Group Blog |
Before I Fall by Lauren Oliver ปล่อยTrailer ออกมาแล้ว!!!!!
BEFORE I FALL by Lauren Oliver  ในที่สุด Before I Fall ก็ปล่อยเทรลเลอร์ออกมาแล้วนะคะ สดๆร้อนๆเลย กรี๊ดดด ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมากจากนิยายในชื่อเดียวกัน ของลอว์เรน โอลิเวอร์ นักเขียนแนว YA ชื่อดัง หนังสือเล่มนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กสาวที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่เธอได้ย้อนเวลากลับมาในวันเดิมซ้ำๆ ซึ่งในหนังสือไม่ได้บอกวัตถุประสงค์ของการย้อนกลับมา แต่นางเอกก็คิดว่า คงเป็นเพราะให้เธอกลับมาแก้ไขอดีตที่ทำผิดพลาดไว้ หนังสือเล่มนี้ จะทำให้เราตระหนักได้ว่า การกระทำของคนเรานั้น มักมีเอฟเฟ็คท์ต่อคนอื่นเสมอ เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะทำอะไรลงไป ควรคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนว่าเกิดผลอะไรตามมาบ้าง เรื่องนี้ เรารีวิวเอาไว้ จิ้มตรงนี้เลยจ๊ะ สำหรับเทรลเลอร์ เราว่าทำออกมาได้ดีกว่าที่คิดไว้ 55 โอเคกว่าหนังของจอห์น กรีน เยอะเลย แค่ดูเทรลเลอร์ เราก็น้ำตาคลอเบ้าแล้ว ถ้าได้ดูหนังเต็มจะขนาดไหนเนี่ย โอยยย อยากดูแล้วค่าาา สำหรับเพื่อนๆที่อยากหาหนังสือมาอ่านก่อนหนังจะเข้า หนังสือมีขายที่คิโนะ กับเอเชียบุ๊คส์นะคะ หนังสือดีค่ะ ซื้อมาอ่านไม่ผิดหวังแน่ๆ แล้วคุณจะต้องเสียน้ำตาเหมือนเรา 555 **Best Books of 2015**
Best Books of 2015 สวัสดีจ้า วันนี้เราจะมาโชว์หนังสือดีๆที่เราอ่านไปเมื่อปีที่ผ่านมานะคะ สรุปแล้วเราอ่านได้ทั้งหมด 50 เล่มพอดี มีทั้งเล่มที่อ่านแล้วน้ำตาร่วงเป็นลิตรๆ ทั้งเล่มที่อยากเอาไปรองขาตู้กับข้าว  มาดูกันดีกว่าว่าเราได้อ่านอะไรเจ๋งๆบ้าง  12. Ink by Amanda Sun  เคธี่ เด็กสาวที่สูญเสียแม่ไปอย่างกะทันหัน เธอเลยต้องย้ายมาอยู่กับป้าที่ชิซุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เธอได้พบกับโทโมฮิโระ เด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์อันแปลกประหลาด เพราะทุกลายเส้นที่เขาเขียน ทุกภาพที่เขาวาดสามารถเคลื่อนไหวได้ราวกับมีชีวิต แต่ยิ่งเคธี่เข้าใกล้โทโมฮิโระมากเท่าไหร่ ชีวิตของเธอก็ยิ่งตกอยู่ในอันตรายมากขึ้นเท่านั้น เรื่องนี้เราว่าสนุกดีนะ อารมณ์เหมือนกำลังอ่านมังงะเลย พระเอกเป็นพวกซึนนนน นางเอกก็โก๊ะๆ อ่านจบแล้วไม่ผิดหวังจ้า ลองหามาอ่านดูนะ ศัพท์ไม่ยาก 11. Keeping the Moon / Last Chance by Sarah Dessen  โคลี่ ถูกส่งมาอยู่กับป้าช่วงซัมเมอร์ เธอมีอดีตที่เลวร้ายเพราะปัญหาน้ำหนักตัวของเธอ โคลี่จึงเสพติดการออกกำลังกายตั้งแต่นั้นมา แต่เมื่อเธอได้พบกับเพื่อนใหม่ เธอจึงได้เรียนรู้ที่จะรักตัวเองในแบบที่เธอเป็น.. เรื่องนี้ช่วงแรกๆดำเนินเรื่องช้าไปหน่อย แต่โดยรวมแล้วเป็นหนังสือที่ดีมากๆ อ่านแล้วได้ข้อคิดอะไรหลายอย่างเลย อย่างนางเอกในเรื่อง ถึงแม้เธอจะลดน้ำหนักแล้ว แต่เธอก็ยังไม่มีความมั่นใจอยู่ดี เธอได้เรียนรู้ว่ามันต้องเริ่มจากข้างในตัวเรา เราต้องเชื่อมั่นในตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้โลกยอมรับเรา แค่งดงามในแบบของเราก็พอ for once, you believed in yourself. you believed you were beautiful and so did the rest of the world. ― Sarah Dessen, Keeping the Moon 10. Shiver by Maggie Stiefvater  สมัยเด็ก เกรซ เคยถูกฝูงหมาป่ารุมทำร้าย แต่เธอก็รอดชีวิตมาได้ เพราะมีหมาป่าตัวหนึ่งในฝูงช่วยเธอไว้ นับตั้งแต่นั้นมา เธอก็มักจะออกมานั่งรอที่สนามหญ้า เพื่อจะได้เจอเจ้าหมาป่าตัวนั้นอีก จนวันหนึ่ง เกรซได้พบร่างของเด็กหนุ่มนอนจมกองเลือดอยู่ใกล้ๆกับตัวบ้าน แล้วเธอก็ได้รู้ว่า เขาคือเจ้าหมาป่าตัวที่เธอคอยมาตลอด! เรื่องนี้ทำเราคลั่งมนุษย์หมาป่าไปพักใหญ่เลย 555+ คนแต่งบรรยายบรรยากาศหนาวๆในเรื่องได้ดี คาแรกเตอร์นางเอกก็โอเค ไม่โง่ ผิดกับพระเอกที่เรารู้สึกว่าแบ๊วๆ โดนใจป้ามาก อยากจะมีสามีเป็นมนุษย์หาป่าขึ้นมาเลอออ 555+ 9. Amy & Roger's Epic Detour by Morgan Matson  แม่ของเอมี่ ขอให้โรเจอร์ ลูกชายของเพื่อนสนิท ช่วยขับรถไปส่งเอมีทีบ้านใหม่ ใน Connecticut แต่เอมีกับโรเจอร์ก็ตกลงกันจะใช้ทางอ้อมซักหน่อย แล้ว Road Trip ก็เริ่มต้นขึ้น ในเรื่องมีภาพประกอบตามเส้นทางที่พระเอกนางเอกขับรถผ่านอยู่เต็มเลย แสดงให้เห็นว่าคนแต่งทำการบ้านมาดีมาก นอกจากนั้น เราก็ยังเห็นพัฒนาการของเอมี่และโรเจอร์ที่พยายามก้าวผ่านความทุกข์จากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักอีกด้วยจ้า You've got to have pride in your home. You are where you're from. Otherwise, you're always going to be lost. ― Morgan Matson, Amy and Roger's Epic Detour 8. The 5th Wave by Rick Yancey  มนุษยชาติกำลังถูกกวาดล้างจากผู้มาเยือน พวกมันจับตามองและคอยเรียนรู้เราเป็นพันๆปี จนในที่สุด มันก็เริ่มโจมตี... แคสซี่ออกตามหาน้องชายที่ถูกพวกต่างดาวจับตัวไป พร้อมกับปืนไรเฟิลและตุ๊กตาหมีมอมๆตัวหนึ่ง และด้วยความช่วยเหลือของมนุษย์ต่างดาว(สุดหล่อ) ไปดูกันว่าเธอจะช่วยน้องชายได้หรือไม่? เรื่องนี้ภาษาไม่สวย คำหยาบก็เยอะ แต่สนุกมากกกก นางเอกฮาได้ตลอดจริงๆ ขนาดตอนกำลังคับขันนางก็ยังเล่นมุก 555+ ปกติเราไม่ค่อยชอบตัวละครที่ชอบพูดจาเสียดสี ประชดประชัน (sarcasm) เพราะส่วนใหญ่มักจะแป๊ก แต่เรื่องนี้เราขำนางตลอด ตอนนี้อยากอ่านเล่ม 2 ละ อยากรู้ว่านางเอกจะคู่ใคร (คือแบบ..