This is so me , What Is So You  คำถามแสดงความเป็นตัวตนในจุดยืนของตนเอง ด้วยคนจำนวนมากยอมละทิ้งความเป็นตัวตนของตัวเองไปเพื่อบางอย่าง แต่มันไม่ใช่กับใครหลายๆคนที่ต้องการรถยนต์ที่ดูมีความเป็นตัวของตัวเอง และค่ายโบว์ไทน์ ก็ท้าทายให้เข้ามาลองกับรถยนต์ซิตี้คาร์รุ่นใหม่ของค่าย 

                Chevrolet Sonic  เป็นรถยนต์ที่มาพร้อมแนวคิดที่แตกต่างอย่างชัดเจนในการนำเสนอแนวคิดของค่ายที่มีต่อรถยนต์ซึ่งตี้คาร์ ที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร ด้วยการเน้นย้ำความเป็นตัวตนฉีกกฎการออกแบบด้วยเส้นสายความเป็นสปอร์ตของตัวรถไปพร้อมกับนำเสนอความคิดใหม่ๆ ที่แตกต่างจากตลาด โดยไม่ต้องคิดคำนึงมากว่า คนซื้อจะมีเจตคติ อย่างไร

ภายนอกสปอร์ตล้ำ โดดเด่นสุด ๆ

                เมื่อมองย้อนรถยนต์ในกลุ่มซิตี้คาร์ที่วางจำหน่ายในบ้านเราแล้ว คงจะต้องเรียกว่ารถยนต์  กลุ่มนี้เกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์แก่กลุ่มผู้ซื้ออย่างวัยรุ่น แต่ท้ายที่สุดก็ต้องยอมรับว่ามันมีเพียงไม่กี่รุ่นที่โดนใจ วัยโจ๋เหล่านี้ แบบที่ไม่ต้องคิดไปเสียตังค์แต่รถเพิ่มให้เมื่อตุ้ม

                โจทย์ในความสปอร์ตที่ก้าวล้ำดูแล้วไม่น่าเบื่อ ทั้งยังมีความทันสมัยในตัวมันเอง เป็นดีเอ็นเอที่ถูกคิดค้นมาให้ตอบความแตกต่างอย่างลงตัวในรถยนต์  Chevrolet Sonic  ใหม่ จนชมเรื่องการทำการบ้านมาเป็นอย่างดีของค่ายรถยนต์  Chevrolet  ซึ่งมองรถยนต์กลุ่มนี้ไม่ใช่แค่เพียงขายเอาจำนวน แต่ยังต้องสร้างจุดยืนที่ไม่มีใครเหมือน

                ในการทดสอบครั้งนี้ เรามากับน้อง Chevrolet Sonic  4  ประตู ที่มองถึงเรื่องใหญ่เป็นสำคัญ ในฐานะรถยนต์ที่คนไทย น่าจะคุ้นหน้าตามากกว่า เมื่อเทียบกับรถยนต์แบบ 5 ประตู ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาด และ การปล่อย 4 ประตู ที่มาก่อน 5 ประตู ก็สร้างความน่าสนใจไม่น้อย

                ใบหน้าที่ดูแล้วแอบคล้ายรถยนต์บางรุ่น แต่กระนั้นดวงตาเบิกกว้างกลมโต คล้ายสาวเกาหลีบวกกับกระจังหน้า สไตล์ 5 เหลี่ยม ก็สร้างจุดเด่นที่ดูลงตัวย่างมากทางด้านหน้า ด้วยความเป็นสปอร์ต ที่โดดเด่น ถึง แม้จะมีข้อกังขาที่เราติดเอาไว้แต่ไม่กล้าเอ่ย ปากว่า ทำไม เชฟวี่ไม่ทำที่ครอบ ไฟโคม มาอีกครั้ง เพราะซอกซอนต่างๆคงจะเหนื่อยใช่น้อยสำหรับเด็กล้างรถตามั้ม

