ท่องไป ใน << อังกฤษ >> ... ตอน 14 (ตอนจบ) :: เก็บตก...อังกฤษ
เ ก็ บ ต ก อังกฤษ ... 14 ตอน จบเสียที ปิดท้ายการท่องเที่ยวสหราชอาณาจักร ที่ได้ไปเยือนมาแบบประทับใจ...ด้วยการเก็บตก สิ่งละอันพันละน้อยที่ผ่านมา จากที่...ได้มาชมแท่งหินมหัศจรรย์ ที่ไม่มีใครตีปริศนาได้ถูก.......ได้มาชมเมืองบาธ อายุนับพันปี ที่สวยคลาสสิคแบบไม่น่าเชื่อ สวยทั้งเมืองและอนุรักษ์ทั้งเมืองไว้แบบดั้งเดิม สุดยอดมากเลยค่ะ ......ได้ไปชมบ้านเชคสเปียร์ ที่เคยร่ำเรียนรู้จักจากวรรณคดีต่างๆ ... สวยคลาสสิคอีกสไตล์นึง บ้านหลังคาหญ้า แบบน่ารัก...ได้ไปท่องทะเลสาบ เลคดิสทริค อันมี เสน่ห์ แสนสวย ... ...ได้ขึ้นไปถึงสก๊อตแลนด์แดนในฝัน.......ได้ไปเที่ยวชมพระราชวัง ปราสาทต่างๆ ที่เป็นที่ประทับของราชวงส์อังกฤษ หรือมีประวัติตำนานที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์อังกฤษมาแต่โบราณนับพันปี....บางปราสาทก็เป็นของขุนนางชั้นสูงที่ตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงาม เลิศหรูมาก จนน่าทึ่งถึงความรุ่งเรืองหรูหราในอดีตที่ผ่านมา ปราสาทราชวังบางแห่งได้เข้าเยือนภายในอย่างละเอียด บางปราสาทได้ชมภายรอบนอก บ้างได้ชมนอกรั้ว ...ก็ยังดีนะได้ชมนายทหารรักษาพระองค์ ในเครื่องแบบสีแดงสด หมวกทรงสูง งามสง่า ที่คุ้นตาเลื่องลือจากภาพมาเนิ่นนานได้ชมมหาวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ วิหารประจำเมือง ศิลปะยุคต่างๆ ที่ตระการตา ซึ่งล้วนมีประวัติความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของชาติอังกฤษ อย่างแนบแน่นได้ชมบ้านเรือน บ้านเมืองต่างๆ ในแต่ละมณฑล จังหวัดที่มีความสวยงาม คลาสสิค แตกต่างกันออกไปอย่างน่าพิศวง สหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่อนุรักษ์ศิลปะอาคารบ้านเรือนสมัยก่อนให้อยู่ยงมาจนถึงทุกวันนี้ได้เป็นอย่างดี ...เมืองบาธ เมืองโบราณอายุพันปี เคยเป็นอย่างไร ก็ยังอนุรักษ์ไว้เช่นเดิม ปล่องไฟก็ยังเป็นของเก่า บ้านเรือนก็ยังเป็นของเดิมแบบจอร์เจียน สวยสง่า ทั้งเมือง ประทับใจมากเมืองสแตรทฟอร์ด บ้านเกิดของเชคสเปียร์ น่ารักบอกไม่ถูก บ้านเรือนเค๊าเป็นอิฐสีน้ำตาล ผนังสีขาว แล้วใช้ท่อนไม้ตีประกบ โอ้โฮ...น่ารักมาก บ้านภรรยาเชคสเปียร์เป็นกระท่อมหลังคามุงหญ้า บ้านชาวนาของแม่...เค๊าอนุรักษ์ไว้หมด...เมืองวินเดอร์เมียร์ เป็นบ้านเรือนสร้างแบบโรแมนติคริมทะเลสาบเลคดิสทริค สุดยอด อยากมีบ้านแบบนี้สักหลัง ธรรมชาติสวยงามพิสุทธิ์ ยามสัญจรผ่านจากลอนดอน ขึ้นไปถึงสก๊อตแลนด์ที่พักสบายๆในแต่ละเมือง เสียดายไม่ได้พักสไตล์อังกฤษโบราณเลยค่ะแท็กซี่เมืองผู้ดี ที่ขึ้นชื่อ ...