Group Blog
 
All blogs
 
ทำตัวให้เป็นปลาเล็ก



"ทำตัวให้เป็นปลาเล็ก"


ตีพิมพ์ในคอลัมน์ "กลักไม้ขีด" วารสาร “กรีนนิวส์” ฉบับที่ 71
มีนาคม 2552




ดิฉันอ่านเจอเรื่องที่คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย เขียนไว้ในหนังสือ
“ฮีโร่การตลาด” เป็นหนังสือที่ออกเมื่อปี 2547 อ่านแล้วพบว่าเรื่องราวไม่ล้าสมัยเลย จึงขอนำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

ก่อนปี 2540 ที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง รวมถึงจากกระแสโลกาภิวัฒน์ เราจะพบว่าในเวลานั้นโลกนิยมหลัก “เล็ก ๆ ไม่ ใหญ่ ๆ ทำ” ทำให้บางธุรกิจทำอะไรที่เกินตัวไป ไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไร ยังไม่ทราบว่าตัวเองมีจุดเด่นอะไร แต่ก็ทำตามเขา โดยอาศัยเงินทุนต่างชาติที่ไปหยิบยืมมาทุ่มกันเข้าไป



//www.cha-lad.com/images/bank



เมื่อเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ซึ่งไทยเองก็ได้รับผลกระทบอยู่ไม่น้อย หลายธุรกิจหรือหลายคนพบวิกฤตเป็นโอกาส แต่หลายธุรกิจหรือหลายคน ก็ลืมกับวิกฤติดังกล่าวไปก็ไม่น้อย เมื่อเจอภาวะเฟื่องฟูกลับมาใหม่ บางทีก็ลืมตัว

ใครเลยจะคิดว่า 10 ปีผ่านไป วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์จะมาเยือนอีกครั้ง คราวนี้
หนักหนาสาหัสทีเดียว

สิ่งที่คุณดนัยเขียน กำลังจะบอกว่า บางทีการที่เรา “ทำตัวให้เป็นปลาเล็ก” ก็อยู่รอดได้ เพราะเมื่อสภาพแวดล้อมกระทบ แต่เราอยู่ได้ด้วยการพึ่งตนเอง และเศรษฐกิจพอเพียง ปลาเล็กก็ยังใช้ชีวิตได้เช่นกัน
แถมเผลอ ๆ ใช้ชีวิตได้ดีกว่าด้วย

คุณดนัยกล่าวว่า เมื่อเกิดปัญหาเศรษฐกิจ ธุรกิจประเภทใหญ่แต่ตัว
แต่ข้างในกลวงจึงล้มไม่เป็นท่าตามไปด้วย พลอยทำให้เกิดเป็นวิกฤตเศรษฐกิจระดับชาติ เพราะ “ใหญ่เกินตัว”




//travel.mthai.com/uploads/2009/07/20/1336-attachment.jpg

“ทำตัวให้เป็นปลาเล็ก” เป็นธุรกิจที่ว่าแม้จะเล็ก แต่ไม่ต้องพึ่งพา
กระแสแรงลมใด ๆ อยู่และยืนหยัดด้วยจุดเด่นของตัวเองที่ต่างจากรายอื่น และปฏิเสธสิ่งที่ตัวเองไม่ชำนาญ

ในหนังสือ “แกะรหัสลับองค์กรสายพันธ์ใหม่ Rebuilding the Corporate Genome” ผู้เขียนคือ Johan C. Aurik, Gillis J. Jonk และ Robert E. Willen กล่าวไว้ว่า


“องค์กรสายพันธ์ใหม่จะเน้นทำเฉพาะในสิ่งที่ถนัดที่สุด ได้รับผลประโยชน์อย่างเป็นกอบเป็นกำ ด้วยการมุ่งเน้นพัฒนาจุดแข็งของตนเอง
และหยุดทำในสิ่งที่เป็นจุดอ่อน”

ธุรกิจสมัยใหม่ไม่จำเป็นต้องเป็นธุรกิจใหญ่โตครบวงจร เพียงแต่เรารู้ถึงขีดความสามารถของเรา หรือยีนของเราที่เป็นเลิศและโดดเด่นที่สุดพร้อมกับตัดขีดความสามารถที่ไม่ได้เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างผลผลิตให้บริษัทออกไปเป็นหน่วยงานอิสระ และรู้จักใช้ value chain เพื่อร้อยเรียงความสามารถแต่ละส่วนเข้าด้วยกัน และผลักดันให้เกิดผลผลิตของบริษัทขึ้นมา

ดังนั้น “แม้จะเป็นปลาเล็กก็ไม่เป็นไร สำคัญแต่ว่าอยู่รอดได้เป็นพอค่ะ”





//talk.edtguide.com/wp-content/uploads/2009/08/pung-nga.jpg



เรียบเรียงจาก “ทำตัวให้เป็นปลาเล็ก” โดย “ดนัย จันทร์เจ้าฉาย” หนังสือ “ฮีโร่การตลาด Marketing Hero แนวคิดสู่กรณีศึกษาความสำเร็จ” โดย
“สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย”

.....รัชชี่...
















บันทึกเพิ่ม

บทความนี้ตีพิมพ์ในเดือน มี.ค. 52

แล้วก็ไม่น่าเชื่อว่าเดือน พ.ย. ปีนี้เกิดวิกฤตดูไบเวิลด์อีกครั้ง


การผิดชำระหนี้ของดูไบเวิลด์ กองทุนมหาเศรษฐีของดูไบ หลังจากที่ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ดูไบแตกกระจุย อันเป็นผลจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ดิ่งเหวลงมากกว่า 50%

ซึ่งก็มาจาก “เล็ก ๆ ไม่ ใหญ่ ๆ ทำ” ทำอะไรเกินตัว
เน้นวิถีการกู้ โดยไม่มีปัจจัยรองรับอีกนั่นเอง



.....รัชชี่ ....








