Welcome to Ricola ร่าเริง Bloggang

ปักใจ...ไป...ปักกิ่ง...(ตอน 5) พระราชวังฤดูร้อน

พระราชวังฤดูร้อนอี๋เหอหยวน



ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสวนสาธารณทางประวัติศาสตร์ของจีนที่เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าไปชมได้ พระราชวังนี้ใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 800 ปี ตั้งอยู่บนเขา 3 ลูก คือ เขาเซียงซัน เขาอี้ว์เฉวียนซัน เขาวั่นโซ่วซัน และทะเลสาบเทียมที่ใช้คนขุดคือ ทะเลสาบคุนหมิงซึ่งมีทัศนียภาพสวยงาม ท่ามกลางอาณาบริเวณกว้างใหญ่กว่า 100 ตารางกิโลเมตร



เมื่อได้ไปเยือนปักกิ่งแล้ว แน่นอนต้องไม่พลาดที่จะไปชมความงามของพระราชวังฤดูร้อน ไปดูตำหนักต้นรักของพระนางซูสีไทเฮา ไปดูตำหนักชมวิวที่สร้างเป็นเรือหินอ่อนลำมหึมาทอดลอยตัวเหนือทะเลสาบ ไปดูทะเลสาบที่ใช้แรงงานคนนับแสนคนขุดเพื่อเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของฮ่องเต้ราชวงศ์ต่างๆ.....ซึ่งมีความงดงามราวกับสวนสรวงสวรรค์



พระราชวังฤดูร้อนอี๋เหอหยวน ตั้งอยู่ชานกรุงปักกิ่งห่างไปทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 15 กม.



อาณาบริเวณพระราชวังฤดูร้อน ประกอบด้วย
ทะเลสาบคุนหมิง




มีพื้นที่เป็น 3 ใน 4 ของพระราชวังฤดูร้อน ใช้แรงงานคนถึงแสนคนในการขุด พระนางซูสีไทเฮาโปรดการเสด็จทางเรือชมทิวทัศน์ของอุทยานน้ำ ซึ่งมีสะพาน 17 เสาพาดโค้งไปยังเกาะกลางน้ำในทะเลสาบแห่งนี้เป็นอย่างยิ่ง

ณ จุดชมวิวทะเลสาบคุนหมิงนี้ วันที่เรามาเยือน ผิวน้ำในทะเล สาบ เริ่มเกาะตัวเป็นแผ่นเกร็ดน้ำแข็งแล้ว สายลมหนาวก่อนหิมะโปรยปราย พัดผ่านกิ่งหลิวพริ้วไหว ยามอาทิตย์เริ่มทอแสงรับอรุณ เป็นบรรยากาศที่สวยงาม น่าประทับใจ...


เรือหินอ่อน




ริมฝั่งชายน้ำอีกด้านมีเรือสีขาวสร้างด้วยหินอ่อนทั้งลำ สวยงามจอดทอดตัวอยู่ในทะเลสาบ เรือลำนี้เป็นตำหนักซึ่งพระนางซูสีไทเฮาโปรดที่จะเสวยน้ำชา ประทับพักผ่อนที่นี่

ระเบียงยาว



ระเบียงยาวสิ่งปลูกสร้างริมทะเลสาบคุนหมิง ที่เป็นเอกลักษณ์ของพระราชวังฤดูร้อนอี๋เหอหยวน

ระเบียงยาว ที่ภายในมีภาพเขียน ทิวทัศน์ ธรรมชาติ ดอกไม้ และนกนานาชนิด งดงามกว่า 15,000 ภาพ ทอดตัวยาวไปตามริมฝั่งทะเลสาบคุนหมิง ด้านนอกมีศาลาพักร้อน หอชมสวน เก๋งจีน เป็นระยะๆ ระเบียงยาวนี้ได้รับการบันทึกให้เป็นระเบียงที่ประดับภาพเขียนที่ยาวที่สุดในโลก ซึ่งมีความยาวถึง 728 เมตร แบ่งเป็น 273 ช่วง ดูจากรูปที่ 3 จะเห็นระเบียงยาวนี้ ทอดตัวแฝงไปตามริมฝั่งน้ำและแมกไม้ ยาวจรดรอบภูเขา ซึ่งนักท่องเที่ยวเดินชมเพียงส่วนเสี้ยวเล็กน้อยเท่านั้นเอง

