ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

8 เคล็ดลับ ช่วยให้หลับสบาย

ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพซึ่งประกอบด้วยการรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพและความเครียด แต่อีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพคือการนอนหลับที่ไม่เพียงพอ

การที่ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอสามารถส่งผลร้ายต่อสุขภาพได้พอๆ กับการเลือกรับประทานอาหารแบบผิดๆหรือการที่ปล่อยให้ร่างกายเผชิญกับสภาวะซึมเศร้า เว็บไซต์ด้านสุขภาพ WebMD.com และ Mayo Clinic ได้ให้เคล็ดลับง่ายๆ สำหรับนอนหลับอย่างเต็มอิ่มดังต่อไปนี้

1. จัดสรรเวลาการนอน
พยายามจัดสรรเวลาการนอนให้เป็นเวลา และพยายามเข้านอนตามเวลานั้นๆ อย่างสม่ำเสมอ

2. รับประทานอาหารอย่างถูกต้อง
นอกจากการหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนแล้ว ก็ไม่ควรนอนในขณะที่กำลังหิวหรืออิ่มเกินไป และไม่ควรนอนทันทีหลังจากที่ดื่มน้ำหรือรับประทานของเหลว เมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกหิว ให้รับประทานผลไม้ เช่น กล้วย ที่อุดมไปด้วยโปแทสเซียมและได้รับการวิจัยมาแล้วว่าสามารถช่วยให้นอนหลับสบายหลังจากรับประทาน

3. ใช้อุปกรณ์เสริม
การใช้ที่ปิดตา ที่อุดหู และการเปิดดนตรีเบาๆ จะช่วยให้การนอนหลับของคุณดีขึ้น อยู่ห่างจากเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด รวมไปถึงแล็บท็อป หรืออุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ต่างๆ ที่สามารถรบกวนคุณได้ในระหว่างการนอนหลับ ปิดไฟในห้องนอนเพื่อสร้างบรรยากาศที่สงบให้กับตัวคุณเอง

4. หาวิธีกล่อมตัวเอง
พยายามหาวิธีที่จะช่วยทำให้คุณรู้สึกสบายตัวและผ่อนคลายสมองเพื่อที่จะพร้อมในการนอน ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำอุ่น อ่านหนังสือ ไปจนกระทั่งการฟังเพลง

5. ออกกำลังกาย
ผู้เชี่ยวชาญค้นพบว่า การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้คุณหลับสบายมากขึ้น

6. ทำสมาธิ
การฝึกกำหนดลมหายใจ นั่งสมาธิ การเล่นโยคะ และการรำไท่เก็ก ช่วยให้ร่างกายของคุณผ่อนคลายและหลับสบายมากขึ้น

7. ทำใจให้สงบ
หากมีอะไรรบกวนจิตใจก่อนเข้านอน ให้ระบายสิ่งที่กวนใจนั้นด้วยการเขียนลงบนกระดาษ หรือว่าระบายให้คนรัก เพื่อน คนใกล้ตัว หรือจิตแพทย์ฟัง

8. ขอปรึกษาจากแพทย์
หลายๆ คนอาจมองว่าการนอนไม่พอมีปัจจัยมาจากความเครียด แต่ที่จริงแล้วการที่ร่างกายได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอนั้นอาจส่งผลกับร่างกายในด้านอื่นๆ ได้อีก ถ้ามีปัญหาในเรื่องของการนอนหลับควรรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ




 

Create Date : 20 มิถุนายน 2555   
Last Update : 20 มิถุนายน 2555 20:09:44 น.   
Counter : 1254 Pageviews.  

