Group Blog
 
All Blogs
 
** "สโม้คกิ้ง โจ" ** โจ ฟราเซียร์ **# 2


"Fight Of Century"

อาลี - ฟราเซียร์ ภาคแรก วันที่ 8 มี.ค.1971


...โจ ฟราเซียร์ ก้าวสู่บัลลังค์แช้มป์โลกตำแหน่งแรกขณะมีอายุ 24 ปี และเพิ่งสัมผัสกับกีฬาค้ากำปั้นมาอย่างจริงจังแค่ 5 ปีเท่านั้น....อดีตนักชำแหละเนื้อจากฟิลาเดลเฟียสะสมบารมีเพิ่มเติม ด้วยการป้องกันตำแหน่งเหนือผู้ท้าชิงชั้นดีโดยชนะน๊อคยก 2 มานูเอล รามอส, ชนะคะแนนคู่ปรับเก่า ออสการ์ โบนาเวน่า, ชนะน๊อคยก 1 เดฟ ซีเกิลวิสซ์และชนะน๊อคยก 7 "ความหวังคนขาว" เจอร์รี่ ควอร์รี่
...ปี 1970 เส้นทางอาชีพของฟราเซียร์ถึงจังหวะต้องโคจรมาพิสูจน์ฝีมือกับ จิมมี่ เอลลิส แช้มป์โลกของ WBA ซึ่งผู้ชนะจะได้ชื่อว่าเป็น"ราชันย์"รุ่นยักษ์แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งผลจบลงด้วยการที่เอลลิสถูกหมัดดินระเบิดของ"สโมคกิ้ง โจ" ลงไปกองถึงสองครั้งในยกที่ 4 และไม่ยอมออกจากมุมในยกที่ 5 ทำให้ฟราเซียร์สามารถรวบตำแหน่งแช้มป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวท ที่เคยกระจัดกระจายเป็นสอง ตั้งแต่ปี 1967 ให้กลับมารวมศูนย์เป็นหนึ่งเดียวได้อีกครั้ง หลังจากนั้นก็ป้องกันตำแหน่งด้วยการคว่ำ บ็อบ ฟอสเตอร์ แช้มป์โลกไร้เทียมทานแห่งรุ่นไลต์เฮฟวี่เวท ที่หาญข้ามรุ่นขึ้นมาท้าชิงแค่ยกที่ 2
...ในห้วงเวลาดังกล่าว คู่ต่อสู้ที่คู่ควรของฟราเซียร์ดูเหมือนจะเหลือ "อาลี" เพียงคนเดียว ซึ่งขณะนั้นตัวของอาลีก็ชนะคดีในศาล กลับมาเคาะสนิมชนะมวยดีๆได้หลายไฟ้ท์ จึงมีเสียงเรียกร้องให้มีการพิสูจน์ฝีมือกันระหว่าง 2 ยอดมวยรุ่นยักษ์ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งในที่สุด"เมดิสัน สแควร์ การ์เด้น"ก็ได้สิทธิ์โปรโมท
การชกไฟ้ท์นี้ขึ้นเมื่อ 8 มี.ค.1971 โดยขนานนามว่า"Fight Of Century"หรือ"ศึกแห่งศตวรรษ"