เท่ห์มากมายค่ะ ไม่มีโอกาสได้ใช้บริการ ถ้ารถรูปแบบอื่น คนไม่นิยมนั่งกัน ถ้าใครออกรถใหม่นำมาเป็นแท็กซี่ ก็ต้องออกรุ่นที่มีรูปแบบใกล้เคียงกับแบบเก่าค่ะเมืองอังกฤษมีการเดินทางสัญจรไปที่ต่างๆด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินได้อย่างสะดวกสบาย เขาทำได้ยังไงนะ... การเดินทางระหว่างจังหวัด มีสถานที่พักรถ เติมน้ำมัน แวะรีเฟรช ดื่มน้ำ หาอะไรรับประทานกัน ...พักโชเฟอร์ ...พักผู้โดยสาร ... เข้าห้องน้ำ สะอาดสะอ้าน สะดวกสบาย...บางที่เป็นโมเต็ลให้นอนพักด้วยค่ะ...ซึ่งที่พักแบบนี้ มีตลอดทุกเส้นทางถนนหลวงเมืองอังกฤษช่วงเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ...เต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้สวยๆดอกไม้เมืองหนาว สวยจับใจจริงๆยามอากาศดี ชาวเมืองต่างอุ้มลูกจูงหลานมาเดินเล่น...น่ารักเหลือเกิน แก้มแดงๆน่าฟัดนักหนาไปเที่ยวครั้งนี้ ถ่ายรูปดะ หมู หมา กา ไก่ ... ม้า วัว แพะ แกะ...ถ่ายไปหมด น่ารักไปหมด !!!!!!!นก เนิก หงส์ ห่าน ต่างๆ...ถ่ายโหม้ด... แม้กระทั่ง คุณอีกาค่ะ นอกจากถ่ายที่ ปราสาทแห่งลอนดอนอันเป็นคุณอีกาประวัติศาสตร์แล้ว ตามที่พักคนเดินทาง จะเห็นมีอีกาตัวโต๊ โต เกาะกิ่งไม้ที่ไร้ใบ แต่มีรังเป็นขยุ้มอยู่คาคบไม้เต็มไปหมด แบบว่าลมหนาวพัดแรงแม้อีกายังลู่ขนขดตัวป้องกันลมหนาวเลยค่ะเที่ยวสถานที่ใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์ดังแฮรี่พรอตเตอร์...ปราสาทเอดินเบอระ...ที่ใช้เป็นที่เปิดตัวหนังสือ เพราะ เจ. เค. โรว์ลิ่ง ได้มานั่งเขียนเรื่องที่เมืองนี้ถึง 6 เดือน เลยจินตนาการใช้ปราสาทแห่งนี้เป็นโลเคชั่นด้วย... อ๊อกซฟอร์ด ห้อง Great Hall ธรรมเนียมรับประทานอาหารร่วมกันของที่นี่ค่ะ เป็นฉากในเรื่องด้วย...ตอนจบของแฮรี่ พรอตเตอร์ ใช้สวนป่าในพระราชวังวินด์เซอร์เป็นฉาก...เก็บตกแบบ ขำ ขำ คือว่า โปรแกรมเสียตังค์ไปดูก้อนหิน...ที่แรกเลย ลงจากเครื่อง แล้วบึ่งไปสัมผัสก่อนโปรแกรมอื่นเลยนะนี่ อิอิ...::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::และเมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็มาค้นคว้าหาประวัติศาสตร์อังกฤษอ่านยกใหญ่ คิงส์ และ ควีนองค์ไหนบ้าง ...อ่านหลายเรื่องก็มึน ยิ่งจำไม่ค่อยได้เข้าไปอีก ก็คงพอสำหรับทริปอังกฤษแสนสุขแต่เพียงแค่นี้ค่ะ...บ๊าย บาย ค่ะ...:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ท่องไป ใน << อังกฤษ >> ... ตอน 13 :: กระทบไหล่ดารา หุ่นขี้ผึ้ง ของ...มาดามทูซโซ่
พิพิธภัณฑ์ หุ่นขี้ผึ้ง ของ มาดาม ทูซโซ่..... เหมือนจริง ซ๊ะ....!!!!
ท่องไป ใน << อังกฤษ >> ... ตอน 12 :: ลอนดอน ... ลัลล้า ...ลันดั้น...
