ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

2013 Mitsubishi Triton - Pajero Sport เติมออพชั่นเสริมความหล่อ

ในที่สุดหลังจากรอมาอย่างยาวนาน ค่ายรถยนต์  Mitsubishi  ก็ได้ฤกษ์ในการเผยรถยนต์รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมความทันสมัยโดนใจเหมือนเคย และครั้งนี้เป็นการปรับเรือนร่างเติมออพชั่นรถคันนี้ให้สามารถตอบสนองได้มากกว่าเดิม  ในทั้งสิองรุ่นรถยอดนิยมในตลาด

                การมาแนะนำรถยนต์  2013 Mitsubishi Triton - Pajero Sport  โดยรวมนั้นไม่ได้เน้นในความแตกต่างจากเดิมมากนัก เนื่องด้วยในการปรับครั้งนี้ยังไม่ใช่การปรับโฉม ตามที่บางเว็บไวต์ได้คาดการณ์เอาไว้ แต่ในครั้งนี้ค่ายทรีไดมอนด์ ก็เน้นในการตอบโจทย์ ที่มากยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิดใหม่ที่จะส่งต่อความเต็มเปี่ยมในสมรรถนะ "เชื่อในพลัง มั่นในสไตล์" สำหรับ มิตซูบิชิ ไทรทัน ส่วนในรถอเนกประสงค์ Mitsubishi Pajero Sport  มาภายใต้แนวคิดใหม่ "All on Demands"

2013 Mitsubishi Triton - Pajero Sport

Mitsubishi Trion 2013

              เป็นการกลับมาอีกครั้งของรถยนต์ที่เน้นในความสามารถเต็มเปี่ยมด้วยพลัง โดยทรวดทรงที่ทันสมัยยังคงกลับมาตอบโจทย์เสริมมาดเข้มเน้นความสะดวกสบายด้วยกรอบกระจกมองข้างแบบโครเมียมและไฟเลี้ยวในตัวที่สามารถพับและปรับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมคิ้วข้างประตูสไตล์สปอร์ตสีเดียวกับตัวรถ และไฟตัดหมอกหน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่น (ยกเว้นรุ่นซิงเกิ้ล แค็บ)

ในห้องโดยสาร ยกระดับความเหนือชั้นด้วยสไตตล์การตบแต่งบระดับเดียวกับ พรีเมี่ยม ภายใต้ การตกแต่งโทนสีดำ เบาะผ้าทูโทนสีใหม่เข้มขึ้น เฉพาะรุ่น GLX (ยกเว้นรุ่นซิงเกิ้ล แค็บ) และเบาะหนังสไตล์สปอร์ตสีดำเหมาะกับทุกสรีระที่มาพร้อมพวงมาลัยแบบ 3 ก้าน และหัวเกียร์หุ้มหนัง เฉพาะรุ่น GLS พร้อมให้ความโดดเด่นยิ่งขึ้น  ด้วย แผงหน้าปัดเสริมโครเมียมเป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่น ยกเว้นรุ่นซิงเกิ้ล แค็บ เช่นเดียวกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control)  เฉพาะรุ่น เกียร์อัตโนมัติ พร้อมสวิทช์ควบคุมวิทยุที่พวงมาลัย และ เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบล็อกเกียร์ Electric Shift lock   เฉพาะรุ่นเกียร์อัตโนมัติ

2013 Mitsubishi Triton - Pajero Sport

      ความบันเทิงในการขับขี่ปรับให้มีความสุนทรีย์มากยิ่งขึ้น  ด้วย เครื่องเล่นวิทยุซีดี  ดีวีดี เอ็มพี 3 พร้อมช่องต่ออุปกรณ์ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod / iPhoneสำหรับรุ่นเมกะแค็บพลัส และดับเบิ้ลแค็บพลัส ทุกรุ่น ยกเว้น  2.5 GLX และ เครื่องเล่นวิทยุ ซีดี เอ็มพี 3 พร้อมช่องต่ออุปกรณ์ AUX และ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod / iPhone ได้ ยกเว้นรุ่น ซิงเกิ้ลแค็บ 3.2 GL