วิหารไผหยุน




วิหารไผหยุน
ด้านหลังทะเลสาบคุนหมิงบนภูเขาวั่นโซ่วซัน เป็นที่ตั้งของ วิหารไผหยุน สมัยพระนางซูสีไทเฮาเคยคิดที่จะใช้วิหารนี้ทำเป็นห้องบรรทม แต่ระหว่างการซ่อมแซมอยู่นั้น พระนางเกิดประชวรขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงดำริว่าเหนือวิหารไผหยุนขึ้นไปมีเจ้าแม่กวนอิมประดิษฐานอยู่ การสร้างห้องบรรทมใกล้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อาจไม่เหมาะสม จึงเปลี่ยนมาใช้ตำหนักเล่อโซ่วเป็นห้องบรรทมแทน ส่วนวิหารไผหยุนนั้นได้ใช้เป็นที่จัดพิธีฉลองวันพระราชสมภพทุกปีแทน

นอกจากนี้ ยังมีตำหนักต่างๆ เช่น ตำหนักต้นรัก ที่พระเจ้าเซียนเฝ็งฮ่องเต้ได้พบพระนางซูสีไทเฮาครั้งแรก และตำหนักที่พระนางซูสีไทเฮาใช้เป็นที่กักขังฮ่องเต้ (องค์ไหนจำไม่ได้) โดยสร้างกำแพงแล้วทำด้านหน้ากำแพงเป็นให้ดูเหมือนตำหนัก แต่เปิดเข้าไปไม่ได้ และที่น่าสนใจ คือ มีอุทยานสวนสวยงามตลอด โดยเฉพาะต้นสน จะมีอายุหลายร้อยปี บางต้นกว่า 500 ปี ด้วย...

ปัจจุบันนี้ พระราชวังฤดูร้อนได้การจดทะเบียนเป็นมรดกโลก เช่นเดียวกันกับ พระราชวังต้อง ห้ามและหอฟ้าเทียนถัน และได้เปิดเป็นสวน สาธารณะ ให้ประชาชนเข้าเยี่ยมชม ท่องเที่ยว พักผ่อนได้




มีประชาชนเป็นจำนวนมาก ได้เข้ามาใช้บริการ ท่องเที่ยว ชมความงาม บ้างก็เล่นดนตรี หรือเป็นผู้ฟังดนตรีที่มีผู้มาบรรเลงเล่นให้ฟังฟรี ตามระเบียงยาวเป็นระยะๆ บ้างก็มีการเล่นการพนันแบบจดแต้มด้วย แต่จะเสียเงินกันอย่างไร ไม่อาจทราบได้...
.......................................................................................................................




 

Create Date : 29 มิถุนายน 2550    
Last Update : 29 มิถุนายน 2550 23:04:01 น.
Counter : 1540 Pageviews.  

ปักใจ...ไป...ปักกิ่ง...(ตอน 4) หอสักการะฟ้าเทียนถัน

หอสักการะฟ้า – ธรรมเนียมสักการะของกษัตริย์จีน


หอสักการะฟ้าเทียนถัน ( หอสักการะฟ้าดิน)

เป็นสถานที่ประกอบพิธีสักการะ สวดมนต์ภาวนาต่อสวรรค์ ขอให้มีความสิริมงคล ฝนฟ้าหลั่งให้พืชผลในไร่นาอุดมสมบูรณ์ ขอให้พสกนิกรอยู่เย็นเป็นสุข ของกษัตริย์ราชวงศ์หมิงและชิง




จากความเชื่อเรื่อง ‘ฟ้าโค้ง แผ่นดินเหลี่ยม’ และ ‘ฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ’ จึงออกแบบก่อสร้างหอสักการะฟ้าให้กำแพงด้านเหนือ เป็นรูปครึ่งวงกลมและสูงกว่า ส่วนด้านใต้เป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากและเตี้ยกว่า



สิ่งปลูกสร้างสำคัญในหอสักการะเทียนถัน ประกอบด้วย





# ตำหนักสักการะ... (หมายเลข 8 ในแผนที่) สำหรับประกอบพิธีสวดภาวนาต่อสวรรค์ ขอให้พืชพรรณธัญญาหารอุดมสมบูรณ์เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ




# วงแท่นสักการะ... (หมายเลข 5) สำหรับเซ่นไหว้สวรรค์ชั้นฟ้า และขอฟ้าขอฝน สร้างจากหินหยก เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ฮ่องเต้จะเสด็จมากราบไหว้ขอบคุณสวรรค์ที่บันดาลพืชผลให้สมบูรณ์พูนสุขตลอดปี รวมถึงขอให้ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินอยู่ร่มเย็นเป็นสุขในปีต่อๆไปด้วย ณ ที่นี้ จะมี หินใจกลางสวรรค์ ที่เป็นพื้นหินส่วนใจกลางแท่นสักการะชั้นบนสุด โดยแผ่นหินเรียงกระจายตัวออกไปเป็นรัศมีวงกลม เพิ่มขึ้นทีละ 9 ก้อนทบไปเรื่อยๆ รวมทั้งสิ้น 3,402 ก้อน ซึ่งหินแต่ละก้อนจะมีขนาด และการจัดวางที่ประณีตยิ่ง แม้ต้องผ่านร้อนผ่านหนาวมาเป็นร้อยๆปี ยังสามารถคงสภาพเป็นระเบียบใกล้เคียงกับเมื่อแรกสร้างไว้จนถึงปัจจุบัน




