เฟอร์นิเจอร์จากกระดาษกล่อง กระดาษกล่องที่ใช้แล้วเรามักมองข้าม หรือมีค่าเพียงกิโลละไม่กี่บาท แต่นักออกแบบกลุ่มหนึ่ง ได้เอามันมาสร้างเป็นเฟอร์นิเจอร์ดูดี  ทันสมัย ..เป็นงานออกแบบ ที่ช่วยคืนชีวิตให้กับกระดาษกล่องอีกครั้ง The IMISS Collection โดย Fabrizia Zorzenon Workshop  เป็นเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้าน จากกระดาษลูกฟูกกล่อง ( corrugated cardboard) ขณะที่ดีไซเนอร์เฟอร์นิเจอร์ที่อื่นๆ  มองข้ามมันไป แต่ดีไซเนอร์ที่ Fabrizia Zorzenon Workshop กระดาษลูกฟูกกล่องกลับไม่คิดเช่นนั้น พวกเขามองเห็นความน่าสนใจที่จะเปลี่ยนความงดงามแบบพื้นๆ หยาบๆ ให้กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สวยงามและ ทันสมัย  และที่สำคัญมีความคงทนอีกด้วย ที่สำคัญยังเป็นการได้ใช้ประโยชน์จากของที่ไม่ใช้แล้วต้องทิ้ง การออกแบบใช้รูปร่าง สี  และเส้นสาย จากกระดาษลูกฟูกกล่อง ทำให้มันดูเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัย สวยงาม แปลกตา   ที่มา รายละเอียดเพิ่มเติม : //www.iurban.in.th/design/recycled-cardboard-become-a-new-and-modern-furniture/   Create Date : 26 เมษายน 2555     0 comment Last Update : 26 เมษายน 2555 19:38:39 น.     Counter : 3605 Pageviews.   Share Tweet

10 วิธีทำให้บ้านเราเย็นสบาย "ร้อนหรือ เปิดแอร์สิ" อาจเป็นประโยคคำพูดที่ใครหลายคนได้ยินจนเคยชิน ลองเปลี่ยนประโยคสนทนาใหม่ๆ กันดูบ้างไหมคะ ด้วย.. "ร้อนหรือ ..(ช่องว่าง).. สิ" แล้วลองเติมคำในช่องว่างด้วย 10 ข้อ ที่นำมาฝากกันในวันนี้ลงไป เผื่อจะได้แนวทางที่โดนใจ ประหยัดเงินซื้อแอร์ ประหยัดพลังงาน ประหยัดค่าไฟ แถมไม่ปล่อยไอร้อนจากคอมเพรสเซอร์แอร์ออกสู่บรรยากาศภายนอกด้วยเพราะ บางครั้งพวกเราอาจลืมวิธีดั้งเดิมง่ายๆ แบบนี้ไปก็ได้ค่ะ 10 วิธีง่ายๆ แบบ Low-Tech ที่นำมาฝากกัน มีดังนี้ 1. ใช้ผ้าใบทำกันสาดบังแดดทางหน้าต่าง เพราะอุณหภูมิจากแดดที่เข้ามาภายในอาคารนั้น  65% มาจากทางหน้าต่างทางทิศใต้ และ 77% มาจากหน้าต่างทางทิศตะวันตก  ผ้าใบสามารถช่วยให้เราประหยัดพลังงานได้ถึง 26% ในช่วงที่อากาศร้อนและ 33% ในช่วงที่อากาศเย็น อาจทำให้เครื่องปรับอากาศ (หรือแอร์คอนดิชั่น หรือที่นิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า แอร์) ไม่จำเป็นไปเลยก็ได้  2. ปลูกต้นไม้ แน่ล่ะการมีต้นไม้รอบบ้านช่วยให้บ้านเย็นขึ้นได้แน่นอนยิ่งตำแหน่งที่แดส่องแรงๆ ตรงไหน ถ้ามีที่พอให้ปลูกไม้ใหญ่ได้ ก็ปลูกลงบัง (ไม่ใช่ดงบังนะ) แดดตำแหน่งนั้นเลยค่ะ รับรองว่าเย็นขึ้นทันตาจริงๆ 3. ปลูกเถาไม้เลื้อย ถ้าต้นไม้รอบบ้านยังไม่เย็นพอปลูกเถาไม้เลื้อยคลุมบ้านซะเลย แต่แนวทางนี้ทาโกะอยากเสนอเพิ่มด้วยว่าให้ทำเป็นร้านหรือระแนงรอบๆ บ้านแล้วให้ไม้เลื้อยเกาะจะดีกว่า อย่าให้ถึงกับเลื้อยเกาะไปตามตัวบ้านเลย มันอาจจะทำให้ผนังของตัวบ้านพังง่าย (>.