ลอนดอน ... ลัลล้า ...ลันดั้น... ความ จริง แล้ว ฝน ตก ลัลล้า ไม่ออก ... กรอบภาพชุดลอนดอนนี้ ดีไซน์เป็นเลดี้ให้เข้าบรรยากาศอังกฤษกันหน่อยค่ะ เดินผ่านร้านขายหมวก ขอยืมมาใส่ถ่ายรูปซ๊ะหน่อย แบบไม่ต้องเสียตังค์ อิ อิ...ทันทีที่ย่างเข้าลอนดอน...ฝนตกตลอดเลยค่ะ ตั้งแต่มาเที่ยว โชคดีเจอฝนแต่ในลอนดอนเท่านั้น ที่อื่นแม้ครึ้มบ้างแต่ก็ไม่มีฝน ที่เที่ยวในลอนดอนก็มีมากมาย ได้แต่ไซร์ซีอิ้ง วินโดว์ซีอิ้ง บนรถ ลงไปถ่ายภาพก็ไม่ได้ กลัวหมวกเปียก เอ้ย...กล้องเปียก ... อิ อิ การวินโดว์ซีอิ้งมหานครลอนดอน เมืองหลวงของประเทศอังกฤษนี้ มีแหม่มมัคคุเทศก์ชาวอังกฤษขึ้นมาบรรยายสถานที่สำคัญต่างๆที่ผ่านค่ะ เช่น มหาวิหารเซ็นต์พอล ซึ่งเป็นที่ประกอบพิธีและที่ฝังศพบุคคลสำคัญของอังกฤษหลายท่าน เช่น ลอร์ด เนลสัน, ลอว์เรนซ์แห่งอาระเบีย โบสถ์เซนต์เจมส์ทำเนียบรัฐบาล... ตึกรัฐสภาแห่งสหราชอาณาจักร ....พระราชวังบัคกิ้งแฮม, พิคาเดลลี่ เซอร์คัส, จตุรัสทราฟัลการ์ อนุสรณ์ของท่านนายพลลอร์ดเนลสันผ่านย่านธุรกิจ การเงิน การธนาคารในซิตี้ออฟ ลอนดอน ....หอนาฬิกาบิ๊กเบน (BIG BEN) สัญลักษณ์ที่สำคัญและโดดเด่นของกรุงลอนดอน ที่โด่งดังไปทั่วโลก อยู่บริเวณริมแม่น้ำเทมส์ แม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านใจกลางกรุงลอนดอนบิ๊กเบน อีกมุมนึง... อาคารหอนาฬิกามีความสูง 320 ฟุต ตีบอกเวลาทุกหนึ่งชั่วโมง เป็นนาฬิกาที่มีหน้าปัดใหญ่ที่สุดในโลกจอดรถให้ลงไปถ่ายภาพกับด้านหน้าของพระราชวังบักกิ้งแฮม ที่ประทับของราชวงศ์อังกฤษ วิ่งจู๊ด...แช๊ะ ๆ ๆ...วิ่งกลับขึ้นรถค่ะ ได้ภาพพระราชวังมา 2-3 ภาพเอง อดได้ดูการเปลี่ยนเวรของทหารองครักษ์เลย เพราะไม่ใช่เวลาเปลี่ยนเวร... ผ่าน ไฮ ปาร์ค ด้วย...กำลังมีม็อบเล็กๆประท้วงอยู่ หนาวนะนี่...ฝนก็ตกด้วย...ความเก่า กับ ความใหม่ ประชันกันอยู่ ...ตึกยุคมิลเลียนแนร์ตึกแตงระฟ้า....The London Eyes กระเช้าไฟฟ้าแบบวงล้อขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ ซึ่งบริษัท บริติชแอร์เวย์สร้างขึ้นเพื่อร่วมฉลองปี 2000 สามารถตีตั๋วขึ้นไปชมวิวสุดสวยของลอนดอนได้ แต่เราไม่มีเวลาพอค่ะถึงแล้ว...Tower Bridge ได้มาเยือนสะพานอันมีชื่อเสียงแล้วค่ะ...Tower Bridge เป็นสะพานยก หัวสะพานเป็นอาคารสูง มียอดปราสาทด้วย รูปทรงโอ่อ่าสวยงามมาก สร้างในสมัยศตวรรษที่ 19 เป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของลอนดอนเช่นกันถ่ายภาพหมู่ กรุ๊ฟที่ไปเที่ยวด้วยกัน กับวิว Tower Bridge ...เพื่อแสดงการมาเที่ยวอังกฤษ!!!!!!!!!รถแล่นผ่าน ขึ้น Tower Bridge เพื่อจะไปป้อมปราสาทแห่งลอนดอน (TOWER OF LONDON) ค่ะ TOWER OF LONDON เคยเป็นทั้งป้อมปราการ ปราสาทราชวัง คุก และแดนประหาร ... ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงราชสมบัติล้ำค่าแห่งราชวงศ์อังกฤษ คือ มหามงกุฎอิมพีเรียล ซึ่งประดับด้วยเพชรที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกชื่อ สตาร์ ออฟ อาฟริกา 2 หรือ คัลลินัน 2 และ มหามงกุฎของพระราชินีอลิซาเบธ 2 ประดับด้วยเพชร โคอินูร์ ที่เคยเป็นเพชรเม็ดใหญ่ที่สุดในโลก และชิ้นสุดท้ายคือ คฑา ประดับด้วยเพชรเม็ดใหญ่ที่สุดในโลก สตาร์ ออฟ อาฟริกา 1 หรือ คัลลินัน 1" ขนาดกว่า 500 และ 300 กะรัต นี่ค่ะ ป้อมปราสาทแห่งลอนดอน เข้าคิวซื้อบัตรเพื่อชมราชสมบัติแห่งราชวงศ์อังกฤษ ป้อมปราสาทแห่งนี้ เล่าขานกันว่า สุดยอดผีดุ...แต่ที่ห้องเข้าชมเป็นส่วนที่แสดงภาพวิดิทัศน์ตอนควีนอลิซาเบธที่ 2 ขึ้นครองราชย์ และทำพิธีสวมมงกุฎเพชรที่ตั้งแสดงให้ชมนั่นแหล่ะค่ะ ...ห้องต่อไปก็แสดงมหามงกุฎองค์ต่างๆ และคฑาเพชรโอ้โห...เพชร เม็ดเป้งมากๆเลยค่ะ เล็กกว่าลูกกอล์ฟหน่อยนึง...มัวแต่ตะลึง ตึง ๆ...ในความงามของมงกุฎองค์ต่างๆ ที่วางเรียงราย โดยเรายืนอยู่บนรางเลื่อนซึ่งจะเลื่อนผ่านไปเรื่อยๆ จะหยุดตะลึงดูไม่ได้ค่ะ....และ ห้ามถ่ายภาพอีกตามเคย...ป้อมปราสาทประวัติศาสตร์อันเก่าแก่นี้ มีอายุกว่า 900 ปี มีประวัติสยดสยองมากเพราะนอกจากจะใช้เป็นพระราชวังแล้ว ยังใช้เป็นป้อมปราการ ที่คุมขัง เป็นลานตัดศีรษะประหารชีวิตเจ้านายชั้นสูง และเป็นแหล่งระทมทุกข์ของราชนิกูลหลายๆพระองค์ในอดีต เพราะเกี่ยวข้องกับการขึ้นครองราชย์ การแย่งชิงราชบัลลังก์และการสร้างชาติของอังกฤษ หอคอยที่อยู่ใจกลางป้อมปราสาททั้งหมด มีชื่อเรียกว่า White Tower ... เล่ากันมาว่าใช้คุมขังพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ห้า วัย 12 พรรษา กับ เจ้าชายริชาร์ด ดยุกออฟยอร์ก พระอนุชาวัย 9 พรรษา โดยพระเจ้าริชาร์ดที่สามทรงสั่งสังหารพระภาติยะทั้งสองเพื่อจะได้ขึ้นครองราชย์แทน เมื่อปี พ.ศ. 2217 ช่างซึ่งกำลังทุบบันไดหินทางใต้ของ White Tower พบหัวกะโหลกเด็กสองหัว ซึ่งพิสูจน์ได้เพียงว่าเป็นกระโหลกของเด็กอายุราว 10 ขวบและพระเจ้าชาร์ลส์ที่สองที่ครองราชย์อยู่ ทรงสั่งให้นำกระดูกไปผังที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์วงกลมกระจกสีเขียว คือจุดที่พระนางแอน โบลีน มเหสีองค์ที่ 2 ในพระเจ้าเฮนรี่ที่แปด ซึ่งถูกบั่นพระเศียรเมื่อปี พ.ศ. 2079 จุดประหารนี้มีชื่อว่า ทาวเวอร์กรีน เป็นสนามหญ้าอยู่ในเขตป้อมปราสาทแห่งลอนดอน ซึ่งได้ปรับพื้นที่ให้เห็นชัดเจนขึ้น ทำเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็ก ๆ มีรั้วกั้นเป็นสัดส่วน ตั้งตรงหน้าโบสถ์หลวง เซนต์ปีเตอร์ แอด วินชูล่า (St Peter ad Vincula) พอดีบริเวณตรงนี้ยังเป็นที่ประหารพระนางแคทเธอรีน ฮาวเวิร์ด มเหสีองค์ที่ 5 ในพระเจ้าเฮนรี่ที่แปดอีกด้วย เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ต้องไปหาอ่านกันเองค่ะ รวมถึงเลดี้เจน เกรย์ ทรงเป็นราชินีอังกฤษนาน 9 วันในปี พ.ศ. 2096 พระนางแมรี่ทิวดอร์ทรงเป็นผู้สั่งประหารตรงที่เดียวกับพระนางแอนโบลินทาวเวอร์ ออฟ ลอนดอน สร้างขึ้นเมื่อวิลเลียม ดยุคแห่งนอร์มังดี ได้รับการสถาปนาเป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษ ในปี ค.