Ratchee’s Grateful Journal
วันจันทร์ 21 ธ.ค. 2552

ช่วงนี้บล็อกเกอร์ที่เข้าร่วมโครงการ”ถนนสายนี้ ...มีมิตรภาพ” เขาเขียนเรื่อง “ไดอารี่ที่รัก” กัน ฉันไมได้เข้าร่วมโครงการกับเขาหรอก แต่ก็ถือโอกาสมาเขียนเรื่องราวในหัวข้อนี้ด้วยคนกับ Journal วันนี้.......

ตอนเด็ก มีบ้างที่ซื้อไดอารี่สวย ๆ และหวังว่าจะเขียนจนเต็มเล่ม แต่กลายเป็นว่าไดอารี่ที่สวย ๆ จะเขียนอยู่ไม่กี่หน้า
และไม่เคยเต็ม


ตอนหลังเลยใช้เคล็ดลับใช้สมุดราคาถูก ๆ นี่แหละ
วันไหนอยากบันทึกก็บันทึกไป แต่สิ่งที่บันทึกจะเป็นเรื่องราวที่มีความสุข ส่วนความทุกข์ อาจบันทึกบ้าง แต่เมื่อเขียนเสร็จจะฉีกทิ้ง เพราะไม่อยากให้เมื่อวันเวลาผ่านไปแล้วเรากลับมา
เปิด ๆ แล้วเจอเรื่องนั้นอีก เรื่องไม่ดีก็ควร forget it ไปซะ

หลายเรื่องราวที่ผ่านมา บางเรื่องก็น่าจดจำ เวลาไปเที่ยว ฉันจะพกสมุดเยิน ๆ ไป 1 เล่มเช่นเคย แต่ไม่ได้บันทึกอะไรมาก เพียงแค่โน้ต ๆ highlight สำคัญของสถานที่ หรือความรู้สึก แล้ว
หลังจากกลับมา ถึงจะบันทึกเรื่องราวชุดเต็มอีกครั้ง

ฉันว่าการบันทึกบางเรื่องราวมันเป็นสิ่งดี เพราะนาน ๆ ครั้งเมื่อย้อนกลับไปอ่าน ก็นึกอยู่เหมือนกันว่าเคยเจอแบบนี้ด้วยหรือ ซึ่งถ้าเราลืมมันไป มันน่าเสียดายมาก ๆ

จากการเข้าไปอ่านหัวข้อเรื่องนี้ของบล็อกเกอร์ที่เข้าร่วม
ค่อนข้างสรุปได้ว่าบล็อกเกอร์แต่ละท่านมีที่มาจากการเขียนไดอารี่มาก่อนตั้งแต่วัยเด็ก









Create Date : 18 ธันวาคม 2552
Last Update : 21 ธันวาคม 2552 18:40:50 น. 57 comments
Counter : 749 Pageviews.

 
ขอเจิมนะคะคุณรัชชี่ และแล้ว >>>>>.

ป้ากุ๊กก็ …รีบเจิม .. รีบเจิม .. รีบเจิม .. รีบเจิม รีบเจิม .. รีบเจิม …รีบเจิม .. รีบเจิม.
รีบเจิม .. รีบเจิม .. รีบเจิม .. รีบเจิม .. รีบเจิม .. รีบเจิม .. รีบเจิม … รีบเจิม .. รีบเจิม
รีบเจิม .. รีบเจิม .. รีบเจิม .. รีบเจิม .. รีบเจิม .. รีบเจิม .. รีบเจิม … รีบเจิม .. รีบเจิม
รีบเจิม .. รีบเจิม .. รีบเจิม .. รีบเจิม .. รีบเจิม .. รีบเจิม .. รีบเจิมจ้า จ้า จ้า จ้าาาาาาา




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:15:46:08 น.  

 



สวัสดีค่ะคุณรัชชี่


ป.ปลาน่ารัก…อ้วนตุ๊ต๊ะ …….น่ารักเชียว


ป้าโชคดีมากมายที่เลยวัย…งานเล็กฉันไม่ …งานใหญ่ฉันจึงทำมาแล้ว
เรื่องปวดหัวจึงไม่มี


ทั้งหมดนี้เป็นสาระที่น่าคิดสะกิดใจคนวัยทำงานโดยตรง
จะทำอะไรอย่าให้ไกลคำสอนของพ่อ ….แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงได้เป็นดี


ป้ากุ๊กมาทักทายในวันสุดท้ายของวันทำงาน
พรุ่งนี้ก็ได้พักเหนื่อยแล้ว
ใช้วันหยุดอย่างมีความสุขนะคะ


รักษาสุขภาพ และขอให้รับทุกการกระทบได้โดยไม่กระเทือนค่ะ




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:16:14:24 น.  