                เส้นสายการออกแบบที่มุ่งเน้นไปสู่ความลงตัวในด้านความตัวตนในความสปอร์ต ให้การตอบโจทย์ ในเรื่องของการออกแบบตัวรถให้ทรงทรงสปอร์ตเส้นสายการออกแบบ ถูกลากสู่หลังคา ที่ดูสูงโปร่ง อาจจะคล้ายๆกับรุ่นที่แล้ว แต่เหลี่ยมมุมที่มากกว่า ของ  Chevrolet Sonic  ก็สร้างความแตกต่างได้ไม่น้อยในเรื่องความลงตัว ยิ่งกับ ประตูทั้ง 4 บาน ที่ดูและลงตัวไม่เคอะเขินหรือทิ้งองค์ประกอบความเป็นสปอร์ตลงไป  และให้ความต่อเนื่องจรดบั้นท้าย ที่มาพร้อมไฟท้ายขนาดใหญ่เช่นเดียวกับในส่วนองค์ประกอบในเรื่องเส้นสายที่ ดูแล้วโอเค แม้จะดูบั้นท้ายอ้วนไปเล็กน้อย

                นอกจากความเป็นสปอร์ตที่อยูในองค์ประกอบของ  Chevrolet Sonic  มาอย่างลงตัวแล้ว ทางค่ายรถยนต์  Chevrolet  ยังคงมีการจัดของเล่นมาให้อย่างเช่น ในเจ้ารถยนต์เกียร์ออโต้ คันขาวที่เรานำมาทดสอบนี้ มาพร้อมกับสติกเกอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในของแต่ง จำนวนกว่าหลายรายการที่คุณสามารถเลือกได้จากโชว์รูม เพิ่มความโดดเด่น จนไม่ต้องกังวลว่ารถคุณจะไม่มีใครไม่เหลียวมอง

ห้องโดยสารสารสปอร์ตจัดเต็ม

                หลังจากที่เราตกลงใจในการรับ Chevrolet Sonic  มาเลี้ยงดูกันอย่างเป็นทางการ นี่ถือเป็นงานใหญ่ชิ้นมหึมาครั้งแรกที่เรา จะได้พบกับรถยนต์ รุ่นเดียวกัน 2 แบบ ไปพร้อมกัน  ระหว่างเกียร์ธรรมดา และเกียร์ อัตโนมัติ ซึ่ง ทั้งสองต้องมีความแตกต่างกันอย่างแน่นอน

                ในช่วงสัปดาห์แรกเราพบกับ Chevrolet Sonic M/T  หรือ รุ่นเกียร์ธรรมดา ที่หลายคนอาจจะมองข้าม แต่ด้วยราคาที่ไม่แงพงเกินไปนักในรุ่น  LT เพียง 588,000 บาท ก็ช่วยให้ มันเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบความแตกต่าง แม้ต้องยอมรับว่าการขับเกียร์ธรรมดาในเขตเมืองอาจจะไม่ใช่แนวคิดที่ดีนักก็ตาม

                หลังเปิดประตูขึ้นมา เราค้นพบสัจธรรมความสปอร์ตในจิตวิญญาณของรถยนต์  Chevrolet Sonic  ใหม่ที่เน้นเข้มเต็มความเป็นสปอร์ตอย่างลงตัว โดยเฉพาะรายละเอียดการออกแบบที่พุ่งเป้าไปสู่แนวคิดในแง่ของ สปอร์ตจัดเต็มแบบไม่เม้มเลยแม้แต่น้อย

                เบาะนั่งที่อาจจะมองแคบ แต่เมื่อหย่อนตุ๊ด!! ลงไปมันก็ให้ความลงตัวแม้แต่กับผู้ขับขี่ที่มีความสูงระดับผู้ทดสอบ 183 ซ.ม. มันก็ไม่ใช่ปัญหา นั่งได้อย่าง สบาย และปรับพวงมาลัยได้ตามต้องการ และเมื่อเหลียวมองพื้นที่อื่นๆรอบๆ ห้องโดยสาร ก็ไม่ต้องแปลกใจ เลยว่า  Chevrolet  Sonic  สามารถตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว สามารถนั่งได้ 4-5 คน แบบไม่อึดอัด โดยไม่ต้องนำแนวคิดความสุขที่กว้างกว่ามาใช้

                ตรงหน้าคนขับน่าจะถูกใจหลายคน กับหน้าปัดแบบใหม่ที่ออกแบบมาให้คล้ายรถมอเตอร์ไซค์ ที่มากับ วัดรอบอันใหญ่เบ้อเริ้ม ไปจนถึงการจัดองค์ประกอบของแนวคิดที่การใช้งาน ที่กระจุกรวมกันอยู่ในนั้น ผสานสไตล์แนวคิดระบบดิจิตอล เข้ากับอะนาล็อก ที่ดูแปลกๆแต่ก็ลงตัวดี จะเห็นได้ชัดที่หน้าปัดแบบเข็ม แต่เรื่องความเร็วเป็นแบบดิจิตอล

โดยนอกจากความลงตัวนั้นแล้วยังมีการให้ราละเอียดในส่วนของช่องเก็บของต่างๆที่จัดมาให้มากมาย เติมรายละเอียดแบบได้ใช้งานจริง เช่นคอนโซลหน้า 2 ชั้น ฝั่ง คนนั่ง ที่เสียบบัตรตรง กลาง ที่วางแก้วน้ำ และอื่นๆอีกมากที่พร้อมให้ความเร้าใจเต็มอารมณ์ ซึ่งในรุ่น LT  นี้ มันมาพร้อมกับห้องโดยสารสีดำที่ดูเข้มขึ้นแบบสปอร์ต

                หลังจากที่เรามารู้จัก  Chevrolet Sonic  เกียร์ธรรมดา ไม่นาน เราก็มารู้จักกับรถยนต์รุ่นอีกครั้งในคราบเกียร์อัตโนมัติที่จัดเต็มในความแตกต่างด้วยการนำเสนอเส้นสายทางด้านองค์ประกอบที่ต่างออกไป เช่นเดียวกับการให้ความเข้มข้นในการออกแบบของตัวรถที่นำเสนอรูปแบบที่แตกต่าง ในรุ่น  LTZ  ซึ่งเน้นย้ำถึงเส้นสายสปอร์ตเหมือนเดิม โดยรวมแทบไม่มีความแตกต่างจากรุ่นเกียร์ธรรมดา เว้นแต่สีทูโทน หรือ เบาะนั่งฝั่งคนขับมีที่เท้าแขนให้ความสบาย  ที่มาพร้อมรายละเอียดตบแต่งสีโครเมี่ยม และช่องต่อ  USB  ที่มีมาให้เฉพาะรุ่นเท่านั้น

มามันส์กับเกียร์ ธรรมดา สมรรถนะที่เร้าใจ 

                อย่างที่กล่าวไปแล้วในช่วงต้นว่า นี่คือการรีวิวแบบจริงจังมากขึ้นของเรามากขึ้น และในช่วงสัปดาห์แรกเราก็อยู่กับเจ้ารถรุ่นเกียร์ธรรมดา ที่มาพร้อมความแตกต่างทางด้านองค์ประกอบในเรื่องการขับเคลื่อน และหลายคนคงมองข้ามรถรุ่นนี้ไปอย่างน่าเสียดาย

                ตั้งแต่เริ่มเปิดตัวออกมา Chevrolet Sonic  ให้ความแตกต่างในการนำเสนอด้วยรถยนต์ รุ่น เกียร์ธรรมดา ที่ไม่เป็นเพียงรุ่นล่าง แต่ยังมาพร้อมออพชั่นในรุ่นที่สูงขึ้น แต่เราก็ยังแอบเสียใจเล็กๆที่ไม่ได้เห็นมันในรุ่นท็อปสุด อย่างที่ควรจะเป็นในการให้ความเท่าเทียมของตัวรถ

                เครื่องยนต์ ECOTEC 1.4  ลิตร A14XFR  4 สูบแถวเรียง พร้อมระบบวาล์วอัจฉริยะ  Double CVC  ให้กำลัง 100 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมฝีเท้าที่จัดจ้านไม่มากนัก 130นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ถูกยกมาเป็นต้นกำลังหลักในการขับขี่ ด้วยแนวคิดที่ต้องการให้เข้าแก๊ปกับนโยบายรถคันแรก ที่กำลังมาแรง พร้อมกันกับ แนวคิดตอบสนองความประหยัดของคัวรถที่เข้ากับยุคน้ำมัน แพง ทำให้ กำลังที่ไม่มาก หรืออาจจะเรียกว่าน้อยกว่าคู่แข่งพอควร อาจจะเป็นโจทย์ที่พอมองข้ามกันไปได้

                การขับขี่ของเราในรุ่นเกียร์ธรรมดาเริ่มขึ้นกับความคุ้นเคยของเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ที่ขับมาแล้วในช่วงทดสอบหมู่ โดยเกียร์ธรรมดานี้ถูกทำให้ให้ใช้งานง่าย คลัทช์ไม่ได้วางไว้แข็งจนเกินไป เช่นเดียวกับ ระยะเข้าเกียร์ที่ออกมาสั้นกระชัยคล้ายกับรถสปอร์ต ดูแล้วมีความลงตัวมากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างงั้น มันก็ตอบสนองในเรื่องการใช้งานได้ดี ด้วยการให้รอบเครื่องตกน้อยลงเวลาที่อึกใจเข้าเกียร์ต่อไป