<) 5. ใช้พัดลมเพดาน ไม่กินที่ ไม่ขวางทางเดิน แถมยังช่วยให้อากาศในห้องไหลเวียนได้ดีอีกด้วย 6. ทาสีหลังคา ให้สว่างเพราะสีที่สว่างกว่าจะดูดซับความร้อนน้อยกว่า จึงทำให้บ้านเย็นขึ้น 7. ติดตั้งบานหน้าต่างนอกผ้าม่าน เช่นบานบังตา ในช่วงอากาศร้อนเราก็สามารถใช้บังแดดตอนเปิดหน้าต่างได้  ส่วนช่วงอากาศหนาวก็เปิดบานบังตาเพื่อรับแดดก็ได้ 8. ติดตั้งพัดลมบนหลังคา เพื่อช่วยดูดอากาศร้อนภายในบ้านให้สูงเร็วกว่าเดิม เพราะ อากาศร้อน ตามปกติจะไหลเวียนจากที่ต่ำไปสู่ที่สูงค่ะ วิธีนี้จะให้ความเย็น ช่วยประหยัดไฟ แถมยังไม่เพิ่มความร้อนรอบตัวบ้านด้วย เพื่อนๆ น่าจะเคยสัมผัสกันมาแล้วว่า.. เวลาเดินผ่านคอมเพลสเซอร์แอร์มันร้อนวูบ~ ขนาดไหน 9. อย่าทำครัวร้อน เช่นพวกอาหารปิ้งย่างที่ต้องใช้ความร้อนสูงต่อเนื่องนานๆ ข้างในบ้านที่เป็นส่วนปิดทึบ  พวกบ้านฝรั่งเก่าๆ ครัวมักจะปิดทึบ เพราะอากาศเขาหนาวค่ะ แล้วพอหน้าร้อน พวกครัวปิดทึบคงจะ . . . (ร้อนมาก!!) แปลว่าครัวไทยที่มักแยกส่วนเปิดโล่งอยู่ริมบ้านนี้ออกแบบได้ถูกหลักอากาศจริงๆ นะคะเนี่ย ( ^^ ) 10. ฉลาดในการเลือกประหยัดเงินและพลังงาน เมื่อเลือกช่างมาปรับแต่งบ้าน มันอาจดูราคาแพงเมื่อพวกเขาบอกว่า.. ต้องปรับตำแหน่งหน้าต่าง เพิ่มบานบังตา  หรือทาสีอ่อนเพื่อให้บ้านไม่เก็บความร้อน หรืออื่นๆ เพื่อให้บ้านเย็นขึ้น ก็อยู่ที่เพื่อนๆ แล้วค่ะ ที่จะเลือกว่าจะเลือกแนวทางง่ายๆ แบบ Low-techพวกนี้หรือเปล่า ไม่ใช่แค่เพื่อบ้านของเพื่อนๆ แต่เพื่อบ้านของพวกเรา โลกของพวกเราไงคะ ( ^^ )  เป็นวิธีีที่ง่าย และไม่ซับซ้อนจริงอย่างที่ทาโกะบอกไปใช่ไหมคะ ลองนำไปปรับใช้กันดูค่ะ  หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่ต้องการปรับปรุง ซ่อมแซมบ้านทุกคน  จะได้เป็นแนวทางให้บ้านได้เย็นขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งแอร์คอนดิชั่นค่ะ ขอบข้อมูลโดยคุณ Sira Sujjinanont   Create Date : 25 เมษายน 2555     0 comment Last Update : 25 เมษายน 2555 20:39:16 น.     Counter : 2606 Pageviews.   Share Tweet

งานไม้จริงๆ   Create Date : 23 เมษายน 2555     0 comment Last Update : 23 เมษายน 2555 21:34:40 น.     Counter : 1171 Pageviews.   Share Tweet

