วิธีเดินจงกรมภาวนา (ตามแบบพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ)
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโณ (2557 : 11-17) แสดงพระธรรมเทศนาว่า ท่านอาจารย์มั่นกำหนดดูตามอริยประเพณีทราบโดยละเอียดและได้ปฏิบัติตามที่กำหนดทราบแล้วเรื่อยมาคือ การเดินจงกรมท่านสอนให้เดินไปตามตะวัน หรือเยื้องตะวันไปทางทิศเหนือหรือทิศใต้ ท่านว่าการเดินตามตะวันเป็นที่หนึ่งเยื้องตะวันทั้งสองสายเป็นอันดับรองลงมา ส่วนการเดินตัดตะวันหรือไปตามทิศเหนือใต้ไม่เห็นท่านเดินเลย นอกจากไม่เห็นท่านเคยเดินแล้ว ยังได้ยินท่านว่าไม่ควรเดิน
การเดินจงกรมกลับไปกลับมาไม่ช้านักไม่เร็วนักพองามตางามมรรยาท ตามเยี่ยงอย่างประเพณีของพระผู้ทำเพียรท่าเดินในครั้งพุทธกาลเรียกว่าเดินจงกรมภาวนา เปลี่ยนจากวิธีนั่งสมาธิภาวนามาเป็นเดินจงกรมภาวนาเปลี่ยนจากเดินมายืน เรียกว่ายืนภาวนา เปลี่ยนจากยืนมาเป็นท่านอนเรียกว่าท่าสีหไสยาสน์ภาวนา ก่อนเดินจงกรมพึงกำหนดหนทางที่ตนจะพึงเดินสั้นหรือยาวเพียงไรก่อนว่าเราจะเดินจากที่นี่ไปถึงที่นั้นหรือถึงที่โน้นหรือตกแต่งทางเดินจงกรมไว้ก่อนเดินอย่างเรียบร้อยสั้นหรือยาวตามต้องการ วิธีเดินจงกรมผู้จะเดินกรุณาไปยืนที่ต้นทางจงกรมที่ตนกำหนดหรือตกแต่งไว้แล้วนั้นพึงยกมือทั้งสองประณมไว้เหนือระหว่างคิ้ว ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย คือพระพุทธเจ้าพระธรรม และพระสงฆ์ ที่ตนถือเป็นสรณะคือที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวของใจและระลึกถึงคุณของบิดามารดาอุปัชฌาย์อาจารย์ตบอดท่านผู้เคยมีพระคุณแก่ตนจบลงแล้วรำพึงถึงความมุ่งหมายแห่งความเพียรที่กำลังจะทำด้วยความตั้งใจเพื่อผลนั้นๆเสร็จแล้วปล่อยมือลง เอามือขวาทับมือซ้ายทาบกันไว้ใต้สะดือตามแบบพุทธรำพึง เจริญพรหมวิหาร 4 จบแล้วทอดตาลงเบื้องต่ำท่าสำรวม ตั้งสติกำหนดจิตและธรรมที่เคยนำมาบริกรรมกำกับใจหรือพิจารณาธรรมทั้งหลายตามแบบที่เคยภาวนาในท่าอื่นๆเสร็จแล้วออกเดินจงกรมจากต้นทางถึงปลายทางจงกรมที่กำหนดไว้
เดินกลับไปกลับมาในท่าสำรวมมีสติอยู่กับบทธรรมหรือสิ่งที่พิจารณาโดยสม่ำเสมอไม่ส่งจิตไปอื่นจากงานที่กำลังทำอยู่ในเวลานั้น การเดินไม่พึงเดินไกวแขนไม่พึงเดินเอามือขัดหลัง ไม่พึงเดินเอามือกอดอก ไม่พึงเดินมองโน้นมองนี่อันเป็นท่าไม่สำรวม
การยืนกำหนดรำพึงหรือพิจารณาธรรมนั้นยืนได้โดยไม่กำหนดว่าเป็นหัวทางจงกรมหรือย่านกลางทางจงกรมยืนนานหรือไม่ตามแต่กรณีที่ควรหยุดอยู่หรือก้าวต่อไป เพราะการรำพึงธรรมนั้นมีความลึกตื้นหยาบละเอียดต่างกันที่ควรอนุโลมตามความจำเป็นจนกว่าจะเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วก้าวเดินต่อไปบางครั้งต้องยืนพิจารณาร่วมชั่วโมงก็มีถึงจะเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วก้าวเดินต่อไป การเดินกำหนดคำบริกรรมหรือพิจารณาธรรมไม่นับก้าวเดิน นอกจากจะถือเอาก้าวเดินนั้นเป็นอารมณ์แห่งความเพียรก็นับก้าวได้การทำความเพียรในท่าใด สติเป็นสิ่งสำคัญประจำความเพียรท่านั้นๆ การขาดสติไปจากงานที่ทำเรียกว่าขาดความเพียรในระยะนั้นๆผู้บำเพ็ญพึงสนใจสติให้มากเท่ากับสนใจต่อธรรมที่นำมาบริกรรม การขาดสติ แม้คำบริกรรมภาวนาจะยังติดต่อกันไปเพราะความเคยชินของใจก็ตามแต่ผลคือความสงบของจิตจะไม่ปรากฏตามความมุ่งหมาย
