ฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึง
Group Blog
 
All blogs
 

เมื่อรู้สึกว่าคนที่รักที่สุดในชีวิตกำลังจะจากไป

คงเคยได้ยินใครหลายๆคนที่บอกว่าไม่เคยบอกรักพ่อกับแม่ ไม่เคยหอม ไม่เคยกอด ไม่เคยทำแล้วมาอ้างว่าเขิน หรือสารพัดข้ออ้าง...
ตัวเราเองก็เป็นนะ เหตุผลก็เพราะไม่เคยจึงไม่กล้าทำ จวบจนวันที่ป๊าป่วยเข้ารพ. เมื่อวานยังดีๆ ทำไมตื่นมาเช้านี้ป๊าไม่คุยกะพวกเราแล้วล่ะ
ป๊าเป็นไข้นอนซมอยู่สามสี่วัน จนที่บ้านตัดสินใจพาเข้ารพ. ซึ่งก่อนจะเข้าไปนอนก็พาไปสองรอบแล้ว ไปฉีดยา ได้ยากินมาแต่ไม่ดีขึ้น พอเข้ารพ.คืนเดียวไข้ลดจนเกือบเป็นปกติ แต่...เอาแต่นอนหลับตาทั้งวัน ป๊าไม่พูดคุยกะใครเลย ดูสร่างไข้แต่ไม่ตอบสนองกับคนรอบข้าง บางทีตื่นลืมตาปกติแต่ทำเหมือนไม่ได้ยินพวกเราเรียก ป๊าเป็นอะไรนะ วินาทีนั้นสับสนกันหมดทั้งบ้าน เอกซเรย์สมอง ตรวจเลือด ทำไมยังไม่พบสาเหตุนะ หมอก็ดันมาสรุปว่างอนลูกหลานรึเปล่า น่ามั้ยเนี่ย มันน่าจะเป็นทางสุดท้ายที่วิเคราะห์นะ ไม่เป็นไรหาข้อมูลเองก็ได้ อีกทางก็ว่าย้ายรพ.ดีกว่า ญาติมาเห็นก็ว่ากลับบ้านเถอะไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้วทำไมไม่พูด หาข้อมูลทางเน็ต อาการใกล้เคียงโรคเกี่ยวกะสมอง ยิ่งดูยิ่งกังวล เป็นหนักมั้ยนะ แล้วถ้าป๊าไม่พูดกับพวกเราเลย หรือจำพวกเราไม่ได้เลย หรือ... ไม่นะไม่ ยิ่งคิดน้ำตายิ่งไหล ความคิดพร่างพรูมาทันที นี่ที่ผ่านมาทำไม่เราไม่ให้เวลากับป๊ามากกว่านี้ ทำไมเราไม่เคยบอกรักท่าน ทำไม่เราไม่เคยกอดท่าน ทำไมๆๆๆ
เพิ่งรู้สึกเดี๋ยวนี้ที่คนอื่นเค้าบอกกันว่า รู้สึกตัวว่ารักกันมากมายก็ต่อเมื่อเริ่มรู้สึกว่ากำลังจะสูญเสียคนที่เรารักไป...
โชคยังเข้าข้างครอบครัวเราค่ะ ย้ายมารพ.ที่สองได้สองวัน ป๊าเริ่มโต้ตอบกับคนรอบข้างได้ แต่คิดช้า และจำเรื่องเมื่อวานไม่ได้ สำหรับครอบครัวเราเหมือนฟ้าหลังฝนที่แม้ว่ามันอาจจะยังไม่ค่อยแจ่มใสเท่าไหร่นักแต่ต้องมีวันฟ้าใสอย่างแน่นอนเราเชื่อเช่นนั้น คุณหมอวิเคราะห์อาการเบื้องต้นว่าเกิดจากเชื้อไวรัสขึ้นสมองร่างกายต่อต้านจึงมีไข้ขึ้นสูง และมีอาการเบลอไม่โต้ตอบกับใครเนื่องจากสมองบางส่วนมีอาการบวม อาการจะทุเลาและหายเป็นปกติด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะไม่มียากินสำหรับฆ่าเชื้อไวรัสนี้ ไม่รู้ว่าคนอื่นจะเคยผ่านเหตุการณ์อย่างนี้ หรือเคยรู้สึกแบบเดียวกันหรือไม่ก็ตาม แต่มันทำให้เรารู้สึกว่าทุกอย่างมันเกิดเร็วและผ่านไปเร็วมาก ใครตั้งตัวไม่ทันอาจล้มทั้งยืน ดังนั้นช่วงเวลาที่มีอยู่เราควรจะทำให้มันเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าร่วมกัน อย่าปล่อยให้มันผ่านไปจนวันนึงที่เราอาจไม่มีโอกาสได้ทำแล้วต้องมานั่งเสียใจกับสิ่งที่เราไม่สามารถย้อนมันกลับมาได้อีก




 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 26 พฤษภาคม 2551 23:35:51 น.
Counter : 130 Pageviews.  

