หนุ่ม ๆ สาว ๆ มักผจญปัญหาสิวอยู่เสมอ วันนี้เรามาเปิดประเด็น เรื่องสิวกันหน่อย พร้อมวิธีกำจัดสิว และการดูแลผิวหน้าให้ใสกิ๊กไร้สิวกันดีกว่า

สิว คือตุ่มเล็กๆบนผิวหนัง
ข้างในเป็นไตสีขาวนวล ขึ้นตามใบหน้าเป็นส่วนใหญ่ เกิดขึ้นเพราะไขมัน (sebum) ที่สร้างจากต่อมไขมัน (sebaceous gland) ของผิวหนังมาอุดตันที่รูขุมขนของผิวหนังนั้น เกิดเป็นไตอยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งเรียกว่า โคมิโดน (Comedone) แต่เรานิยมเรียกกันว่า หัวสิว หากเป็นหัวสิวที่มีผิวหนังปิดอยู่จะเรียกว่าสิวหัวปิด แต่ก็นิยมเรียกว่าสิวหัวขาวด้วย บางคนมีหัวสิวที่มีจุดสีดำ สิวแบบนี้เรียกว่าสิวหัวเปิด แต่ก็นิยมเรียวว่าสิวหัวดำด้วย หัวสิวทั้งสองแบบอักเสบได้ง่ายหากมีตัวกระตุ้นเพิ่มเติม เช่น แบคทีเรีย หรือฝุ่นละอองในอากาศ

สาเหตูการเกิดสิว
ใคร ๆ ก็รู้แน่ว่าสิว เกิดได้หลายสาเหตุ สิว เกิดได้จากสารภายในร่างกายเราเอง เช่น มีฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป หรือเป็นกรรมพันธุ์ นอกจากนี้ก็มีสาเหตุจากนอกร่างกายของเรา เช่นการใช้ยา หรือเครื่องสำอางบางชนิด นอกจากนี้สภาพแวดล้อม แสงแดดและอุณหภูมิ ความสะอาด อาหาร คนหน้ามัน ก็มีโอกาสเป็นสิวได้มากกว่าคนผิวหน้าธรรมดา แต่คนผิวแห้งก็มีโอกาสเป็นสิวได้ง่ายเหมือนกันซึ่งเราสามารถป้องกันได้

วิธีการรักษา หรือกำจัดสิวนั้น

มีแบบง่าย ๆ ไปจนถึงต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนัง และสิวแต่ละประเภท วิธีการรักษาก็แตกต่างกันไปแล้วแต่บุคคล ตั้งแต่การใช้ยาทา ยากิน ยาฉีด ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ในการรักษา สำหรับคนที่เป็นสิวอักเสบ

ประเภทตุ่มหนอง สิวหัวช้าง หรือผื่นแดงขึ้นเรื้อรัง ไม่แนะนำให้รักษาด้วยตัวเอง ควรจะไปพบหมอเพื่อการรักษาให้ถูกอาการของสิวจะดีที่สุด อย่าเสี่ยงซื้อยามารักษาเอง เพราะอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียดื้อยา จนรักษายากขึ้นในภายหลัง

ส่วนคนที่เป็นสิวธรรมดา พวกสิวอุดตันเม็ดเล็ก ๆ สามารถซื้อยามาเองได้ ฉะนั้นควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับไว้สักหน่อย

-กลุ่ม Benzoyl Peroxide (BP)จะไปออกฤทธิ์ช่วยละลายหัวสิวและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว ยาชนิดนี้ต้องมีปริมาณความเข้มข้นไม่ต่ำกว่า 2.5 % จึงจะใช้ได้ผล ยากลุ่มนี้ไม่ควรใช้ร่วมกับยากลุ่มกรดวิตามินเอ เพราะอาจจะกัดผิว ทำให้หน้าลอกเป็นขุยได้

-กลุ่มกรดวิตามินเอ มีคุณสมบัติช่วยผลัดลอกเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เมื่อนำมาทาสิวจะช่วยให้หัวสิวที่อุดตันลอกออกมาได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อควรระวัง ยากลุ่มนี้ใช้แล้วอาจทำให้หน้าระคายเคืองได้ง่าย และไวต่อแดด ดังนั้นควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์จะดีกว่า

-กลุ่มยาปฏิชีวนะ เช่น อีริโธรมัยซิน คลินดามัยซิน หรือเมทโทรนิดาโซล ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะชนิดทา จะออกฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียในรูขุมขน ยากลุ่มนี้ สามารถขอคำแนะนำจากเภสัชกรได้ โดยจะมาในรูปของเจลหรือโลชั่นที่มีตัวยาพวกนี้เป็นส่วนประกอบ แต่การใช้ยาปฏิชีวนะตัวเดียวไปนาน ๆ อาจทำให้เชื้อดื้อยาได้ จึงควรใช้ร่วมกับยาทาในกลุ่มอื่น ๆ เช่น กลุ่มบีพี เป็นต้น

สำหรับการดูแลตัวเองเมื่อเป็นสิว ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งให้สะอาด และใช้เพียงแค่สบู่อย่างอ่อน ไม่ควรใช้โฟมหรือสบู่ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองของผิว หลีกเลี่ยงครีมบำรุงผิวที่เข้มข้นซึ่งจะก่อให้เกิดการอุดตัน ไม่สัมผัสหน้าบ่อย ๆ และที่สำคัญ ห้ามบีบหรือแกะสิวเป็นอันขาด เพราะจะยิ่งเพิ่มการอักเสบให้กับสิว และเกิดแผลเป็นได้

ปฏิบัติได้ดังนี้ หน้าใสกิ๊กจะหนีไปไหนพ้น

ที่มา Never-Age.com