                อัตราทดเกียร์ ในรุ่นเกียร์ธรรมดานี้ เริ่มต้นที่เกียร์ 1 ด้วย อัตราทด 3.727 แล้วต่อเนื่องด้วย เกียร์ 2 ที่ 1.960 ,1.323,0.946, และท้าย สุดเกียร์ 5 จบลงที่0.756  เน้นสภาวะที่ลงตัวต่อการใช้งานจริง โดยตัวรถมาพร้อมเฟืองท้าย ที่ใช้ขนาดที่เรียกความจัดจ้าน 4.625 จนสามารถบอกได้เลยว่า รถคันนี้ เซทมาตามเกียร์เน้นขับจี๊ดๆ  ซิ่งเนียนๆ ในเขตเมือง

                เมื่อลองขับขี่ในแบบ City Test  ด้วยการเน้นขับขี่ในเมืองเป็นสำคัญในการทดสอบ  Chevrolet Sonic  ก็แสดงศักยภาพออกมาเต็ม 100 ในอัตราเร่ง จริงยู่เลข 100 แรงม้า ฟังดูไม่น่าถูกใจสำหรับใครหลายคน แต่ด้วยการเซทติ้งในรุ่นเกียร์ธรรมดา ที่เน้นในความจัดจ้านของฝีเท้า จึงไม่แปลกที่จะพบเสียงเอี๊ยดอ้าด!! สะท้านพื้นถนนบ้างเล็กๆ จนใครก็ต้องหันมามอง

                การขับขี่ในเกียร์ธรรมดา นอกจากข้อดีของการสับเกียร์เองที่ทำให้คมมากขึ้นในความสปอร์ตเต็มอารมณ์  Chevrolet Sonic  ยังเน้นในการคอบโจทย์เรื่องฝีเท้า โดยการเร่งที่เต็มพิกัดอาจจะพาเข็มวัดรอบกวาดไปถึงเส้นแดงที่ 6900 รอบต่อนาทีได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่แล้วเราก็พบว่าตั้งแต่ช่วงแรงบิดสูงสุดไป แม้จะยังเร่งได้แต่ความสนุกสนานก็จะหายไป ซึ่งเพียง 6000 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นแรงม้าสูงสุด ก็ให้ความสนุกเพียงพอแล้ว

                หลังจากเร่งออกตัวกันมาพักใหญ่กับขับขี่ของเราก็เริ่มคุ้นเคยมากขึ้น ด้วย Chevrolet Sonic  มีเรือนร่างที่มีขนาดเล็กทำให้มีความคุ้นเคยและคล่องตัว มากในเมือง แม้จะขับขี่เกียร์ธรรมดา แต่เกียร์ที่เบามือ คลัทช์ที่เบาเท้าก็ช่วยให้มันน่าใช้งาน จนเราอยากให้หลายๆคนได้ลองก่อนซื้อจริง แต่แน่นอนว่าทั้งหมดนี้จะเป็นปัญหาไปในทันทีเมื่อเจอการจราจรติดขึ้น แต่ยังดีที่เครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร จะสามารถตอบโจทย์เรื่อความประหยัดนี้ได้ แต่การเย่อคลัทช์บ่อยๆ ก็จะแถมเหน็บมาให้ที่ขาซ้ายบ้าง

                เรื่องหนึ่งที่น่าชมเชยใน Chevrolet Sonic  คงไม่พ้นในเรื่องของระบบกันสะเทือนที่เรียกว่าเซทมาได้ลงตัวดีมากถึงมากที่สุด ช่วงล่างที่ให้อารมณ์สปอร์ตทำได้ดีและมันไม่ดูกระด้างจนเกินงามนัก และยังให้ความมั่นคงมากในความเร็วสูงแม้ จะขับเร็วถึง 160 ก.ม./ช.ม. และนั่งเพียง 2 คน รถที่เบาก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเบาหวิวแต่ถ้าทำถึงความเร็วสูงสุด 183 ก.ม. /ช.ม. ก็อาจจะมีหวิวบ้างเล็กๆ และเช่นเดียวกับ การสนองตอบของพวงมาลัยที่สามารถให้ความหนักแน่นมากขึ้นเมื่อขับเร็วสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังต้องระวังให้ดีช่วงความเร็วสูง  เพราะความเบาและคล่องตัวของรถจะกลายมาเป็ยโจทย์และหอกข้างแคร่ทันที ในการขับขี่

