การเดินทางไปเที่ยวลาว
การเดินทางไปเที่ยวสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นับ วันสะดวกสบายสำหรับชาวไทย เนื่องจากไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า หิ้วกระเป๋าหรือเป้สะพายหลังไปประทับลงตราที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองได้เลย หากมีหนังสือเดินทาง หรือถ้าหากไม่มีก็ยื่นเอกสารขออนุญาตเข้าประเทศชั่วคราว ณ จุดนั้นๆ แต่ก็ไม่ควรจะลืมว่าไปลาว เป็นการเดินทางไปต่างประเทศ ไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง แม้จะใกล้เคียง แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เหมือนกับประเทศไทยเลยทีเดียว เรื่องนี้สำคัญ..
จากจังหวัดอุบลราชธานี นั่ง รถโดยสารประจำทางผ่านทางช่องเม็ก-วังเต่า เข้าไปถึงเมืองปากเซ แขวงจำปาสักในภาคใต้ จากอุดรธานี-หนองคาย ข้ามสะพานมิตรภาพเข้าเวียงจันทน์ จากมุกดาหารข้ามสะพานมิตรภาพแห่งใหม่ไปเมืองไกสอน พมวิหาน (สะหวันนะเขต) จากนครพนมข้ามเรือเข้าเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน หรือ จาก อ.บึงกาฬ จ.หนองคายไปเมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ ทางภาคเหนือ ต้นทางจะอยู่ที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ข้ามแม่น้ำโขงไปยังเมืองต้นผึ้ง เมืองเอกของแขวงบ่อแก้ว แต่ต้นทางใหญ่ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะอยู่ที่ อ.เชียงของ ลงเรือที่นั่นล่องไปตามลำน้ำเฮฮาไป กินลมชมวิวไป 2 วันกับ 1 คืนก็ถึงหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก ตามแนวชายแดนทางบกความยาวกว่า 1,000 กิโลเมตรตั้งแต่เหนือจรดใต้ซึ่งมีอาณาเขตติดกับจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียง เหนือของไทยนั้น มีช่องทางเข้าไปท่องเที่ยวในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กว่า 10 จุด เกือบทั้งหมดเป็น ด่านสากล คือจะเข้าและออกที่ด่านเหล่านั้นได้เลย หรือ จะไปออกที่อื่นก็ได้ในเที่ยวกลับ ต่างกับด่านที่เป็นเพียง "จุดผ่านแดน" หรือ "จุดผ่อนปรน" เพื่อการค้าการขาย เข้าทางไหนก็ต้องออกทางนั้น นั่งแอร์บัสของเจ้าจำปี เข้าเวียงจันทน์ หรือนั่ง ATR72 บูติคแอร์ไลน์ไปหลวงพระบางก็สะดวก ส่วน MA60 ของการบินดอกจำปา พาผู้โดยสารสู่ทั้งสองปลายทาง ทุกสายการบินสะดวกสบายไม่ต่างกัน กรุงเทพฯ-หลวงพระบางใช้เวลาบินชั่วโมงครึ่ง เวียงจันทน์ถึงเร็วกว่านั้น... ประชาชนลาวกับชาวไทยมีภูมิหลังทางด้านวัฒนธรรมและประเพณีคล้ายคลึงกันมาก แต่ก็ยังมีข้อแตกต่างกันพอสมควรในรายละเอียด ส่วนชาวตะวันตกจะพบว่าชาวลาวแตกต่างไปจากพวกเขาอย่างสิ้นเชิง องค์การบริหารการท่องเที่ยวแห่งชาติลาว ได้จัดพิมพ์หนังสือคู่มือขึ้นมาเล่มหนึ่ง ให้ข้อแนะนะเกี่ยวกับสิ่งที่ ควรทำ และ ต้องไม่ทำ (Do and Do Nots) ระหว่างการอยู่เยือน สปป.ลาว หนังสือเป็นภาพวาดการ์ตูนประกอบ มีคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ เนื้อความสั้นกระชับ ตรงประเด็นและ มีข้อความภาษาลาวกำกับ มุ่งเน้นที่จะให้คำแนะนำแก่นักท่องเที่ยวจากซีกโลกตะวันตกเป็นหลัก แต่ย่อมไม่เสียหายอะไรหากนักท่องเที่ยวจากเพื่อนบ้านอย่างไทยจะเรียนรู้ ควรอ่านให้ดี เพื่อให้แน่ใจว่ายังไม่ลืมรากเหง้าทางวัฒนธรรมแห่งตะวันออก เวียงจันทน์กับหลวงพระบาง อาจจะเป็นเพียง 2 เมืองนอกราชอาณาจักร ที่คนไทยไปเที่ยวแล้วรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยที่สุด อย่างไรก็ตาม โลกเปลี่ยนไป...สังคมเปลี่ยนไป ไปเที่ยวเวียงจันทน์ในวันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ที่นั่นมีมิจฉาชีพอยู่ไม่น้อย การฉกชิงวิ่งราวทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวเกิดถี่ยิบขึ้น แม้ทางการลาวจะปราบปรามอยู่ตลอดเวลาแต่ก็ยังไม่หมดไปง่ายๆ นักท่องเที่ยวจาก จ.นนทบุรี คนหนึ่งที่ไปกับคณะใหญ่ เพิ่งจะโดนมาหยกๆ ช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ระหว่างไปเที่ยวชมและนมัสการพระประธาน กับศาลเจ้าแม่สีเมือง ณ วัดสีเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจลาวกล่าวว่า วัยรุ่นนักวิ่งราวพวกนั้นทำกันเป็นแก๊ง และเลือกที่จะเข้าจู่โจมกลุ่มนักท่องเที่ยวประเภทไปเช้าเย็นกลับ หรือประเภท ชะโงกทัวร์ ไปโผล่ดูโน่นดูนี่แบบรีบๆ เพราะจะต้องไปต่ออีกยาวไกล เช่นนี้เป็นต้น พวกมิจฉาชีพในเวียงจันทน์รู้ดีว่า นักท่องเที่ยวประเภท ทัวร์ด่วน เหล่า นี้จะไม่มีเวลาไปแจ้งความหรือตามไปเอาเรื่องเอาราว เมื่อไปประสบเหตุการณ์เช่นนี้ก็ยากที่จะทำอะไรได้ การป้องกันระมัดระวังตลอดเวลาเป็นทางที่ดีที่สุด สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำนครหลวงเวียงจันทน์ นำภาพชุดนี้ออกเผยแพร่บนเว็บไซต์ เพื่อเตือนให้ทราบว่านอกจากจะต้องระวังกระเป๋าสตางค์กับทรัพย์สินต่างๆ ให้ดีแล้ว ยังจะต้องทำอะไรบ้าง
ที่มา //www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9500000051911 ภาพจาก //nyenoona.wordpress.com/2008/03/04/memories-of-laos/
|