปอบ" ยังแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น "ปอบ ธรรมดา" หมายถึง คนที่มีปอบสิงอยู่ในร่าง ( คือตนเองเป็นปอบ ) เมื่อคนประเภทนี้ตายไป ปอบที่สิงสู่อยู่ก็จะตายตามไปด้วย "ปอบเชื้อ" หมายถึง ครอบครัวใดพ่อแม่เป็นปอบเมื่อพ่อแม่ตายไปลูก หลานก็จะสืบทอดให้เป็นปอบ ต่อไป อีกประการหนึ่งเป็นกรรมพันธุ์ไม่ว่า จะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม เรียกว่าเป็นปอบต่อเนื่องกันไปไม่รู้จบ "ปอบแลกหน้า" หมายถึง ปอบเจ้าเล่ห์ถนัดเอาความผิดไปโยนให้ผู้อื่น กล่าวคือ เวลาไปเข้า สิงใคร เมื่อ ถูกสอบถามว่ามีผู้ใด เลี้ยงหรือบังคับ ปอบ จะไม่บอกความจริงหากไปกล่าวโทษว่าเป็นคนนั้นคนนี้ โดยที่ผู้ถูกระบุชื่อ ไม่รู้เรื่อง รู้ราวอะไรเลย ปอบกักกึก (กึก ภาษาอีสานแปลว่า "ใบ้") หมายถึง ปอบ ที่ไม่ยอมพูดอะไรเวลามีคน ถาม จนกว่าญาติพี่น้องจะไปตามหมด ผีมาขับไล่ จึงจะยอมเปิดปากพูดว่าตนเป็นปอบของใครมีใครใช้ให้มา เข้าสิง ผู้ที่ถูกผีปอบเข้าสิงหรือที่ชาวอีสานเรียกว่า "ปอบเข้า" จะมีอาการแตกต่างกันไปบางคน แสดงกิริยาอาการ ดุร้ายบางคนจะนอนซมซึมคล้ายกับป่วยไข้อย่างหนัก บางคนจะร่ำไห้รำพันไปต่างๆ นานาแต่ไม่ว่าจะมีทีท่า อาการอย่างไร ผู้ที่ถูกปอบเข้าสิงจะเรียกร้องให้นำอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ พวกหมู ตับ ไก่ต้มมากิน เหมือน ๆ กับเวลา กินก็แสดงความตะกละมูมมามและกินได้จุผิดปกติเมื่อญาติพี่น้อง รู้ว่าคนป่วยถูกปอบเข้าสิง เขาก็จะไปตามหมอผีให้มาไล่ปอบ การไล่ปอบให้ออกจากร่างมีหลายวิธีตาม แนวทางที่หมอผีได้ร่ำเรียนมาบางคนจะเอาพริกแห้งมาเผา ให้ควันรม คนป่วยจนสำลักควันน้ำตาไหลพราก ครั้นปอบออกจากร่าง แล้วหมอผีจะข่มขู่สอบถามว่าผีปอบเป็นใครมาจากไหน เมื่อปอบรับสารภาพหมอผี ก็ จะปล่อยไป คนป่วยได้สติหายเป็นปกตินัยน์ตาที่แดงก่ำเนื่องจากถูกควันพริกเผารม จะหายไปทันทีแต่เจ้าของปอบกลับมี อาการนัยน์ตาแดงก่ำด้วย สายเลือดจนต้องหลบหน้าอยู่แต่ในห้องไม่กล้าให้ใครพบหน้า อีกวิธีหนึ่ง คือใช้หวายเฆี่ยนไล่ปอบ ซึ่งก็เท่ากับเฆี่ยนคนป่วยนั่นแหละ หากปอบกล้าแข็งหมอผีจะเฆี่ยนหนักๆ กระทั่งเนื้อตัวคนที่ถูกปอบเข้าสิงเขียวช้ำด้วย รอยหวาย เมื่อปอบยอมแพ้ออกจากร่างไปรอยหวายก็จะจางหายไปทันที แต่วิธีไล่ปอบแบบนี้เคยเป็นข่าวมาแล้ว เนื่องจากผู้ป่วยไม่ได้ถูกปอบเข้าสิง หากป่วยเป็นโรคประสาท ญาติคิดว่าปอบเข้าจึงไปตามหมอผีมาไล่ หมอผี จัดการเฆี่ยนคนป่วย ด้วยหวายได้รับบาดเจ็บบอบช้ำจนหลายครั้งหลายหน โดยคิดว่าปอบฮึดสู้ไม่ยอม แพ้ในที่สุด คนป่วยก็ เสียชีวิต ร้อนถึงตำรวจต้องมาจัดการกับหมอผีและญาติตามกฎหมาย อีกวิธีหนึ่ง หมอผีจะนำสัตว์น่าเกลียดน่ากลัวบางชนิดมาข่มขู่ให้ปอบกลัว เช่น คางคก ตุ๊กแก งู ในกรณีนี้ คนที่ ถูกปอบเข้าสิงมักเป็นผู้หญิงหรือตัวปอบเป็นหญิง แม้จะเป็นผีปอบ ( เธอ ) ก็ยังขยาดแขยงสัตว์ประเภทนี้และ มักจะยอมออก จากร่างที่เข้าสิงง่าย ๆ ผีปอบที่แก่กล้าเวลาเข้าสิงใครจะอดอยาก กล่าวกันว่าใครที่ผีปอบประเภทนี้เข้าสิงมักจะถูกปอบสิงจนตาย