โรงแรมบนเครื่องบิน โบอิ้ง747 ไอเดียเก๋กู๊ด   Create Date : 22 เมษายน 2555     0 comment Last Update : 22 เมษายน 2555 14:43:29 น.     Counter : 1754 Pageviews.   Share Tweet

ฮาจิโกะ : ยอดสุนัขผู้ซื่อสัตย์ ฮาจิโกะ : ยอดสุนัขผู้ซื่อสัตย์ สำหรับรูปหล่อของสุนัขอันโด่งดังแห่งย่านชิบูยะนั้น เป็นตัวแทนให้ระลึกถึงความซื่อสัตย์ของเจ้าฮาจิโกะ สุนัขพันธุ์อากิตะ ซึ่งลืมตาขึ้นมาดูโลกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 1923 ในจังหวัดอากิตะ โดยเมื่ออายุได้เพียง 2 เดือนเจ้าฮาจิโกะถูกส่งตัวไปอยู่กรุงโตเกียวกับเจ้านายของมันคือ เอซะบุโระ อุเอะโนะ ศาสตราจารย์ประจำคณะเกษตรศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล(มหาวิทยาลัยโตเกียวในปัจจุบัน) ซึ่งศาสตราจารย์รู้สึกภาคภูมิใจกับเจ้าฮาจิโกะเป็นอย่างมาก เนื่องจากมันเป็นสุนัขอากิตะสายพันธุ์แท้ซึ่งหาได้ยากในสมัยนั้น ในวันที่เจ้านายต้องไปสอนหนังสือ ฮาจิโกะจะคอยส่งเจ้านายถึงประตูหน้าบ้าน โดยอุเอะโนะต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานีชิบูยะ จากนั้นเมื่อถึงเวลา 15.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเลิกงานแล้ว เจ้าฮาจิโกะจะมากระดิกหางรอพบเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟเสมอ แต่แล้ววันหนึ่งในวันที่ 21 เดือนพฤษภาคม 1925 ศาสตราจารย์ อุเอะโนะ เกิดอาการเส้นโลหิตในสมองแตก และเสียชีวิตขณะอยู่ที่มหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม ในวันนั้น ฮาจิโกะยังคงมารอเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟ โดยไม่มีทางรู้ได้เลยว่า มันจะไม่ได้พบกับเจ้านายของมันอีกแล้ว เนื่องจากเขาได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ หลังจากที่ศาสตราจารย์อุเอะโนะเสียชีวิต ภรรยาของเขาได้ย้ายบ้านไปและนำเจ้าฮาจิโกะไปให้กับญาติของศาสตราจารย์ที่อยู่ห่างออก ไปจากสถานีรถไฟหลายกิโลเมตร แต่ว่าเจ้าสุนัขพันธุ์อากิตะผู้ซื่อสัตย์กลับไม่ยอมอยู่กับเจ้านายใหม่ของมัน เพราะทันทีที่มันหลุดออกมาได้ มันวิ่งตรงไปที่บ้านเก่าของมันแต่เมื่อไม่เจอใคร มันจึงกลับไปรอที่สถานีรถไฟเหมือนเมื่อครั้งที่เจ้านายของมันยังมีชีวิตอยู่ โดย คิคุซะบุโระ โคบายาชิ อดีตคนสวนของศาสตราจารย์ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเป็นคนคอยดูแลเจ้าฮาจิโกะแทน ทุกวันเมื่อถึงเวลา 15.00 น. เจ้าฮาจิโกะจะวิ่งไปรอเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟไม่เคยขาด ทำให้เรื่องราวความซื่อสัตย์ของมัน