...อาลี - ฟราเซียร์ต่างงัดเอาความสุดยอดของตนออกมาห้ำหั่นกันอย่างน่าดูตลอด 15 ยก ระหว่างความพริ้วพรายเฉียบคมของอาลี อดีตแช้มป์ผู้ยิ่งยง กับความดุดันเหี้ยมหาญของฟราเซียร์ แช้มป์โลกจอมแกร่งในขณะนั้น โดยช่วงต้นๆ"The Black Supperman" อาลี ยังเรี่ยวแรงดีใช้สไตล์ลอยละล่องดุจผีเสื้อโบยบิน ฉกแย็บซ้ายใส่ใบหน้าของฟราเซียร์จนบวมปูด แต่หลังจากยก 7 เป็นต้นมา อาลีเริ่มช้าลงด้วยพิษสงการโจมตีลำตัวอย่างต่อเนื่องของ"สโม้คกิ้ง โจ"จนกระทั่งถึงยกที่ 15 ฮุคซ้ายของแช้มป์ร่างเตี้ยก็ส่งอาลีลงไปนอนเขลง ให้กรรมการ อาเธอร์ แม็คแคนเต้ นับถึง 8 ก่อนจะแข็งใจลุกขึ้นมาชกต่อจนครบยก แล้วถูกตัดสินให้แพ้คะแนนไปเป็นเอกฉันท์...
...โจ ฟราเซียร์ ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในอาชีพของตน ด้วยชัยชนะในครั้งนี้ พร้อมทั้งได้รับการจารึกชื่อให้ผู้คนจดจำไปตลอดกาล ในฐานะที่เป็นนักมวยคนแรกที่ทำให้ มูฮัมหมัด อาลี รู้จักกับคำว่า"แพ้"
...ปี 1972 ฟราเซียร์ขึ้นป้องกันตำแหน่ง"เคี้ยว"ผู้ท้าชิงชั้นต่ำอย่าง เทอร์รี่ ดาเนี่ยลส์ ในยกที่ 4 ตามด้วยการชนะน๊อคยก 5 รอน สแตนเดอร์ พร้อมกับมีกิจกรรมด้านอื่นบ้างนั่นคือการตั้งวงดนตรีชื่อ KO Brand โดยฟราเซียร์ควบตำแหน่งมือกลองและร้องนำซะเอง...
...ต้นปี 1973 นั่นเอง โจ ฟราเซียร์ก็เจอดีเข้าให้บ้างเป็นหนแรกในชีวิต เมื่อขึ้นป้องกันตำแหน่งกับ"ยอร์ช โฟร์แมน"ดาวมฤตยูดวงใหม่ผู้มีดีกรีเหรียญทองโอลิมปิก 1968 พ่วงท้าย แล้วขึ้นชกอาชีพทำสถิติชนะน๊อคมาแทบจะกราวรูด ปรากฎว่าฟราเซียร์ซึ่งได้รับการวางตัวให้เป็นต่อถึง 3-1 กลับโดนกำปั้นของยักษ์หนุ่มผู้ท้าชิงนับแล้วนับอีกถึง 6 ครั้งกระทั่งกรรมการ อาเธอร์ แม็คแคนเต้ ต้องสั่งยุติการชกแค่ยกที่ 2 เพราะเห็นชัดๆว่า"สโม้คกิ้ง โจ"ต้านความใหญ่และหนักหน่วง ของโฟร์แมนไม่ไหวจริงๆ...
...นั่นคือความปราชัยหนแรกในสถิติการชกอันงดงามของฟราเซียร์หลังจากชนะรวดมา 29 ไฟ้ท์ ชนะน๊อคถึง 26 ครั้ง..
...โจ ฟราเซียร์กลับมากู้ชื่อดับดาวรุ่งรุ่นยักษ์ โจ บั๊กเนอร์ ด้วยคะแนนแล้วเปิดโอกาสให้ อาลี ล้างตาในปี 1974 แต่ภาค 2 นี้ไม่ดุเดือดเร้าใจเท่าหนแรก เพราะฟราเซียร์ดูจะไม่ฮึกห้าวเหมือนเดิม จึงแพ้คะแนนอาลีไปอย่างคู่คี่
...ฟราเซียร์กลับมาเอาชนะคู่ปรับเก่าอีก 2 คน โดยน๊อค เจอร์รี่ ควอร์รี่ ยก 5 และเก็บ จิมมี่ เอลลิส ในยกที่ 9 แล้วจึงมีโอกาสขึ้นชิงมงกุฏโลกกับคู่แค้นเจ้าประจำ มูฮัมหมัด อาลี อีกครั้ง..