 
ที่ดูไบนี้ เห็นด้วยค่ะ คือ ไม่ทราบว่า สร้างอะไรกันมากมาย แยะเหลือเกิน แล้วจะไปขายให้ใครกันมากมายขนาดนั้น

ได้ยินว่าที่เขาสร้างๆ นี้เพราะว่า จะสร้างดูไบให้เป็น แหล่งท่องเที่ยว แต่เพราะ ไม่มีอะไรนอกจากทะเลทราย เลยต้องพยายาม สร้างสิ่งปลูกสร้างให้ดึงดูด คน


ทำใหญ่ มันก็มีความเสี่ยงสูงค่ะ แต่ คนส่วนใหญ่ ก้เกิดจาก การใจกล้านะค่ะ

อย่างย่า ไม่กล้ากู้ ไม่กล้า เป็นหนี้เขาว่า รวยยากค่ะ จ๊ะ ธุรกิจใหญ่ๆ ต้องกู้ทั้งนั้น

ทำการค้า อากง เคยบอกว่า เหมือนเล่นการพนันเหมือนกัน แต่เป็นการพนันที่เราวางแผน

แต่มันก็หาเป็นไปตามแผนไม่

อย่างที่เขาพูดว่า " มานะตน หรือจะสู้ฟ้าลิขิต"
คนจีนเชื่อมากเรื่องโชคและดวง

เวลาทำอะไรจึงต้องมี ฤกษ์ มากมาย หลาย ฤกษ์

พรุ่งนี้ได้หยุดแร้ววววว

มีความสุขนะค่ะ จ๊ะ มาร่วมกัน count down ปีใหม่ กัน

ดีใจจัง ที่รอดไปได้อีกปี



โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:18:21:51 น.  

 
จำได้คุ้นๆว่ารัชชี่เคยส่งไปให้แม่อ่าน

เป็นข้อคิดดีๆอีกข้อของคนทำธุระกิจ

นกน้อยสร้างรังแต่พอดตัว

คนจีนบอกว่า อย่าเอาจมูกเพื่อนมาหายใจค่ะ

พรุ่งนี้เดินทางไม่อยู่บ้านราวอาทิตย์นึงค่ะ

คงไม่ได้มาแวะบ้านรัชชี่ แล้วเจอกันปลายอาทิตย์หน้านะคะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:19:06:12 น.  

 
พระพรหม ทรงกอปรด้วยเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
คือพรหมวิหารสี่ ในพระพุทธศาสนานั่นเอง
ในศาสนาพราหมณ์ พระพรหม คือเทพแห่งการสร้างสรรค์
ทรงมีอานุภาพในการลิขิตชะตาชีวิตของสรรพสัตว์ทั้งปวง
โดยควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปตามเงื่อนไขของกฎแห่งกรรม
พระพรหมจึงเป็นผู้คุ้มครองคนดี และลงโทษผู้กระทำบาป มีกิเลส ตัณหา

ตามตำนานกล่าวว่า พระพรหมกำเนิดจากดอกบัวที่ผุดขึ้นจากสะดือของพระวิษณุ
ที่บรรทมหลับอยู่บนหลังพระยาอนันตนาคราชที่เกษียรสมุทร
พระพรหมทรงโปรดความเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย มีพระทัยอ่อนโยน

ขอให้พบแต่ความสงบ เย็นกาย เย็นใจ มีความสุขอันกอปรด้วยพรหมวิหารสี่ ตลอดไป..นะคะ



อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณจ๊ะ...

ปอ ปลา น่ารักมากมาย...

การทำอะไรที่เกินตัวก็เป็นสิ่งที่นำความทุกข์มาให้ได้ ไม่ว่าจะทุกข์กายหรือทุกข์ใจ...นะคะ

อย่างที่ป้ากุ๊กว่าแหละ..ค่ะ ตามรอยเท้าพ่อ ไม่ลำบากแน่นอน...


โดย: พรหมญาณี วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:0:59:24 น.  

 
กะก๋ามาส่งใบลาพักร้อนครับพี่จ๊ะ










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:7:54:15 น.  

 
ชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับการตลาด-เศรษฐศาสตร์ค่ะ
แต่พักหลังๆ ขาดการติดต่อไปเยอะ


โดย: BeCoffee วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:8:49:30 น.  

 
จริงอย่างที่เค้าว่าจริง ๆ นะครับ เป็นปลาตัวเล็ก ๆ ท่าจะดีกว่าปลาตัวใหญ่ ๆ ตัวอย่างมีให้เห็นอยู่มากมายก่ายกอง แต่ก็ยังไม่วายนะ พลเห็นบางคนนะ ดิ้นรนอยากจะเป็นปลาตัวใหญ่สะเหลือเกิน ในมุมมองของที่ไม่เคยคิดอยากจะมีอะไรใหญ่โตในชีวิตก็ไม่เข้าใจจริง ๆ แต่มองอีกมุมก็ดีเหมือนกัน ที่โลกเรามีคนที่อยากเป็นปลาตัวใหญ่ ๆ อยู่มากมาย ทำให้เราได้ชื่นชมกับความสำเร็จของเขาไปด้วย

แต่ทั้งนี่ทั้งนั้นจะเล็ก จะโต ก็ขอให้รู้จักประมาณตังเอง รู้กำลังตัวเองก็น่าจะดีนะ หรือมีความสุขในแบบของตัวเอง ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ ก็คงจะดีกว่าพยาพยามสุขในแบบที่เราไม่สามารถน้อ พลว่าวันนี้พลพูดไรไม่ค่อยรู้เรื่องนะเนี่ย โทษอากาศละกันน้อ ว่ามันหนาวเกินไป ทำให้สมองน้อย ๆ ของพลทำงานรวนเร

สุขสันต์วันเสาร์ครับคุณรัชชี่ มีโปรแกรมหรือยังเอ่ยว่าอยากไปไหน หรือจะไปไหนบ้าง


โดย: พล (aoigata ) วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:12:21:32 น.  

 
อ้าว ว่ากำลังจะมาบอกว่า ให้ไปเจิม แหมๆๆ เร็วจริงๆเลยนะเนี่ย

จ๊ะ ชิงเจิม ตัดหน้าซะแร้ว

อยู่หน้าคอมเหรอ ทำงานหรือ อยู่บ้านละนี้

แต่อยู่ที่ไหนก้ขอให้มีฟามสุข ฟามสุข และ ฟามสุข



โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:16:22:43 น.  