        ด้านขุมพลัง มิตซูบิชิ ไทรทัน ยังคงมากับหลากทางเลือกในการตอบสนองการขับขี่ ตั้งแต่ เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร DI-D ไฮเปอร์คอมมอนเรล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์พร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวิน อินเทคแมนิโฟลด์ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 - 2,850 รอบต่อนาที  สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดา และ แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาที  สำหรับรุ่นเครื่องยนต์อัตโนมัติ   

      นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชั่นที่ให้ทั้งกำลังและความประหยัด ด้วยเครื่องยนต์     2.5 DI-D ไฮเปอร์ คอมมอนเรล DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ให้พละกำลังสูงสุด บ140 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 321 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที สำหรับรุ่น GLX ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง  และรุ่น GLS ขับเคลื่อน 4 ล้อ    2.5 DI-D ไฮเปอร์ คอมมอนเรล DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ให้พละกำลังสูงสุด บ128 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-3,000 รอบต่อนาที สำหรับรุ่น GL ขับเคลื่อน 2 ล้อ และรุ่น GLX

2013 Mitsubishi Triton - Pajero Sport

            เช่นเดียวกันนี้ ยังมีเครื่องยนต์เบนซิน 2.4  ลิตร  MPI SOHC ให้พละกำลังสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 5,250 รอบต่อนาที  และแรงบิดสูงสุด 194 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที รองรับน้ำมันเบนซิน 91, 95 และแก๊สโซฮอล์ 91-95, แก๊สโซฮอล์ อี 20 พร้อมการติดตั้งระบบ CNG ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อและรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง ตอบสนองรวดเร็วทันใจด้วยระบบเกียร์อัจฉริยะ 5 จังหวะ พร้อม Sportronic ที่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ตามความต้องการในรุ่น GLS และ GLS-Ltd.


Mitsubishi Pajero Sport  2013  ตอบ โจทย์ ทุกความต้องการเต็มอารมณ์ 

        ด้านรถยนต์อเนกประสงค์ยอดนิยม ก็ได้รับการเปลี่ยนในเวอร์ชั่นปีใหม่นี้ด้วย เช่นกัน หลังจากที่มีการแนะนำรถยนต์รุ่นนี้ในความปรูมากยิ่งขึ้นกับเครื่องยนต์  V6  ใหม่ที่ให้ความลงตัวในการขับขี่มากยิ่งขึ้น และครั้งนี้ก็ยังคงทรวดทรงเดิมที่มาพร้อมกับ ความหรูหรา หรูหราลงตัวด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์และหลอดไฟHID ที่ให้ความสว่างมากยิ่งขึ้น พร้อมระบบปรับระดับลำแสงอัตโนมัติและระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ตามสภาพแสงภายนอก และติดตั้งระบบน้ำฉีดล้างไฟหน้ารถเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่องสว่างของไฟหน้ารถ  รวมถึงระบบที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติพร้อมกรอบกระจกมองข้างแบบโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยวดีไซน์ใหม่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่น

2013 Mitsubishi Triton - Pajero Sport

        ความหล่อเหล่าในรุ่นใหม่นี้ได้รับหารแต่งเติมมากเป็นพิเศษมากยิ่งขึ้นด้วย ติดตั้งสปอยเลอร์หลังสไตล์สปอร์ต พร้อมกล้องมองภาพหลังขณะถอดเพิ่มทัศนวิสัยของผู้ขับขี่จอด เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเฉพาะรุ่น GT ซึ่งนอกจากนี้ยังให้ความมั่นใจยิ่งขึ้นด้วย สัญญานกะระยะจอดขณะถอยหลังแบบ 4 จุด

        ในห้องโดยสาร ยังให้ความมั่นใจด้วยภายในห้องโดยสาร ที่กว้างขวาง และมีระดับที่นั่งมาพร้อมกับเบาะนั่งแบบ 3 แถว รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ง่ายถึง 5 รูปแบบ เบาะที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น GT) ขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถแยกพับพนักพิงแบบ 60:40พร้อมการตกแต่งภายในโทนสีดำเฉพาะรุ่น GT