เริ่มเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อเรื่องราวของมันถูกตีพิมพ์ลงบนหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นในปี 1932 ทำให้ผู้คนทั่วสารทิศเดินทางมาดู มาเล่นกับเจ้าฮาจิโกะ นอกจากนั้น ชาวญี่ปุ่นยังได้ยกให้เจ้าฮาจิโกะเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเด็กๆอีกด้วย ในเดือนเมษายน 1934 อันโดะ เทะรุ ศิลปินชื่อดังจึงได้ทำรูปหล่อทองแดงของเจ้าฮาจิโกะขึ้นมาเพื่อยกย่อง และนำไปตั้งไว้ที่สถานีรถไฟชิบูยะ อย่างไรก็ตาม ในเดือนมีนาคม 1935 ฮาจิโกะก็ได้กลับไปพบกับเจ้านายของมันอีกครั้ง โดยมีคนพบว่าฮาจิโกะนอนตายยังจุดที่มันคอยมารอเจ้านายของมันทุกวันมานานกว่า 10 ปี ซึ่งข่าวการตายของฮาจิโกะนั้นถือว่าเป็นข่าวใหญ่มาก จนถูกตีพิมพ์ลงบนหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น สำหรับร่างของฮาจิโกะนั้นถูกนำไปเก็บรักษาเอาไว้ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ในกรุงโตเกียว แม้ว่าฮาจิโกะจะจากไปแล้วแต่เรื่องที่น่าสนใจจากฮาจิโกะยังคงไม่จบ เนื่องจากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นจำเป็นต้องใช้เหล็กและโลหะเป็นอย่างมาก จนถึงกับต้องเอารูปหล่อของเจ้าฮาจิโกะมาหลอมเลยทีเดียว กระนั้นความซื่อสัตย์ของฮาจิโกะยังคงไม่เคยถูกลืมไปจากใจชาวญี่ปุ่น เพราะในเวลาต่อมาได้มีการจัดทำรูปหล่อของฮาจิโกะขึ้นมาอีกครั้งในเดือนสิงหาคม 1947 และศิลปินผู้รับหน้าที่นี้ก็คือ อันโดะ ทะเคะชิ ลูกชายของ อันโ ดะ เทะรุ ผู้ที่ทำหน้าที่สร้างรูปหล่อฮาจิโกะเมื่อครั้งแรกนั้นเอง ซึ่งปัจจุบันจุดที่รูปหล่อฮาจิโกะตั้งอยู่นั้นได้กลายเป็นจุดนัดพบยอดนิยมของย่านชิบ ูยะ ทั้งนี้ นอกจากรูปหล่อที่ย่านชิบูยะแล้ว ยังคงมีรูปปั้นที่เตือนให้ระลึกถึงฮาจิโกะอยู่อีกหลายแห่ง เช่น ที่หน้าสถานีรถไฟโอะดะเตะ ในจังหวัดอากิตะ บ้านเกิดของเจ้าฮาจิโกะ เป็นต้น ส่วนเรื่องของเจ้าฮาจิโกะยังคงเป็นที่เล่าขานในญี่ปุ่น ถึงขนาดมีการนำไปสร้างเป็นละคร ภาพยนตร์ การ์ตูน และอื่นๆอีกมากมาย (บน) ภาพของฮาจิโกะขณะยังมีชีวิตเมื่อปี 1932 (ล่าง) รูปปั้นของฮาจิโกะในปัจจุบัน บน) ร่างของฮาจิโกะที่อยุ่ตรงกลางซึ่งเก็บเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์ (ล่าง ซ้าย) รูปปั้นของฮาจิโกะที่หน้าสถานีรถไฟโอะดะเตะ (ล่าง ขวา) หลุมศพของฮาจิโกะที่ตั้งอยู่ด้านข้างของหลุมศพศาสตราจารย์อุเอะโนะ   Create Date : 18 เมษายน 2555     0 comment Last Update : 18 เมษายน 2555 15:52:41 น.     Counter : 1542 Pageviews.   Share Tweet