2013 Nissan Note เผยโฉมว่าที่คอมแพ็ค MPV เริ่มจำหน่ายก.ย.นี้ที่ญี่ปุ่น ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา Nissan  ถือเป็นหนึ่งในค่ายรถยนต์ที่มีการพูดถึงอย่างมากเช่นกันในฐานะค่ายรถยนต์ที่นำเสนอความแปลกแหวกแนวใหม่ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงรถยนต์ที่เน้นในการตอบโจทย์การใช้งานอย่าง MPV  ที่เผยโฉมรถยนต์  Nissan Invitation และมันดูเหมือนจะเป็น Nissan Note  ใหม่                 2013 Nissan Note เพิ่งมีการเปิดตัวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างเป็นทางการในประเทศญี่ปุ่น  โดยรถรุ่นนี้จะเป็น รถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ที่มากด้วยเทคโนโลยี และยังล้ำหน้าด้วยการประหยัดนั้นรวมถึงรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างสมบูรณ์แบบ 2013 Nissan Note                 ภายนอกถูกปรับเส้นสายให้มีความทันสมัยด้วยแนวคิดที่ต้องการให้ตัวรถเป็นประหนึ่งกับสปอร์ยเลอร์ช่วยทั้งการลู่ลมและลื่นไหลคล้ายกับปีกที่เรียกว่า  Squash line  โดยปรับตั้งกระจังหน้าและโคมไฟหน้าไปจรดบั้นท้ายให้ความสวยงามและลงตัว นอกจากนี้ยังทำให้โครงสร้างมีน้ำหนักเบายิ่งขึ้น เพื่อให้มีการประหยัดน้ำมัน                 ด้านในห้องโดยสาร  2013 Nissan Note นำเสนอการออกแบบที่เน้นในความทันสมัยและยังให้ความลงตัวต่อการใช้งานที่เหมาะสมในหลากรูปแบบ  มาพร้อมการเลือกสรรวัสดุมีคุณภาพ และยังมาพร้อมฟังชั่นที่ช่วยในการขับขี่ง่ายยิ่งขึ้น อย่างเช่นระบบ Nissan's advanced Around View Monitor (AVM) ช่วยเสริมมุมมองโดยรอบของรถ ทำให้ที่แคบเป็นเรื่องง่ายๆไปในที่สุด 2013 Nissan Note                 แม้  Nissan Note  ใหม่จะเกิดมาเป็นรถยนต์สำหรับการใช้งานตอบสนองความลงตัวที่หลาก แต่ Nissan ก็มองถึงการประหยัดน้ำมันด้วย ด้วยการแนะนำขุมพลังใต้ฝากระโปรงด้วยการยกเครื่องยนต์ยอดประหยัดขนาด 1.2  ลิตร ใน Nissan March  มาประจำการ พร้อมกับมีการกล่าวว่าจะแนะนำเครื่องยนต์  ขนาด 1.2  ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศซุปเปอร์ชาร์จในเวอร์ชั่น  DIG-S   โดยทั้งหมดจะมาพร้อมระบบเกียร์  X-tronic CVT  และระบบหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วคราว โดยNissan เคลมอัตราประหยัดสูงสุดที่ 25.2  ก.ม./ลิตร                 อย่างไรก็ดี  Nissan note  เคยตกเป็นข่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่ารถยนต์รุ่นนี้จะเข้ามาผลิตในไทยจากการเปิดเผยของ นิตยสาร Best Car Thailand  ในฉบับปฐมฤกษ์ โดยมีการเปิดเผยว่า จะมีรุ่นเครื่องยนต์  1.2  และ  1.5  ลิตร  ส่วนจะจริงหรือไม่ต้องรอติดตามกัน   Create Date : 17 กรกฎาคม 2555     0 comment Last Update : 17 กรกฎาคม 2555 19:20:43 น.     Counter : 4331 Pageviews.   Share Tweet

