Welcome to Ricola ร่าเริง Bloggang
เยือนจีนครั้งที่ 4....>>> ฉงชิ่ง-ง้อไบ๊-เฉินตู-จิ่วไจโกว-หวงหลง <<< ตอนที่ 1

ตอนที่ 1 ::เหิรฟ้า จาก ดอนเมือง สู่ มหานคร ฉงชิ่ง...::




ไปเที่ยวเมืองจีนครั้งนี้ ได้ไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง.... เพื่อเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเซีย....

 นัด ตี 4...เป็นทริปที่โหดมากตั้งแต่เริ่มเดินทางเลยทีเดียว.... เพราะเวลาออกของเครื่อง ไม่สวยเอามากๆ... คืนนั้น นอนแต่หัวค่ำก็ไม่หลับ ต้องตื่นมาเตรียมตัว ตี 2 ... ออกจากบ้าน ตี 3 เพื่อให้ถึงดอนเมือง ตี 4....ทั้งๆที่บ้านอยู่ห่างจากสุวรรณภูมิ เดินทาง 15 นาทีเอง....



ไหน ไหน ก็ ไหน...ก็มีโอกาสได้ใช้บริการสำรวจห้องน้ำหรู...



จากนั้นก็เหิรฟ้าสู่ มหานครฉงชิ่ง



ตามโปรแกรมทัวร์แจ้งว่ามีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง....
โดยทัวร์จัดเงินให้ซื้ออาหารบนเครื่อง สำหรับ เที่ยวไป และ เที่ยวกลับ... คนละ 300 บาท ก็เลือกเมนู แซนวิช และ น้ำโค๊ก ได้ในราคา 150 บาท พอดี เป๊ะๆๆๆ....



ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง...ถึง สนามบินฉงชิ่ง



“ฉงชิ่ง” เดิมเป็นเมืองเอกที่ขึ้นกับมณฑลเสฉวน แต่ด้วยชัยภูมิที่ตั้งที่เหมาะสม และเป็นเมืองที่มีประชากรอยู่เป็นจำนวนมาก (ปัจจุบันมีกว่า 30 ล้านคน) ในปี ค.ศ.1997 รัฐบาลจีนได้ประกาศยกฐานะฉงชิ่งเป็น 1 ใน 4 มหานครของเมืองจีน



นอกจากฉงชิ่งแล้ว ก็มี เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และ เทียนสิน ขึ้นต่อรัฐบาลกลางจีนโดยตรง นั่นจึงทำให้ฉงชิ่งมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว กลายเป็นมหานครใหญ่อันดับต้นๆ ที่มีฐานะและความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจดีเยี่ยม อีกทั้งยังเป็นฮับสำคัญที่จะเชื่อมโยงไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และเมืองใหญ่ๆ ของจีนตอนล่าง



จะว่าไป...ก็นับเป็นโอกาสดีเหมือนกัน ที่ได้มาเยือนฉงชิ่ง....มหานครที่เต็มไปด้วยแสง สี เสียง ความเจริญรุดหน้า ตึกระฟ้ามากมาย การคมนาคมรถไฟฟ้า ใต้ดิน บนดิน ผู้คน ขวักไขว่....แออัด....



กรุงเทพมหานครของเราเป็นน้องๆไปเลย...เมื่อเทียบกับมหานครฉงชิ่ง



ย่านธุรกิจของฉงชิ่ง...เดินไม่หวัดไม่ไหว ทั้งเมื่อย และ หนาวมาก (ต้นเดือนพฤศจิกายน)



เช้าวันแรก...เดินทางสู่ เมืองเอ๋อเหมยซาน(ง้อไบ๊) เพื่อสักการะ พระโพธิสัตว์ผู่เสียน(สมันตภัทร) ณ วัดเป้ากว๋อ ซึ่ง เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมานาน ตั้งอยู่ที่เขาง้อไบ๊ ....