เลือกเสื้อผ้าผู้ชายให้ใส่ได้ในทุกสถานการณ์

การเลือกเสื้อผ้าผู้ชายให้สามารถใส่ได้ในทุกๆสถานการณ์ หรือทุกเหตุการณ์ ถือได้ว่าเป็นปัญหาที่น่าจะสร้างความหนักใจให้กับหนุ่มๆทั้งหลาย ไม่น้อยเลยครับ ดังที่เราจะสังเกตเห็นได้จากความว้าวุ่นใจ ในการหาจัดเตรียมเสื้อผ้าของหนุ่มๆรอบตัวเรา อาจจะเป็นเพื่อนๆ พี่ชาย คุณพ่อ หรือใครก็ตามแต่ ที่เวลาจะไปไหนมาไหน มักจะมีคำบ่นตามมาเสมอว่า จะใส่ชุดอะไรไปดี? ชุดนี้จะเหมาะไหม? หรือไม่ก็ จะไปหาซื้อชุดที่ไหนใส่ไปดี? เสื้อผ้าที่มีมันไม่เหมาะจะใส่ไปเลย อะไรอย่างนี้เป็นต้น โดยเฉพาะอย่ายิ่งเวลาที่ต้องไปงานเลี้ยง หรือไม่ก็ต้องออกไปพบลูกค้า ติดต่องาน ติดต่อธุระอะไรที่เป็นทางการหน่อย ฉะนั้นวันนี้ผมเองจะขอนำเสนอวิธีเลือกเสื้อผ้าผู้ชาย ให้สามารถใส่ได้ในทุกสถานการณ์ เพื่อที่หลายๆคนจะได้ไปเลือกซื้อได้ง่ายๆ และหมดปัญหาในการจัดเตรียมหาเสื้อผ้าสำหรับสถานการณ์ต่างๆกันครับ

          โดยก่อนอื่นเลยนั้น ให้หลายๆคนทำความเข้าใจสักนิดก่อนครับว่า เสื้อผ้าผู้ชาย ที่สามารถใส่ได้ในทุกๆสถานการณ์ นั้น จะต้องเป็นกึ่งๆทางการหน่อย คือมันอาจจะไม่ได้ใส่สบายเลยซะทีเดียว แต่มันก็ไม่ได้ยุ่งยากเหมือนกับการใส่เสื้อผ้าแนวทางการที่อาจจะต้องผูกเนทไค ติดหูกระต่าย ใส่สูททับ อะไรขนาดนั้นครับ และที่สำคัญเสื้อผ้ากึ่งๆทางการหน่อย มันดูแล้วสุภาพ จึงทำให้เราสามารถใส่ได้ในหลากหลายสถานการณ์ครับ ทีนี้ก็มาเริ่มกันด้วย


  วิธีแรกเลยละกันครับ ในการเลือกซื้อเสื้อผ้าผู้ชาย ให้สามารถใส่ได้หลากหลายสถานการณ์ เสื้อควรจะต้องเป็นเสื้อเชิร์ต หลีกเลี่ยงเสื้อแนวอื่นๆ โดยเฉพาะเสื้อยืด เพราะเสื้อยืดมักจะเหมาะเป็นเสื้อใส่เล่นสบายๆอย่างเดียว เวลาที่เราใส่ไปงานเลี้ยง หรือติดต่อธุระ มันจะดูไม่สุภาพครับ ส่วนวิธีดูว่าจะเลือกเสื้อเชิร์ตอย่างไร ก่อนอื่นเลยก็ดูที่ความชอบเราก่อน คือไม่จำเป็นต้องเป็นแนวทางการ แบบเรียบๆไม่มีลวดลายเลย อะไรอย่างนั้นนะครับ ให้มีลวดลายบ้างก็ได้ แต่ลวดลายต้องเป็นลวดลายที่ดูแล้วสุภาพนะครับ คือมองดูภาพรวมแล้ว เสื้อตัวนั้นยังคงความเรียบอยู่น่ะครับ ไม่ใช่ว่ามาเป็นลายตารางทั้งตัว ซึ่งมันจะดูเหมือนเสื้อใส่ไปเที่ยวซะมากกว่าครับ 

          วิธีที่สอง ส่วนสีสันของเสื้อให้เราดูสีพื้นๆทั่วไป เช่นสีขาว สีครีม หรือถ้าจะเป็นสีที่สดใสหน่อย ก็ต้องเป็นโทนสีอ่อนๆ เช่น ฟ้าอ่อน ส้มอ่อน ชมพูอ่อน อะไรแบบนี้ ก็สามารถใส่ได้ในทุกๆสถานการณ์เหมือนกันครับ แล้วก็มาดู