ไฟตัดหมอก ...อีกทีดีไหม ..จะได้ใช้ให้เป็น   กลายเป็นกระแสที่มีการพูดถึงในโลกไซเบอร์กันอย่างโจ่งครึ้ม เกี่ยวกับมาตรฐานใหม่รถยนต์ ที่กลายเป็นเรื่องชาวบ้านรำคาญกันทั่วหน้า โดยเฉพาะ "ไฟตัดหมอก" ที่กลายมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ สำหรับรถยนต์หลายรุ่นในปัจจุบัน             ไฟดวงเล็กๆ ชุดที่สองที่เข้ามาอยู่ในรถรุ่นใหม่หลายรุ่น กลายมาเป็นปัญหาสำหรับการขับขี่อย่างมากกับคนเดินทาง โดยเฉพาะเมื่อการใช้งานของมันง่ายดาย และให้ประสิทธิภาพในการส่องสว่างมาก ทำให้ หลายคนมักเข้าใจผิด ในเรื่องการใช้งานว่า "ไฟตัดหมอก" จะสามารถใช้แทนไฟหน้า ได้ หรือไม่ ก็ใช้คู่กันไปเลย แต่วันนี้เราจะพามารู้จักการทำงานไฟตัดหมอกอย่างถ่องแท้กัน ไฟตัดหมอกคืออะไร             ไฟตัดหมอกอาจจะเป็นเรื่องใหม่ในบ้านเรา แต่สำหรับต่างประเทศแล้ว มันไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะด้วยสภาพอากาสที่หนาวเย็น ทำให้ในช่วงค่ำคืนหรือเช้ามืดในต่างประเทศจะเกิดหมอกควันได้ง่ายคล้ายกับทางเหนือของประเทศไทย ส่งผลต่อทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ยิ่งแย่ลงกว่าปกติ             ประเด็นนี้เองจึงเป็นที่มาของไฟตัดหมอก เกิดขึ้นมาด้วยความต้องการช่วยให้ความมั่นใจยิ่งขึ้นในการขับขี่ เพิ่มความเข้มแสงให้ทะลุทะลวงผ่านหมอกที่บดบัง ทำให้วิศวกรคิดย่อขนาดสปอร์ตไลท์ให้เล็กลงกว่าเดิมแล้วเรียกว่า Fog Lamp จนเป็นที่มาของคำว่า "ไฟตัดหมอก" โดยติดตั้ง อยู่ด้านล่างของกันชนหน้า ด้วยการใช้หลอดไฟแบบ H3 ซึ่งจะเป็นไส้หลอดเดียวกับไฟสปอร์ตไลท์ แต่บังคับให้มันมีความเข้มเพียง 55 วัตต์ เท่านั้น ทำให้มีกำลังส่องที่น้อยกว่ แต่ยังให้การกระจายแสงแบบเดียวกับ สปอร์ตไลท์ หลักการใช้งาน             เมื่อมองตามวัตถุประสงค์การใช้งานแล้ว จะเห็นได้ว่า "ไฟตัดหมอก" เกิดขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการช่วยผุ้ขับขี่ในภาวะที่ทัศนวิสัย แต่ปัจจุบัน มันกลายเป็นสิ่งที่คนไทยคิดว่า มันคือแฟชั่นในการใช้งาน บ้างอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่วันนี้เราจะมาย้ำกันอีกรอบว่า ไฟตัดหมอก ควรจะใช้เมื่อไร กัน 1.    หมอกลง .. ชื่อของมันก็ชัดเจน แล้วว่าไฟตัดหมอก ควรใช้เมื่อขับรถอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีสภาวะอากาศมีหมอก ควัน บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ ซึ่งไฟตัดหมอกช่วยให้เป็นที่สังเกตต่อเพื่อร่วมทางและสร้างทัศนวิสัยในการขับขี่ 2.    ฝนตก ไฟตัดหมอก ไม่ได้หมายความว่าจะใช้ตอนหมอกลงเพียงอย่างเดียว แต่ในช่วงฝนตก ที่น้ำฝนบนถนนลดการส่องสว่างของไฟหน้ารถคุณ ไฟตัดหมอกจะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ได้ และ ยังลดการสะท้อนของแสงจากพื้นถนนที่มีน้ำได้อีกด้วย   ในการเปิดใช้ไฟตัดหมอก ตามปกติค่ายรถยนต์ทุกเจ้าจะมีการแยกสวิทช์ชุดไฟตัดหมอก ออกจากไฟหน้ารถอย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถทำงานแยกส่วนได้ โดยไฟตัดหมอกจะทำงานตั้งแต่เริ่มเปิดไฟหรี่ ทำให้หลายคนเกิดความเข้าผิดว่า เปิดไฟตัดหมอกก็สว่าง ทั้งที่ไฟตัดหมอก ต้องใช้ร่วมกับไฟหน้า และในรถบางรุ่นยังทำงานร่วมกับไฟตัดหมอกหลังเพื่อช่วยให้เป็นที่สังเกตุไฟง่าย แต่เพื่อนร่วมทาง ดูชัดๆ นี่คือหลอด H3 ที่ใช้ในไฟตัดหมอก การใช้งาน "ไฟตัดหมอก" ที่ถูกต้อง เปิดไม่ถูกมีปรับ .. .       