ศ 1066 หลังจากชนะสงครามกษัตริย์ฮาโรลด์ แห่งเซ็กซอน เพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันกรุงลอนดอน เมืองหลวง ต่อมา ใด้ดัดแปลงเป็นป้อมปราสาทขนาดใหญ่ สำหรับอยู่อาศัยและเป็นที่คุมขัง และเก็บอาวุธยุทธภัณฑ์ ก่อด้วยหินขนาดใหญ่ เรียกชื่อสถานที่นี้ว่า Tower of London สำหรับหอคอยซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุฆาตกรรมเจ้าชายทั้งสองมีชื่อว่า Bloody Tower (หอคอยเลือด) เป็นจุดควบคุมประตูน้ำเข้า-ออก เดิมมีชื่อว่า Garden Tower เพราะอยู่ใกล้สวน...ณ ลานป้อมปราสาทแห่งนี้ จะเห็นมีการเลี้ยง คุณอีกาอยู่ 6 ตัว เนื่องจากมีตํานานบันทึกเป็นเอกสาร มาตั้งแต่ ศตวรรษที่ 17 ในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ...มีคําสาปมานานกว่า 900 ปี ว่า จะต้องมีนกอีกาอยู่ที่ป้อมปราสาทแห่งนี้ ถ้าหากอีกาลดจํานวนลงเมื่อใด เมื่อนั้นความหายนะจะมาเยือนนครลอนดอน และมีการสิ้นสุดแห่งพระราชวงศ์แห่งอังกฤษ! !!!!!!ดังนั้น ถ้ามีคุณอีกาตายหนึ่งตัว จะต้องรีบถวายรายงานต่อควีน และต้องจัดหาคุณอีกาตัวใหม่ มาเลี้ยงแทนทันที ซึ่งคุณอีกาทุกตัวจะมีชื่อเรียก ถ้าตายไปก็จะต้องทำพิธีการฝังด้วย และจะต้องมีคุณอีกาเลี้ยงสํารองไว้ตลอดเวลา มีอยู่ตัวนึง ถูกตัดปีกบินไม่ได้ เลยปล่อยให้เดินเล่นไปมาในสนามได้ค่ะ แต่สมัยที่ไข้หวัดนกระบาด ก็ต้องเก็บเข้ากรงเป็นอย่างดีเลยค่ะ...ถ้ามีตัวใดล้มป่วย ก็ต้องรีบตรวจสอบทันที...วินโดว์ซีอิ้งมหานครลอนดอน และการชมเพชรยอดมงกุฎ เม็ดใหญ่ที่สุดในโลก นับเป็นบุญตาที่ได้มีโอกาสมาชมค่ะ...ต่อไป โปรแกรมที่ขาดไม่ได้ คือ ชมพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุซโซ่ ค่ะ แล้วก็จะกลับบ้านแล้วค่ะ....................................................................................................
ท่องไป ใน << อังกฤษ >> ... ตอน 11 :: ... รักประทับใจ ใน วินด์เซอร์ ...
รัก ประ ทับ ใจ....ใน พระราชวังวินด์เซอร์... พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ตรัสว่า ...ถ้า...ปราศจากหญิงที่รักอยู่เคียงข้าง.. บัลลังค์ก็ไม่มีความหมายใดๆ พระองค์ตัดสินพระทัย..สละราชสมบัติ ... เป็นประกาศที่พระองค์ได้ออกอากาศจากสถานีในพระราชวังวินด์เซอร์ ในวันที่ 11 ธันวาคม 1936 ....ค่ะ...โปรแกรมท่องเที่ยวจากสก๊อตแลนด์ ต้องย้อนกลับสู่ลอนดอนแล้วค่ะ....ซึ่งได้มาเยือนพระราชวังวินด์เซอร์อย่างไม่คาดฝัน...เพราะตามกำหนดเดิม ต้องไปเที่ยวยอร์คค่ะ แต่ไม่ทราบว่ากฎหมายการขับรถของอังกฤษนั้น คนขับจะต้องขับไม่เกิน 8 ชั่วโมงและต้องพักอะไรทำนองนี้ ทำให้ไม่สามารถไปยอร์คได้เพราะต้องย้อนไปย้อนมา...เขาเลยเสนอให้ไปวินด์เซอร์แทน...