 
จริงด้วยค่ะ อยู่ให้ได้ด้วยตัวเองดีที่สุด
ดีกว่าใหญ่แต่กลวงสุดท้าย ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ กระทบกระเทือนคนอื่นด้วย
ปัจจุบันธุรกิจเล็กๆ เติบโตขึ้นมากค่ะ เทคโนโลยีช่วยให้ทำงานสะดวกขึ้นมังคะ


โดย: redclick วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:16:32:46 น.  

 
เขียนในบล๊อกเลยค่ะจ๊ะ เรื่องเม้าท์ชาวบ้าน เป้นงานของเรา

ตราบใดที่มันเป็นฟามจริง หามีความผิดไม่

ไว้หลินจะเล่าเรื่องที่ตัวเอง เจอกับต้วเองอีกค่ะ เรื่องแยะมาก เจอพวก เจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน หลายๆที่และการโดนโกง แล้วเราต้องต่อสู้เพื่อเอาเงินคืนมา

ตอนนี้เลยเปิด บล๊อกเฉพาะเรื่องนี้เลยค่ะ

ถ้าไม่โดนปิด ซะก่อนนะ อิอิ

กินข้าวหรือย้ง

ตอนนี้กำลังดู ซินยุนบก ตอนต้นอยู่ค่ะ

ดูตอนท้ายแย้ว ตอนนี้เก็บดูตอนต้น

อ้อ ถ้าจ๊ะ มีเพลง เรื่องซินยุนบก ส่งมาทางเมล์ให้หน่อยนะค่ะ อยากฟัง ฟังแล้วมันเศร้าดีค่ะ



โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:19:21:44 น.  

 
สวัสดีครับคุณรัชชี่

ยังหลับตาคิดถึงวิกฤตต้มยำกุ้งได้ครับ ใบหุ้นไฟแนนท์
กลายเป็นเศษกระดาษไป ผมว่าจะเอาไปใส่กรอบไว้ย้ำ
เตือนสติ

ช่วงนั้นมีการเอาทรัพย์สินของบริษัทหลักทรัพย์ที่ถูกปิดมาประมูล ภาพเขียนถือว่าเป็นสมบัติที่มีค่าของบริษัทเหล่นั้น
แต่ปรากฏว่าการประมูลภาพเขียนไม่ได้ถูกอย่างที่คิด บาง
ภาพธรรมดา ก็ไล่ราคากันสูงลิบลิ่ว แสดงว่าคนที่มีเงินหรือ
ได้รับผลกระทบน้อยยังคงมีอยู่

การพึ่งตัวเองได้อย่างไม่เป็นหนี้เป็นสิน ย่อมไม่หวั่นไหวกับวิกฤติเศรษฐกิจในรอบหน้าครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:23:08:45 น.  

 
ค่ะ
จะเป็นปลานีโมตัวเล้กดู
ต้องหลบปลาใหญ่หรือมนุษย์ใจร้ายเก่งๆด้วยซิ



ณ ศูนย์กลางของจักรวาล (Center of the universe)


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:16:48:41 น.  

 
ง่ะ ปลาเล็กแล้วจะถูกปลาใหญ่งับอ่ะป่าววคร้าบบ

ส่งเมนต์ผิดไปขออภัยด้วยคร้าบบเห่อเห่อ

ปล.อัพบล๊อกแล้วครับแวะหน่อยน๊า


โดย: peeradol33189 วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:20:39:34 น.  

 

ขอบคุณที่นำมาฝากจ๊ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:21:15:03 น.  

 
สวัสดีครับ คุณรัชชี่

ปฏิบัติจนหายสงสัย เรียกว่าละ วิจิกิจฉาได้
เป็นการละสังโยชน์ข้อที่2 ได้

โห ละอีกข้อเดียวก็เป็น พระอริยเจ้าเบื้องต้นได้แล้น



แวะมาส่งเข้านอนครับผม

หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ครับ


โดย: หมึกสีดำ วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:22:09:47 น.  

 
งั้นขอเป็นปะการังใต้น้ำหละกัน (ฮา)
เหลือบสายตาไปเห็น...ขอบคุณที่แอดกันนะจ้ะ


โดย: p_tham วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:7:09:24 น.  

 
ต้มยำกุ้ง แฮมเบอร์เกอร์ ดูไบ ต่อไปไม่รู้จะเป็นอะไรนะคะ


โดย: จอมมารขาวดำ วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:8:38:21 น.  

 
แวะมาอ่านการทำตัวเป็นปลาเล็ก
พอเพียง มั่นคง ตัวใหญ่ล้มทีก็เจ็บหนัก


แอมอร


โดย: peeamp วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:12:57:36 น.  

 
ปลาพะยูนเกยตื้นมาแล้วจ้า...

ชอบอ่านเรื่องแง่คิดทางธุรกิจเหมือนกัน แม้ตัวเองจะไม่มีหัวด้านนี้เลย

แต่ว่า...อ๊ะ...รูปโพรไฟล์ เห็นแล้วหวาดเจี๋ยวจังเลย

เป็นพี่อัยย์ ไม่กล้านั่งอะจ้ะ


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:14:01:58 น.  