และที่มหัศจรรย์คือ เมื่อยืนอยู่ ณ ตำแหน่งหินใจกลางสวรรค์นี้ แล้วตะโกนออกไปเพียงเบาๆ ก็จะมีเสียงสะท้อนก้องตอบกลับมาให้ได้ยินในทันทีอีกด้วย


# สะพานตันปี้... (หมายเลข 2) เชื่อมตำหนักสักการะกับแท่นสักการะ โดยทางเดินจากด้านใต้ที่สูงจาก 1 เมตรนั้นจะค่อยๆสูงขึ้นไปจนสุดปลายทางด้านเหนือซึ่งสูงถึง 4 เมตร ซึ่งหมาย ความว่า แต่ละก้าวที่ฮ่องเต้เสด็จ จะค่อยๆสูงขึ้นเรื่อยๆ สู่สวรรค์ ซึ่งตรงตามตำแหน่งของตำหนักสักการะ ณ เบื้องหน้านั่นเอง




# หอเทพสถิต... (หมายเลข 3) สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง เพื่อประดิษฐานแผ่นป้ายองค์เทพเทวาทั้งหลาย


# กำแพงสะท้อนเสียง... (หมายเลข 4) เป็นกำแพงทรงกลมรอบนอกของหอเทพสถิต สามารถส่งผ่านเสียงไปถึงผู้ที่ยืนอยู่กำแพงฝั่งตรงข้ามได้อย่างชัดเจน แม้เสียงจะเบาราวกับเสียงกระซิบก็ตาม




หอสักการะฟ้าเทียนถัน เป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์อันทรงคุณค่าสูงยิ่งของจีน ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม และเป็นมรดกโลกที่อยู่ในประเทศจีนลำดับที่ 21……..

ปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นสวนสาธารณะเทียนถันซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนชมความงดงามทางประวัติ ศาสตร์อย่างหนาแน่นไม่ขาดสาย และ มีประชาชนเข้ามาใช้เป็นสถานที่เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และทำกิจกรรมบันเทิงต่างๆด้วย....





 

Create Date : 20 มิถุนายน 2550    
Last Update : 20 มิถุนายน 2550 13:16:07 น.
Counter : 1898 Pageviews.  

ปักใจ...ไป...ปักกิ่ง...(ตอน 3)...พระราชวังต้องห้าม

ตอน 3...พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City)



“ทำไมจึงต้องห้าม...???”

เนื่องมาจากชาวจีนถือคติในการสร้างวังว่า จักรพรรดิเปรียบเสมือนบุตรแห่งสวรรค์ ดังนั้นวังของบุตรแห่งสวรรค์จึงต้องเป็น ‘ที่ต้องห้าม’ คนธรรมดาสามัญไม่สามารถล่วงล้ำเข้าไปได้


พระราชวังโบราณ (The Palace Museam)…. หรือ พระราชวังต้องห้าม (กู้กง)

เป็นที่ประทับของจักรพรรดิราชวงศ์หมิงและชิง 24 องค์ มีประวัติความเป็นมา ราว 600 ปี
ประกอบด้วยตำหนักใหญ่น้อย รวม 9999 ห้อง อลังการ์ขนาดไหน....
เนื้อที่กว่า 720,000 ตารางเมตร

พระราชวังนี้ ส่วนหน้าใช้เป็นที่ว่าราชการ มีตำหนัก 3 หลังตั้งเรียงกัน ได้แก่



ตำหนักไท่เหอ เป็นสถานที่สำหรับจักรพรรดินั่งบัลลังก์ออกว่าราชการ



มีห้องรวม 55 ห้อง เป็นตำหนักไม้ที่ยิ่งใหญ่โอฬารตระการตาที่สุดของจีน รวมถึงตำแหน่งที่ตั้งซึ่งอยู่จุดกึ่งกลางของนครปักกิ่งพอดีด้วย ด้านหน้าตำหนักมีการจัดวางนาฬิกาแดดและเจียเลี่ยง ซึ่งเป็นเครื่องมือชั่งตวงวัดชนิดหนึ่ง
ตำหนักนี้ใช้เป็นที่จัดพิธีสำคัญของราชสำนักตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิงและชิง เช่น พิธีครบรอบพระชันษา พิธีฉลองขึ้นปีใหม่ เป็นต้น



(ตำหนักนี้ปิดซ่อม เพื่อเตรียมรับโอลิมปิค ปี2008)