เมื่อหมอผีดำเนินการไล่ผีปอบจากร่างที่ถูกปอบสิงมีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่งคือ จะปรากฎเป็นก้อนกลมอยู่ใต้ ผิวหนังปูดนูนขึ้นมา เวลาหมอผีจี้ก้อนกลม ๆ นี้ด้วยไพลเสก มันจะเลื่อน สำหรับหมอผีรุ่นครูจะจู่โจมเข้ามัดข้อมือ ข้อเท้าและรอบคอ ด้วยด้ายสายสิญจน์เพื่อไม่ให้ปอบหนีออกจากร่าง จากนั้นก็จะใช้ไพลเสกจี้ลงไปที่ก้อนกลม ๆ ใต้ผิวหนัง เรียกว่าก้อนกลมนี้หนีไปที่ใดก็จะตามจี้ไม่ยอมปล่อย จากนั้นใช้ไพล เสกจี้ทางอีสารเรียกว่า "แทง" ปอบจะเจ็บปวดทรมานแสนสาหัส (คนที่ถูกปอบสิงจะร้องโอดครวญดังสนั่น)หมอผีจะขู่บังคับ ให้บอกว่าเป็นใคร ซึ่งปอบมักจะยอมสารภาพโดยดี หลังจากทรมานปอบให้หวาดกลัวเข็ดหลาบแล้ว หมอผีจึงจะแก้มัดด้วย ด้ายสายสิญจน์ปล่อยให้ปอบออกไป หมอผีบางรายมีวิธีไล่ปอบชนิดดุเดือด ให้คนเป็นปอบอับอายขายหน้าเป็นที่เปิดเผยแก่สาธารณชนทั่วไป โดย หมอผีจะไปหาหม้อดินของแม่ม่ายที่มีเขม่าควันไปจับหนามา แล้วเอาหม้อดินครอบศีรษะคนถูกปอบสิงใช้มีดโกนขูดเขม่าควัน ไฟ คล้ายกับโกนผมให้หมดไปครึ่งศีรษะ จากนั้นปล่อยให้ปอบออกจากร่าง วิธีการไล่ปอบแบบนี้จะทำให้ผู้เป็นปอบหรือ เลี้ยงผีปอบต้องหลบซ่อนอยู่ในห้อง หรือเวลาออกไปไหนก็ต้องใช้ผ้าคลุมศีรษะตลอดเวลา เนื่องจากเส้นผมแหว่งหาย ไปครึ่งศีรษะ เรื่องของปอบนี้จะลงความเห็นว่าเกิดจาก "ความเชื่อ" หรือความงมงายไร้สาระเอาเสียเลยก็ คงไม่ได้ เพราะเรื่องราวประหลาด ๆ เกี่ยวกับผีปอบยังเคยปรากฎกับพระอริยสงฆ์ เช่น หลวงปู่ดู่พรหม ปัญโญ วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยามาแล้ว กล่าวคือ มีหมอผีไสยเวท ชาวเวียงจันน์คนหนึ่งมาที่วัดสะแก มานมัสการหลวงปู่ดู่ บอกท่าน ว่าตนมีวิชาดีเป็น วิชาบิดไส้ บิดฟัน ต้องการมอบวิชานี้ให้แก่ท่านเป็นการเฉพาะเพราะเห็นว่าไม่มีใคร รับถ่ายทอดวิชาเหล่านี้ได้ แล้วก็มอบคัมภีร์โบราณให้ผูกหนึ่ง หลวงปู่ดูดเห็นว่าเป็นวิชาแปลก ก็รับไว้ โดยเสียค่าครูให้เป็นธรรมเนียม เมื่อได้คัมภีร์นั้นมาแล้ว หลวงปู่ก็ไม่ได้เปิดดูหรือให้ความสนใจเป็นพิเศษ ท่านนำไปวางไว้ที่โต๊ะหมู่บูชา และก็ลืม ๆ ไป ส่วนหมอผีไสยเวทชาวลาวยังไม่กลับไปทันที หากนอนพักค้างคืนที่วัดสะแก ต่อ 2 - 3 วัน คืนนั้น..... หลวงปู่ดู่เกิดฝันประหลาด ฝันว่าท่านออกไปหากินคล้าย ๆ กับเป็นปอบและไปกินควายชาวบ้าน ซึ่งอยู่ในตำบลใกล้เคียง เช้าวันรุ่งขึ้นท่านก็ยังไม่ฉุกคิดอะไร กระทั่งล่วงเข้าคืนที่สอง ขณะที่หลวงปู่นอนหลับ ท่านก็ฝัน ในลักษณะเดียวกันอีก คือ ออกไปกินไส้ควายของชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้ ๆ เช้าวันรุ่งขึ้น ก็ได้มีชาวบ้านมาหาหลวงปู่ดู่ เล่าถวายต่อท่านว่า เมื่อคืนนี้ควายของเขาตาย กะทันหันโดยหา สาเหตุไม่พบ อีกทั้งลักษณะการตาย มีสภาพน่ากลัวหลายอย่าง หลวงปู่สอบถามว่าตั้งบ้านเรือน อยู่อาศัยที่ใด ชาวบ้านก็กราบเรียนให้ท่านทราบ คราวนี้ หลวงปู่ดู่ถึงกับสะดุ้ง เพราะที่อยู่ของชาวบ้านคนนั้นตรงกันกับบ้านที่ท่านฝัน ว่าไปกินไส้ควายมานั่นเอง หลวงปู่ดู่คิดว่า "อ้ายลาวไสยเวทคนนี้เห็นทีจะเอาวิชาชั่วร้ายมามอบให้ท่านเป็น ถึงได้เกิดเหตุการณ์ ดังกล่าวขึ้น หากท่านเกิดฝันไปกินคนเข้า อาจทำให้ใครต่อใครตายได้และวิชาที่ท่านรับมาเห็นทีจะเป็นวิชาปอบ ดังนั้น หลวงปู่ดู่จึงได้นำคัมภีร์ตำรา เอามาเผาไฟ ลาวหมอผีรู้ว่าหลวงดู่เผาวิชาตำรามันทิ้ง มันก็แสดงท่าโกรธเคืองไม่ใช่น้อย ตอนจากวัดกลับถิ่นเดิมของมัน มันไม่ยอมมาบอกกล่าวกราบลา แม้แต่คำเดียว และนับแต่นั้นก็ไม่หวนหลับมาที่วัดสะแก อีกเลย //board.postjung.com/630065.html   Create Date : 28 สิงหาคม 2555     0 comment Last Update : 28 สิงหาคม 2555 21:39:51 น.     Counter : 2401 Pageviews.   Share Tweet

===น้ำพริกปลาทู=== ปลาทูทอดแล้วแกะเนื้อ 300 กรัม กระเทียม 100 กรัม หอมแดง 100 กรัม พริกหยวก 100 กรัม พริกขี้หนูแดง 30 กรัม น้ำสุก น้ำปลา มะนาว ผักสดต่าง ๆ แตงกวา มะเขือ ถั่วพู กระถิน มะระขี้นก ถั่วฝักยาว วิธีทำ 1.  ทอดปลาทูและแกะเนื้อ พักไว้ 2.  กระเทียม หอมแดงปลอกเปลือก พริกหยวก หั่นท่อน และพริกขี้หนูแดง ล้างพักให้สะเด็ดน้ำ นำคั่วในกะทะให้สุก หรือย่างก็ได้ค่ะ 3.  โขลกกระเทียม หอมแดง พริกทั้ง 2 และปลาทูพอหยาบ (หรือนำปั่นแต่ต้องใส่น้ำสุกพอให้ปั่นได้พอหยาบ) 4.  นำลงผัดในกะทะไม่ใส่น้ำมันนะค่ะ ผัดให้เดือด เติมน้ำปลา มะนาวพักให้เย็น นำใส่ถุงหรือภาชนะเก็บได้นานค่ะ 5.  หรือถ้าไม่ผัดหลังจากโขลกเสร็จแล้วใส่น้ำคลุกคลิกปรุงรสด้วยน้ำปลา มะนาว โรยผักชี เสริฟได้กับผักต่าง ๆ เริ่มจากทอดปลาทูและแกะเอาแต่เนื้อ พักไว้ นำหอม กระเทียมปลอกเปลือก พริกหยวกหั่นท่อน พริกขี้หนูแดงล้างทั้งหมดพักให้สะเด็ดน้ำ    นำคั่วในกะทะ (หากะทะเก่า ๆ นะค่ะ) คั่วให้สุกพักให้เย็น นำโขลกหรือปั่นพอหยาบ (ถ้าปั่นใส่น้ำสุกพอปั่นได้) และนำลงผัดในกะทะพอเดือด พักให้เย็นตักใส่ถุงหรือภาชนะเก็บใส่ตู้เย็นได้เป็นอาทิตย์ค่ะ จัดเสริฟกับผักต่าง ๆ อ้างอิง somewhere //board.postjung.com/630093.html   Create Date : 28 สิงหาคม 2555     0 comment Last Update : 28 สิงหาคม 2555 21:39:10 น.     Counter : 1751 Pageviews.   Share Tweet

คำแถลงจากดีแทค กรณีเครือข่ายล่มทั่วประเทศ คำแถลงจากดีแทค กรณีเครือข่ายล่มทั่วประเทศ งานเข้าอีกแล้วครับ สำหรับค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง dtac เนื่องจากวันนี้ 28-08-2012 ระหว่างช่วงเวลาเช้า-ช่วงเวลาบ่ายที่ผ่านมา เครือข่ายล้มขึ้นอีกเครั้งแล้ว ล่าสุดมีคำแถลงจากดีแทคออกมาแล้วครับ คำแถลงจากดีแทค 28 สิงหาคม 2555- บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ได้ประสบปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของอุปกรณ์ MPLS Signaling Router หนึ่งเครื่อง ในจำนวนอุปกรณ์ MPLS Signaling Router จำนวนหลายคู่ ที่ใช้งานอยู่ที่ศูนย์ Switching Center รังสิต ซึ่งส่ง ผลกระทบต่อการให้บริการลูกค้าของ ดีแทคประมาณ ร้อยละ 20 ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ เป็นเวลารวมทั้งสิ้น 65 นาที ( ระหว่าง 11.06 น. ถึง 11.26 น. และ 12.00 น. ถึง 12.45 น.) Media Statement 28 August 2012- Total Access Communications PLC (dtac) today experienced