 
นั่นสิค่ะ .. บางทีการอยู่อย่างพอเพียงแม้ว่าอาจจะดูต้อยต่ำ
หรือว่าไม่มีอะไรยิ่งใหญ่แต่ว่าเมื่อมีปัญหา เราสามารถอยู่ได้ด้วย
การพึ่งพาตัวเองและไม่เดือดร้อนใคร ก็เป็นทางเลือกที่ดี
เช่นกันนะคะ อ่านแล้วก็สอนตัวเองเตือนตัวเองได้เช่นกันว่า
อะไรทำได้ และทำได้ดีไม่ว่าเล็กหรือว่าใหญ่ มันก็ต้องพอเพียง
และอยู่อย่างมีคุณภาพได้ค่ะ ... และอยู่ได้นานด้วยเน๊าะ



ชื่อวัด ท่ามะโอ ไม่รู้ว่าคุ้นเพราะว่าถือเป็นวัดที่
เค้ามีชื่อในเรื่องของการวัดที่มีคนดังมาปฏิบัติธรรมหรือเปล่า
นะคะ เพราะว่าที่นี่มีคอร์สอบรมและการอบรมการปฏิบัติธรรม
แบบที่มีดาราและนักการเมืองมาเข้าคอร์สด้วยล่ะคะ อย่างเช่น
คุณอมเรศ ศิลาอ่อนและก็แอนสิเรียมด้วยน่ะคะ


โดย: JewNid วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:15:20:44 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่จ๊ะ
ไดอารี่ไม่ได้อยู่ในวิชาไหนหรอกค่ะพี่
แต่ตอนเรียนชั้นป.5 อาจารย์ใหญ่ซึ่งสอนวิชาสังคม พละ แล้วก็ลูกเสือ
ท่านสั่งให้เขียนส่งค่ะ
ส่งตอนเช้า ตอนเย็นก็เอากลับไปเขียนต่อ
นักเรียนทั้งห้องอาจารย์เค้าตรวจแล้วก็คอมเมนต์อย่างที่เห็นในบล็อกเลยค่ะ
เขียนส่งจนจบป.6 วันไม่ส่งอาจารย์มีทวงด้วย
มันเป็นวิธีการสื่อสารระหว่างศิษย์กับครูที่ดีทางหนึ่งเลยเชียวคะ
หลังจากนั้นก็เลยชอบที่จะเขียนบันทึกเรื่อยมาก่อนจะเข้านอน
มีหายไปบ้างพักๆสุดท้ายก็ยังกลับไปเขียนต่ออีกเพราะมันสนุกดีค่ะพี่


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:16:19:29 น.  

 
คุณรัชชี
เป็นความไอเดียที่ดีมากคับ

แต่ว่าเพิ่งจะอ่านจบไปส่วนแรก (น่าจะสิบตอน)

เท่านั้นเอง เห็นน้องสาวบอกว่า จะมีหักมุมอะไรอีกเยอะ

เพราะขานั้นเค้าอ่านใกล้จบแล้ว

ขอเก็บข้อมูลอีกสักพักนะคับ

ปล.ผมเชื่อในศาสตร์ยิบซีที่ร่ำเรียนมา
พรหมลิขิตมันก็มาจากเรื่องบุญกรรม
ไปด้วยกันได้คับ
เรื่องรัก ๆ ใคร ๆ ผมจะได้คำตอบอย่างสมบูรณ์จากหนังสือเรื่องรักแท้มีจริง ของคุณดังตฤณ และก็อ่านจนสรุปได้ว่า รักแท้มีจริง แต่ไม่มีทุกคน...เอ ยังไงกัน


โดย: peeradol33189 วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:19:16:41 น.  

 
มาคุยเรื่องไดอารี่ค่ะ นั่นสิคะน่าคิดเรื่องการเขียนไดอารี่ออนไลน์
โดยส่วนตัวตอนเริ่มเขียนกล้าเปิดมากเลยก็เพราะว่าเรายังไม่มีสังคม
แต่ตอนหลังเพื่อนในบล็อกก็มีเพิ่มขึ้น เพื่อนในชีวิตจริงก็มาอ่านบล็อกเราด้วย
ทำให้การเขียนต้องคิดให้มาก
สรุปแล้วเมื่ออยู่ในสังคมไม่ว่าจะเป็นสังคมไหนก็ตาม
เราก็ไม่สามารถแสดงตัวตนออกมาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์นั่นเองค่ะ
แต่ที่นี่ก็มีอิสระภาพเยอะอยู่พอดูแล้วนะคะ


โดย: BeCoffee วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:20:35:24 น.  

 
เหมือนกันเลยค่ะ เป็นคนที่ เวลาเจอไดอารี่สวยๆๆ จะเสียดายไม่กล้าเขียนยิ่งสวยยิ่งไม่อยากใช้ อิอิ เป็นโรคจิต ชอบเก็บ

แต่ถ้าสมุดบ้าบอ เล่มละ 10บาท จะกล้าเขียน
แต่เป็นคนที่ทำอะไรไม่ได้นาน ไดอารี่ก็ไม่เคยเขียนได้นาน เขียนได้ไม่กี่วันก็เลิก

สมัยก่อนเคยจดว่า ตัวเองเก็บเงินได้เท่าไร แต่ตอนนี้เลิกจดแล้ว เพราะว่าเงินมันกำลังจะหมุนไป ๆๆ มันหมุนไปตลอดเวลาเลยเลิกจด

ช่ายเลย เป็นคนถ้าซื้อของแล้วเจอคนขายของไม่ไนซ์ จะไม่ซื้อเลยค่ะ มีความรุ้สึกว่า เงินเรามีค่านะ

และเราถูกสอนมาว่าคนค้าขาย ต้อง เอาใจลูกค้า (เพราะเราก็เคยเป็นคนขายของเหมือนกัน )

แต่คนขายของบ้างคน ทำเหมือนเราไปขอ เขา เลยไม่ซื้อดีกว่า แต่ถ้าคนขาย น่ารัก บ้างที แพงมากนิดๆหน่อยๆก็เต้มใจจะซื้อค่ะ

