veritas lux mea = Truth enlightens me
Group Blog
 
All blogs
 
The King of Torts (John Grisham)



โลกปัจจุบันมีอะไรให้เราทำมากมาย เสพย์ภาพยนตร์ ดนตรี และวรรณกรรม แค่สามอย่างนี้ก็มีให้เลือกมากมายจนต่อให้มีอายุยาวพันปีก็ยังไม่หมด ถ้านับค่าความสำเร็จของชีวิตกับการมีการครอบครอง มนุษย์ยังมีกิจกรรมให้เราต้องทำอีกมากมายเลยทีเดียว

ถ้าเราดูเวลาแล้วยี่สิบสี่ชั่วโมงสำหรับคนที่ไม่ทำอะไรเลยก็คิดว่าเยอะ จนต้องหากิจกรรมฆ่าเวลามาทำ แต่จริงๆแล้วมนุษย์เรามีเวลาเยอะจริงๆเหรอ ลองคิดดูตื่นขึ้นมาหกโมงเช้า ไปออกกำลังกายตอนเช้า อ่านนสพ ดูข่าว กินข้าว อาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน ทำงานตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงสี่โมงเย็น กลับมาอาบน้ำ ไปเล่นกีฬา กลับมากินข้าวเย็น ทำงานสักชั่วโมงนึง อ่านหนังสือ สี่ทุ่มไปนั่งดริงค์กับเพื่อนต่อ กลับมาเที่ยงคืนนอนถึงหกโมงเช้า จะเห็นได้ว่าแค่ทำกิจกรรมแค่นี้วันๆนึงก็หมดไปอย่างรวดเร็ว ถ้าคนเคยเล่นเกม เดอะซิมส์จะรู้ดี เพราะมันจะมีหลอดแสดงค่าต่างๆ เช่น สังคม ความสะอาด การพักผ่อน ความหิว ความสนุกเป็นต้น ในแต่ละวันเราต้องสั่งให้ตัวซิมส์ของเราทำกิจกรรมต่างๆมากมายเพื่อให้หลอดพลังต่างๆไม่ต่ำจนเกินไป ไหนจะต้องไปจีบสาว พาสาวไปเดท ไหนจะต้องโทรหาเพื่อน ไหนจะต้องฝึกทักษะต่างๆอีกมากมาย แต่ชีวิตจริงมันซับซ้อนกว่านี้มาก มันจึงต้องการปัญญาที่มากตามไปด้วย มีกิจกรรมสักอย่างหนึ่ง เช่น ไปฟิตเนส แบบนี้ก็พอได้ พอสักสองอย่างเช่น ตีกอล์ฟด้วย ฟิตเนสด้วย ก็เริ่มลำบากและ ถ้าสักสามอย่าง เช่น ตีกอล์ฟ ฟิตเนส นั่งดริงค์ แบบนี้เริ่มหาเวลาไม่ค่อยได้แล้ว จะเห็นได้ว่า แค่จะทำกิจกรรมไม่กี่อย่างมนุษย์ก็เริ่มจะหาเวลาไม่ได้แล้ว ผมจึงไม่แปลกใจที่มองดูคนในสังคมเขาถึงไม่สมบูรณ์แบบ เหมือนพวกเรากำลังขาดอะไรบางอย่างไป บางทีก็รูปร่างไม่ดีเพราะไม่มีเวลาดูแลตัวเอง บางทีก็ไม่รู้เรื่องราวต่างๆเพราะไม่ได้อ่านหนังสือ และความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์อีกมากมาย ที่เป็นเช่นนี้เพราะเวลาของเรามีจำกัดนั่นเอง

การใช้ชีวิตที่พระพุทธเจ้าท่านทรงบอกให้เรามีสติสัมปชัญะนั้น ก็คงเป็นเพราะว่า จิตของเราวิ่งวุ่นวายไปหมด เผลอนิดเดียวมันก็เตลิดไปแล้ว เพราะจิตของเรามันเป็นแบบนี้ เราจึงไม่สามารถวางแผนล่วงหน้าในการทำกิจกรรมต่างๆได้นานนัก ต่อให้เราเป็นอัจฉริยะเพียงใด พอสิ่งต่างๆวิ่งมากระทบ ความสนใจของเราก็จะเปลี่ยนไปในทันที จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะควบคุมจิตใจให้มีสติ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ มันสามารถทำได้โดยการอ่านมากๆ เจอสิ่งต่างๆมากๆ แล้วเราจะมองโลกแบบเป็นเหตุเป็นผล เมื่อใดที่เป็นแบบนี้แล้ว เราก็พยายามเข้มแข็งฝึกควบคุมจิตใจ ให้มีสติ พยายามมองสิ่งต่างๆให้ไกล มีการตั้งเป้าหมายระยะสั้นและเป้าหมายระยะยาว เมื่อเราสามารถทำให้จิตใจของเรามีสติอยู่ตลอดเวลาแล้ว เราก็จะเป็นอภิมนุษย์(แบบที่นิชเช่เคยพูดไว้มั้ง 555)

อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะพูดคือการวางแผน เวลาผมไปนั่งสอบผมทำข้อสอบไม่ได้ เพราะว่าผมไม่ได้อ่าน แต่ถ้าให้ผมไปอ่านก่อนสักสามวันผมก็จะทำได้ เวลาผมไปฟิตเนสผมอยากมีกล้ามเนื้อที่มากกว่านี้ ผมทำตอนนั้นคงไม่ได้ แต่ถ้าให้เวลาสองเดือนผมสามารถทำได้ เช่นกันเวลาผมวิดพื้นแล้วผมวิดได้น้อยถ้าฝืนตอนนั้นต่อให้พยายามแค่ไหนก็จะได้ แต่ถ้าให้เวลาผมฝึกก่อนสักเดือนนึง ผมคงสามารถวิดพื้นได้มากกว่านี้แน่นอน จะเห็นได้ว่าการเตรียมตัวคือสิ่งสำคัญ ชีวิตของคนเราก็เช่นกัน บางทีเราต้องวางแผนเตรียมตัวอย่างยาวนาน ไม่ใช่แค่วันสองวัน หรือเดือนสองเดือน ตอนผมไปเล่นกีต้าฮีโรแข่งกับเพื่อนผมก็เตรียมตัวมา แต่เพื่อนคนนั้นเขาเล่นทุกวันเขาเตรียมตัวมาดีกว่าผม เขาจึงชนะผมไป ผมเจ็บใจกับตัวเองมากคิดว่าถ้าเราเตรียมตัวมาดีกว่านี้เราคงชนะเขาไปแล้ว และบางสิ่งมันไม่ใช่เกมแต่มันคือชีวิตของเรา ถ้าคนคิดว่าเดี๋ยวเอาใหม่ได้ ชีวิตเขาแค่เล่นๆ ไม่ได้จริงจังอะไร เขาก็จะได้แต่ความล้มเหลว ได้แต่สิ่งเล่นๆไม่จริงจังคืนกลับมาเช่นกัน ดังนั้นเราจึงต้องจริงจังกับชีวิตเพราะสิ่งที่ผ่านไปแล้วนั้นคงอยู่ตลอดไป บางสิ่งที่เราไม่ได้เตรียมตัว พอถึงเวลาเราก็จะพบกับควาพ่ายแพ้เป็นธรรมดา อย่างตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัย เราต้องเตรียมตัวกันเป็นปีๆเพื่อให้ได้คณะที่เราอยากเข้า ดังนั้นคนที่ประสพกับชัยชนะในการแสวงหาสิ่งมีค่าต่างๆ ต้องเตรียมตัวให้ดี เพราะสิ่งที่มีค่าคนก็หมายปองมาก แต่ถ้าเราเตรียมตัวมาอย่างดีแล้วแม้แต่เทวดาก็ห้ามเราประสบความสำเร็จไม่ได้ แล้วตอนนี้คุณได้เตรียมตัวสำหรับสิ่งมีค่าที่คุณต้องการหรือยัง ?

มาพูดถึงหนังสือเล่มนี้กันดีกว่า จอน กริแชมนักเขียนนวนิยายแนวลีกัลทริลเลอ ผมชอบงานเขียนของเขามาก ทุกงานล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และพลอตเรื่องของเขาคงเหมาะกับการทำเป็นหนังจึงมีคนเอาไปทำหนังตั้งหลายเรื่อง แล้วก็เป็นหนังดีซะด้วยสิ ถึงแม้อาจจะไม่ได้ทำเงินเยอะ แต่ผมชอบธีมหนังของกริแชมมากๆ อย่างเช่นเรื่อง Runaway Jury และเรื่อง The Rainmaker เป็นต้น หนังสือเล่มนี้เปิดเรื่องมาด้วยมีชายคนหนึ่งอยู่ดีๆก็ไปฆาตกรรมคนอื่น โดยที่ไม่มีแรงจูงใจ หรือไม่น่ามีสาเหตุใดๆเลย กริแชมก็ทำให้เราอยากรู้ตั้งนานว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น อ่านไปอ่านมาสักพักจึงรู้ว่าชายคนนั้นกินยาตัวหนึ่งเข้าไป เป็นยาที่พึ่งมีการใช้ แล้วทนายแสนฉลาดก็เริ่มทำการฟ้องบริษัทยาต่างๆที่มีลักษณะแบบนี้ แล้วเขาก็ร่ำรวยขึ้นทุกวันๆ เหตุการณ์จะจบลงอย่างไร ต้องลองไปอ่านเองครับ


Create Date : 25 กันยายน 2553
Last Update : 25 กันยายน 2553 21:47:47 น. 0 comments
Counter : 1988 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Feynman
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Feynman's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.