a fault with one of the several pairs of MPLS Signaling Routers at our Rangsit Switching Center, resulting in a combined down time of 65 minutes (11.06 to 11.26 am and 12.00 noon to 12.45 pm), affecting approximately 20% of our customers in various parts of the country. The fault has been fixed and service has now returned to normal. We apologize to our customers for the inconvenience caused. ขณะนี้ บริษัทฯ ได้แก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และบริการต่างๆได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว บริษัทฯ ต้องกราบขออภัยเป็นอย่างยิ่งต่อลูกค้าของเราสำหรับความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น ในครั้งนี้ ที่มา: thaimobilecenter   Create Date : 28 สิงหาคม 2555     0 comment Last Update : 28 สิงหาคม 2555 21:32:27 น.     Counter : 1027 Pageviews.   Share Tweet

พาไปชม 15 โครงสร้างน่ามหัศจรรย์เก่าแก่ที่สุดที่ถูกสร้างขึ้น ขณะนี้มีเกือบ 7 พันล้านคนที่อาศัยอยู่บนโลก โดย 2050, สหประชาชาติประเมินว่าประชากรทั่วโลกจะเติบโตถึง 9 พันล้านคนซึ่งหมายความว่าโครงสร้างมากขึ้นจะต้องมีการสร้างขึ้นมาเพื่อที่อยู่อาศัยเพื่อความสนุกสนานและให้วัฒนธรรม นี้จะมีการทดสอบกับเวลา - การสร้างมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในระยะเวลาที่สั้นของเวลาหรือมันจะเป็นความคิดสร้างสรรค์การแข่งขันที่จะสร้างแรงบันดาลใจที่อาคารจะยืนการทดสอบของเวลาหรือไม่ ที่นี่มี 15 อาคารที่เก่าแก่ที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นโดยก่อนหน้าของเราชื่นชมและจะหวงแหนโดยการสืบทอดของเรา 1 คริสตจักรเคสซ์ลี - เคสซ์ลี, ฮังการี (620 ปี) ภาพ ที่มา โบสถ์กอธิคนี้สร้างขึ้นใน 1390 เป็นอนุสาวรีย์สำหรับพระแม่มารีย์แห่งฮังการีเป็นอาคารลายเซ็นที่หนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของฮังการี, เคสซ์ลี ในศตวรรษที่ 19 หลังจากตุรกีปกครองโบสถ์ได้รับการบูรณะในสไตล์บาร็อคให้มันหอนีโอโกธิคที่น่าประทับใจและหน้าต่างกุหลาบ บางส่วนของจิตรกรรมฝาผนังที่เก่าแก่ที่สุดสืบมาจากศตวรรษที่ 15 และ 16 ถูกค้นพบที่โบสถ์เคสซ์ลีในปี 1974 และขณะนี้มีผู้ชมขนาดใหญ่ที่ดู 2 Leaning Tower of Pisa - ปิซา, อิตาลี (638 ปี) ภาพ ที่มา หอเอนเมืองปิซาอยู่หอระฆังของ Duomo di Pisa (โบสถ์หลักของเมือง) ถ้ามันไม่ได้ยันเวลาผ่านไปก็อาจจะไม่ได้รับชื่อเสียงไปทั่วโลก การก่อสร้างเจ็ดเรื่องหอระฆังสูงเริ่ม 1172 AD และเสร็จสมบูรณ์อย่างเต็มที่ 199 ปีต่อมา 58 เมตร (183 ฟุต) หอคอยสูงเริ่มจมลงไปในพื้นแม้การก่อสร้างมาตั้งแต่ เนื่องจากอันตรายยันระหว่าง 1990 และ 2001 องศา 5.5 ที่หอคอยที่ลดลงเป็น 3.99 องศา ตอนนี้มันเป็นความประหลาดใจของสไตล์การก่อสร้างแบบโรมันและแรงบันดาลใจสำหรับสถาปนิกทั่วโลก 3 Hohensalzburg Castle - Salzburg, ออสเตรีย (548-933 ปี) ภาพ ที่มา Hohensalzburg Castle เป็นหนึ่งในปราสาทยุคกลางที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป ปราสาทนี้เป็นขนาดใหญ่ 820 ฟุต (250) และยาว 492 ฟุต (150 เมตร) กว้าง การก่อสร้างเริ่มใน 1077, ในช่วงการปกครองของบาทหลวงเกบฮาร์ดฟอน Helfenstein แม้ในขั้นต้นมันเป็นอะไรมากไปกว่าเบลีย์พื้นฐานล้อมรอบด้วยกำแพงไม้ปราสาทถูกขยายในศตวรรษต่อไปในปัจจุบันมีขนาด นี้เป็นสถานที่แรกในโลกที่ได้รับการปู่รถไฟดั้งเดิมถูกนำมาใช้ ตอนนี้มันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ด้านบนใน Salzburg และจะได้เห็นสำหรับผู้ที่เพลิดเพลินไปสถานที่ท่องเที่ยวในยุคกลาง 4 วิหาร Notre Dame - ปารีส, ฝรั่งเศส (665 ปี) ภาพ ที่มา Notre Dame เป็นบ้านที่บาทหลวงแห่งปารีสและยังถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของสถาปัตยกรรมโกธิคฝรั่งเศสในยุโรปอย่างไรก็ตามความทุกข์ความเสียหายหนักที่อยู่ในมือของอนุมูลระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศสก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมได้อย่างเต็มที่แม้หลังจาก 600 ปี นอกจากนี้ยังมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์และความภาคภูมิโบสถ์เป็นเจ้าภาพหนึ่งในอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในโลก - มีมากกว่า 7,800 ท่อ Notre Dame ได้รับประโยชน์จากการซ่อมแซมบริเวณใน 19 thศตวรรษและยังคงเป็นหนึ่งที่ดีที่สุดวิหารแบบกอธิคที่เก็บรักษาไว้ในยุโรป 5 El Castillo - Chichen Itza, ยูกาตัง (910-1209 ปี) ภาพ ที่มา El Castillo ( ปราสาทในภาษาสเปน)เป็นหัวใจของ Chichen Itza ที่ซับซ้อนซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่าง 9 thและ 12thศตวรรษ เช่นเดียวกับหลายขั้นตอนพีระมิดมายามันถูกสร้างขึ้นเป็นวัด El Castillo อุทิศตนเพื่อ Yucatec เทพงูมายาขนอาคารที่น่าอัศจรรย์คือ 30m สูงรวมทั้งวัดบนมาก นอกจากนี้ยังมีวัดที่สร้างขึ้นซ่อนภายในพีระมิดที่มีรูปปั้น Mool Chac และราชบัลลังก์ในรูปของจากัวร์ พีระมิดได้รับการบูรณะโดยเจ้าหน้าที่เม็กซิกันในปี ค.ศ. 1920 และจะรักษามันไว้ดีกว่าถูกปิดเมื่อเร็ว ๆ นี้ให้กับประชาชน ยอดเยี่ยมนี้พีระมิดระดับ 9 ขณะนี้คุณสามารถชื่นชมเพียงแค่เดินไปรอบ ๆ อาคาร 6 วิหารเซนต์ Nishan - Haghpat, อาร์เมเนีย (1019 ปี) ภาพ ที่มา วิหารเซนต์ Nishan มีอยู่ประมาณ 1,000 ปีและยังคงเหมือนเดิมอย่างเต็มที่ นอกเหนือจากสองรองลงมาบูรณะดำเนินการใน 11 thและ 12 thศตวรรษมันได้รับการแตะต้องมานานกว่าพันปี วิหารตั้งอยู่ใน Haghpat ร์เมเนียและเป็นที่ยอมรับของยูเนสโกเป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมทางศาสนา โครงสร้างที่ถูกสร้างขึ้นบนเนินเขาครึ่งหนึ่งเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนน้อมถ่อมตนต่อพระเจ้าวัด มันจะทุ่มเทเพื่อเซนต์ Nishan และในปี 1996 มันถูกระบุว่าเป็นมรดกโลกเพื่อเฉลิมฉลองแสตมป์ยาวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ คริสตจักรยืนถูกยิงด้วยแผ่นดินไหวใหญ่หลายมันทรมานการโจมตีของทหารจำนวนมาก แต่มันก็เป็นยังเหลือ 7 Borobudur - Magelang, Indonesia (1210 ปี) ภาพ ที่มา Borobudur เป็นศาลเจ้าพุทธสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มเก้ากับจำนวนของรูปปั้นพระพุทธรูป มันถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ใน 800 AD จากหินที่นำมาจากแม่น้ำที่ใกล้เคียง โครงสร้างเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ยืนสุดท้ายของจักรวรรดิ Srivijayan วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของอาคารยังไม่ทราบ แต่วัดกลายเป็นจุดแสวงบุญที่นิยมมากสำหรับชาวพุทธทั่วทั้งเอเชีย นักโบราณคดีบอกว่ามันถูกทอดทิ้งจาก 14 thศตวรรษและมันก็ไม่ได้มาค้นพบจนกว่า 19 thศตวรรษ บูรณะเกิดขึ้น 1975-1982 ที่เกี่ยวข้องกับไม่น้อยกว่า 600 ผู้เชี่ยวชาญ โครงการปรับปรุง $ 7,000,000 เปลี่ยน Borobudur ในหนึ่งในสถานที่ที่นิยมมากที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย 8 Todaji - นารา, ญี่ปุ่น (1250 ปี) ภาพ ที่มา Todaji เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นและสถานที่สำคัญแน่นอนสำหรับเมืองนาราGreat Eastern Temple(แปลจากภาษาญี่ปุ่น) ถูกสร้างขึ้นใน 752 และในปัจจุบันถือบันทึกสำหรับอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกทั้ง ตำนานบอกว่า 2.6 ล้านคนช่วยสร้างวัดในพุทธศาสนา รูปปั้นขนาดใหญ่ของพระพุทธรูปที่กำบังในวัดนี้ใช้ทั้งหมดของการผลิตสีบรอนซ์ของญี่ปุ่นและ 751 เกือบนำประเทศไปสู่การล้มละลาย วัดยับเยินโดยไฟและหลายรุ่นที่ยืนอยู่ในปัจจุบันเป็นเกือบสองในสามของขนาดเดิม 9 สุเหร่าโซเฟีย - อิสตันบูล, ตุรกี (1473 ปี) ภาพ ที่มา นี้แน่นอนหนึ่งในอาคารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตุรกีและสถานที่สำคัญของอิสตันบูล การก่อสร้างที่สุเหร่าโซเฟียเสร็จสมบูรณ์ใน 537, เวลาเพียงห้าปีของการทำงานอย่างเข้มข้น ตั้งแต่นั้นมาก็เป็นมหาวิหารออร์โธดอกปรมาจารย์มัสยิดและปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์180 ฟุต (55 เมตร) โครงสร้างสูงเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่รอดตายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสถ​​าปัตยกรรมไบเซนไทน์ มันคือการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยกระเบื้องโมเสคศิลปะและเสาหินอ่อนและ coverings มานานกว่าพันปีหลังจากการก่อสร้าง, สุเหร่าโซเฟียเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก 10 มหาวิหาร Euphrasian - Poreč , โครเอเชีย (1611-1709 ปี) ภาพ ที่มา อุบัติเหตุไฟไหม้และแผ่นดินไหวแม้ไม่ได้มีผลต่อนี้ที่น่าตื่นตาตื่นใจกับมหาวิหาร เครื่องหมายที่โดดเด่นที่สุดของมหาวิหารเป็น 6 thโมเสกศตวรรษที่ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศิลปะไบเซนไทน์ทั่วโลก กระเบื้องโมเสคที่ผนังที่ซับซ้อนได้รับการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญไบเซนไทน์ในขณะที่โมเสสชั้นถูกสร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่น มหาวิหารเป็นส่วนหนึ่งของความซับซ้อนที่น่าตื่นตาตื่นใจ ได้แก่ : 16 thศตวรรษที่หอระฆังเอเทรียมฟูฟ่อง, บิชอป 