ตำหนักจงเหอ
ที่ซึ่งจักรพรรดิทรงประทับก่อนที่จะเสด็จไปประกอบพระราชพิธีต่างๆที่ตำหนักไท่เหอ และเป็นที่ทรงงานราชการ ตลอดจนเป็นที่ให้ขุนนางเข้าเฝ้าฯ

ตำหนักเป่าเหอ
มีความสำคัญลำดับรองจากตำหนักไท่เหอ จักรพรรดิจะทรงเปลี่ยนเครื่องทรงที่ตำหนักนี้ก่อนจะเสด็จในการพระราชพิธีต่างๆ

ถัดเข้าไปเป็นส่วนด้านหลัง ที่เป็นตำหนักที่ประทับของจักรพรรดิและมเหสีอีก 3 หลัง ได้แก่



ตำหนักเฉียนชิง เป็นที่ประทับและปฏิบัติพระราชกรณีกิจส่วนพระองค์ของจักรพรรดิตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง
ต่อมาสมัยจักรพรรดิหย่งเจิ้งแห่งราชวงศ์ชิง ได้ทรงย้ายไปประทับที่ตำหนักหยังซิน ตำหนักเฉียนชิงจึงมีบทบาทในฐานะที่เป็นตำหนักสำหรับว่าราชการและเป็นที่จัดเลี้ยงแทน



ตำหนักเจียวไท่ ใช้เป็นสถานที่เข้าเฝ้าพระมเหสี ใน
การถวายพระพรในพิธีการต่างๆทั้งยังเป็นที่เก็บรักษาตราพระราชลัญจกรซึ่งใช้ประทับลงหนังสือราชการของจักรพรรดิ



ตำหนักคุนหนิง เป็นที่ตั้งของตำหนักที่แวดล้อมด้วยอุทยานหลวง ที่ผสมผสานสวนสามัญทั่วไปที่มีชีวิตชีวา บวกกับความกว้างขวางโอ่อ่าตระการตาแห่งราชสำนัก ภายในสวนประกอบด้วย หอน้อยใหญ่กว่า 20 หอ และสิ่งปลูกสร้างต่างๆที่จัดตั้งหันหน้าเข้าหากันเป็นแนว




ตำหนักที่สำคัญอีกตำหนักหนึ่งในพระราชวังต้องห้าม คือ ตำหนักหยังซิน
เพราะเป็นห้องบรรทมของจักรพรรดิในราชวงศ์ชิง



สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง มีลักษณะเป็นรูปตัว ไอ (I)ส่วนหน้าเป็นที่ทรงงาน ส่วนหลังเป็นที่บรรทม มีระเบียงล้อมรอบเชื่อมถึงกัน

ในปีที่จักรพรรดิคังซีแห่งราชวงศ์ชิงเสด็จสวรรคต พระบรมศพของพระองค์ได้ถูกตั้งไว้ที่ตำหนักหยังซิน จักรพรรดิองค์ต่อมาคือจักรพรรดิหย่งเจิ้งพระราชโอรสได้ทรงไว้ทุกข์ให้พระราชบิดาที่นี่ หลังเสร็จสิ้นการไว้ทุกข์ ตำหนักแห่งนี้ก็กลายเป็นห้องบรรทมและห้องทรงงานของพระองค์ในเวลาต่อมา

อีกประการหนึ่ง ที่ตั้งของตำหนักหยังซินนั้นใกล้กับกองกำลังทหารมาก จึงเป็นการสะดวกหากพระองค์ต้องการปรึกษาข้อราชการกับเหล่าแม่ทัพนายกอง



ตำหนักแห่งนี้ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ คือในสมัยจักรพรรดิถงจื้อและจักรพรรดิกวางสูแห่งราชวงศ์ชิง พระนางซูสีไทเฮาโปรดให้เหล่าขุนนางเข้าเฝ้าและกราบทูลข้อราชการต่อพระนาง โดยมีม่านสีเหลืองเป็นฉากกั้นระหว่างกลาง ดังที่มีคำเรียกขานกันว่า 'ว่าราชการหลังม่าน' ที่พระที่นั่งในตำหนักหยังซินนี้ด้วย

นอกจากนี้ เมื่อปีค.ศ. 1842 และปี 1860 ราชสำนักชิงกับกองทัพต่างชาติได้มาลงนามใน ‘สนธิสัญญานานกิง ’และ ‘สนธิสัญญาปักกิ่ง’ ณ ตำหนักแห่งนี้เช่นกัน


นอกจากตำหนักสำคัญๆแล้ว จะเห็นมีรูปสัตว์หล่อทองสำริด ในบริเวณพระราชวังนี้ด้วย เช่นด้านหน้าประตู หรือกลางแจ้ง ซึ่งมีความหมายหลากหลาย สัตว์ที่ชาวจีนใช้เป็นสัญลักษณ์แทนจักรพรรดิ์ คือมังกร ตำหนักของจักรพรรดิ์ จะปั้นมังกร 9 ตัว อยู่บนหลังคา ส่วนฮองเฮา ใช้สัญลักษณ์เป็น นกฟินิกซ์