เราอยากให้นางคู่กับเอเลี่ยนสุดหล่ออะ 55) 7. The History of Love by Nicole Krauss  เป็นเรื่องของชายชราที่อพยพหนีสงครามมาอยู่ในอเมริกาตั้งแต่ยังหนุ่มๆ เขาพบว่าคนรักที่หนีมาก่อน แต่งงานมีครอบครัวไปเสียแล้ว จากนั้นเขาก็ใช้ชีวิตอย่างเลื่อนลอย โดยมีเครื่องยึดเหนี่ยวเพียงอย่างเดียวคือ หนังสือที่ลูกชายเขาเป็นคนเขียน ตัวละครสำคัญอีกตัวคือ เด็กสาวที่พ่อแม่ตั้งชื่อตามนางเอกในหนังสือ เธอออกตามหานักเขียนคนนั้นที่สามารถเขียนเรื่องราวความรักได้อย่างสุดซึ้ง เพื่อที่จะขอให้เขาช่วยเเม่ของเธอ ซึ่งกำลังจมอยู่ในห้วงความทุกข์เพราะการจากไปของผู้เป็นสามี ตอนอ่านเรื่องนี้ เราอินกับความเหงา โดดเดี่ยวของตัวละครมากกกก ต้องอ่านไปพักไป เนื้อเรื่องไม่ได้เครียด ดราม่าแบบละครไทย แต่ทุกคำพูดมันเต็มไปด้วยความรู้สึก ถึงตอนจบจะไม่สมหวัง แต่ก็ยังมีความรู้สึกตื้นตันอย่างน่าประหลาด Loneliness: there is no organ that can take it all. ― Nicole Krauss, The History of Love 6. A Thousand Pieces of You by Claudia Gray  เรื่องนี้เราเขียนริวิวไว้ คลิกเลยจ้า 5. Aristotle and Dante Discover the Secrets of the Universe by Benjamin Alire Sáenz  เรื่องนี้เราเขียนรีวิวไว้ คลิกเลยจ้า 4. Girl Online by Zoella  เพนนีเคยประสบอุบัติเหตุเมื่อสมัยเด็ก ตั้งแต่นั้นมาเธอจะมีอาการPanic attack ทุกครั้งที่เธอรู้สึกเครียดหรือกังวล เธอจึงเริ่มเขียนบล็อก พูดคุย แลกเปลี่ยนเรื่องราวกับเพื่อนๆในอินเตอร์เน็ท แต่อาการนี้ก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อวิดีโอที่เธอลื่นหกล้มบนเวทีถูกแชร์ไปทั่วสังคมออนไลน์ เพนนีรู้สึกอับอายจนไม่อยากไปโรงเรียนอีก เธอจึงตัดสินใจบินไปทำงานกับพ่อแม่ที่อเมริกา และแล้ว..เธอก็ได้พบกับเจ้าชายในฝันของเธอ! เรื่องนี้ภาษาง่ายๆ พล็อตเดาได้ (น้ำเน่านิดๆ) เนื้อเรื่องชวนฝัน แบบที่ผู้หญิงทุกคนอยากให้เกิดกับตัวเอง ที่เราชอบเพราะตอนอ่านนี่นั่งขำตลอดเลย (ปกติเราเป็นคนเส้นลึกมากๆ) นางเอกกับเพื่อนฮามากกก หนังสือนำเสนอให้เห็นถึงพัฒนาการของนางเอกว่านางสามารถก้าวผ่านความกลัวมาได้ ที่ชอบมากๆคือ บางทีกำลังใจจากคนที่ไม่รู้จัก อย่างเพื่อนในอินเตอร์เน็ท ก็สามารถช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้นะเออ Sometimes you have to face up to your fears to realize that they arent actually real. ― Zoe Sugg, Girl Online 3. The Secret Garden by Frances Hodgson Burnett  แมรี่ถูกส่งมาอยู่กับลุงที่อังกฤษ หลังจากครอบครัวของเธอเสียชีวิตทั้งหมดเพราะอหิวาตกโรค เธอบังเอิญพบสวนปริศนาภายในบริเวณคฤหาสน์ คนงานในบ้านบอกเธอว่า สวนนี้ถูกปิดตายมานานแล้ว ตั้งแต่ภรรยาของลุงเสียชีวิต ด้วยความอยากรู้อยากเห็น แมรี่จึงหาทางเข้าไปจนได้ แล้วเธอก็ช่วยให้สวนปริศนานี้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง เรื่องนี้เราชอบมากกกกกกกเลยนะ เราโชคดีได้ก๊อปปี้ที่ตีพิมพ์เมื่อสี่สิบกว่าปีที่แล้วมา ตอนอ่านเลยต้องค่อยๆเเง้ม 55 คิดว่าหลายคนคงรู้จักเรื่องนี้กันดีแล้วล่ะ เพราะงั้นเราจะไม่พูดมาก ลองไปหาอ่านกันดูนะ แล้วคุณจะอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง!  And the secret garden bloomed and bloomed and every morning revealed new miracles. ― Frances Hodgson Burnett, The Secret Garden 2. Paper Towns by John Green  เรื่องนี้เราเขียนรีวิวไว้ คลิกเลยจ้า 1. Tell the Wolves I'm Home by Carol Rifka Brunt  จูน เด็กสาว วัย 14 ปี ชอบหมกมุ่นอยู่ในโลกส่วนตัว เธอแทบไม่มีเพื่อนและเหินห่างจากพี่สาวที่เคยสนิทกันมาก่อน เธอคิดว่ามีเพียงฟินน์ น้าชายของเธอ เท่านั้นที่เข้าใจเธอ ซึ่งแท้ที่จริงแล้วจูนแอบมีความรู้สึกที่มากกว่าน้าหลานให้ฟินน์ ทว่า...เมื่อฟินน์เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ ชีวิตของจูนก็ดูจะแตกสลายไปนับแต่นั้น การสูญเสียครั้งนี้กลับนำพาใครคนหนึ่งเข้ามาสู่ชีวิตของจูน ใครคนหนึ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจของเธอ เพราะเขาคนนั้นก็เป็นคนที่รักฟินน์เช่นเดียวกับเธอ ขอเล่าหน่อย เรื่องนี้ได้มาตอนลดราคา แต่คุณภาพเหลือล้นมากๆ เนื้อเรื่องตรงกับชื่อไทย (เงียบ เหงา เศ้รา ทราม) เลย ตัวละครในเรื่องเต็มไปด้วยความเหงา พวกเขาคอยมองหาคนที่จากไปจากข้าวของ สถานที่ที่คนๆนั้นรัก แต่ท้ายที่สุดแล้ว คนที่ยังอยู่นี่แหละที่จะช่วยให้เราก้าวผ่านความทุกข์นี้ไปได้ เรื่องนี้อ่านจบ แต่ความรู้สึกไม่จบนะ เป็นเล่มเดียวในปีนี้ที่ทำเราร้องไห้อย่างกับคนบ้า  55 ขอตบมือให้คนแต่งเลย เพราะปกติเราเป็นผญ.ถึกทน ไม่หลั่งน้ำตาให้กับหนังสือง่ายๆ 55 เป็นหนังสือดีๆ ที่ควรค่าแก่การหามาอ่านจริงๆจ้า #ขออันเชิญขึ้นหิ้งจบแล้วจ้า หนังสือดีๆของปี 2015 ไม่รู้ว่าปีนี้จะได้เจอหนังสือดีๆแบบ Tell the Wolves I'm home อีกมั้ย สงสัยว่าเราคงต้องหันมาอ่านAdult fiction เยอะๆแล้วล่ะ  #จดลงnewyearresolution**Best and Worst Book of 2014**
Best and Worst Book of 2014 อะแฮ่มมม! บอกก่อนว่าหนังสือที่จัดมาเอนทรี่นี้เป็นหนังสือที่เราอ่านปี 2557 และ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวจ้า เล่มที่เราชอบ คนอื่นอาจจะไม่ชอบ หรือเล่มที่เราอยากจะฉีกมาเช็ดอ้วกแมวก็อาจจะเป็นเล่มที่คนอื่นชอบก็ได้ อิอิ เเต่ความจริงไม่ต้องบอกก็ได้มั้ง เพราะเราอ่านหนังสือที่ไม่ค่อยดังเท่าไหร่ คงไม่มีใครมาประณามเราหรอก ๕๕๕ Best Books of 2014  1. The perks of being a wallflower - Stephen Chbosky เรื่องนี้เราแนะนำเกือบทุกกระทู้ที่มีในพันทิปเลย ชอบมากๆๆๆๆๆๆ เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มชื่อว่าชาร์ลี เขาเป็นคนพูดน้อย ไม่ค่อยมีเพื่อน เข้าสังคมไม่เก่ง แล้วเพื่อนสนิทก็ดันมาฆ่าตัวตายอีก ตอนอ่านนี่รู้สึกเหงาแทนเลย แต่พอมีแซมกับแพทตี้เข้ามา เรื่องก็มีสีสันขึ้นมาเลย ไม่อยากสปอยล์มาก เอาเป็นว่าต้องอ่าน! เป็นหนังสือที่ดีมากๆ มีประโยคที่ทำให้รู้สึกอิ่มเอม และเจ็บปวดอยู่เต็มไปหมด รับรองว่าคุณจะต้องชอบแน่ๆ คิคิคิคิ "...And in that moment, I swear we were infinite..." (ประโยคนี้เราท่องขึ้นใจเลยจ้า ๕๕)  2. Shadow and Bone (Grisha Trilogy #1) - Leigh Bardugo เรื่องนี้เรารีวิวไว้ ลองจิ้มดูข้างนะคะ เราอ่านเรื่องนี้พร้อมกับอ่านหนังสือสอบ กำลังเครียดๆเลย พอเจอเรื่องนี้เข้าไปเพ้อเลย ไม่เอาละหนังสือเรียน ๕๕ ฟินนนนสุดๆ ปกติไม่ค่อยอ่านแฟนตาซี แต่เรื่องนี้ทำให้เราอยากหาแฟนตาซีมาอ่านเพิ่มเลย คิคิ 3. Wonder - R.J. Palacio เล่มนี้เป็น Middle Grade คิดว่าคงไม่มีอะไรหนักๆ งืมมม...แต่พออ่านไปเท่านั้นแหละ บ่อน้ำตาแตกเลย ;____; เป็นเรื่องราวของเด็กผู้ชายคนนึงชื่อว่า ออกัส เขาเป็นโรค Mandibulofacial Dysostosis ทำให้หน้าเละเหมือนโดนไฟไหม้อะไรเทือกนั้น เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในร.ร.ด้วยความอดทนเพราะมีแต่คนรังเกียจราวกับว่าเขาเป็นโรคติดต่อ อ่านแล้วปวดใจตุ้บๆ T^T เรื่องนี้ทำให้เราจำขึ้นใจเลยว่า Do not judge anyone by his appearance. เราคิดว่าเป็นหนังสือที่ดีที่ทุกคนควรอ่านเล่มนึงเลย... 4. The giver - Lois Lowry เล่มนี้รู้สึกว่าจะเป็นหนังสือที่เด็กอเมริกันต้องอ่านตอนไฮสคูล หลายคนก็ไม่ชอบ แต่เราชอบมากๆเลย เป็นเรื่องราวของเด็กชายชื่อว่า โจนัส เขาอยู่ในเมืองที่ไม่มีวคามทรงจำ ไม่มีความรัก ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว ทั้งคนที่จะเป็นพ่อ แม่ หรือน้องสาวของเขา จนวันนึงโจนัสได้รับเลือกให้เป็นThe Receiver เขาได้รับความทรงจำมากมายจากThe Giver โจนัสตระหนักได้ว่าชีวิตที่ปราศจากความทรงจำ ความรักมันไม่ดีเอาเสียเลย และเขาก็ต้องลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง... เรื่องนี้ทำเป็นหนังเเล้ว คิดว่าทุกคนคงรู้กัน ถึงจะแตกต่างจากหนังสือ แต่ธีมยังเหมือนเดิม ตอนอ่าน/ดูน้ำตาไหลพรากเลย ๕๕๕ อันนี้เป็นท่อนที่อ่านแล้วรู้สึกปวดใจที่สุด ;___; "Do you love me?" There was an awkward silence for a moment. Then Father gave a little chuckle. "Jonas. You, of all people. Precision of language, please!" "What do you mean?" Jonas asked. Amusement was not at all what he had anticipated. "Your father means that you used a very generalized word, so meaningless that it has become almost obsolete," his mother explained carefully. Jonas stared at them. Meaningless? He had never before felt anything as meaningful as the memory. 5. The shock of the fall - Nathan Filer เรื่องนี้เรารีวิวตามไปจิ้มแถบข้างๆได้เลยจ้า เรื่องนี้Booktuberชอบกันมากเลยหามาอ่านบ้าง ตอนอ่านนี่แบบนั่งเครียด - - หนังสือทำเราสับสน มึนตึ้บบบ ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจนะ แต่คนเขียนเขาทำให้เราเห็นว่าคนป่วยเป็นโรค Schizophrenia เนี่ย ความคิดของเขาปั่นป่วนสุดๆ อ่านแล้วก็ปวดใจแทน โชคดีที่สุดท้ายเรื่องก็จบลงด้วยดี เหมือนเจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เลย เพราะเรื่องมันค่อนข้างดาร์คจริงๆ  Worst Books of 2014  1. Everybody sees the ants - A.S. King ฮือออ... เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราตั้งความหวังไว้สูงลิบลิ่ว เพราะBooktuberที่เราชอบ ชอบเล่มนี้มากๆ แล้วคะแนนในgoodreadsก็สูงมากด้วย เราเลยซื้อมาอ่านบ้าง แต่พออ่านแล้วแบบ..เฮอะ! อะไรของมันวะ! เรื่องนี้เป็นเรื่องของเด็กผู้ชายคนนึงชื่อว่า ลัคกี้ เขาโดนเพื่อนรังแก แต่พ่อกลับไม่ทำอะไรเพื่อจะปกป้องลูกเลย แม่เลยหอบลูกหนีไปอยู่กับลุง และในช่วงเวลาที่ลัคกี้หลับ เขาจะไปโผล่ที่เวียตนามเพื่อไปช่วยชีวิตของคุณปู่ที่ไปรบอยู่ที่นั่น และยังไม่กลับมา (มันเป็นจินตนาการของลัคกี้เอง) ตอนอ่านแรกๆเราชอบนะ เพราะเราชอบแนวBullying อะไรเทือกนี้ แต่กลางเรื่องเราไม่ชอบความคิดของลัคกี้ตรงที่ว่า พอมีคนมาคอยห่วง เอาใจใส่ ถึงจะเยอะไปหน่อย ก็ไม่น่าจะมองเขาในแง่ร้าย