          วิธีที่สาม หรือข้อที่สองของการเลือกเสื้อผ้าผู้ชาย เพื่อให้ใส่ได้ในทุกถานการณ์กันครับ ก็คือ เป็นการเลือกกางเกงซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เสื้อผ้าผู้ชายที่ดูสุภาพ ใส่ได้ทุกงาน ก็อยากจะแนะนำว่ากางเกงนั้นควรเป็นกางเกงสแล็ค แต่มันอาจจะดูทางการเกินไป ฉะนั้น แนะนำว่าเป็นกางเกงสแล็ค แต่ว่ารูปทรงขาเดฟ ก็ได้ครับ ซึ่งมันจะลดความเป็นทางการลงมา ใส่แล้วดูแฟชั่นมากขึ้นด้วยครับ เวลาไปอะไรที่ไม่ได้ทางการมากจะได้เหมาะสมที่สุดครับ อย่างเช่น การนัดคุยงานกับลูกค้าตามห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร หรือไม่ก็เป็นกางเกงยีนส์แนวที่ชอบก็ได้ครับ แต่ถ้าเป็นกางเกงยีนส์ควรจะไม่มีรอยขาด หรือว่าสีสันที่ดูซีดมากเกินไปครับ เพราะมันจะดูไม่สุภาพครับ

          แล้วก็ข้อสุดท้าย ก็คือรองเท้า ควรจะต้องเป็นรองเท้าหุ้มส้น อาจจะไม่ต้องถึงขนาดเป็นคัทชู หนังสีดำ แต่ขอให้มองดูแล้วสุภาพ กล่าวคือ มีสีสันพื้นๆ ไม่จี๊ดจ๊าด และรูปทรงไม่ดูแหวกแนวมากเกินไป เท่านั้น ก็เพียงพอที่จะแมทกับเสื้อผ้าผู้ชาย แบบกึ่งๆทางการ ที่พร้อมจะเป็นสิ่งคู่กาย คู่ใจเราในการไปไหนมาไหนได้ทุกสถานการณ์ ทุกเหตุการณ์ และทุกเรื่องสำคัญ แล้วละครับ

ที่มา   //goodlyguy.lnwshop.com/




 

Create Date : 19 มิถุนายน 2555   
Last Update : 19 มิถุนายน 2555 21:03:22 น.   
Counter : 2324 Pageviews.  

กินเม็ดบัวป้องกันมะเร็งตับ

 แหล่งโปรตีนเช่นเดียวกับการกินถั่วเหลือง ที่ธัญพืชพื้นบ้านชนิดนี้สร้างความฮือฮาให้ชาวโลกคือ มีการวิจัยพบว่า เม็ดบัวมีสารแอนติออกซิแดนต์ในปริมาณสูง ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติหลายอย่าง เช่น ชะลอการเสื่อมของอวัยวะและผิวพรรณ ป้องกันมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งตับ