อืมส์ ดีกว่า น่าสนใจกว่ามากๆๆเมืองวินด์เซอร์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน เป็นที่ตั้งของเมืองเล็ก ๆ และหมู่บ้าน ชนบทอันสวยงาม มีแม่น้ำเทมส์ไหลผ่าน มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น พระราชวังวินด์เซอร์ ที่ประทับของควีนอลิซาเบธที่ 2 ... โรงเรียนอีตัน ซึ่ง เจ้าชายแฮร์รี่สำเร็จหลักสูตร ปริญญาตรี ที่ อีตัน คอลเลจ ( Eton College) ไฮสคูลที่ใหญ่สุด ดังที่สุด และแพงที่สุดในอังกฤษ ในมณฑลบาร์กเชอร์ (Berkshire) ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับพระราชวังวินด์เซอร์ ทางเข้าชมพระราชวัง เป็นสถานีรถไฟ สถานีวินด์เซอร์ มีหัวรถไฟพระที่นั่งจอดอยู่ด้วยค่ะ....บริเวณสถานีมีร้านค้า ขายของที่ระลึกและร้านอาหาร เดินเที่ยวชมโน่น ชมนี่ก็ใช้เวลาพอสมควรเลยค่ะ เพราะมีสินค้าที่ระลึกเยอะแยะมากมายชวนให้เลือกซื้อหา ไม่ว่าจะเป็นโปสการ์ด หมวก เสื้อ จาน ชาม ชุดน้ำชา ฯลฯเดินออกจากสถานี ก็เป็นเมืองเล็กๆรายล้อมพระราชวัง มีผู้คนและนักท่องเที่ยวมากมายนั่งเรียงรายรอบกำแพงพระราชวัง เป็นมุมที่สวยมาก...น่านั่งเพลินทีเดียว อากาศก็แสนเย็นสบาย ฟ้าก็ปลอดโปร่งพระราชวังวินด์เซอร์เป็นพระราชฐานที่สมเด็จพระราชินีทรงโปรดที่สุดและใช้เป็นที่ประทับของราชวงศ์อังกฤษมานานกว่า 900 ปี เป็นปราสาทรูปทรงแบบอังกฤษโบราณแบบโรมาเนสก์ เป็นพระราชฐานที่ยังมีผู้อยู่อาศัยต่อเนื่องกันมาตั้งแต่เริ่มสร้าง ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก ปัจจุบันใช้เป็นที่ประทับในช่วงฤดูร้อนของราชวงศ์อังกฤษพระราชวังวินด์เซอร์ (The Windsor Castle) ตั้งอยู่ที่เมืองวินด์เซอร์, มลฑลบาร์กเชอร์ สร้างโดยสมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1070 ได้รับยกย่องว่าเป็นพระราชวังกลางป่าที่งดงามที่สุดในอังกฤษ พระราชวังวินด์เซอร์ มีส่วนเกี่ยวพันกับประวัติของพระมหากษัตริย์ของอังกฤษอย่างใกล้ชิด เพราะใช้เป็นทั้งป้อมปราการ เป็นที่ประทับอยู่อาศัยอย่างเป็นทางการ ในยามสงบศึกสงครามและบางครั้งก็ใช้เป็นที่คุมขัง หรือยามสงคราม ก็มีป้อมปราการ ก่อกำแพงสูงอย่างแน่นหนา พระราชวังนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมด้านใน ในส่วนที่อยู่รอบๆกำแพง แต่ห้ามถ่ายรูปภายใน แต่แค่บริเวณภายนอก ก็ยิ่งใหญ่ เดินแทบไม่ไหวแล้วค่ะในแต่ละปีพระราชวงศ์อังกฤษจะเสด็จไปประทับเพื่อพักผ่อนอย่างสม่ำเสมอ โดยปราสาทส่วนบนด้านตะวันออกจะเป็นเขตที่ประทับของสมเด็จพระราชินี เมื่อปี 1992 พระราชวังแห่งนี้ถูกไฟไหม้ไปเป็นร้อยห้อง รวมถึงภาพเขียนที่ประเมินค่าไม่ได้ถูกไฟไหม้ไปบางส่วน...ซึ่งได้ทำการปรับปรุงและซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยในปี 1997 การเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเพื่อหารายได้เป็นค่าซ่อมแซม ส่วนที่เปิดให้ชม ก็เป็นห้องต่างๆ มีภาพเขียน ข้าวของเครื่องใช้ อาวุธ ตลอดจนของกำนัลจากประเทศต่างๆให้ชม ... แม้ว่าห้องจะสวยงาม ยิ่งใหญ่ตระการตาก็ตาม แต่รู้สึกว่าไม่ค่อยขลัง เพราะไม้ยังใหม่ เพิ่งจะลงเคลือบเงาไม่นานมานี้เอง... ธง แสดงว่า queen ประทับอยู่ เดินไปชมบ้านตุ๊กตาของควีนแมรี่ค่ะ ห้ามถ่ายภาพอีกเช่นเคย...