      ในการกลับมาครั้งนี้นอกจากความสบายของผู้โดยสารแล้วยังมาพร้อมกับการอำนวยการขับขี่ ให้สามารถตอบสนองได้มากยิ่งขึ้นด้วย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control)  พร้อมสวิทช์ควบคุมวิทยุที่พวงมาลัย ส่วนเรื่องความบันเทองก็ปรับให้มีความทันสมัยโดนใจยิ่งขึ้นกับ เครื่องเล่น DVD,VCD,CD MP3 รุ่นใหม่ที่ง่ายต่อการใช้งาน พร้อมพร้อมช่องต่ออุปกรณ์ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod / iPhone และจอภาพด้านหน้าแบบหน้าจอสัมผัส (Touch Screen) ขนาด 7 นิ้ว  พร้อมจอภาพแอลอีดี (LED) แบบ WIDE Screen ขนาด ใหญ่ 10.2 นิ้วสำหรับผู้โดยสารตอนหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น GT

2013 Mitsubishi Triton - Pajero Sport

            นอกจากนี้ ยังมีระบบนาวิเกเตอร์ ที่มาพร้อมกับแผนที่ที่นำทางในแบบ 3 มิติ เฉพาะรุ่น 3.0 GT และ 2.5 GT ขับเคลื่อน 4 ล้อ รวมถึง เครื่องเล่นวิทยุ ซีดี เอ็มพี 3พร้อมช่องต่ออุปกรณ์ AUX และ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod / iPhone ในรุ่น  2.4 GLS และ  2.5 GLS ยกเว้นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 GLS MT

            เช่นเดียวกันกับระบบ ระบบอำนวยความสะดวกและปลอดภัยอัจฉริยะ  (ETACS) ที่ติดตั้งมาให้มั่นใจในการใช้งาน เช่น ใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติในกรณีที่ฝนตกและผู้ขับขี่เปิดที่ปัดน้ำฝนในตำแหน่งปัดหยุด เมื่อรถใช้ความเร็วเกิน 60 กม./ชม. ที่ปัดน้ำฝนจะเปลี่ยนเป็นจังหวะที่ 1 ให้โดยอัตโนมัติ และจะกลับมาที่ตำแหน่งปัดหยุดเหมือนเดิมเมื่อความเร็วต่ำกว่า 60 กม./ชม. หรือ สัญญาณเสียงและไฟกระพริบเตือนเมื่อประตูปิดไม่สนิท สัญญาณเสียงและไฟกระพริบเตือนจะแสดงบนหน้าปัดเมื่อมีการออกรถในขณะที่ประตูรถปิดไม่สนิท เป็นต้น

           ด้านเครื่องยนต์  mitsuibishi Pajero Sport  ใหม่ ยังคงตอบด้วยสมรรถนะการขับขี่ 2 แบบ ที่ให้ความลงตัว ตั้งแต่เครื่องยนต์ ดีเซล2.5 ลิตร DI-D ไฮเปอร์คอมมอนเรล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวิน อินเทคแมนิโฟลด์ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาที

            ส่วนในกลุ่มเบนซินนั้น ยังสามารถตอบโจทย์ด้วย เครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.0 ลิตร V6  สูบ 24 วาล์ว มีพละกำลังสูงสุด 219 แรงม้าที่ 6,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด  281 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาทีรองรับน้ำมันเบนซิน 95 แก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์อี 20 และ 2.4 ลิตร  MPI SOHC ให้พละกำลังสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 5,250 รอบต่อนาที  และแรงบิดสูงสุด 194 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที รองรับน้ำมันเบนซิน 91, 95 และแก๊สโซฮอล์ 91-95, แก๊สโซฮอล์ อี 20เช่นกัน

                ในครั้งนี้ สำหรับใครที่ชอบลุยคงจะถูกใจยิ่งขึ้นกับ ความเหนือชั้นด้วยระบบขับเคลื่อน Super Select 4WD  ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก จากการพัฒนาต่อเนื่องยาวนานถึง 20 ปี  โดยจะติดตั้งมาใน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต  รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อม เทคโนโลยี Shift on the fly ให้เปลี่ยนเกียร์ได้ โดยที่ไม่ต้องหยุดรถ และ ยังสามารถเปลี่ยนความสามารถในการขับเคลื่อนได ถึง  4 โหมด สำคัญ ได้แก่