เม็ดบัว

เม็ดบัว มีประโยชน์ทางยาสูงมาก แพทย์แผนไทย แนะนำว่า ช่วยบำรุงกำลัง แก้โรคข้อต่างๆ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ส่วนแพทย์แผนจีนบอกว่า ช่วยบำรุงไต ม้าม หัวใจ และตับซึ่งตรงกับงานวิจัยในต่างประเทศที่ระบุว่า
      “สารแอนติออกซิแดนต์จะช่วยปกป้องและบำรุงตับ โดยเฉพาะตับที่ต้องขับสารแอฟลาท็อกซิน(Aflatoxin) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดมะเร็งตับออกจากร่างกาย การกินเม็ดบัวจึงสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งได้”
เม็ดบัวไทย-จีน ความเหมือนที่แตกต่าง
      การเลือกกิน เม็ดบัวส่วนใหญ่ที่เราเห็นทั่วไป จะเป็นสินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีนซึ่งจะมีเมล็ดขนาดใหญ่ ผ่านการกะเทาะเปลือก ดึงดีบัว(ต้นอ่อนที่ฝังอยู่กลางเมล็ดมีสีเขียวเข้ม)ออก และอบแห้งแล้ว
      ส่วนเม็ดบัวไทยนั้นไม่ค่อยพบวางจำหน่ายในท้องตลาด เนื่องจากมีเมล็ดเล็ก จึงไม่เป็นที่นิยม แต่จากผลการวิจัยของ อาจารย์ปริญดา ที่ศึกษาเปรียบเทียบปริมาณสารแอนติออกซิแดนต์ในเม็ดบัวไทยและจีนพบว่า เม็ดบัวไทยมีปริมาณสารแอนติออกซิแดนต์สูงกว่าเม็ดบัวจีน 5-6 เท่า
      อาจารย์ปริญดาจึงแนะนำว่า ถ้าต้องการให้ร่างกายได้รับสารแอนติออกซิแดนต์ปริมาณสูงควรเลือกกินเม็ดบัวไทยดีกว่า โดยเฉพาะเม็ดบัวไทยสด
ดีเม็ดบัว
วิธีกิน คือ ลอกเปลือกออกจากเมล็ด โดยไม่ดึงเยื่อหุ้มเมล็ดและดีบัวออก กินสดๆทั้งเมล็ด จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านมะเร็งซึ่งอยู่บริเวณเยื่อหุ้มเมล็ด และดีบัวในปริมาณสูง
      ส่วนชนิดอบแห้งนั้น เรานำมาทำอาหารคาวหวานได้หลากหลาย ที่คุ้นเคยกันดี คือ น้ำอาร์ซี เม็ดบัวต้มน้ำตาลทรายแดง ผสมในเต้าฮวย หรือเต้าทึง ข้าวอบใบบัว เป็นต้น
ส่วนเคล็ดลับการเลือกซื้อให้ได้ของสดใหม่ คุณภาพดีมีดังนี้
ชนิดอบแห้ง 
เม็ดบัวอบแห้ง
  • ควรเลือกเมล็ดที่มีสีเหลืองนวล ถ้ามีสีเหลืองเข้ม แสดงว่าเป็นเม็ดบัวเก่าที่เก็บไว้นานแล้ว เมล็ดไม่แตกหัก และไม่มีฝุ่นละอองปนเปื้อน
  • ขั้วเมล็ดไม่ดำคล้ำ เพราะจะเป็นเมล็ดที่เก็บไว้นานแล้ว
  • ไม่มีกลิ่นสาบหรือเหม็นหื่น
ชนิดฝักสด
       เลือกฝักที่มีเมล็ดขนาดใหญ่ สีเขียวอ่อน จะได้เม็ดบัวที่มีเนื้อกรอบ หวานกำลังดี คราวนี้ถ้าเจอฝักบัวสดในตลาดอย่าลืมซื้อติดไม้ติดมือมาคนละสองสามกำ
แหล่งที่มา : //www.vcharkarn.com/varticle/43772




 

Create Date : 19 มิถุนายน 2555   
Last Update : 19 มิถุนายน 2555 20:59:10 น.   
Counter : 1469 Pageviews.  

ทายนิสัยจากการเลือกของชำร่วยงานแต่งงาน

ช่วงนี้มีหลายคู่ที่มีข่าวดี จัดงานแต่งงานกันหลายงานเลย แต่ใครจะรู้บ้างไหมว่าของชำรวยที่คุณเลือกมาใช้ในงานแต่งงานเหล่านั้นสามารถบ่งบอกถึงนิสัยของคู่บ่าวสาวได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ



1.คู่แต่งเลือกของชำร่วยประเภทที่มีเชือกผูก ความหมาย แสดงถึงความผูกพันของคู่บ่าวสาวที่มีต่อกัน ความรักแน่นแฟ้น การมิพรากจากกัน ตรงกันข้าม คู่บ่าวสาวที่เลือกของชำร่วยประเภทนี้ แสดงถึงการผูกปม ผูกมัด ดิ้นไม่หลุด บ่วงคล้องคอ วีธีแก้เคล็ด ตรงไหนมัดแน่น ก็ทำให้หลวมๆไว้