บ้านตุ๊กตานี้ ต้องเรียกว่าปราสาทค่ะ สร้างเป็นปราสาทเหมือนจริงทุกอย่าง ภายในแต่ชั้นของปราสาทก็ทำเป็นห้องๆ พร้อมกับมีเครื่องใช้ไม้สอย เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างเหมือนของจริงทุกอย่างตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นตู้ โต๊ะ เตียง หนังสือ เสื้อผ้า ผ้าม่าน พรม ฯลฯ ล้วนแต่เป็นชุดจิ๋วสำหรับพระราชินีโดยเฉพาะแบบอลังการ์งานสร้างมาก และก็มีหลายปราสาทด้วย...ดูเพลินเลยทีดียวออกจากชมบ้านตุ๊กตาของควีนแมรี่ ก็จะเห็น บริเวณที่ประทับของ queen และราชวงศ์ ซึ่งห้ามเข้าค่ะ แต่สามารถถ่ายภาพผ่านรั้วได้เด็กๆถ่ายภาพกับทหารรักษาพระองค์ค่ะ ซึ่งอยู่ในรั้วถ่ายภาพทหารเดินเวรเสียหน่อย ...หล่อน๊า...เดินมาถึงทางออก จะเห็นความยิ่งใหญ่ สวยงามของพระราชวัง ซึ่งคงอยู่ใกล้สนามบิน เพราะมีเครื่องบินขึ้นลงตลอดเวลาด้านทางออก จะเป็น St George's Chapel ถือเป็นวิหารสไตล์โกธิกที่งดงามที่สุดในประเทศอังกฤษ สร้างในปี 1348 โดยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 เป็นที่ฝังพระศพของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 และพระราชินี เจน ซีมัวร์ และพระเจ้าชาร์ลที่ 1เดินออกจากพระราชวังมาทางสถานีรถไฟเช่นเดิม ระหว่างรอคนอื่นๆ เลยเดินดูร้านขายของซูวิเนียร์ เด็กๆอังกฤษซื้อหมวก ซื้อแว่น ซื้อ ธง แล้วมาใส่เล่นกัน น่ารักดีค่ะ...เลยถ่ายภาพไว้ซ๊ะหน่อย...อ้อ...ที่นี่ ก็เป็นฉากหนึ่งในเรื่อง พ่อมดน้อยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาคที่ 6 เจ้าชายเลือดผสม ด้วยค่ะ โดยได้รับพระบรมราชานุญาตให้ถ่ายทำฉากจบหนังพ่อมดน้อยภาคสุดท้ายในพระราชวังวินด์เซอร์ ซึ่งเป็นพระราชวังโบราณ อายุกว่า 1,000 ปีนี้ ควีนอลิซาเบธทรงให้เช่าพื้นที่สวนป่าบางส่วนในการถ่ายทำ....ตรงไหนเอ่ย...ต้องคอยดูหนังนะคะ ....เดินทางต่อค่ะ ... กลับเข้าสู่ลอนดอนแล้วค่ะ.................................................................
ท่องไป ใน << อังกฤษ >> ... ตอน 10 :: ... จุ๊บส์ >> ออกซ์ฟอร์ด ... ฟอด นึงค่ะ ...
ผ่าน >> ออกซ์ฟอร์ด ... ได้ สัมผัสกลิ่นอาย นักปราชญ์ราชบัณฑิต ...ซึม ซับ แว๊บ นึง ก็ ยัง ดี ...ชิ มิ คะ.................................................................................................เดินทางขึ้นเหนือไปถึงสก๊อตแลนด์แดนในฝันแล้ว...ก็กลับสู่ลอนดอนเสียทีค่ะ....ผ่านเมืองออกซ์ฟอร์ด เมืองนักปราชญ์ราชบัณฑิต ราชวงศ์และขุนนางชั้นสูง มาศึกษากัน ตั้งแต่โบราณนานกาล สมัยพระเจ้า เฮนรี่ที่ 8 ปู๊น โน๊น แหล่ะค่ะ นั่งรถมาหลายร้อยไมล์...เพิ่งจะถ่ายรูป คุณเน ฯ GPS กูเกิ้ลเอิร์ธ พาไปที่ต่างๆ...แหม มันยอดมากเลย จอร์ชคะ...ถึงถนนไหน จะเลี้ยว จะตรง มันพาวิ่งฉิว เอา ฉิวเอา... กู้ด...ที่สุดเลยค่ะ...เข้าเมืองออกซ์ฟอร์ด แล้วค่ะ ... เมืองออกซ์ฟอร์ด อยู่ห่างจากกรุงลอนดอน ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 80 กิโลเมตร เป็นเมืองที่แวดล้อมด้วยทุ่งกว้างใหญ่ ทิวเขา และมีแม่น้ำเทมส์ไหลผ่าน นั่งรถชมเมืองกันก่อนค่ะ...