เกียร์อัตโนมัติ ยังมันส์ แต่เน้นสปอร์ตเนี้ยบ ๆ

                หลังจากการขับขี่ทดสอบ Chevrolet Sonic  เกียร์ธรรมดา ไปเรียบร้อย ความสนุกสนานในการขับขี่และเร้าใจ ของมันก็ทำให้เราแอบนึกว่าเกียร์อัตโนมัติที่หลายคนน่าจะชอบ อาจจะโดนใจมากยิ่งกว่า ด้วยส่วนหนึ่ง เกียร์ออโต้นี้จะเป็นทางเลือกมากกว่ากับคนเมือง และมีโอกาสที่จะขายได้ดีกว่าจากออพชั่นที่มีความหลากหลายของรถ

                โจทย์ในการขับขี่เกียร์ธรรมดาของเรายังคงไม่ได้ต่างจากเดิมนัก เพราะความตั้งใจของเราก็มาจากแนวคิดการใช้งานจริงตามวิถีชีวิตคนเมืองที่วนกันในป่าคอนกรีตเสียเป็นส่วนใหญ่ และ  Chevrolet Sonic LTZ  คันนี้ก็จะผ่านบททดสอบนี้ที่เหมือนกันกับตอนขับขี่เกียร์ธรรมดา

                ลืมทุกอย่างในเกียร์ธรรมดาทิ้งไป เราเตือนตัวเองมาตั้งแต่ต้น เพราะ การไปเทียบกันอย่างจริงจังอาจจะเป็นปัญหาได้ และทันทีที่ดอดขึ้นรถ ที่มีความสะดวกสบายมากขึ้นก็ทำให้เรารู้สึกว่า  Chevrolet Sonic  มีตัวตนในความสบายแบบทิ้งไม่เห็นฝุ่นจากรุ่นเกียร์ธรรมดาทั้งที่ มันจะต่างกันก็แค่ระบบเกียร์ การตบแต่ง และเครื่องเสียง รวมถึงออพชั่นอีกเล็กๆน้อยๆ  แต่หลังล่ำลาแล้วนำรถคันนี้สู่ถนนเมืองกรุงมันก็ปรับแนวคิดเราไป

                เครื่องยนต์ที่มีความเหมือนกัน คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณมากนัด เพราะ  Chevrolet Sonic A/T  ไม่ได้ มีการปรับอะไรเพิ่มเติมจากเดิมไปเลยทุกอย่างเหมือนกันกับรถรุ่นเกียร์ธรรมดา แต่ก็มีการปรับเปลี่ยน อย่างเช่นในส่วนของระบบเกียร์ ที่เป็นเกียร์อัตโนมัติแบบ 6สปีด มีอัตราทดเกียร์ 1 ที่ 4.449 ,2.908 ,1.893,1.446,1.000 และ 0.742 เซทอัตราเฟืองท้ายที่   4.110

                เมื่อมองการเซทอัตราทดระบบส่งกำลังใน Chevrolet Sonic  เกียร์อัตโนมัติ จะเห็นได้ชัดเจนว่า แม้จะมีเครื่องยนต์เดียวกัน แต่การปรับการส่งกำลังเพิ่มอัตราทดมากขึ้นอีก 1 เกียร์ และ ยังมีการปรับอัตราทดเฟืองท้ายที่แตกต่าง ก็ทำให้มันมีความแตกต่างในเรื่องการขับขี่ตามไปด้วย

                หลังจากที่ออกไปบนถนน แม้จะมีความเหมือนกันในเรื่องความเป็น Chevrolet Sonic  แต่ลักษณะการขับขี่ที่ไม่ได้สปอร์ตดุดันมากในแบบเกียร์ธรรมดา ก็ทำให้รู้สึกว่าเกียร์อัตโนมัติมีความแตกต่างมาก จนอาจจะแทบเรียกว่ามีบุคลิกที่ไม่เหมือนกันเลย