เมืองเอ๋อเหมยซาน ( ง้อไบ๊ ) เปรียบเสมือนกับประตูสวรรค์ก่อนที่จะขึ้นไปสู่ยอดเขาเอ๋อเหมยซาน เอ๋อเหมยตามตำนานแปลว่า คิ้วโก่ง เพราะทิวเขามีลักษณะเหมือนคิ้ว นักพรตในลัทธิเต๋าเริ่มเข้ามาสร้างศาลเจ้าในเทือกเขาแห่งนี้
ดูจากแผนภูมิเส้นทางขึ้นเขาง๊อไบ...ได้แต่เข่าอ่อน...เมื่อเห็นรูป ไกด์บอกมีรถขึ้น และ มีกระเช้าไฟฟ้าถึง.....



การเดินทางขึ้นไปมนัสการพระโพธิสัตว์ที่นี่นั้น จะต้องไปขึ้นรถท้องถิ่นที่ทางวัดจัดไว้เท่านั้น เพราะเทือกเขาสูงชัน ต้องคนขับชำนาญเส้นทาง และทางการจีนส่งเสริมการท่องเที่ยว และจัดระบบดีมาก....(ทุกอย่างดี ยกเว้นห้องน้ำ สุดยอด...ได้เข้าห้องน้ำถึงเมืองจีนจริงๆก็ทริปนี้)



สภาพรถดี เป็นรถโค้ชปรับอากาศขนาดเล็ก... นักท่องเที่ยวเดินทางมาที่นี่ เยอะมาก รอคิวนานเป็นชั่วโมงเหมือนกัน



สภาพเส้นทางคดเคี้ยว วก วน ไต่ขึ้นยอดเขาจินติ่ง.... ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 3,077 เมตร ท่ามกลางทิวทัศน์อันสลับซับซ้อนไปด้วยขุนเขาเหนือชั้นเมฆที่สวยงามดุจดั่งสวรรค์



เมื่อวาน ซึ่งเป็นวันเดินทางมา แล้วอดนอน... วันนี้ นั่งรถไกลจากฉงชิ่ง ทาง วก วนมาก แต่... เพิ่งเป็นทัวร์วันแรก ยังไม่อ้วก ยังไม่เมารถ...



รถมาจอดส่งที่นี่ ลานจอดรถกว้างใหญ่.....



แต่...รถมาส่งแค่เชิงเขาจินติ่งเท่านั้น!!!!!!
ต้องเดินเท้าขึ้นไปบนยอดเขา.......สูงแค่ไหนไม่รู้ จะไหวไหมนี่......ไม่ได้เตรียมตัวมาไต่เขาแบบนี้เลย...ขาไม่ดี...สภาพร่างกายไม่พร้อม... พักผ่อนไม่พอเพียง ซื้อไม้ไผ่มาช่วยพยุง ยัน ยามก้าวเดิน...



มีบริการแบกเสลี่ยงขึ้น และ ลง ... ราคาเที่ยวละประมาณ 800 บาท
ถามไกด์บอกเดินขึ้นไม่ไกล....เลยตัดสินใจเดินขึ้นเอง....นับเป็นการตัดสินใจที่ผิดมากกกกๆๆๆๆๆๆ



สองข้างทางชุ่มชื้น เต็มไปด้วยไม้สนและเฟิร์น



มีใบชาสมุนไพรชนิดต่างๆขาย...ใบชาหงจิ่งเทียน เพิ่มออกซิเจนในกระแสเลือด...ซึ่งไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ จึงไม่ได้สนใจถามรายละเอียด พลาดไปอีกแล้ว.....



เจ้าถิ่นตัวโต... มานั่งกินอาหาร ผลไม้ที่นักท่องเที่ยวโยนให้...