อืมส์ เมืองมหาวิทยาลัยเป็นอย่างนี้นี่เอง อยากจะมาสัมผัสความขลังแห่งวิทยาการของออกซ์ฟอร์ด สักครั้งนึง...วันนี้ ได้มาเดินอยู่ที่นี่แล้ว !!!....มหาวิทยาลัยเมืองไทย ทุกคณะ อยู่ในรั้วเดียวกัน อาจจะมีเป็นวิทยาเขต โน่น นี่ นั่น...แต่ของเราไม่ใหญ่โตจนกลายเป็นเมืองมหาวิทยาลัยแบบนี้ออกซ์ฟอร์ดเป็นเมืองที่มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรม และเป็นศูนย์กลางของการศึกษาของอังกฤษมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 คนรักที่ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและความมีสเน่ห์ทางสถาปัตยกรรม ... จะต้องชอบออกซ์ฟอร์ด ... นอกจากมีความขลังทางประวัติศาสตร์ แล้ว อ๊อกฟอร์ดยังมีสีสันความทันสมัยของร้านรวงมากมายด้วยค่ะ... ย่านชอปปิ้งของลอนดอนมีอะไร อ็อกฟอร์ดก็มีอย่างนั้นเช่นกัน ...มีป้ายเชิญร่วมท่องเที่ยวไปกับการเดินเที่ยวชมเมืองและมหาวิทยาลัยต่างๆ... สำรวจตรอก ซอก ซอย ต่างๆ และมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งมีคุณค่าแก่การแวะชมหลายแห่ง พร้อมด้วยไกด์นำเที่ยวอย่างเป็นทางการ ด้วยค่ะบรรยากาศของมหาวิทยาลัยที่นี่ อาจทำให้นึกวาดภาพเล่นๆ ว่ามีนักศึกษา นักปราชญ์ราชบัณฑิต ท่านโน้น เคยเรียนที่โน้น...ท่านนี้เคยนั่งอ่านตำรับตำราใต้ต้นไม้ที่นี่ ... อิ อิ ... อิน มากหน่อย...โฮเต็ลหรูๆ...อาคารต่างๆอาจมองย้อนประวัติศาสตร์กลับไปได้ในสมัย คศ. 1007 ที่เมืองออกซ์ฟอร์ดถือกำเนิดโบสถ์ประจำเมืองมั๊ง...คะ...ออกฟอร์ดเป็นเมืองทีมีวิทยาลัยแยะมาก ๆ ...ที่หลัก ๆ ก็คือ Oxford Universityในส่วนของมหาวิทยาลัยนั้น ก็จะมี College ย่อย ๆ อีกมากเลยทีเดียวมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด มีคอลเลจทั้งหมดสามสิบหกคอลเลจ ... บางคอลเลจมีสัญลักษณ์ประดับอยู่ตามประตู ซึ่งเป็นคอลเลจที่เก่าแก่มีมาแต่โบราณ... คอลเลจใหม่ๆ ที่สร้างขึ้นมาทีหลัง จะไม่มีสัญลักษณ์มาประดับบนประตูแบบนี้มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด มีชื่อเสียงในการสร้างผู้บริหารระดับโลก เป็นประธานาธิบดีมั่ง นายกฯ มั่ง นักการเมืองมั่ง ทั่วทุกมุมโลก ... เดินดูตามคอลเลจต่างๆค่ะ...บางที่ก็จัดสวนสวยน่าเข้าไปเดินเล่น...มีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมคอลเลจต่างๆ เยอะเลยค่ะ...ได้แต่เดินดูอาคารต่างๆ ภายนอกรวมทั้งกระแสภาพยนต์ แฮรี่ พอตเตอร์ที่ใช้ที่นี่เป็นฉากถ่ายทำห้อง great hall อันโด่งดังด้วย...ระหว่างเดินไปรับประทานอาหารไทยมื้อแรกในอังกฤษ ที่เมืองออกซ์ฟอร์ดนี่เอง... ได้ผ่านคอลเลจ นี้บรรยากาศน่าเข้าไปเรียนมาก...ได้แต่ส่งสายตา และ บันทึกภาพไว้เป็นที่ระลึกว่าได้มาสัมผัสกลิ่นอายนักปราชญ์ราชบัณฑิตแล้ว...บ๊าย บาย ออกซ์ฟอร์ด... เดินทางไปชมพระราชวังวินเซอร์ต่อค่ะ.......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................