จ๊ะ เหมือนย่า เรื่องการชมเชย พนักงาน ย่าคิดประจำ แต่ยังไม่เคยทำ

สรุปคือ ขี้เกียจอีกตามเคย

แต่จะซาบซึ้งกับคนที่ดีกับเรา แล้วก็จะเอาขนม ของกินไปฝากค่ะ ที่เคยฝากก็คือ คุณหมอ และคุณพยาบาล ที่รพ ค่ะ

เพราะเข้า รพ บ่อย ค่ะ ฮ่าๆๆ เลย มีประสบการณ์กับ รพ และบุคคลากร ในรพ ค่ะ

ยาวไม๊ อิอิ

กินข้าวหรือยังค่ะ ยังไง คืนนี้ก็ฝันดีนะค่ะ


โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:20:47:20 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปอ่าน

ครูปอย เขียนไว้นานแล้วครับ เป็นกระทู้โยคะนอกเสื่อ

ว่างว่างก็พอได้หยิบมาอ่านทบทวน

ทุกครั้งมีอะไรใหม่ใหม่เกิดขึ้นเสมอจากการอ่านเรื่องเดิม

คงเป็นเพราะระหว่างฝึกเราได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นเรื่อยเรื่อย

ส่วนนี้เป็นปรัชญาง่ายง่ายที่ครูปอยเขียนแทรกระหว่างเรื่องของอาสนะ

ผมชอบนะ....

เห็นนานหลายปีแล้ว เลยเก็บมาแปะไว้อีกที อย่างน้อยตัวเองก็ได้อ่านไปด้วย :)

เหลืออีกหลายตอนอยู่ ช่วงนี้คงจะอัพต่อไปเรื่อยเรื่อย ไม่เปลี่ยนไปเรื่องอื่น

ถ้าชอบก็เชิญแวะไปอ่านครับผม

ขอบคุณครับ...ประโยชน์นานาประการยกให้ครูปอยทั้งสิ้นครับผม


โดย: Mining 74 วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:13:39:08 น.  

 
แวะมาทักทายครับรัชชี่...

เห็นด้วยกับดนัย หลายตอน (เฉพาะที่อ่านในนี้นะ)
เช่น ข้านอกใหญ่ ข้างในกลวงก็ล้มไม่เป็นท่า

ธุรกิจสมัยใหม่ อาศัยวิสัยทัศน์
หรือการมองล่วงหน้าไกลๆ...

ประเด็นมันอยู่ตรงที่เราไวแค่ไหน
นั่นก็หมายถึงข้อมูลที่มีด้วยล่ะ....

ธรรมชาติสอนให้เรารู้จักปรับตัว
ธุรกิจก็เช่นกัน.... เล็กใหญ่ถ้าไม่แน่ ตายไม่เหลือครับ

ขอบคุณที่แวะไปทักทาย


โดย: wicsir วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:16:00:57 น.  

 
สำหรับเรา เราเชื่อมั่นในเศรษฐกิจพอเพียงค่ะ แล้วก็เคยเจอคนที่เค้าทำสำเร็จด้วย


สมุดบันทึก เราไม่เคยฉีกทิ้งแฮะ ให้มันเลวร้ายยังไง ก็จะเก็บเอาไว้ค่ะ อย่างน้อยก็เอาไว้เตือนตัวเอง เอาไว้เป็นบทเรียน



เราก็ชอบกินช็อกโกแลตค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:16:07:17 น.  

 
ป้าแอ๊ดเป็นคนหนึ่งที่ชอบบันทึกความทรงจำไว้ในไดอารี่ทุกปี
เต็มเล่มบ้าง ไม่เต็มบ้าง แล้วแต่โอกาส
ทำมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนแล้วค่ะ
และก็ทิ้งไปมากมาย เก็บไว้ก็เยอะ
บางครั้งมานั่งอ่านแล้ว เหตุการณ์ในวันที่บันทึกนั้นยังคงกระจ่างอยู่ไม่เคยลืมเลย
การที่เราได้บันทึกอะไรๆ ไว้นี่ เหมือนเป้นการฝึกสมอง ทดลองความจำไปในตัวนะคะ

เดี๋ยวนี้ก็ยังบันทึกค่ะ แต่บันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์แทน

.......

วันนี้มาชวนรัชชี่ไปล่องเรือ ชมสองฝั่งลำน้ำบางปะกงด้วยกันค่ะ




โดย: addsiripun วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:16:44:22 น.  

 
ประกาศผลไปแล้วค่ะคุณจ๊ะ
ส่งเรียบร้อยไปแล้ว
แต่ยังเหลือรางวัลชมเชย
เอาไปเลยค่ะ จุ๊บ จุ๊บ เขินจัง

แอมอร


โดย: peeamp วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:17:54:52 น.  

 
ช่ายเลยค่ะ ปีที่แล้วได้ ไดอารี่ หายากด้วย ดันเอาไปให้คนที่เพิ่งรู้จัก เป็นการต้อนรับเขา เพราะว่าเขาเพิ่งมาจากเมกา

มาคิดอีกทีน่าจะเก้บไว้เนอะ ฮ่าๆๆ

เชิญ จ๊ะมาเจิมที่บ้านจ้า ลงเรืองใหม่อีกแล้ว

ย่านี้ขยันอัพจริงๆๆ ถึงแม้จะไม่ค่อยมีคนอ่าน


โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:19:07:13 น.  