-             2H ขับล้อหลัง เหมาะสำหรับการขับขี่แบบปกติบนถนนธรรมดาที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้การขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ จึงให้อัตราเร่งที่ดี และประหยัดน้ำมัน

-        4H ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เหมาะกับสภาพถนนเปียกลื่นที่ใช้ความเร็วสูง โดยระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปที่ล้อหน้าและล้อหลังในอัตราส่วน 50:50 จึงให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ เกาะถนนเพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยในการขับขี่ยิ่งขึ้น

-       4HLc เหมาะกับสภาพทางที่ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูงโดยมีระบบ เซ็นเตอร์ ดิฟล็อก ซึ่งจะควบคุมแรงบิดของล้อหน้าและหลังให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง สำหรับการขับขี่ในสภาพโคลนเลน หรือบนพื้นถนนที่ลื่น น้ำท่วม

-       4LLc เหมาะกับสภาพทางที่ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูง และไม่สามารถใช้ความเร็วได้ในเส้นทางที่ทุรกันดารมาก

ท้งนี้ Mitsubishi triton และ  Mitsubishi Pajero Sport  2013  ใหม่ พร้อมวางจำหน่ายแล้วที่โชว์รูม มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ โดยราคาจำหน่ายสามารถสอบถามได้ที่ตัวแทนจำหน่าย


//auto.sanook.com




 

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2555   
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2555 21:44:31 น.   
Counter : 4437 Pageviews.  

จะดีไหม ถ้ามี “เซลล์ขายรถ“ แบบนี้

ทุกวันนี้การซื้อรถยนต์สักคันอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่การเดินเข้าโชว์รูมไปดูรถยนต์สักคันนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แน่นอน เมื่อพูดถึงการขายรถยนต์เราก็ต้องนึกถึงบรรดาเซลล์ขายรถยนต์ที่พร้อมแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ แต่เคยคิดไหมว่าเซลล์แบบไหนที่จะทำให้เรารู้สึกอยากซื้อรถ

                งานนี้อาจจะไม่ใช่เพียงฝันแต่เรากำลังพูดถึงเซลล์ในอุดมคติโดยเฉพาะกับชายชาตรีทั้งหลายที่อาจจะต้องการออะไรมากกว่า และขอเชิญพบกับเซลล์รถยนต์ในอุดมคติของทุกคนได้เลย

                คลิปนี้เป็นคลิปวีดีโอที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษภายใต้แนวคิดของผู้กำกับอย่าง Alexander Tikhomirov ที่มองว่าการซื้อรถยนต์ต้องการอะไรมากกว่า แค่คำพูดหรือโปรโมชั่นดีๆ ส่วนเขาจะมีอะไรมาเรียกความสนใจเอาเป้นว่าไปดูเองเลยทางด้านล่าง



เรื่องโดย ทีมงาน Sanook! Auto 




 

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2555   
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2555 20:40:57 น.   
Counter : 2581 Pageviews.  

Lamborghini Aventador Roadster เวอร์ชั่นแรงรับลมของเจ้ากระทิงดุ

เมื่อพูดถึงรถยนต์สมรรถนะสูงอย่างซปเปอร์คาร์ไม่ว่าใครก็คงต้องนึกถึงค่ายรถยนต์อย่าง Lamborghini  ที่หลยคนคงฝันอยากจะเป็นเจ้าของและหลังจากส่งในเวอร์ชั่นมิดชิดปิดหลังคามาในรถยนต์  Lamborghini aventador LP700-4  แล้วครั้งนี้ก็เป็นทีของเวอร์ชั่นเปิดหลังคากันบ้าง

Lamborghini Aventador LP700-4 Roadster เป็นรถยนต์ในอีกคราบความเป็นตัวตนของค่าย Lamborghini   ที่เน้นในความสปอร์ตเต็มพิกัดสำหรับใครที่ชอบการรักลมชมวิวในรถยนต์สุดซิ่ง ที่ให้สมรรถนะเร้าอารมณ์ในการขับขี่มากขึ้น