ถึงวันของเค้าแล้วนะ

จากที่เคยเล่าไว้ว่าแฟนเก่ามาชวนไปงานแต่งงานของเค้า แล้ววันนี้ก็มาถึง ป่านนี้เค้าคงกำลังยืนยิ้ม Smiley หน้าบานอยู่หน้างานแน่ๆเลย คิดแล้วคิดอีกหลายตลบ ใจอยากไปแสดงความยินดีกะเค้ามาก เตรียมของขวัญ Smiley ไว้แล้วนา แต่ใจนึงก็คิดมากอีกแระ คิดนั่นคิดนี่ เพื่อนๆจะจับสังเกตุเรามั้ยนะ พ่อแม่เค้าจะบึ้ง Smiley ใส่เรามั้ยนะ เหมือนในละครไง ไม่พอใจแทนลูกชาย แล้วพี่ๆเค้าอีก แฟนเค้าล่ะ โอ๊ย ยิ่งคิดยิ่งเพ้อเจ้อนะแม่คนนี้ พอดีว่าติดนัดลูกค้าแถวชลบุรีกว่าจะกลับเข้ากรุงเทพฯ กว่าถ่อสังขารไปก็หมดสวยพอดี เลยเข้าทางเพื่อความสบายใจไม่ไปดีกว่า แล้วค่อยนัดให้ของขวัญหลังแต่งงานดีกว่า นัดไปเจอแบบสบายใจสบายกาย ชิลๆดีกว่าเรา Smiley เฮ้อ ถึงยังรู้สึกผูกพันธ์แต่คงทำได้แค่ดีใจอยู่ห่างๆที่เห็นเค้ามีความสุขนะเรา Smiley




Free TextEditor




 

Create Date : 02 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 2 พฤษภาคม 2551 19:26:41 น.
Counter : 203 Pageviews.  

เมื่อแฟนเก่าจะแต่งงาน

ตึ๊ดๆ เสียง msn ดังขึ้นบอกให้รู้ว่ามีผู้ต้องการสนทนาด้วย
... : ใหม่ว่างมั้ย
ใหม่ : อ๋อจ้ะ ว่าไง
... : เราไม่รู้ว่าเราบอกรึยัง เรากำลังจะแต่งงานแล้วนะ
อึ้ง ไปพักนึง ก่อนตอบว่า
ใหม่ : เหรอ เมื่อไหร่ล่ะ ...
แล้วการสนทนาของเราในฐานะเพื่อนก็เริ่มขึ้น...
นานแล้วที่เราเห็นชื่อเค้าในรายชื่อเพื่อนทาง msn แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกัน เพราะกลัวว่าจะไม่เหมาะ เกิดคนใหม่เค้ารู้เข้า แต่ก็ดีขึ้นหลังจากที่ได้กลับมาเจอกันในงานแต่งงานเพื่อนคนหนึ่ง เรา 2 คนเคยสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อกัน
จนวันนึงที่งานเข้ามาจนทำให้เค้าระแวงเพราะเราใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานมากไป แล้วทางแยกของเราก็มาถึง จากนั้นมาก็ไม่เคยมีแม้ครั้งเดียวที่ได้คุยกัน เพราะทิฐิของเราด้วย จนผ่านไปราวๆ 5 ปี เมื่อเพื่อนแต่งงานนั่นแหละ
ถึงได้รู้ว่าวันนี้เค้าหันไปคบกับเพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่ง แต่ที่น่าแปลกใจก็คือว่าคนที่จะแต่งงานในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อนร่วมรุ่นคนนั้น และเค้าก็คบกันมาประมาณปีเดียว
ใหม่ : บางทีเวลาก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญอะไรหรอก เราว่าความเข้าใจและความสบายใจที่จะคบกันนั่นแหละทำให้อยู่ด้วยกันได้
มันเป็นประโยคสนทนานึงที่เรากล่าวกับเค้า ซึ่งเค้าก็ว่าจริง เพราะเมื่อก่อนเราเชื่อว่าระยะเวลาที่คบกันนานๆทำให้คนอื่นมองว่าคู่เรารักกันดี แต่เวลา 4 ปีที่เราคบกันเราไม่เคยสนใจความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดีกับเค้า
เราพยายามลืมมันไปเพราะเราคิดว่าเราจะมองแต่สิ่งที่ดีของเค้า เมื่อมันถึงทางแยกความรู้สึกที่เราเคยพยายามลืมไปมันกลับมาเป็นประเด็นสำคัญให้เราตัดสินใจว่าเราควรแยกกัน และทิ้งความเจ็บปวดไว้ตรงนั้น
ทุกวันนี้ต่างคนต่างก็มีชีวิตใหม่ของตัวเองแล้ว ถึงแม้ว่าข่าวดีจะทำให้เราอึ้งไปพักนึง แต่ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป เราได้แต่แบ่งรับแบ่งสู้ว่าถ้าไม่ติดอะไรก็จะไป ใจนึงก็คิดว่าไปเพื่อให้เพื่อนๆรู้ว่าที่ผ่านมาเราไม่ได้หลบใคร และ
เราตกลงกันแล้วว่าเราจะกลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ถ้าใครมีข่าวดีหรือมีเรื่องทุกข์ร้อนอะไรก็บอกให้รู้กันได้ แล้วเราก็ได้เพื่อนเพิ่มมา 1 คน นี่แหละนะรสชาตินึงของชีวิต




 

Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2551 17:49:29 น.
Counter : 320 Pageviews.  

1  2  

MaiJung
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add MaiJung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.