เดินขึ้นไปเรื่อยๆ ดูวิว ธรรมชาติ สองข้างทางที่สวยงาม นักท่องเที่ยวทั่วไปใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 45 นาที



ในที่สุด....ถึงที่นี่!!!!!......แต่ไม่ใช่ที่สุด................
แค่เป็นสถานีไปขึ้นกระเช้าไฟฟ้าไปที่ยอดเขาสูงเทียมเมฆอีกทอด....จากที่นี่ ไม่สามารถมองเห็นยอดเขาได้เลย......!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!



ต่อคิวไปขึ้นกระเช้าไฟฟ้านานมากเหมือนกัน ระหว่างขึ้นกระเช้าไฟฟ้า มองไม่เห็นอะไรเลย เต็มไปด้วยละอองหมอกขาวโพลน....



และมาออกที่นี่...เป็นจุดที่จะมารับประทานอาหารกลางวันกัน...มีภัตตาคารบริการนักท่องเที่ยว....
ถึงที่นี่ ...ก้าวขาไม่ออกแล้ว.....



มองจากหน้าภัตตาคาร เห็นองค์พระโพธิสัตว์ไกลๆ...ต้องเดินไต่เขาขึ้นไปอีกช่วง.....
ก้าวขาไม่ออก...ไม่สามารถเดินขึ้นไปมนัสการพระโพธิสัตว์ได้ใกล้ชิด จึง ขอกราบมนัสการ โปรดประทานพรเพื่อความศิริมงคลแก่ลูก ณ ที่ตรงนี้...
เอ๋อเหมยซานเป็น 1 ใน 4 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา (เอ๋อเหมยซาน, อู่ไถซาน, จิ่วหัวซาน, ผู่ถัวซาน) มีประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับพุทธศาสนามากว่า 2,000 ปี อีกทั้งยังเป็นสถานที่ประดิษฐาน พระโพธิสัตว์ผู่เสียน หรือ สมันตภัทร ที่เชื่อกันว่าเป็นเลิศทางจริยาและ มหาปณิธาน พระใหญ่เล่อซานและเขาง้อไบ๊ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม โดยองค์การยูเนสโก ในปี ค.ศ.1966



พระโพธิสัตว์ทองคำ องค์ใหม่สูง 48 เมตร สร้างด้วยสัมฤทธิ์ทั้งองค์ พระโพธิสัตว์องค์ใหม่นี้มี 10 หน้าหมายถึงการบำเพ็ญบารมีตามเสด็จพระพุทธองค์โดยการตั้งปณิธานและการปฏิบัติ 10 ประการ ประดิษฐานอยู่บนหลังคชสาร 6 งา 4 เศียร( คัมภีร์มหายานเรียกว่าช้างฉัททันต์) เพราะถือว่าช้างเป็นสัตว์ที่ทรหดอดทน เป็นการอุปมาอุปไมยถึงการโปรดสัตว์ให้พ้นทุกข์ได้ทั้งหมดว่าเป็นงานที่ยากแสนเข็ญต้องใช้ความอดทนอย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเอาชนะกิเลส และตัณหาของสัตว์โลกทั้งหลายทั้งปวง

ขากลับลง...ยังไงก็ต้องกลับ นิ!!! ...ค่อยๆเดิน เดินลงสบายกว่าขึ้น...ลงมาถึงรถ เป็นคนสุดท้ายในกรุ๊ป...

จากนั้นก็เริ่มเดินทางอันทรหดสู่ เฉินตู ต่อไป .....




:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::




Create Date : 20 มิถุนายน 2556
Last Update : 25 มิถุนายน 2556 22:11:17 น. 0 comments
Counter : 3818 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Ricola ร่าเริง
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





























/* This script has been disabled for Netscape 6 due to ugly scrollbar activety. Could probably be fixed with a clipped container div but can't be bothered. */ if (!isNetscape6){ num=5; //Smoothness depends on image file size, the smaller the size the more you can use! stopafter=240; //seconds!
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Ricola ร่าเริง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.