Lamborghini Aventador LP700-4 Roadster

                ในเวอร์ชั่นใหม่นี้ Lamborghini   แทบไม่ได้มีการปรับอะไรในเรื่องตัวถังรถมากมายนัก แต่ก็เน้นหนักในความง่ายในการเปลี่ยนโฉมรถให้มีความแตกต่าง ด้วยหลังคาที่ไม่ได้พับเก็บด้วยไฟฟ้า แต่ในขณะที่มัน อาจจะต้องมาพร้อมกับระบบอัตโนมือ ทว่าก็ง่ายในการพับเก็บหรือปิดกลับด้วยน้ำหนักเบากว่า 6 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อถอดออกแล้วสามารถนำหลังคาเก็บไว้ได้ที่ทางด้านหน้าของตัวรถในช่องห้องเก็บสัมภาระ และสามารถติดตั้งกลับไปได้ง่ายดายโดยใช้เวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น

                เมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นคูเป้ ในเวอร์ชั่นโรดสเตอร์นั้น รถยนต์รุ่นนี้ยังให้การออกแบบที่ปรับเปลี่ยนเล็กน้อย เช่นเสา  C ที่ต้องปรับในการรองรับหลังคาที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น และยังมีระบบป้องกันฉุกเฉินคอยปกป้องผู้โดยสารและผู้ขับขี่จากกำลังที่เหลือเฟือของเครื่องยนต์แบบ V12

Lamborghini Aventador LP700-4 Roadster

                นอกจากหลังคาที่สามารถปรับถอดเก็บได้ เจ้ากระทิงดุ Lamborghini Aventador LP700-4 Roadster   ยังมีชิ้นส่วนป้องกันลมเพื่อลดการรบกวนของเสียงลมขณะขับขี่และสามารถถอดเก็บได้ถ้าต้องการและเช่นเดียวกันกับชุดหลังคา และกระจกทางด้านหลังสามารถปรับเลื่อนขึ้นลงได้เพื่อเปลี่ยนสไตล์ตามความต้องการ

                ด้านการเปลี่ยนแปลงนอกจากชิ้นส่วนที่ปรับได้ต่างๆมากขึ้นแล้ว ยังมีสีฟ้าใหม่ "Azzuro Thetis" ที่กลับมาอีกครั้ง ซึ่งเคยอยู่ในรถตำนานของบริษัทอย่าง 1968 Miura Roadster ที่มาพร้อมกับล้ออัลลอยพิเศษ "Dione" ที่เบากว่าเดิมถึง 10 กิโลกรัม มีเลือกเพียง ขอบ 21 และ 22 นิ้ว

Lamborghini Aventador LP700-4 Roadster

                ส่วนภายในห้องโดยสาร Lamborghini Aventador LP700-4 Roadster    มีความคล้ายคลึงกับเวอร์ชั่นคูเป้แทบทุกอย่าง ยกเว้นหนังพิเศษ "Sabbia Nefertem" ที่มีมาให้เฉพาะรุ่น ขณะที่เครื่องยนต์แบบ V12 ขนาด 6.5 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศยังคงไม่แตกต่างจากเดิม ที่มาพร้อมกำลัง 700 แรงม้า พร้อมเกียร์ 7 สปีด ให้ความมันส์ในสมรรถนะ รวมถึง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และ ช่วงล่างแบบ Pushrod ไปจนกระทั่งห้องโดยสารคาร์บอนไฟเบอร์ที่ทำขึ้นมาชิ้นเดียวหรือ  monocoque cockpit

ทั้งนี้เจ้ากระทิงดุ  Lamborghini Aventador LP700-4 Roadster   เริ่มวางจำหน่ายแล้วอย่างเป็นทางการ โดยมันจะมาพร้อมกับราคาค่าตัวที่สูงถึง 3 แสนยูโร ซึ่งจะมีการโชว์ตัวอีกครั้งที่งาน LA Auto Show 2012 ส่วนจะมีราคาไทยเท่าไร ลองเอา 50 คูณเข้าไป ซึ่งราคาดังกล่าวไม่รวมภาษี....

เรื่องโดย ทีมงาน Sanook! Auto 





 

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2555   
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2555 20:32:34 น.   
Counter : 1479 Pageviews.  