                ความแตกต่างนี้ทำให้เรามองข้อแตกต่างทันที และ ส่วนหนึ่งก็มาจากล้อและยาง ซึ่ง  Chevrolet Sonic  A/T LTZ จะสนองในล้อขนาด 16 นิ้ว มากับยาง 205/55/ R16 ที่ให้ทรวดทรงเต็มซุ้มมากกว่าพร้อมกับอัตราเกาะถนนที่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วย และด้วยเกียร์อัตโนมัติที่ทดเบอร์เฟืองท้ายต่ำลง ก็ทำให้มันลดความห้าวหาญลงไปด้วย

                แม้เรื่องอัตราเร่งจะเปลี่ยนไปแบบรู้สึกได้ทันทีที่ขับขี่ แต่เมื่อมองดูบททดสอบเราแบบ City Test  Chevrolet Sonic  ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง ด้วยการนำเสนอความสบายเข้ามาแทนทีจนเรียกได้ว่ามันเหมาะมากกับการขับขี่ในเมือง ซึ่งหากใครต้องการการขับขี่ที่ทรงสมรรถนะมากยิ่งขึ้น ยังสามารถเลือกปรับเกียร์เองได้ เพียงแค่ปรับอัตราทดขึ้นหรือลงตามต้องการที่ข้างด้ามเกียร์ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะมองว่าประหยัดพื้นที่ แต่เมื่อใช้งานจริงมันก็ยากใช่น้อย เพียงลองคิดว่า มือหนึ่งสาวพวงมาลัย อีกมืออยู่ที่ด้ามเกียร์ มันก็ผิดแล้ว

                ด้านระบบช่วงล่างล้าง แม้จะพอบอกได้ว่ามันไม่มีความแตกต่างกันในเรื่องการเซทระบบช่วงล่างที่เลือกใช้แม็คเฟอร์สันสตรัททางด้านหน้า พร้อมคอยย์สปริง โช็คอัพแก๊ส และเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเลือกใช้ ทอร์ชั่นบีมรูปตัว วี โช๊ค อัพแก๊ส และเหล็กกันโคลง ซึ่งไม่ได้บอกว่ามีความตกต่างกัน แต่แค่เพียงการเปลี่ยนระบบเกียร์ที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เช่นเดียวกับ รายละเอียดต่างๆ ก็ทำให้มันมีความแตกต่าง ในเรื่องน้ำหนัก ซึ่งในรุ่น LT  เกียร์ธรรมดา รถเปล่ามีน้ำหนัก 1,268 ก.ก. ส่วนในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ LTZ  นี้แค่น้ำหนักตัวเปล่า มันก็มากกว่าถึง 1,295 กิโลกรัม หรือ จะว่าไปมากกว่า 27 ก.ก. ซึ่งยังไม่รวมผู้ขับขี่ด้วยซ้ำไป

                ปัจจัยระหว่างการทดสอบเรายังคงเหมือนเดิมกับคนนั่ง 2 คน รวมผู้ขับขี่ ทำให้บอกได้เลยว่า มันไม่มีความแตกต่างเลยแม้แต่น้อย แต่ช่วงล่างใน Chevrolet Sonic  A/T  นี้กลับให้ระบบช่วงล่างที่รู้สึกนุ่มนวลมากกว่า ความกระด้างเลือนหายไปจากเดิมพอสมควร แถมตัวรถที่หนักขึ้นยังส่งผลต่อในแง่ของอัตราเร่ง ซึ่งถ้าใช้โหมด  D  ในการขับขี่ มันค่อนข้างที่จะเชื่องช้ากว่าพอสมควร ในตอนออกตัว แต่ถ้าได้ล้อหมุน มันก็จะวิ่งอย่างรวดเร็ว ยิ่งกับอัตราเร่งในการเปลี่ยนเลน มันก็จะทำให้คุณประทับใจ

                สิ่งที่หลายคนอยากทราบเช่นเดียวกัน คงไม่พ้นเรื่องการใช้โหมดปรับเองได้ที่มีมาให้และถือเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะ 6 อัตราทดเกียร์ก็ถือว่าแตกต่างอยู่แล้ว แต่ Chevrolet Sonic  ยังให้ความแตกต่างด้วยการให้ความสามารถปรับเปลี่ยนอัตราทดเกียร์เองได้ ก็ทำให้มันยิ่งสุดยอดขึ้นไปอีก