นี่แหละทำเราหงุดหงิดมาก ที่จริงคงเป็นเพราะทัศนะคติของเด็กไทยอย่างเรา ต่างกับเด็กอเมริกัน เลยทำให้รู้สึกไม่ชอบ เอาเป็นว่า หนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะกับเรา แต่คะแนนเค้าก็สูงอยู่ ถ้าเพื่อนๆสนใจก็ลองหาอ่านเอาละกันจ้า เผื่อจะชอบ อิอิ เล่มนี้สอนให้เรารู้ว่า อย่าตัดสินหนังสือที่คะแนนใน goodreads ๕๕๕ 2. Footloose - Paramount Picture เล่มนี้เป็นหนังสือที่เขียนมาจากหนัง เนื้อเรื่องก็ตามหนังเป๊ะๆ ไม่มีอะไรแตกต่าง ตอนอ่านก็รู้สึกเฉยๆตั้งแต่ต้นจนจบ - - แถมยังรู้สึกรำคาญนางเอกด้วย เพราะนางสนใจพระเอก แต่ทำนิ่งๆไว้ เพื่อให้พระเอกไล่จับนางก่อน แถมนางยังแรดอีกต่างหาก ๕๕๕ พอเถ๊อะ..เรารู้สึกว่าหนังสือที่นางเอกเป็นParty Girl นี่ไม่เหมาะกับเราจริงๆ - - 3. Uses For Boys - Erica Lorraine Scheidt เรื่องนี้นี่สุดจริงๆ - - เราอุตส่าห์ไม่ตัดสินหนังสือจากคะแนนในgoodreadsแล้วนะ แต่พออ่านแล้วแบบ...นี่มันเชี่ยอะไร ภาษาก็ห่วย เนื้อเรื่องก็มีแต่ฉากจึ้กๆ - -* มันเป็นเรื่องของเด็กผู้หญิงคนนึงจำชื่อไม่ได้ละ เธอเป็นคนติดแม่มาก แต่แม่ก็ชอบหาสามีใหม่อยู่เรื่อยๆ ทำให้ไม่มีเวลาอยู่กับเธอเลย สุดท้ายเธอก็เป็นเด็กใจแตก นอนก็ผู้ชายไปทั่ว อารมณ์ประมาณว่าโหยหาความอบอุ่นล่ะมั้ง ที่จริงก็เคยเจอแบบนี้ในนิยายไทยนะ แต่แบบ..ไม่ชอบอะ มันดูไม่มีเหตุผล(สำหรับเรา) ดีนะที่โหลดมาอ่าน ไม่งั้นเสียดายตังแย่ - - หน้าปกออกจะสวย เนื้อเรื่องนี่ไปคนละทางเลย เฮ่ออออ.... จบแล้วจ้ารีวิวครั้งนี้ โชคดีที่ปีนี้เจอหนังสือห่วยไม่เยอะเท่าไหร่ (แต่อีกกองใหญ่ๆที่บ้านก็ไม่รู้ว่าจะดีรึป่าวนะ -_-) ส่วนปีหน้าตั้งเป้าว่าจะอ่านให้ได้ 50 เล่ม (ตั้งไว้น้อยๆ เพราะนิยายภาษาอังกฤษเล่มใหญ่เกิ๊น เดี๋ยวทำไม่ได้ตามเป้า อายเค้า -///-) วันนี้ไปแล้วจ้า บ๋ายบายยย HNY 2015 ('O')/  |
Caymen51
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?] Hi guys! My name is Geegee. I'm a book lover. Feel free to add me on goodreads. Let's be friends! ฝากร้านหนังสือหน่อยจ้า https://goo.gl/e1jVlt SHOPEE : shopee.co.th/palalees?smtt=0.0.9 G.'s bookshelf: read
 
3.5/5
This was a funny and fluffy story with two guys who have a secret agreement.
Their relationship started with with an awkward situation which surprisingly turned out to be hilarious. I really like geeky Dev. I think it's cute when...
Link |
♬ .:|I lived in books more than I lived anywhere else|:. ♬