Mercedes Benz Ener G-Force Concept ต้นกำเนิดว่าที่ G-Class แห่งอนาคต

เมื่อพูดถึงรถยนต์แห่งอนาคต หลายคนอาจจะคิดว่ารถยนต์ที่ดีนั้นควรจะต้องมีการตอบสนองในเรื่องความสะดวกสบาย ความประหยัด แต่นอกจากทั้ง 2  เรื่องที่เราได้กล่าวถึงแล้ว ในเรื่องของการออกแบบก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญ และหลายครั้งที่เราได้เห็นผ่านรถต้นแบบ ที่งานนี้ที่ LA  รถอนาคต ก็กลับมาอีกครั้ง

                ในงานปีนี้  มีการประกวดในเรื่องของการออกแบบรถยนต์แห่งอนาคต ภายใต้แนวคิดที่ต้องการสื่อถึงรถยนต์อเนกประสงค์ขาลุย ของค่ายรถยนต์ ต่างๆ และค่ายดาวสามแฉก  Mercedes Benz  เอง ก็ไม่พลาดที่จะ นำเสนอผลงานล่าสุดที่ดูเหมือนมันจะกำลังเป็นจริงมากยิ่งขึ้น อย่างที่ไม่เคยนึกมาก่อน

Mercedes Benz Ener G- Force


                Mercedes Benz Ener G- Force  อาจจะยังไม่ใช่รถที่ผลิตออกวางจำหน่ายจริงอย่างเป็นทางการ แต่ด้วยทรวดทรงของมันนั้นก็อดไม่ได้ที่จะทำให้เรานึกถึงการ ออกแบบที่สะท้อนบุคลิกความเป็นอเนกประสงค์ตัวลุยของรถยนต์ในโลกอนาคตที่จะได้พบเจอ โดยผลงานล่าสุดนี้เป็นของ ศูนย์ออกแบบภาคพื้นอเมริกา ที่ล่าสุดพวกเขาก็เพิ่งเสร็จสิ้นในการทำโมเดลขนด 1:1 เพื่อโชว์เรือนร่างที่เหมือนจริง และกำลังจะนำออกโชว์อย่างเป็นทางการในปลายเดือนนี้ที่  LA

                ในเวอร์ชั่นโมเดล  Mercedes Ener G-Force  ถูผนวกรวมด้วยเส้นสายแห่งความทันสมัยเช่นเดียว ยังดูมีเสน่ห์ที่ลงตัวในความเป็นรถยนต์นั่งสำหรับเพื่อการลุย แต่ถึงแบบนั้นในแง่หนึ่ง มันก็ได้รับ DNA  ของ  Mercedes Benz G-Class  เข้ามาผสมผสาน ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่นี่อาจจะคือว่าที่อนาคตของเจ้ายอดรถลุยของค่ายดาวสามแฉก

            นาย กอร์เด้น วาเกนเนอร์ ผู้อำนวยการของศูนย์การออกแบบรถยนต์ของ Mercedes  กล่าว่า  เราพยายามให้มันดูทันสมัยและเจ๋งไปพร้อมๆกัน และมันจะเป็นปรัชญาใหม่แห่งการออกแบบรถยนต์ประเภทลุย ของค่ายเมอร์เซเดส

Mercedes Benz Ener G- Force

                "นี่นับว่าเป็นนิยามใหม่ ของการผจญภัยในวันหน้า และ Mercedes Benz Ener G- Force  สะท้อนตัวตนความเป็นรถยนต์ที่ได้รับการใส่ใจรายละเอียดมาเป็นอย่างดี ซึ่งมันจะเป็นยีนใหม่ของ ในรุ่น G-Class  สำหรับอนาคต"

                ด้านการขับเคลื่อนแม้จะยังไม่มีการวางแผนอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีการเปรยออกมาว่ามันจะเป็นรถแบบ Fuel Cell โดยถังน้ำจะถูกติดตั้งไว้ที่บนหลังคาของตัวรถ เพื่อให้กำลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ที่ติดตั้งไว้ที่ ล้อ ทั้ง 4 และคาดว่ามันจะสามารถเดินทางได้ไกลถึง 800 กิโลเมตรในการเติมน้ำครั้งเดียว

แม้จะยังไม่จำหน่าย แต่ Mercedes  มีแผนในการเผยว่าอนาคตรถอเนกประสงค์ตัวลุยคันนี้อย่างเป็นทางการที่งาน  LA  ที่กำลังจะมาถึง  ส่วนคันจริงคงต้องรอในอนาคตวันหน้าที่เราอาจจะได้พบเจ้าขาลุยคันนี้

เรื่องโดย ทีมงาน Sanook! Auto 





 

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2555   
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2555 22:41:43 น.   
Counter : 1933 Pageviews.  

