Group Blog
 
All Blogs
 
** "สโม้คกิ้ง โจ" ** โจ ฟราเซียร์ **# 1


"Smokin'" Joe Frazier

"โจ ฟราเซียร์ ผู้ทำให้"อาลี"รู้จักคำว่า"แพ้"


..."พิสูจน์ความฉมังของพรานไพร ให้ดูจากหัวสัตว์ร้ายที่เขาล่า" ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น การยกย่องนักมวยคนใดให้เป็น"ซุปเป้อร์ฮีโร่"องค์ประกอบสำคัญซึ่งจะต้องพิจารณาอันดับแรกได้แก่ ความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของคู่ต่อสู้ที่เขาฝ่าฟันเอาชนะมา ยิ่งถ้าฝ่ายตรงข้ามสูงส่งโด่งดังเท่าใด ก็ยิ่งกลับกลายเป็นเครดิตสะท้อนถึงความ"สุดยอด"ของผู้พิชิตมากขึ้นเท่านั้น
...ในห้วงศตวรรษที่ 70 วงการมวยรุ่นยักษ์พุ่งสู่ความนิยมสูงสุด เมื่อบังเกิดยอดมวยซุปเป้อร์สตาร์ถึง 3 ราย ก้าวขึ้นมาช่วงชิงความยิ่งใหญ่ซึ่งกันและกัน โดยมี"แบล็คซุปเป้อร์แมน" มูฮัมหมัด อาลี เป็นจุดศูนย์รวมความสนใจ ด้วยพรสวรรค์ทางการแสดงออกที่ไม่มีนักมวยรายใดเสมอเหมือน ขณะที่ โจ ฟราเซียร์ กับ ยอร์ช โฟรแมน แม้ในแง่ของความฮ็อตฮิตและเปรี้ยงปร้าง ดูจะเป็นรองอาลีอยู่บ้าง แต่ความเก่งกาจบนสังเวียนถือว่าไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันซักกี่มากน้อย โดยเฉพาะ"สโม้คกิ้ง" โจ ฟราเซียร์ เจ้าของสไตล์ ก้มๆมุดๆ ต่อยอุตลุตทั้งบนล่าง จนคู่ต่อสู้หมอบราบคาบแก้วไปเกือบจะกราวรูดนั้น มีเครดิตอันกระเดื่องดัง คงความขลังมาจนทุกวันนี้ นั่นก็คือ การเป็นนักมวยคนแรกที่ทำให้ "สิงห์จอมโว" มูฮัมหมัด อาลี ต้องลิ้มรสชาติความปราชัยบนสังเวียนอาชีพ!!!
...โจเซฟ วิลเลี่ยมส์ ฟราเซียร์เป็นผลิตผลจากเมืองมวย ฟิลาเดลเฟียโดยแท้ แม้จะเกิดในครอบครัวชาวไร่ที่เมืองโบฟอร์ท เมื่อ 12 ม.ค.1944 แต่พอเริ่มเติบโตเป็นเด็กหนุ่ม เขาก็เดินทางมาพำนักในฟิลาเดลเฟีย พร้อมกับทำงานประจำที่โรงงานฆ่าสัตว์ โดยมีหน้าที่เป็นพนักงานชำแหละเนื้อ
...ขณะอายุได้ 18 ปี ฟราเซียร์หรือ"ไอ้อ้วน"ของคนใกล้ชิด มีเมียสาวอายุอ่อนกว่ากันปีเดียว ชื่อ ฟลอเร้นซ์ แถมยังให้กำเนิดทายาทเสร็จสรรพถึง 2 หน่อด้วยกันคือ ไอ้หนูมาร์วิส วัย 2 ขวบกับอีหนูแจ็คกี้ วัย 1 ขวบ ซึ่งดูจากวิถีชีวิตในช่วงนั้นแล้ว แทบมองไม่เห็นแวว ว่าหนุ่มโรงงานฆ่าสัตว์อย่างฟราเซียร์จะก้าวเข้ามาโลดแล่นในยุทธจักรชนคนได้อย่างไร...
...แต่จุดเริ่มต้นของตำนานมวยรุ่นยักษ์รายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเจ้าตัวรู้สึกอยากลดความอ้วน โดยเฉพาะบริเวณต้นขาทั้งสองข้างซึ่งใหญ่มหึมาราวกับท่อนซุง ทำให้น้ำหนักตัวระดับ 240 ปอนด์ดูเทอะทะอุ้ยอ้ายเมื่อเทียบกับส่วนสูงแค่ 5 ฟุต 11 นิ้ว
...คุณพ่อลูกสองจึงตัดสินใจเดินเข้าโรงยิมของสโมสรตำรวจซึ่งตั้งอยู่ใกล้ที่พัก แล้วชี้แจงว่าต้องการมาออกกำลังกายลดไขมันที่ต้นขา แต่สำหรับเมืองมวยอย่างฟิลาเดลเฟีย การออกกำลังกายย่อมหมายถึงการลงนวมซ้อมมวย ซึ่งฟราเซียร์ก็บ่ยั่น กลับรู้สึกสนุกสนานกับกิจกรรมใหม่หลังเลิกงานชนิดนี้ จนผลพลอยได้นอกเหนือจากน้ำหนักตัวที่ลดลงมาอยู่ในระดับ 200 ปอนด์แล้ว เขายังกลายเป็นนักมวยสมัครเล่นแววดีคนใหม่ของโรงยิมเข้าให้ด้วย...
...ดุ๊ค ดีเก้นส์ โค้ชประจำยิมซึ่งเป็นเทนเนอร์คนแรก ส่ง"ไอ้อ้วน"ขึ้นตะลุยสังเวียนมวยเสื้อกล้าม ทำสถิติชนะรวดถึง 30 กว่าไฟ้ท์ภายในช่วงระยะเวลาแค่ปีเศษจนถูกเลือกให้เข้าร่วมแข่งขันคัดตัวทีมชาติรุ่นเฮฟวี่เวท เพื่อไปชกในโอลิมปิก 1964 ที่ญี่ปุ่น ปรากฎว่าฟราเซียร์พ่ายแพ้ให้แก่"บัสเตอร์ แมทธิส"ถึง 2 ครั้งซ้อนทั้งในรอบชิงชนะเลิศและรอบบ๊อกอ๊อฟ..
...แต่เหมือนฟ้าจะลิขิตมาให้ดัง ระหว่างการซ้อมเตรียมทีมนั่นเอง"ไอ้หมีควาย"แม็ทธิส เกิดอุบัติเหตุแขนหัก ฟราเซียร์ซึ่งเป็นตัวสำรองจึงรับส้มหล่นได้บินไปลุยโอลิมปิกกรุงโตเกียวแทนที่ แถมยังสร้างปรากฏการณ์เป็นนักชกเมืองลุงแซมเพียงคนเดียวในโอลิมปิกครั้งนั้น ที่คว้าเหรียญทองมาคล้องคอ โดยบุกตะลุยเอาชนะแต้ม คู่ชกชาวเยอรมันในรอบชิงชนะเลิศ
...อดีตพนักงานชำแหละเนื้อเดินทางกลับ บ้านเกิดเมืองนอนอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับโครงการตะลุยสังเวียนอาชีพโดยมี แยงค์ เดอร์แฮม เป็นผู้จัดการ และ เอ็ดดี้ ฟัทช์ รับหน้าที่เทรนเนอร์ เริ่มไฟ้ท์แรกเมื่อเดือน เม.ย.1965 ซึ่งฟราเซียร์ใช้เวลาไม่ถึง 2 นาทีของยกแรกถลุง วู้ดดี้ กอสส์ จอดไม่ต้องแจวชนิดคนชนะแทบไม่มีริ้วรอยกระทั่งแมวข่วน...
...จากนั้นอีก 10 ไฟ้ท์รวดที่"สโม้คกิ้ง โจ"สะสมสถิติชนะน๊อครวด ด้วยสไตล์การตะบันที่ไม่เหมือนใคร จากข้อจำกัดเรื่องสรีระทำให้ฟราเซียร์ ต้องใช้ความแข็งแกร่งผสมผสานกับความคล่องแคล่ว เดินก้มๆ เงยๆ หลบวิถีหมัดของคู่ต่อสู้ตัวใหญ่เบียดเข้าวงใน แล้วระดมกำปั้นสาดใส่ไม่ต้องยั้งทั้งล่างสลับบน โดยเฉพาะฮุคซ้าย กลายเป็นหมัดอันตรายที่คว่ำคู่ต่อสู้มากราวรูด ก่อนจะชนะคะแนนเป็นครั้งแรกต่อ"ไอ้ไก่งวง" ออสการ์ โบนาเวน่า รองแช้มป์ชั้นดีในยุคนั้น..