นอกจากนี้ ยังมีสัตว์ที่ชาวจีนให้การนับถือ เช่น
# สิงโตคู่ เพื่อแสดงถึงพลัง อำนาจ ความสง่าผ่าเผย ความสุขสบาย จะตั้งอยู่ตามหน้าประตูทางเข้า ในพระราชวังต้องห้ามมีตั้งอยู่หน้าประตูตำหนักไท่เหอ ตำหนักหยังซิน เป็นต้น โดยตัวผู้อยู่ด้านขวา ตัวเมียอยู่ด้านซ้าย
# กิเลน หมายถึงความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม มีตัวที่ศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ที่พระราชวังต้องห้ามนี้ด้วย
# เต่า แสดงความมีอายุยืน เต่าบรอนซ์ตัวศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่หน้าตำหนักไท่เหอ
# ปี่เซียะ อยู่ที่ประตูชัย ปี่เซียะชอบกินเงินกินทองเป็นอาหาร ไม่มีทวารดังนั้นกินแล้วเก็บอย่างเดียว จึงนิยมกราบไหว้บูชาให้ร่ำรวย
นอกจากนี้ยังมีรูปหล่อสำริดสัตว์โบราณในเทพนิยายอีกด้วย




พระราชวังต้องห้ามนี้มีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 600 ปี มีจักรพรรดิประทับอยู่ ถึง 24 องค์ เพื่อปกครองว่าราชการแผ่นดิน ณ พระราชวังแห่งนี้.... ที่นี่ มีคำตอบหลากหลาย จากประวัติศาสตร์ที่ฝังอยู่ ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกเรียบร้อยแล้ว วันนี้พระราชวังต้องห้ามยังคงเด่นเป็นสง่าใจกลางนครปักกิ่ง และเป็นตัวแทนที่เล่าขานเหตุการณ์ในอดีตในฐานะพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ งดงามและสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก………

(ภาพประกอบ สำเนาจากหนังสือ The Forbidden city)







 

Create Date : 15 มิถุนายน 2550    
Last Update : 15 มิถุนายน 2550 22:12:02 น.
Counter : 4110 Pageviews.  

ปักใจ... ไป... ปักกิ่ง ...(ตอน 2)... ทัวร์ ที่ ไม่ มี ใน โปรแกรม

ตอน ...ทัวร์...ที่ ไม่ มี ใน โปรแกรม...
ที่เที่ยวภาคบังคับของจีน คือ สินค้าต่างๆ เช่นใบชา ครีมไข่มุก บัวหิมะ ผ้าไหม หยก ยาสมุนไพร




งง... งง...อยู่เหมือนกัน ไกด์สาวน้อยชาวจีน น้องฝน
จะพาไปดูผ้าไหมจีนเอย บัวหิมะเอย หยกเอย ไข่มุกเอย ชาเอย ยาสมุนไพรเอย...

เอ๋...ในโปรแกรม ม่ะ เห็น มี

ก็โอเค...สาวน้อยเธอบอกว่า ต้องไปลงชื่อว่าพามาค่ะ ซื้อ ไม่ ซื้อ ก็ไม่เป็นไร เพราะไม่อย่างนั้น เธอจะถูกยึดใบอนุญาต

แวะ...ไปดูผ้าไหมจีน เที่ยวอย่างไม่คิดอะไร ก็ได้เป็นความรู้ดี

มีการจัดต้อนรับอย่างดี พนักงานกระตือรือร้นให้การต้อนรับ มีเจ้าหน้าที่ที่สามารถพูดภาษาไทยได้เป็นผู้นำชม

สถานที่เป็นอาคารใหญ่โต โอ่โถง สวยงาม สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ มีห้องโชว์สินค้าสวยงาม ก้าวเข้าไปในอาคาร ก็จะมีเวลคัมดริ๊งค์ เป็นน้ำชาร้อนๆ...

เจ้าหน้าที่พานำชมผ้าไหมของจีนที่ตัดโชว์เป็นชุดฮ่องเต้ สีเหลืองปักลายมังกร 9 ตัว ชุดฮองเฮา ชุดข้าราชบริพาร ฯลฯ สวยงาม อลังการ์มากมาย น่าสนใจมาก พร้อมอธิบายประวัติต่างๆ จำไม่หวัดไม่ไหว

แล้วพาไปชมแผนกต่างๆ จนถึงห้องหนึ่งเป็นห้องที่สาธิตการทำผ้าห่มผ้าไหมจีน ที่เบาบาง ซับด้วยใยด้ายซ้อนๆกัน โดยแต่ละชั้น ใช้คนดึงสี่มุมให้ขยายจากแผ่นใยเล็กๆ กางออกไปเป็นขนาดผ้าห่มได้โดยไม่ขาด พร้อมให้นักท่องเที่ยวช่วยกันดึง ก็สนุกสนานกันดี แต่พอทราบราคา ก็ต้องสงบกันหน่อย ผืนนึงเป็นหมื่นๆบาทไทย แต่เค๊าบอกว่ามันห่มแล้ว หน้าร้อนก็เย็นสบาย หน้าหนาวก็อุ่นสบ๊าย สบาย...