Update: 2013 Toyota Avalon รุ่น 2.5 ไฮบริด 16.9 กม./ลิตร

2013 Toyota Avalon
เรื่อง : ARIA 54 Thursday, 15 November, 2012 0:02 AM
800x
Update: 2013 Toyota Avalon
รุ่น 2.5 ไฮบริด 16.9 กม./ลิตร
baอัพเดทกันอีกครั้ง โตโยต้า ปล่อยข้อมูลจำเพาะและราคาของ Avalon เจนเนอเรชั่นที่ 4 ออกมาแล้ว การทำตลาดในสหรัฐฯ จะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคม 2012 โดยก่อนหน้านี้ EPA ได้ประกาศผลอัตราสิ้นเปลืองของรุ่นไฮบริดอย่างเป็นทางการ แบบรวมและในเมืองออกมาที่ 16.9 กม./ลิตร เท่ากัน ส่วนไฮเวย์ตกลงไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น 16.6 กม./ลิตร

baจุดเด่นภายนอกของ Avalon ใหม่คือโคมไฟหน้าที่ โตโยต้า เรียกว่า Quadrabeam ไฟต่ำใช้หลอด LED พร้อมเลนส์ PES หรือ Poly Ellipsoid System ทรงเหลี่ยมด้านละ 2 ดวง เทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ใน Lexus LS รุ่นปี 2013 ส่วนไฟวิ่งกลางวัน Daytime Running Lights ใช้หลอด LED ฝั่งละ 3 ดวง รุ่นพื้นฐานสีภายนอกมีสีใหม่ 2 สีคือ Moulin Rouge Mica และ Champagne Mica พร้อมล้ออลูมิเนียม 17 - 18 นิ้ว ส่วนรุ่นไฮบริดติดตั้งล้อ 17 นิ้ว พร้อมยางลดแรงต้านการหมุนของ Michelin

baรุ่นไฮบริดนั้น เป็นการต่อยอดมาจากระบบ Hybrid Synergy Drive ที่ใช้ใน Camry Hybrid ใหม่ อาศัยกำลังจากเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 2AR-FXE แบบ Atkinson cycle กำลังสูงสุด 154 แรงม้า hp จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังรวม 105 กิโลวัตต์ (140 แรงม้า) ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT น่าเสียดายที่แบตเตอรี่แพคยังไม่อัพเกรดมาเป็นลิเธียม-ไอออนเหมือนรถรุ่นปี 2013 แบบผู้ผลิตอื่นๆ โดยยังคงใช้งานชุดแบตเตอรี่นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์เหมือน Camry กำลังรวมทั้งระบบ 200 แรงม้า hp แบ่งโหมดการขับเป็น 3 แบบคือ EV, ECO และ SPORT

baรุ่นพื้นฐานเหมือนข่าวเดิมทางด้านล่าง คือยังคงใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์ V6 Dual VVT-i ความจุ 3.5 ลิตร 2GR-FE เหมือนเจนเนอเรชั่น 3 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ กำลังสูงสุด 268 แรงม้า hp ที่ 2,600 รอบ/นาที แรงบิด 34.2 กก.-ม. ที่ 4,700 รอบ/นาที อัตราทดเกียร์ถูกปรับปรุงใหม่ให้มีความกระฉับกระเฉงขึ้น อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ต่ำกว่า 7 วินาที ในขณะที่อัตราสิ้นเปลืองไม่สูงเกินไปนัก โดยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากการทดสอบของ EPA อยู่ที่ 10.6 กม./ลิตร