 
ตอนนี้ทำตัวเหมือนปลาหางนกยูงแล้วน้า

ถ้าเล็กกว่านี้ คงต้องเป็นลูกน้ำลูกยุงแล้วละ ฮ่า ฮ่า



แอบเห็นแว็บๆ ปลาพะยูนมาเกยตื้นบ้านนี้ หมูคงต้องเป็นปลาวาฬละมั้ง


โดย: วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:20:51:32 น.  

 
จ๊ะ ส่งเพลงเรือง ซินยุนบกให้แล้วนะค่ะ อย่าลืมเปิดเมล์ แล้ว โหลดเก็บไว้ฟังนะจ๊ะ แต่ริงโทน หาไม่เป็นอ่า


โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:21:28:24 น.  

 
มาตอบคำถามคุณรัชชี่นะครับ เรื่องเวลาไปกินอาหารตามร้านแล้วถ่ายรูปเนี่ย พลไม่เคยขออนุญาติเค้าหรอกครับ แรก ๆ ก็ดูก่อนว่ามีใครถ่ายรูปบ้างไหม ถ้าเห็นว่ามีพรรคพวก ก็ถ่ายโลด แต่ถ้าไม่เห็นใครถ่าย ก็คอยเล็งซ้าย ขวาก่อน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเท่าที่เคยถ่าย ๆ มา ยังไม่เคยมีใคร หรือ ร้านไหน ห้ามถ่ายรูปนะครับ อันนี้ว่าเฉพาะร้านอาหารนะ เพราะพลว่า เค้าก็คงคิดว่าเป็นการโฆษณาร้านเค้าไปด้วยแหละ

ส่วนเรื่องรูปอาหารนะ จะมีก็ต้องขอบอกเพื่อน ๆ ก่อนว่าอย่าเพิ่งรีบกินนะ ขอถ่ายรูปก่อน เพื่อนสาวพลนะ ถึงกะแซวพลเลยนะ ว่าอาหารเนี่ยกินได้หรือยังเนี่ย หรือว่าต้องรอเธอถ่ายรูปก่อน ดู๊ดูมาแซวกันเองสะได้


โดย: พล (aoigata ) วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:22:16:52 น.  

 
ทุกวันนี้ เราเห็นลูกค้าเราแต่ละกัน
มีหนี้เงินกู้กันเป็นหลายแสน แล้วก็คิด แบงค์เราให้กู้ไปได้ไงเนี่ย ..

ยิ่งแก้ตัวเลขให้ดูดี ตัวเลขบัญชีเงินกู้ของลูกค้ายิ่งเพิ่มมากขึ้น .. เฮ้อ

.......... ...

ก็น่ะ เลยมีแต่ความลับ
ก็มันเป็นความลับระหว่างเรากะไดอารี่นี่นา .. 555

........ ...


upload bluegy อัพโหลด รูป file เพลง


โดย: SongPee วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:22:27:09 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดีวันพุธ ในเทศกาลสีแดงซานต้าจ้า
ขออภัยไม่ได้มาทักทายเสียนานเลยค่ะคุณจ๊ะ
เรื่อง ทไวไลท์เนี่ยตอนนี้อ่านไปถึงเล่ม 4.1 แล้วค่ะ ค่อยๆ กระดื๊บๆ ไป
พักหลังเนี่ยติด farmville ใน facebook เลยไม่ได้ดูแลบล็อกเท่าไหร่ค่ะ
ป.ล. อวตารสนุกมากสำหรับหนังความยาว 3 ชั่วโมง ดูไม่เบื่อเลยค่ะ



โดย: หอมกร วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:8:06:56 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณรัชชี่

ทำตัวให้เป็นปลาเล็กเพื่อความอยู่รอด
ก้อเป็นแนวคิดที่ดีนะคะ

แต่ถ้าวันใดที่ปลาใหญ่มันฟื้นคืนชีพขึ้นมา
เกรงว่าปลาเล็กจะถูกกินซะล่ะมั๊งคะเนี่ย

ช่วงนี้ได้อ่านเรื่องราวไดอารี่ของเพื่อนบล๊ิอคหลายคน
ยังแปลกใจว่าเลยว่าเอ..ทำไมใจตรงกัน
เขียนเรื่องไดอารี่เหมือนๆกันหมดเลย

ที่แท้กำลังมีโครงการ"ถนนสายนี้..มีมิตรภาพนี่เอง"
แอบเชยซ้า อิอิ

HappY DaY na ka !!


โดย: nLatte วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:9:31:41 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณรัชชี่

ปลาใหญ่กินปลาเล็ก กินกันมาทุกสมัย
จะแวะมาเยี่ยมบลอกคุณเรื่อยๆนะคะ


โดย: รักแรกคลิก (Love at first click) IP: 204.136.218.8 วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:12:27:38 น.  

 
มาชวนรัชชี่ไปเล่นน้ำตก

แต่...อืม...ไม่รู้จะกล้าเล่นอ๊ะป่าวนะ


โดย: นักล่าน้ำตก IP: 58.8.91.19 วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:14:53:28 น.  

 


คุณจ๊ะ

ดาวจ๋ามาเสริฟเค้กหวานๆ เปรี้ยวๆอร่อยๆ ค่ะ

ให้มีความสุขมากๆ เมอรี่คริสมาสค่ะ



โดย: satineesh วันที่: 24 ธันวาคม 2552 เวลา:8:59:14 น.  

 
อ่านแล้วรู้สึกดีจังค่ะ ขอบคุณพี่มากที่ไปอวยพรวันเกิดค่ะ
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: sawkitty วันที่: 24 ธันวาคม 2552 เวลา:16:21:30 น.  

 
ผมไม่ได้แวะมาทักทายนานเลยครับ ขอบคุณที่ยังแวะไปเคาะประตูบ้านทักทายกันนะคับ


โดย: นะโม (ทานะ ) วันที่: 24 ธันวาคม 2552 เวลา:17:28:08 น.  