แม้จะเป็นข้อหาที่ยิบย่อยมาก แต่การเปิดไฟตัดหมอกอย่างไม่ถูกต้อง นอกจากจะรบกวนเพื่อนร่วมทาง ยังเป็นสิ่งล่อตาล่อใจตำรวจ  ที่กฏหมายมีการระบุเกี่ยวกับการใช้ไฟตัดหมอก เอาไว้อย่างชัดเจน ว่า การทำลายทัศนวิสัยการมองของผู้ใช้ทางถือเป็นความผิด โดยเจ้าหน้าที่เรียกปรับ 200 บาท เป็นค่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์จากการใชเงาน อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญกว่าค่าปรับคือเรื่องมารยาทในการใช้รถใช้ถนน ซึ่งพวกเราทุกคนควรจะช่วยกันในการทำให้ ถนนน่าขับขี่ .. และ การใช้ "ไฟตัดหมอก" อย่างถูกที่ก็จะช่วยสร้างเสริมประสบการณ์ดารขับขี่ที่ดีบนถนน รวมถึงยังลดการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งอาจจะมาจาดจุดเล็กๆอย่างแสงไฟตัดหมอกของคุณก็เป็นได้ //auto.sanook.com   Create Date : 16 กรกฎาคม 2555     0 comment Last Update : 16 กรกฎาคม 2555 20:01:05 น.     Counter : 2924 Pageviews.   Share Tweet

Seoul Auto Salon นี่มันแดนสวรรค์ชัดๆ   ผ่านไปกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับงานมหกรรมรถแต่งยิ่งใหญ่ที่สุดในบ้านเรา แต่ขณะที่ไทยเราเพิ่งจะจากไปงานที่เกาหลีก็เริ่มขึ้นแล้วสำหรบ Seoul Auto Salon ที่เพิ่งเปิดงานอย่างเป็นทางการ และแน่นอนว่าที่ขาดไม่ได้นอกจากรถแต่งก็เป็นสาวๆพริตตี้ที่เรา นำมาให้ชมกัน...แต่ขอบอกว่าเด็ดแท้ .. Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 Seoul Auto Salon 2012 สนับสนุนเนื้อหา   Create Date : 15 กรกฎาคม 2555     1 comment Last Update : 15 กรกฎาคม 2555 21:03:21 น.     Counter : 2129 Pageviews.   Share Tweet

ออฟฟิศเคลื่อนที่ รถเบนซ์ สุดแสนจะไฮโซ   Create Date : 14 กรกฎาคม 2555     0 comment Last Update : 14 กรกฎาคม 2555 23:21:01 น.     Counter : 2063 Pageviews.   Share Tweet

รวมภาพ รถแบทแมน จากอดีตสู่ปัจจุบัน เผยภาพรถแบทโมบิล พาหนะสุดสุดล้ำของมนุษย์ค้างคาวจากรุ่นปี 1955 ถึงทัมบ์เลอร์ รุ่นล่าสุดในงาน คอมิค-คอน แบทโมบิล ปี 1955 ผู้รับบท แบทแมน : อดัมส์ เวสต์ ข้อมูล : ตัวรถออกแบบโดย จอร์จ บาริส ตัวรถยังไปปรากฏในซีรี่ส์ของแบทแมน ในปี 1966 ด้วย แบทโมบิล ปี 1989 ผู้รับบท แบทแมน : ไมเคิล คีตัน ข้อมูล : ตัวรถปรากฏในหนัง Batman และ Batman Return ปี 1992 ด้วย โดยภาคหลัง ทิม เบอร์ตัน ผู้กำกับของเรื่องได้ออกแบบและปรับแต่งเล็กน้อย แบทโมบิล ปี 1995 ผู้รับบท แบทแมน : วาล คิลเมอร์ ข้อมูล : ตัวรถปรากฏในหนัง Batman Forever ออกแบบโดย โจเอล ชูมัคเกอร์ ซึ่งเป็นผู้กำกับของเรื่องด้วย แบทโมบิล ปี 1997 ผู้รับบท แบทแมน : จอร์จ คลูนี่ย์ ข้อมูล : โจเอล ชูมัคเกอร์ ผู้กำกับจากภาคก่อน ตามมากำกับภาคใหม่ในชื่อว่า Batman and Robin โดยเขายังทำการอัพเกรดแบทโมบิลให้ดูแฟนตาซียิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นรถรุ่นที่ยาวและเร็วที่สุดในบรรดาพาหนะคู่ใจมนุษย์ค้างคาว แบทโมบิล ปี 2005 ผู้รับบท แบทแมน : คริสเตียน เบล ข้อมูล : ผู้กำกับดัง คริสโตเฟอร์ โนแลน ออกแบบรถมัมบ์เลอร์ ที่เผยโฉมครั้งแรกในภาค Batman Begins (2005) และ The Dark Knight (2008) รวมถึงภาคล่าสุด The Dark Knight Rises ด้วย ซึ่งตัวรถจะเน้นไปในทางสมจริง แข็งแกร่ง ตามท้องเรื่องมันเป็นรถต้นแบบเพื่อทางการทหาร ซึ่งออกแบบโดย ลูเซียส ฟ๊อกซ์ (มอร์แกน ฟรีแมน) เครดิต : nangnadoo.com   Create Date : 13 กรกฎาคม 2555     0 comment Last Update : 13 กรกฎาคม 2555 21:12:01 น.     Counter : 4327 Pageviews.   Share Tweet