baราคาจำหน่าย Avalon รุ่นไฮบริดเริ่มต้นที่ 35,555 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.1 ล้านบาท รุ่นท๊อปขยับไปที่ 41,400 ดอลลาร์ หรือราว 1.27 ล้านบาท ส่วนรุ่นพื้นฐานเบนซิน V6 เริ่มต้นที่ 33,195 ดอลลาร์ หรือราว 1 ล้านบาท
2013 Toyota Avalon
เรื่อง : ARIA 54 Tuesday, 10 April, 2012 0:39 AM
800x
2013 Toyota Avalon
เจนเนอเรชั่นใหม่ เยาว์วัยขึ้นกว่าเดิม
baโตโยต้า เปิดตัวหนึ่งในรถรุ่นสำคัญ All-New Toyota Avalon เจนเนอเรชั่น 4 ไปในงาน 2012 นิวยอร์ค ออโต้โชว์ ต้นเดือนที่ผ่านมา การออกแบบโดยรวมเทียบกับรุ่นก่อนหน้า เรียกความเยาว์ขึ้นมาได้อีกพอสมควร โดยเฉพาะด้านท้ายที่ลาดเทมาจากแนวหลังคา ช่วยให้มุมมองด้านข้างดูปราดเปรียวอย่างเห็นได้ชัด

baAvalon เป็นรถซีดานขนาดกลางที่ใช้ทำตลาดในสหรัฐอเมริกามาอย่างยาวนาน เจนเนอเรชั่นแรกเปิดตัวในปี 1994 พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ Toyota Camry แต่ยกระดับความหรูให้ลูกค้าที่ต้องการรถพรีเมี่ยม เน้นความสะดวกสบายเป็นหลัก การออกแบบค่อนข้างอยู่ในแนวอนุรักษ์นิยม ก่อนที่ความเปลี่ยนแปลงจะเริ่มมาเยือน Avalon ในรุ่นลิมิเต็ด ปี 2011 โดยออกแบบไฟหน้าให้เชื่อมกับกระจัง
2013 Toyota Avalon
• Toyota Avalon Limited รุ่นปี 2011
800x
baAvalon รุ่นใหม่ล่าสุด ขนาดตัวมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ลดความยาวจาก 5,020 เหลือ 4,960 มม. ลดความกว้างจาก 1,849 เหลือ 1,835 มม. แต่ความสูงแตกต่างอยู่มากพอสมควร จาก 1,486 เหลือ 1,460 มม. โดยวางอยู่บนฐานล้อขนาดเท่าเดิม 2,819 มม. พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ Camry เจนเนอเรชั่น 7 ที่ โตโยต้า ใช้ทำตลาดในสหรัฐฯ และออสเตรเลีย รวมทั้งหยืบยืมเส้นสายบางส่วนจากแนวไฟหน้าและกระจังติดมือมาด้วย

baรูปลักษณ์ทั้งหมดอยู่ในความรับผิดชอบของทีมออกแบบ Calty Design ในแคลิฟอร์เนีย ขณะที่งานด้านวิศวกรรมเกิดขึ้นที่ Toyota Technical Center ในแอน อาร์เบอร์ รัฐมิชิแกน

baเครื่องยนต์ที่จะใช้ทำตลาด คาดว่ายังคงเป็นบล็อค V6 ความจุ 3.5 ลิตร เหมือนเจนเนอเรชั่น 3 ที่ขยับเพิ่มความจุขึ้นมาจากเครื่องยนต์ 3.0 ลิตรในเจนเนอเรชั่น 2 จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า และมีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อให้ใช้งานด้วย โหมดการขับขี่มีให้เลือก 3 โหมดคือ Normal, Eco และ Sport

baAvalon ใหม่ยังใช้ฐานการผลิตเดิมเป็นหลัก คือ โรงงานในเมืองจอร์จทาวน์ รัฐเคนทัคกี้ ซึ่งเป็นที่มั่นของ TMMK หรือ Toyota Motor Manufacturing Kentucky นั่นเอง โดยกำหนดการจำหน่ายอยู่ในช่วงปลายปี 2012 นี้

baรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆ โปรดรออัพเดทกันอีกครั้งครับ

//www.motortrivia.com/




 

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2555   
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2555 23:42:34 น.   
Counter : 3978 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  

zulander
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




หวยซอง เลขเด็ด
หวยซอง เลขเด็ด หวยซองแม่นๆ หวยซองดัง รวมหวยซอง






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add zulander's blog to your web]