6 thที่อยู่อาศัยศตวรรษและโบสถ์ที่ระลึกพระฉายาลักษณ์รูป เนื่องจากค่าทางวัฒนธรรมของตนอันยิ่งใหญ่มหาวิหาร Euphrasian ถูกเพิ่มเข้าในรายการมรดกโลกในปี 1997 11 อัฒจันทร์ของเอล Djem El Djem, ตูนิเซีย (1711-1809 ปี) ภาพ ที่มา อัฒจันทร์เชื่อว่าจะเป็นอัฒจันทร์ขนาดใหญ่อันดับสามของจักรวรรดิโรมันและจะได้นั่ง 30,000 คนในนายก มันถูกสร้างขึ้นเมื่อ El Djem ยังอยู่ภายใต้การยึดครองอาณาจักรโรมันแล้วก็รู้จักเมือง Thysdrus ในปี 1904 พื้นที่ชั้นใต้ดินซ่อนถูกค้นพบ พื้นที่บริเวณนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองห้องนิรภัยซึ่งถูกนำมาใช้สำหรับการเป็นเจ้าภาพทั้งสัตว์ป่าและในสมัย​​โบราณ 1800 ปีต่อมาในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง, อัฒจันทร์ถูกนำมาใช้เป็นที่หลบภัยสำหรับกองกำลังเยอรมัน แม้ว่าแกลเลอรี่ใต้มีความเสียหายส่วนใหญ่ของอัฒจันทร์ยังคงยืนและจะเปิดให้ประชาชน 12 Pantheon - โรม, อิตาลี (1884 ปี) ภาพ ที่มา Pantheon ถูกสร้างขึ้น 126 AD เพื่อเป็นเกียรติแก่พระเจ้าทั้งหมดของกรุงโรมโบราณ มันเป็น 190 ฟุต (58 เมตร) สูงและกว้างและ 276 ฟุต (85 เมตร) ยาว คุณสมบัติที่น่าประทับใจมากที่สุดของอาคารเป็น 4,535 ตันหอก นี้มีการเปิดกลาง (กลม) ตลอดเวลาที่แสงแดดสามารถรับภายใน หลุมฝังศพโค้งในการตกแต่งภายในห้องนิรภัยแทนจากสวรรค์กลมและทางในโดมเป็นเพียงแหล่งที่มาของแสง นี้โครงสร้างที่น่าประทับใจและเป็นเอกลักษณ์ก็ยังใช้เป็นโบสถ์คริสต์ใน 18 thศตวรรษ กว่า 34 อาคารทั่วทุกมุมโลกได้แรงบันดาลใจสำคัญที่มีชื่อเสียงนี้และผู้ที่รู้วิธีการหลายยังมา? 13 Colosseum - โรม, อิตาลี (1930 ปี) ภาพ ที่มา การก่อสร้างของ Coloseum ยิ่งใหญ่ (แต่เดิมเรียกว่าราชวงศ์ Amphitheatre) เริ่มต้นใน 70 AD ภายใต้จักรพรรดิ Vespasianมันก็จบในที่สุด 80 AD และทำพิธีเปิดโดย Vespasian ลูกชายของติตัส ในระหว่างเกมเปิดกว่า 9,000 สัตว์ที่ถูกฆ่าเพื่อขีดเส้นใต้ความสำคัญของกรุงโรมและความยิ่งใหญ่ของอัฒจันทร์ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยสร้างมาในจักรวรรดิ โครงสร้างไม่ได้ใช้เสมอเป็นอัฒจันทร์แม้ว่าตั้งแต่ใน 12 thศตวรรษที่เป็นคนจัดการอย่างเต็มที่โดยครอบครัว Frangipani ที่ใช้มันเป็นปราสาท แม้ว่ามันจะยังคงยืนอยู่อย่างภาคภูมิใจในกรุงโรมเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของเมืองมันได้รับความเสียหายจำนวนมากและในปัจจุบันเพียงด้านเดียวอย่างเต็มที่ที่สร้างขึ้นยังคงยืนอยู่ 14 กำแพงเมืองจีน - จีน (2410 yeas) ภาพ ที่มา มันไม่ยุติธรรมที่จะบอกว่ากำแพงเมืองจีนเป็นจำนวนมากที่โครงการระยะยาวกว่างาน bodge รวดเร็ว การก่อสร้างที่มีความทะเยอทะยานในการพัฒนานี้เริ่มต้นใน 5 thศตวรรษและมันยังคงจนถึงวันที่ 16 กันยายนศตวรรษ กับทุกสาขา, ผนังเหยียดเมื่อ 5,500 กิโลเมตร (8,851 กิโลเมตร) และยังคงเป็นที่ใหญ่ที่สุดของโครงการที่มนุษย์สร้างขึ้นป้องกัน กำแพงป้องกันที่แตกต่างกันราชวงศ์จำนวนมากที่ได้ปกครองประเทศจีนตลอดหลายศตวรรษ แต่ในปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำในประเทศจีนตำนานเมืองพูดว่าผนังสามารถมองเห็นได้จากนอกพื้นที่ แต่นาซาพิสูจน์ให้เห็นว่าสงสัยนี้เป็นแทบมองเห็นได้จากโลกโคจรต่ำ (ความสูงน้อยที่สุดเท่าที่ 100 ไมล์) 15 มหาพีระมิดแห่งกิซ่า - ไคโร, อียิปต์ (4570 ปี) ภาพ ที่มา มหาพีระมิดแห่งกิซ่าถูกสร้างขึ้นใน 2560 BC มันยืนอยู่การทดสอบของเวลาเกือบห้า millenniums และนี่คือเหตุผลว่าทำไมในปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก สร้างหินมวลสร้างขึ้นจากประมาณ 2.3 ล้านหินปูนยังคงสมบูรณ์มาก พีระมิดใช้เวลาเพียง 20 ปีในการสร้าง, บันทึกจริงสำหรับเวลานั้นและสำหรับขนาดของมัน จำนวนคนงานทาสทำงานอย่างเข้มข้นและเทคโนโลยียังไม่รู้จักโดยผู้เชี่ยวชาญทำสถิตินี้เป็นไปได้ ปีที่ผ่านมา 3,800 นี่คืออาคารที่สูงที่สุดในโลกและเป็นตัวแทนของบันทึกของเวลาอื่น มหาพีระมิดแห่งกิซ่าถูกสร้างเป็นหลุมฝังศพที่ซับซ้อนและสิ้นเปลืองสำหรับฟาโรห์ Khufu เขาถูกฝังอยู่ในห้องของพระราชาซึ่งเป็นหนึ่งในสามห้องที่รู้จักกันภายในพีระมิด อยากชวนเพื่อนๆลองเข้ามาดูได้ที่ IAMTREND ได้เลยจร้า //board.postjung.com/629864.html   Create Date : 28 สิงหาคม 2555     1 comment Last Update : 28 สิงหาคม 2555 1:18:03 น.     Counter : 2090 Pageviews.   Share Tweet

เมนูใส่ไอเดีย...วุ้นไข่ไก่ สวัสดีค้า วันนี้มีเมนูน่ารักมาฝากกันอีกครั้ง  อาจจะคล้ายๆกับเมนูครั้งก่อน  แต่คราวนี้เปลี่ยนเป็นไข่ไก่แทน  ก็ได้ความน่ารักไปอีกแบบค้า  แต่ขั้นตอนการทำนั้นต้องทะนุถนอมกันสักนิดนึง  เพราะว่าเปลือกไข่แตกง่ายมาก  ยังไงลองดูขั้นตอนการทำกันก่อนนะค้า ว่ายากง่ายขนาดไหน  ส่วนผสม ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ เยลลี่ผง (เจลาติน) 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด ½ ลิตร น้ำตาลทราย 3 ขีด สีผสมอาหารเล็กน้อย (สีตามชอบ) ไข่ไก่  มาถึงขั้นตอนการทำกันค้า 1 ทำการกระเทาะเปลือกไข่ส่วนบน และเทไข่ไก่ออก นำเปลือกไข่ไปแช่น้ำ  2 เมื่อได้เปลือกไข่ แล้ว เราจะมาทำการละลายเยลลี่  วิธีทำ เริ่มทำเยลลี่โดยละลายผงวุ้นและเยลลี่ผง (เจลาติน)กับน้ำสะอาด คนให้เข้ากัน นำไปตั้งไฟกลางๆ รอจนเดือด ระหว่างนั้นให้คนตลอดเวลากันไม่ให้จับตัวเป็นก้อน ใส่สีผสมอาหารเพื่อความสวยงาม คนให้เข้ากัน ใส่ผลไม้ที่เหลือลงไปเพื่อให้มีกลิ่นหอม ปล่อยให้เดือดสักพักแล้วปิดไฟ 3 เมื่อเราได้เยลลี่ที่ละลายเตรียมไว้แล้ว ก็ตักเยลลี่นั้นใส่เปลือกไข่ที่เตรียมไว้ พักไว้ให้เย็นแล้วนำเข้าตู้เย็น  4 เมื่อต้องการทาน ก็นำออกมาเสิร์ฟเป็นฟองๆได้เลย ตามภาพค้า แค่นี้ก็ได้วุ้นในสีสวยเสิร์ฟในเปลือกไข่เรียบร้อย  วันหยุดนี้ก็ลองทำกันเป็นกิจกรรมสนุกๆที่บ้านนะค้า  มีสูตรอาหารน่าสนใจอีกมากให้ลองทำกัน หรืออยากจะร่วมสนุกแชร์สูตรเด็ดของตัวเอง ก็ได้                                       ลองเข้ามาดูได้ที่ IAMTREND ยินดีต้อนรับนะค้า   Create Date : 28 สิงหาคม 2555     1 comment Last Update : 28 สิงหาคม 2555 1:14:20 น.     Counter : 2525 Pageviews.   Share Tweet