กรุ๊ปเราไม่ได้เสียตังค์ซื้อผ้าไหมต่างๆ ไม่ว่าผ้าห่ม หรือผ้าพันคอ หรือ เสื้อผ้า ชุดไหมต่างๆ


ไปดูไข่มุก กันดีกว่าน๊ะ....

เช่นเดียวกัน สถานที่โอ่อ่า สวยงาม ต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างดียิ่ง ก่อนจะเข้าไปดูของสวยๆงามๆ
เจ้าหน้าที่เธอก็พาไปดูหอยที่มีไข่มุก ตัวเป็นๆ
...เอาละ...เชิญเลือกเลยค่ะ จะเอาหอยตัวไหน
เธอก็ตักตัวนั้นขึ้นมาโชว์....ทายซิคะ หอยตัวนี้ มีมุกกี่เม็ด...?????

1…2…3…4…5…6…7…8…9…10….??????

แล้วเธอก็ทำการแกะหอยตัวนั้น....โชว์นักท่องเที่ยว ให้ช่วยกันนับ
โอ้โฮ นับได้เกือบสามสิบเม็ด ค่ะ ว่าแล้วเธอก็แจกมุกนั้นแก่นักท่องเที่ยวให้เป็นที่ระลึก

มุกนี้ ไม่สวย ไม่กลม ไม่มีรูปทรงแน่นอน ก็ได้มากันคนละ 2-3 เม็ด




แล้วเธอก็เชิญเข้าไปดูมุกสวยๆจนละลานตาด้านในซึ่งมีสินค้ามุกตั้งโชว์ทั้งอาคาร มีทั้งสร้อย แหวน ตุ้มหู เข็มกลัด สารพัดเครื่องประดับที่ทำด้วยมุก เม็ดใหญ่เป้งๆ หลากสี ทั้งฟ้า เทา ขาว ชมพู สนนราคาก็ได้แต่ชมๆ ไม่บังอาจซื้อได้เลย เพราะราคาแพงมากมาย

ที่เพื่อนในกลุ่มสนใจ คือ ซื้อครีมไข่มุกหน้าเด้งอ่ะคะ...ป่าน ฉะนี้ หน้าเธอเด้งดึ๋งดั๋ง หรือเปล่า ไม่ได้ติดตามผลค่ะ ส่วนเรา หน้าไม่ต้องพึ่งครีม หน้าหมูเด้งอยู่แล้วอ่ะ

ยังมี หยก อีกค่ะ ที่ไปดู....



น่าสนใจมาก เพราะหยกของจีนมีชื่อเสียงของโลก มีหลากสี ละลานตา แกะสลักทั้งก้อนขนาดยักษ์เป็นรูปต่างๆที่สวยงาม ประณีต ละเอียด อ่อนช้อย ไปจนถึงงานชิ้นเล็กๆละเอียดจิ๋วๆ เค๊าทำได้อย่างไรอ่ะ... รวมถึงการนำมาเป็นเครื่องใช้ เครื่องประดับ สวยงาม ทั้งกำไล แหวน สร้อย จี้ ตุ้มหู พวงกุญแจ มากมายสารพัดรูปแบบ ต้องค่อยๆใช้เวลาชื่นชม พิจารณาศิลปะหยก เพราะสวยมากมายจริงๆ สลักเป็นดอกไม้พริ้วไหวด้วยหินอ่ะนะ ฯลฯ

มีห้องแสดงสินค้าเป็นส่วนๆในอาคารทั้งอาคารที่กว้างขวางใหญ่โต ลูกค้านักท่องเที่ยวแน่นมาก ถ้าจะดูแบบละเอียดคงต้องใช้เวลาอยู่ที่นี่เป็นวัน พวกเราจะต้องไปเที่ยวที่อื่นอีกหลายแห่ง ไปกันดีกว่านะจ๊ะ ไม่มีใครซื้อหยกติดไม้ติดมือมาสักคน....

ต่อไปก๊อไปเจี๊ยะเต้...หอม หอม....