                อย่างที่บอกว่าอัตราทดเกียร์ของ  Chevrolet  Sonic  มี 6 สปีด  แต่เมื่อดูการเซทระบบเกียร์จะพบว่า อัตราทดเกียร์ 3-4-5 มีความทดชิดกันมาก ด้วยอัตราทด 1.893,1.446 และ 1.000 ตามลำดับทำให้ มันน่าจะเหมาะเมื่อยามล้อหมุน เพื่อสร้างกำลังเร่งแซงให้กับรถมากยิ่งขึ้น และสิ่งที่คิดไว้ก็ไม่ผิด เพราะถ้าขับขี่บนเจ้า  Chevrolet sonic   บนทางหลวง แม้จะคงรอบเครื่องขณะขับขี่ที่ 120 ก.ม. ที่ 3050 รอบต่อนาที มันก็ปั่นฝีเท้าเพิ่มขึ้นอย่างง่ายดาย แถมในเมืองก็ขับง่าย จนอาจจะบอกว่าลงตัว

ประหยัดต่างกันเล็กน้อย ที่เหลืออยู่ที่เลือก

                หลังจากที่เราขับขี่รถคันนี้กันมาทั้ง 2 รุ่น พร้อมกันนี้ก็ได้วัดอัตราประหยัดไปพร้อมกันด้วย คนขับคนเดียวกันต่างกันที่เวลาที่ใช้ และในบททดสอบ  City  TEST  เราได้ใช้งานรถย่างที่ หลายคนน่าจะใช้ ทั้งทำธุระ กินข้าว ช๊อปปิ้ง รถติด และในรุ่นเกียร์ธรรมดา ทุกอย่างจบลงที่อัตราประหยัดเฉลี่ยรวมที่ 11.3 กิโลเมตรต่อลิตร จากสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าสุดๆ ในเกียร์ธรรมดา แต่ก็อาจจะเมื่อหน่อย ถ้านับว่า นี่คืออาจจะต้องเหนื่อยหน่อยในการขับขี่ในเมือง

                หาแต่คุณยังสามารถมีตัวเลือกได้ ด้วยกับ  Chevrolet Sonic  เกียร์อัตโนมัติ  6 สปีด สามารถตอบสนองการใช้งานทั้งความสบายและสมรรถนะการขับขี่ ซึ่งจากบททดสอบทั้งหมดในรูปแบบเดียวกัน เราได้อัตราประหยัดที่ 11.6 กิโลเมตร / ลิตร ในสภาพการใช้งานจริง ที่หลายคนต้องใช้กัน

                ความแตกต่างกัน เพียง 0.3 กิโลเมตร/ลิตร อาจจะไม่ได้แตกต่างกันมากมายนัก แต่เมื่อต้องนับว่า มันแตกต่างกันที่ ความสบายยิ่งนับว่า  Chevrolet Sonic   เป็นรถยนต์ที่จะต้องใช้งานในเมือง บางทีการแลกความประหยัดน้ำมันเล็กๆ ก็น่าจะช่วยให้สุขใจขึ้น

เมื่อนับว่า  Chevrolet sonic  เป็นรถยนต์ซิตี้คาร์ที่เกิดมาพร้อมสมรรถนะและความคล่องตัวในการขับขี่ในเมือง ตามแบบฉบับรถซิตี้คาร์นั้น มันให้ความลงตัวตามโจทย์ที่ตั้งมาไม่น้อย กับความสปอร์ตที่แตกต่างดัง ที่เอ่ยจนจำได้ว่า  This is So me ,What is so you   และแม้การทดสอบครั้งนี้จะเป็นเพียงรุ่น  4 ประตู ซึ่งในอนาคตรถรุ่นนี้จะมี 5 ประตู ตามมา แต่ถ้าวันนี้คุณถวิลหาความสปอร์ตเต็มขั้น นี่คือรถที่ตอบโจทย์ได้ อย่างลงตัวที่สุดในราคาที่ไม่แพงจนเกินไปนัก

ผลการทดสอบ  Chevrolet Sonic

ตารางคะแนนผลการทดสอบ  Chevrolet Sonic 5 M/T

ตารางคะแนนผลการทดสอบ  Chevrolet Sonic 6 A/T

• 
  
• สนับสนุนเนื้อหา

Create Date : 07 ตุลาคม 2555
Last Update : 7 ตุลาคม 2555 21:14:09 น.		0 comments
Counter : 2781 Pageviews.
Share Tweet