2.คู่แต่งเลือกของชำร่วยประเภทที่มีวัสดุสานๆล้อมรอบ ความหมาย แสดงถึงสานสายใยของคนทั้งคู่ คือความห่วงใยที่มีให้กันเสมอมาและตลอดไป ตรงกันข้าม คู่บ่าวสาวที่เลือกของชำร่วยประเภทนี้ ต้องมีการกักขังหน่วงเหนี่ยวเกิดขึ้น ขาดอิสระโดยสิ้นเชิง ติดร่างแหไปทุกๆเรื่อง วีธีแก้เคล็ด เหลือช่องไว้มั่ง หรือใช้ลักษณะการสานที่เน้นสวยงามเป็นหลัก ไม่ใช่ดูแข็งแรง ติดแน่น

3.คู่แต่งเลือกของชำร่วยประเภทที่เป็นหุ่นหรือตุ๊กตา(ทั้งเดี่ยวหรือคู่) ความหมาย เป็นไปตามตัวของตุ๊กตา บ้างก็เป็นคู่คนแก่ซึ่งก็คือการรักกันจนเฒ่าจนแก่ บ้างเป็นรูปตุ๊กตาน่ารักๆ แสดงความน่ารักของคู่บ่าวสาว ตรงกันข้าม คู่ บ่าวสาวที่เลือกของชำร่วยประเภทนี้ แสดงถึง เค้าเห็นคุณเป็นหุ่นเชิด มองคุณเป็นแค่ของเล่น หรือรวมไปการใช้ไสยศาสตร์มาผูกมัดในตัวคุณ วีธีแก้เคล็ด เน้นเป็นตุ๊กตาทอง หรือเงิน ที่มุ่งไปทางโชคลาภเงินทองไหลมาเทมาดีกว่า หรือรูปสัตว์นำโชค

4.คู่แต่งเลือกของชำร่วยประเภทที่เป็นของที่ถูกกรอบ หรือครอบ(เช่นลูกกะพรวน) ความหมาย กรอบเป็นสิ่งที่ทำให้อะไรๆที่อยู่ในกรอบ มันทรงคุณค่า มีค่า หากเป็นความรักก็คือการให้เกียรติซึ่งกันและกัน บูชาในความรัก ตรงกันข้าม คู่บ่าวสาวที่เลือกของชำร่วยประเภทนี้ ไม่แปลกหากหลังแต่งงานไปแล้วคุณจะถูกปิดกั้นทุกๆอย่างจากคนรักข องคุณ อยู่ในกรอบในเกณฑ์ วีธีแก้เคล็ด กรอบต้องไม่แข็งทื่อ ควรเป็นกรอบที่ลวดลาย ดูแล้วนุ่มนวลสวยงาม สีก็ต้องไปในทางสดใสหรือสวยๆ

5.คู่แต่งเลือกของชำร่วยประเภทที่เป็นสมุด/หนังสือ/ปากกา(เล็กๆ) ความหมาย การมองเห็นคุณค่าในสิ่งของ หรือการมองเห็นคนรักคือคนสำคัญเป็นที่สุด รวมไปถึงการบันทึกในเรื่องราวความรักระหว่างกันและกันตลอดระยะเ วลาที่อยู่ด้วยกัน ตรงกันข้าม คู่บ่าวสาวที่เลือกของชำร่วยประเภทนี้ แสดงถึง ความละเอียด จู้จี้จุกจิก ทุกๆเรื่อง วีธีแก้เคล็ด ควรมีตัวหนังสือที่สื่อไปในทางความรัก ขีดบนปก หรือแปะติดไว้น่าจะดีขึ้น

6.คู่แต่งเลือกของชำร่วยประเภทที่เป็นของใช้เครื่องใช้เป็นคู่ๆ (เช่นตะเกียบ) ความหมาย อันนี้แสดงออกเห็นได้ชัดถึงความผูกพันที่ขาดออกจากกันไม่ได้โดย สิ้นเชิง เหมือนราวกับว่า เพราะเรานั้นคู่กัน ตรงกันข้าม คู่บ่าวสาวที่เลือกของชำร่วยประเภทนี้ แสดงถึง การติดสอยห้อยตามในทุกๆที่ วีธีแก้เคล็ด อย่า ทำให้ดูว่าเป็นของใช้ เช่นแจกไปแล้วแกะเอาไปกินบะหมี่ได้ทันที อันนี้ห้าม การออกแบบให้ดูเป็นของที่ระลึกให้มากที่สุด หรือน่ารักๆคิกขุไปเลย..