อืมส์ส์...ไม่เคยเจี๊ยะชาแบบเอาจริงเอาจัง ไม่เคยรู้เรื่องชาสารพัดมาก่อน ก็จะได้รู้จักชา และ สรรพคุณของชากันคราวนี้แหละ...ไปถึงก็ได้รับการต้อนรับแบบเชิญเข้าห้องสาธิตการชงชา เป็นห้องเล็กห้องน้อย ห้องใหญ่ตามจำนวนนักท่องเที่ยวแต่ละกรุ๊ป




แล้วก็มีสาวน้อยชาวจีน แต่งชุดจีนหน้าตาน่ารักมาก พูดภาษาไทยไพเราะมาก และใช้คำพูดที่น่าฟัง มีลูกอ้อน ยิ้มแย้มแจ่มใส แค่นี้ก็เทใจให้เธอไปเต็มร้อยแล้ว

เธอสาธิตการชงชา อธิบายสรรพคุณของชาชนิดต่างๆ เช่น ชาหิมะ ใช้ดื่มเพื่อลดไข้ แก้เจ็บคอ
ชาผู่เอ่อ รักษาโรคความดันโลหิตสูง
ชาตงฟังเหมยเหยิน ใช้บำรุงเลือด
ชามะลิ ช่วยรักษาอาการร้อนใน เป็นต้น

เธอเล่าถึง ความหอมหวาน สถานที่ปลูก ฤดูกาลเก็บ วิธีการเก็บ อายุ ฯลฯ จำไม่หวัดไม่ไหว และท้ายสุดก็ให้คณะนักท่องเที่ยวชิมชาต่างๆ ชิมจนไม่รู้รสแหละ ปนเปกันไปหมด ...

เช่นกัน ชาชนิดต่างๆ นี้แพงมาก ยิ่งปฏิเสธ เธอยิ่งลดราคา บวกของแถมให้ แต่ก็ไม่ได้ซื้อกัน (แพงอ่ะนะ)

ขาดไม่ได้...บัวหิมะ...แน่นอนต้องถูกพาไป...

ที่นี่เป็นบริษัทขายยาหลายชนิด พนักงานต้อนรับพาไปเข้าห้องสาธิตอีกแหละ...รายการโชว์มือนาบเหล็กเผาไฟแดงๆ แล้วทาด้วยบัวหิมะสักพักก็หาย ทำนองนี้

เราสังเกตุดู พรีเซ้นท์เตอร์แอบทำหน้าตาเจ็บปวดเหมือนกันนะเวลาเอามือนาบเหล็กเผาไฟนี่ มือนะไม่ใช่เหล็กไหล แล้ว ฮี ก้อส่งมือมาให้เราสัมผัส มือด้านทีเดียว ที่นี่ใช้เวลาไม่นานนัก เพราะบัวหิมะรู้จักกันดีแล้ว
สำหรับแก้แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ฮ่องกงฟุต โรคลมพิษ ริดสีดวงทวารหนักข้างในหรือข้างนอก บำรุงผิวหนังและทำให้ผิวพรรณขาวขึ้น แก้ยุงกัดหรือแมลงกัด ก็ซื้อกันมาคนละกระปุกสองกระปุก เป็นของฝาก

ส่วน กอเอี๊ยะ ระงับปวด แก้อาการอักเสบ รูมาติชั่มปวดตามข้อ ปวดเอว ปวดกล้ามเนื้อ ปวดเมื่อยต่างๆ
และยาอย่างอื่น พวก บำรุงเลือด บำรุงไต ดีหมี บำรุงตับบำรุงกระเพาะ ขับลม บำรุงกระดูก สารพัดจะบำรุง ไม่มีใครซื้อ .....


ไปเดินชม พระราชวังฤดูร้อนอันกว้างใหญ่ และ พระราชวังต้องห้าม มาแล้วววว....ปวด เมื่อย แน่นอน
น้องฝนเธอจัดพาไปทัวร์ที่สถาบันวิจัยสมุนไพรแสเหอแห่งประเทศจีน


เข้าไปในมหาวิทยาลัย จนไปถึงอาคารสมุนไพร เป็นอาคาร สร้างสวย แวดล้อมด้วยต้นไม้สมุนไพรร่มรื่น ได้รับการต้อนรับที่ดีเช่นกัน

พาเข้าไปให้ห้องรับรองเพื่อทำการนวดเท้า ประคบด้วยสมุนไพร คลายความปวดเมื่อย เป็นการเวลคัมใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง

เมื่อเสร็จสิ้นการนวดเท้า ได้มีแพทย์จีนพร้อมล่าม เข้ามาทำการตรวจร่างกายลูกทัวร์ในห้อง โดยการแมะทีละคน พร้อมให้แลบลิ้นปลิ้นตา แล้วแจ้งอาการของแต่ละคน ส่วนใหญ่ก็จะตรง ซึ่งตรงนี้เป็นจิตวิทยาอันสูง ที่คณะเราทุกคนได้เสียตังค์กันทั่วหน้าเพื่อซื้อยาแสนแพงกลับบ้านคนละกล่องสองกล่อง เป็นการให้รางวัลกับชีวิตของตนเอง



เราถูกแมะเป็นคนสุดท้าย ได้โรคมา 2 โรค คือ มีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย และ เป็นโรคเหน็บชา ...ก็จริงนะเพราะผ่าตัดมาแล้ว แต่ยาแพงจัง กล่องละสองพันห้าร้อยบาท รับรูดบัตรเครดิต...