...จากนั้น เอ็ดดี้ มาเซ่น,ดั๊ก โจน,จอร์ช จอห์นสัน และ จอร์ช ชูวาโล่ คือนักชกระดับรองแช้มป์ที่ทะยอย มาเป็นเหยื่อกำปั้นให้"ดาวโรจน์"เหรียญทองโอลิมปิกอย่างฟราเซียร์ในห้วงปี 1966-1967 ซึ่งในจำนวนดังกล่าว มีจอห์นสันเพียงคนเดียว ที่มีโอกาสได้ฟังเสียงระฆังยกสุดท้าย ส่วนที่เหลือโดนเป่าจมธรณีไปเรียบวุธ
...4 มี.ค.1968 โจ ฟราเซียร์นำสถิติสวยหรู ชนะรวด 19 ครั้ง น็อค 17 ก้าวขึ้นชิงแช้มป์เฮฟวี่เวทเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นตำแหน่งภายใต้การรับรองของคณะกรรมาธิการมวยแห่งนิวยอร์ค โดยช่วงเวลาดังกล่าว แช้มป์โลกคนเดิม มูฮัมหมัด อาลี หรือ แคสเซียส เคลย์ กำลังมีปัญหากับกระทรวงกลาโหมสหรัฐ โดยยอดนักชกหัวก้าวหน้าไม่ยอมรับหมายเกณฑ์ทหาร เพื่อไปรบในสงครามเวียดนาม จนถูกฟ้องร้องเป็นคดีความและไม่สามารถขึ้นชกได้ ทางคณะกรรมาธิการจึงปลด อาลี แล้วกำหนดการชิงตำแหน่งว่างขึ้นสืบแทน...
...คู่ต่อสู้ในไฟ้ท์นี้ของ ฟราเซียร์ ไม่ใช่ใครที่ไหน..บัสเตอร์ แมสธิส คู่ปรับเก่าที่เคยยัดเยียดความปราชัยให้"สโม้คกิ้ง โจ"ถึง 2 ไฟ้ท์ในสมัยชกสมัครเล่นนั่นเอง.."ไอ้หมีควาย"ตอนนั้นชกอาชีพทำสถิติไม่รู้จักคำว่า"แพ้"มาเช่นกัน การโคจรมาปะทะกันของทั้งสองจึงกลายเป็น"มวยถูกคู่"ที่เรียกร้องความสนใจจากผู้ชมได้กว้างขวาง ซึ่งผลที่สุด โจ ฟราเซียร์ ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า โลกของมวยอาชีพกับสมัครเล่นมีข้อแตกต่างกันอย่างใหญ่หลวง เมื่อบุกกระหน่ำฝ่าความมหึมาเข้าไปสร้างความบอบช้ำสะสมให้กับ แมทธิส อย่างต่อเนื่องจนถึงยก 11 "ไอ้หมีควาย"ก็ทนไม่ไหวโดนถลุงโค่นตึงให้กรรมการนับสิบแต่โดยดี...



ภาพวันได้ครองมงกุฏโลก 4 มี.ค.1968

:เดี๋ยวตอน 2 ตามมาครับ


Create Date : 28 พฤษภาคม 2548
Last Update : 13 มกราคม 2550 10:47:38 น. 2 comments
Counter : 894 Pageviews.

 
ไม่รู้จักเลยค่ะ

รู้จักแต่พี่เขาทรายยยยยยยยยย

ฝันดีค๊า


โดย: yadegari วันที่: 28 พฤษภาคม 2548 เวลา:5:05:59 น.  

 
หง่ำๆๆๆ ขยันพิมพ์จิงวุ้ย หง่ำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: tamashi IP: 58.10.0.177 วันที่: 31 ตุลาคม 2548 เวลา:23:05:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ยำขาหมูทอดกรอบ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




RINGSIDE ZONE
Zone Of Boxing มาร์ลโบโร่ ซิปโป้ ดาวแดง กับ คู่มวยสุดมันส์
Friends' blogs
[Add ยำขาหมูทอดกรอบ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.