7.คู่แต่งเลือกของชำร่วยประเภทที่เป็นดอกไม้ ความหมาย ความหอมหวาน ความสวยงาม ของดอกไม้ มันแทนความรักที่พรั่งพรูเหลือเกิน ตรงกันข้าม คู่บ่าวสาวที่เลือกของชำร่วยประเภทนี้ แสดงถึง ช่วงแรกก็หอมหวานหรอก แต่พอหมดกลิ่นแล้วละก็ เหี่ยวเฉาทั้งชีวิต วีธีแก้เคล็ด อย่าให้เป็นแต่ดอกให้ปนไปด้วยผล หรือ กลีบใบ กระถาง หญ้า หรือบัวรดน้ำ ให้มีสีเขียวสดไว้แต้มนิดนึงก็ดีนักแล

8.คู่แต่งเลือกของชำร่วยประเภทที่เป็นเซรามิกรูปต่างๆ ความหมาย เป็นไปตามรูปของเซรามิก ว่าสื่อถึงอะไร แล้วบวกไปว่าความรักของทั้งคู่เคยผ่านอุปสรรคมามากมาย เหมือนเรือที่เจอมรสุมกลางทะเล ที่ไม่เคยกลัววันล่ม ตรงกันข้าม คู่บ่าวสาวที่เลือกของชำร่วยประเภทนี้ แสดงถึง รอวันแตกหักสักวัน หักแล้วยากที่จะต่อกันได้อีกเลย วีธีแก้เคล็ด เซรามิกให้เน้นความสวยงาม แข็งแรง ทนทาน ทางที่ดีมีถุงห่อสวยๆอีกทีจะดีมาก

9.คู่แต่งเลือกของชำร่วยประเภทที่เป็นเปลือกหอย หรือทำจากเศษวัสดุเหลือใช้ ความหมาย เช่นกันอันนี้ก็บ่งบอกถึงการมองเห็นในคุณค่า ซึ่งแม้ใครจะว่าคุณเป็นไง แต่คุณก็ยังเป็นอะไรที่สำคัญที่สุดสำหรับเค้าคนนั้นเสมอ ตรงกันข้าม คู่บ่าวสาวที่เลือกของชำร่วยประเภทนี้ แสดงถึง สักวันก็คงกลายเป็นขยะที่จะถูกทิ้ง ไม่สนใจใยดี หมดค่าไร้ความหมาย วีธีแก้เคล็ด พยายามใช้สีสันตกแต่วัสดุพวกนั้นให้มากๆ อย่าใช้ลวดลายจากวัสดุนั้นมากเกินไป หรือการดัดแปลงให้ดูสวยงามให้มากที่สุด

10.คู่แต่งเลือกของชำร่วยประเภทที่เป็นของแหลม ของมีคม เป็นแท่งๆ ความหมาย อันสุดท้ายนี้ดูว่าคู่รักพวกนี้ เกิดจากอะไรที่คาดไม่ถึง เป็นรักที่เซอร์ไพร์หัวใจทุกดวงที่อยู่รอบข้าง เป็นรักสายฟ้าแลบ ดูใจกันน้อย แต่รักกันนาน ตรงกันข้าม คู่บ่าวสาวที่เลือกของชำร่วยประเภทนี้ แสดงถึง การทิ่มแทงจากปัญหาที่รุมเร้า อยู่ไปด้วยความเจ็บปวดขื่นขมทุกข์ทน ทรมาน วีธีแก้เคล็ด อย่าแหลมเป็นพอ ทู่ๆไว้ โค้งมน แทน


ขอบคุณข้อมูล weddingsquare
ขอบคุณภาพประกอบจาก //www.giftgaemall.com




 

Create Date : 19 มิถุนายน 2555   
Last Update : 19 มิถุนายน 2555 18:23:33 น.   
Counter : 1576 Pageviews.  