 


Merry Christmas


โดย: หมึกสีดำ วันที่: 24 ธันวาคม 2552 เวลา:18:17:10 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ดีค่ะจ๊ะ ตอบเมล์ ให้แล้วจ้า



โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 24 ธันวาคม 2552 เวลา:21:24:51 น.  

 
มนต์, มนตร์ แปลว่า คำศักดิ์สิทธิ์, คำสำหรับสวดเพื่อเป็นสิริมงคล เช่น สวดมนต์, หรือหมายถึงคำเสกเป่า
ที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ เช่น ร่ายมนตร์, เวทมนตร์

หลักปฏิบัติในพุทธศาสนา มักจะนิยมเริ่มต้นด้วยการสวดมนต์ ทำสมาธิภาวนาไปพร้อม ๆ กับการศึกษาปริยัติหรือข้อธรรมต่าง ๆ ที่มีในพระไตรปิฎก เมื่อปฏิเวธหรือเข้าใจตลอดแล้ว ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี

ในขณะที่สาธยายมนต์ เป็นช่วงแห่งการรักษาศีลในระยะเวลาสั้น ๆ คือในขณะที่กำลังสวดมนต์อยู่นั้น จิตมุ่งอยู่กับคำสวด ร่างกายอยู่ในท่าสำรวม ย่อมก่อให้เกิดสมาธิชั่วระยะเวลาหนึ่งได้ เรียกว่า ขณิกสมาธิ เมื่อสาธยายมนต์จบแล้ว ได้นั่งสมาธิพร้อมทั้งพิจารณาข้อต่อไป ก็จะสามารถทำให้เกิดปัญญาญาณได้

ก่อนนอน ควรสละเวลาสักเล็กน้อยเพื่อการสวดมนต์ และหากมีเวลาก็ขอให้ฝึกหัดนั่งสมาธิในระยะเวลาสั้น ๆ อย่างน้อยก็เพื่อการพักผ่อนทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นการปล่อยวางสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมาในวันนั้น แล้วท่านก็จะนอนหลับอย่างสบายกายสบายใจ

ฝันดี ราตรีสวัสดิ์....ค่ะ





โดย: พรหมญาณี วันที่: 24 ธันวาคม 2552 เวลา:21:31:09 น.  

 
คิดถึงเป็นที่สุด Merry Christmas ค่ะ



โดย: kun_isara วันที่: 24 ธันวาคม 2552 เวลา:23:47:05 น.  

 


Merry Christmas



โดย: redclick วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:4:03:31 น.  

 


โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:4:19:08 น.  

 


ขอบคุณในไมตรีจิตรที่ดีเสมอมานะครับ


โดย: wicsir วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:7:19:16 น.  

 




สวัสดียามเช้าครับ คุณรัชชี่
สุขสันต์วันคริสต์มาส นะครับ
ขอให้คุณรัชชี่มีความสุข ความเจริญตลอดไปนะครับ


โดย: หมึกสีดำ วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:8:51:46 น.  

 
ขอให้คุณรัชชี่มีความสุขมากๆ ในวันคริสต์มาสค่ะ



โดย: addsiripun วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:10:18:04 น.  

 


โดย: พรหมญาณี วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:11:19:20 น.  

 


มีความสุขมากๆจ้า


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:13:05:20 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณรัชชี่
ขอโทษอย่างมากเลยที่หายไปซะนานหวังว่าคงยังไม่ลืมจิ๋มน้า
ถึงไม่ได้เข้ามาก็ยังคิดถึงเสมอนะคะ
วันนี้วันคริสต์มาสก็ขอมาอวยพรให้คุณรัชชี่มีความสุขมากๆ
คิดสิ่งใดสมปราถนาทุกประการ

สุขสันต์วันคริสมาสค่ะ



โดย: busabap วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:14:41:01 น.  

 
รวบรวม คริตมาสนี้ง่ายดีค่ะ จ๊ะ ฮ่าๆๆ เอาใส่กลิตเตอร์ให้มากๆๆ ก็ดูดีค่ะ อิอิ (พวกไม่รู้จะหาอะไรลงบลีอก )

แล้วเป็นไงบ้างค่ะ หยุดปีใหม่ตั้งแต่วันไหนละนี่

เห็นหลายคนลากันตั้งแต่วันอาทิตย์นี้หยุดยาวไปถึงปีหน้าเลยอะค่ะ

อิจฉาจังเลย พวกมีวันหยุด

ย่าไม่มีวันทำงานเลยไม่มีวันหยุดเลย เพราะทุกวันเหมือนกันหมด


โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:15:20:43 น.  

 


Merry x'mas & Happy New Year นะคะ

ขอให้คุณรัชชี่มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: nLatte วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:16:14:52 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณรัชชี่

ยุคนี้ต้องอยู่ให้รอดนะคะ อุอุ




โดย: อิ่ม_Aim วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:16:41:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รัชชี่
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




พี่มานิต ประภาษานนท์ เป็นผู้ชักชวนเข้าสู่วงการการเขียนบล็อก ด้วยประโยคว่า
“จ๊ะเขียนบล็อกซี"

เริ่มเขียนบล็อก : 24 ก.ย. 51




สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามละเมิดไม่ว่าการลอกเลียน นำรูป ข้อความที่เขียนไว้หรือส่วนหนึ่งส่วนใดในบล็อกแห่งนี้ ไปเผยแพร่อ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก






Setting program for counting visitors since 7 Nov. 2009
free counters
New Comments
Friends' blogs
[Add รัชชี่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.