คุณหมอ ข ร า... เอาโรคเดียวล่ะค่ะ...ก็คือ มองซ้าย เพื่อนก็ซื้อ มองขวา เพื่อนก็ซื้อ เกรงใจจัง...เมื่อกลับมาบ้านก็ตั้งแหมะอยู่บนโต๊ะอาหาร พร้อมทั้งท่องว่า แพงนะ เป็นการซื้อยาทานเองที่แพงที่สุดในชีวิต เพื่อสุขภาพนะ ทานให้หมดนะจ๊ะ .... ตอนนี้ยังไม่หมดเลยอ่ะ....


ก็ถือว่าทัวร์ที่ไม่มีโปรแกรมนี้ ได้ที่ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ซึ่งโดยส่วนตัว คิดว่า กระบวนการท่องเที่ยวของจีนนี้ รัฐบาลมีบทบาทที่ดีเยี่ยมในการให้ความสนใจควบคุมดูแล และสนับสนุนสินค้าจีนอย่างเต็มรูปแบบ มีสถานที่อย่างดี ให้การส่งเสริมสินค้าโอทอป ไม่ว่าจะเป็นยาสมุนไพร ไข่มุก ชา ผ้าไหม บัวหิมะ หยก ฯลฯ รวมถึงไกด์ก็จะต้องเป็นคนจีนเท่านั้น ซึ่งได้กำหนดบังคับไว้ในโปรแกรมการท่องเที่ยวทุกคณะที่เข้าสู่ประเทศจีน จะต้องพานักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชม และมีวิธีการทางจิตวิทยาที่จะโน้มน้าวชักจูงให้นักท่องเที่ยวซื้อสินค้า เป็นการส่งเสริมสินค้าโอทอปของจีนสู่นักท่องเที่ยวได้ร้อยเปอร์เซนต์ ซึ่งสามารถทำรายได้อย่างมหาศาลเข้าสู่ประเทศ...

น่าสนใจ นำนโยบายเช่นนี้มาใช้กับสินค้าโอทอปของไทยบ้างนะ....




 

Create Date : 09 มิถุนายน 2550    
Last Update : 9 มิถุนายน 2550 15:07:33 น.
Counter : 1243 Pageviews.  

ชวน ช้อป...ช้อป...ที่ดูไบ

มี ทอง ชุก ชุก...ให้ ช้อป...ที่ตลาด โกลด์ซุก (ซุก แปลว่า ตลาด)font>



เหลืองอร่ามงามจับตา...



แขวนโชว์ ระย้า ระยิบ...



"กำไล" จาก Window Shop



...
ได้ "กำไร" ไม่ต้องเสียตังค์




จะเหมาโหลมั๊ยเจ้าคะ...





บางร้านก็ขายเพชร โชว์รูมเพชร มีเพียงกระจกกั้น




ชอบเส้นไหน ช้อป ได้เลย



ระยิบ ระยับ...ไม่ต้องใช้แฟลช



ซั๊ก กี่ กะรัต หนอ....



จาก โกลด์ซุก ไปช้อปวิวที่โรงแรมเรือใบ ซึ่งหรูและแพงสุด สุด...นักช้อปอย่างเรา ก็เพียงได้ถ่ายรูปอยู่หน้าประตูโรงแรม พอดีมีการขนส่งรถ เบนซ์สปอร์ต...มาส่งให้ลูกค้าที่หน้าโรงแรมพอดี...





นักท่องเที่ยวสนใจดูและถ่ายรูปกันใหญ่เลย



ประตูแบบปีกนก...เบาะภายในสีแดง แจ๊ด จ๊าด



ราคาสักเท่าไรเอ่ย...



ชวนช้อปเล็กๆน้อยๆ แต่เพียงเท่านี้จ้า ...




 

Create Date : 16 เมษายน 2550    
Last Update : 16 เมษายน 2550 23:41:30 น.
Counter : 4145 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

Ricola ร่าเริง
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





























/* This script has been disabled for Netscape 6 due to ugly scrollbar activety. Could probably be fixed with a clipped container div but can't be bothered. */ if (!isNetscape6){ num=5; //Smoothness depends on image file size, the smaller the size the more you can use! stopafter=240; //seconds!
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Ricola ร่าเริง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.