รับมือ สุขภาพเท้า ในหน้าฝน

8 วิธีง่ายๆ ดูแลสุขภาพเท้าด้วยตัวเอง

คำแนะนำง่ายๆ ในการดูแลสุขภาพเท้าด้วยตัวเอง และควรเริ่มปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่วันนี้ ดังนี้

1. ล้างเท้าให้สะอาดด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ ประมาณ 10 นาที เวลาอาบน้ำ ทุกๆ วัน ซึ่งจะทำให้ผิวหนังนุ่ม แต่อย่าขัดหรือถู หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้ผิวหนังแห้ง

2. เช็ดเท้าให้แห้งสนิททุกครั้ง โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้าต้องให้แห้งจริงๆ

3. สำหรับผู้มีกลิ่นเท้า หลังจากล้างเท้าสะอาดและเช็ดให้แห้งแล้ว ควรจะโรยแป้งทาตัวให้ทั่วเท้าและซอกเท้า รวมถึงอย่าใส่รองเท้าคับเกินไป ควรเลือกรองเท้าที่ใส่สบายและระบายอากาศได้ ถุงเท้าควรเป็นถุงเท้าผ้าฝ้ายจะดีกว่าถุงเท้าไนลอน

4. ถ้าผิวแห้ง ทาครีมที่ไม่มีน้ำหอมฉุน เพื่อให้ความชุ่มชื้น โดยทาบางๆ ให้ทั่วทั้งหลังเท้าและฝ่าเท้า ห้ามทาครีมบริเวณซอกนิ้วเท้า เพราะอาจเกิดการหมักหมมของเชื้อราได้

5.ถ้าเล็บยาวต้องตัดเล็บเท้าอย่างถูกวิธี โดยตัดตรงตามแนวขอบเล็บเท่านั้น ไม่ตัดเล็บเซาะเข้าไปด้านข้างหรือจมูกเล็บ และไม่ควรตัดเล็บให้สั้นเกินไป


6. ใส่รองเท้าให้เหมาะกับโรค ควรใส่รองเท้าที่เหมาะสมและถูกสุขลักษณะ เช่น ผู้ป่วยเบาหวานควรใส่รองเท้าที่ทำจากวัสดุที่มีลักษณะนิ่มและมีแผ่นรองรับแรงกระแทกที่ฝ่าเท้า ไม่ควรใส่รองเท้าแตะชนิดที่มีสายรัดง่ามนิ้วเท้า

7. หมั่นตรวจเท้าด้วยตนเองเป็นประจำ สังเกตสีผิว กลิ่นเท้า อุณหภูมิของเท้า และอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น ปวดเท้า มีอาการชา บวม มีเม็ดพอง หรือคัน เป็นต้น โดยตรวจให้ทั่วทั้งฝ่าเท้า ส้นเท้า ซอกนิ้วเท้า และบริเวณเล็บเท้า หากพบความผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์

8. ออกกำลังกายเท้า เพื่อบริหารข้อเท้าและกล้ามเนื้อเท้าอย่างสม่ำเสมอทุกวัน เพื่อคงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

กระตุ้นการไหลเวียนเลือดมาสู่ปลายเท้า ท่าบริหารทำได้โดย

-กระดกข้อเท้าขึ้นและลงสลับกันช้าๆ ทำ 5-10 ครั้ง แล้วจึงสลับข้าง

-หมุนข้อเท้า โดยหมุนเข้า และหมุนออกช้าๆ ทำอย่างละ 5-10 ครั้ง แล้วจึงสลับข้าง

-ใช้นิ้วเท้าจิกผ้าที่วางอยู่บนพื้นสลับกับปล่อย เพื่อบริหารกล้ามเนื้อเล็กๆ ในเท้า

-นั่ง ยกขาขึ้นพาดโต๊ะ เหยียดเข่าตึง แล้วกระดกข้อเท้าขึ้น ใช้มือจับปลายเท้าค้างไว้นับ 1-6 ในใจ ถือเป็น 1 ครั้ง ทำจนครบ 2 ข้าง

แค่นี้ก็จะมีสุขภาพเท้าที่ดีได้ ด้วยตัวเองแล้ว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก //www.never-age.com




 

Create Date : 18 มิถุนายน 2555   
Last Update : 18 มิถุนายน 2555 20:32:34 น.   
Counter : 1359 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  

zulander
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




หวยซอง เลขเด็ด
หวยซอง เลขเด็ด หวยซองแม่นๆ หวยซองดัง รวมหวยซอง






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add zulander's blog to your web]