อาลี - ฟราเซียร์ ภาค 3 วันที่ 30 ก.ย.1975

...การชกไฟ้ท์นี้มีขึ้นที่ฟิลิปปินส์ โดยใช้ชื่อว่า "Thriller In Manila" และถือเป็นสุดยอดไฟ้ท์อมตะนิรันดร์กาลเช่นเดียวกันกับหนแรก เมื่อทั้งคู่ที่ต่างฝ่ายต่างงัดเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนมีขึ้นมาระดมใส่กันไม่ยั้ง ในสภาพที่เจียนอยู่เจียนไปด้วยกันทั้งสองฝ่าย จนถึงยกที่ 13 ฟราเซียร์ซึ่งบอบช้ำอย่างหนักถูก เอ็ดดี้ ฟัทช์ เทรนเนอร์คู่ใจขอร้องให้ยอมแพ้ จึงเป็นอันว่าการชก"ไฟ้ท์ที่ 3" ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของยอดมวยคู่นี้ จบลงด้วยชัยชนะเทคนิคเกิ้ลน๊อคเอ้าท์ของอาลีในระหว่างพักยกที่ 14
...หลังจากปราชัยหนนั้น ฟราเซียร์ เงียบหายไปร่วมปีก่อนจะคัมแบ็คกลับมาในปี 1976 เจอกับ ยอร์ช โฟร์แมนอีกครั้ง แต่ดูเหมือนช่วงเวลาดังกล่าว"สโม้คกิ้ง โจ"เหมือนจะสิ้นไร้ไฟปรารถนากลับมาเอาดีซะแล้ว กระนั้นก็ยังยืนหยัดสู้พลังหมัดของโฟร์แมนได้ถึงยก 5 ก่อนจะถูกตะบันสิ้นสภาพลงมาตามระเบียบ
...ระหว่างปี 1977-1980 สามปีเต็มที่ฟราเซียร์ห่างหายไปจากสังเวียน หันไปจับธุรกิจค่ายมวย แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงกลับมาอีกครั้งในปี 1981 ด้วยวัย 37 ปีตีเสมอนักมวยพื้นๆอย่าง ฟลอยด์ คัมมิ่ง ในการชก 10 ยก และนั่นคือไฟ้ท์สุดท้ายในชีวิตนักมวยอาชีพของอดีตแช้มป์โลกผู้ยิ่งยงรายนี้...
...สถิติการชกตลอด 16 ปีบนเส้นทางมวยอาชีพของ"สโมคกิ้ง โจ"คือ ชนะ 32 แพ้ 4 เสมอ 1 ชนะน๊อค 27 ครั้ง เป็นที่น่าสังเกตุว่ามวยอย่าง โจ ฟราเซียร์ เคยแพ้ให้แก่คู่ต่อสู้ผู้ยิ่งใหญ่เพียงสองคนเท่านั้นคือ อาลีและโฟร์แมน แต่กับคู่ต่อสู้คนอื่นๆ ไม่มีใครสามารถเอาชนะจอมตะลุยร่างเตี้ยรายนี้ได้เลย.....


คลิ๊กเพื่อดูสถิติ

:เรื่องจากนิตยสาร"โลกกำปั้น"ฉบับที่ 34
:ขอบคุณ คุณพูนเพชร เพชรใหม่


Create Date : 27 พฤษภาคม 2548
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2548 17:24:26 น. 1 comments
Counter : 1029 Pageviews.

 


โดย: tamashi IP: 58.10.0.177 วันที่: 31 ตุลาคม 2548 เวลา:23:11:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ยำขาหมูทอดกรอบ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




RINGSIDE ZONE
Zone Of Boxing มาร์ลโบโร่ ซิปโป้ ดาวแดง กับ คู่มวยสุดมันส์
Friends' blogs
[Add ยำขาหมูทอดกรอบ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.