การเดินจงกรมจะเดินเป็นเวลานานหรือไม่เพียงไรตามแต่จะกำหนดเองการทำความเพียรในท่าเดินก็ดี ท่ายืนก็ดี ท่านอนก็ดี ท่านั่งก็ดีอาจเหมาะกับนิสัยในบางท่านที่ต่างกัน การทำความเพียรในท่าต่างๆนั้นเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถไปในตัวด้วย ไม่เพียงมุ่งกำจัดกิเลสโดยถ่ายเดียวเพราะธาตุขันธ์เป็นเครื่องมือทำประโยชน์จำต้องมีการรักษา เช่นการเปลี่ยนอิริยาบถท่าต่างๆ เป็นความเหมาะสมสำหรับธาตุขันธ์ที่ใช้งานอยู่เป็นประจำถ้าไม่มีการรักษาด้วยวิธีต่างๆ ธาตุขันธ์ต้องกลับมาเป็นข้าศึกแก่เจ้าของจนได้คือต้องพิกลพิการไปต่างๆ สุดท้ายก็ทำงานไม่ถึงจุดที่มุ่งหมาย ท่านที่เริ่มฝึกหัดใหม่กรุณากำหนดเวลา ในการเดินจงกรมเอาเองแต่กรุณากำหนดเผื่อไว้บ้าง เวลากิเลสตัวร้อยเล่ห์พันลวงมาแอบขโมยเอาสิ่งของ จะได้เหลือคำภาวนาติดตัวไว้บ้าง ขณะเดินจงกรมพึงกำหนดสติกำกับคำบริกรรมให้กรมกลืนเป็นอันเดียวกัน ประคองความเพียรด้วยสติสัมปชัญญะมีใจแน่วแน่ต่อธรรมที่บริกรรม เช่นกำหนดพุทโธให้จิตรู้อยู่กับพุทโธทุกระยะที่ก้าวเดินไปและถอยกลับมาชื่อว่าผู้มีความเพียรในท่านั้นๆ ไม่ขาดวรรคขาดตอนไปในระหว่างตามที่ตนเข้าใจว่าบำเพ็ญเพียรผลคือความสงบเย็น ถ้าจิตไม่เผลอตัวไปสู่อารมณ์อื่นในระหว่างเสียก่อนผู้ภาวนาต้องหวังได้ครองความสุขใจในขณะนั้นหรือขณะใดขณะหนึ่งแน่นอนข้อนี้กรุณาเชื่อไว้ก่อนก็ได้ว่าพระพุทธเจ้าและครูอาจารย์ที่ท่านสอนจริงๆด้วยความเมตตาอนุเคราะห์ ท่านไม่โกหกให้เสียเวลาและเปล่าประโยชน์แน่นอนก่อนท่านจะได้ธรรมมาสั่งสอนประชาชนท่านก็คือผู้ล้มลุกคลุกคลานมาด้วยความลำบากทรมานผู้หนึ่งก่อนเราผู้กำลังฝึกหัดจึงไม่ควรสงสัยท่านว่าเป็นผู้ล้างมือคอยเปิบมาก่อนท่าเดียวไม่ลงทุนลงรอนมาก่อน
ทุนของพระพุทธเจ้าก็คือความสลบไสลไปสามหนทุนของพระสาวกบางองค์ก็คือฝ่าเท้าแตกและเสียจักษุไปก็มีต่างๆ กันแต่ได้ผลที่พึงใจทั้งเลิศประเสริฐทั้งอัศจรรย์เหนือโลกเป็นเครื่องสนองตอบแทนสิ่งที่เสียไปเพราะความเพียรอันแรงกล้านั้นๆ ท่านข้ามโลกไปได้โดยตลอดปลอดภัยไร้ทุกข์ทั้งมวล... ควรฝึกหัดคิดอ่านตัวเองบ้างในขณะที่พอคิดได้อ่านได้เมื่อเข้าสู่ที่คับขันและสุดความสามารถจะดิ้นรนได้แล้วไม่มีใครสามารถเข้าไปนั่งทำบุญให้ทานรักษาศีลทำสมาธิภาวนาอยู่ในกองฟืนกองฟอนในเตาแห่งเมรุได้เห็นมีแต่ไฟทำงานแต่ผู้เดียวจนร่ากายเป็นเถ้าถ่านไปถ่ายเดียวเท่านั้นเราเคยเห็นอยู่ต่อหน้าต่อตาด้วยกัน ซึ่งควรสลดสังเวชและน่าฝังใจไปนาน
การเดินจงกรมนั่งสมาธิภาวนา คือ การกลั่นกรองหาสิ่งที่เป็นสารคุณในตัวเราซึ่งเป็นงานสำคัญและมีผลเกินคาดยิ่งกว่างานอื่นใด จึงไม่ยอมให้กิเลสตัณหาอวิชชามาหลอกเล่นให้เห็นเห้นงานลิ่ลวงล่มจมป่นปี้ไม่มีชิ้นดี... การกลั่นกรองจิตด้วยสมาธิภาวนาก็คือการกลั่นกรองตัวเราออกเป็นสัดเป็นส่วนเพื่อทราบว่ากันไหนจริงอันไหนปลอมอันไหนจะพาให้เกิดทุกข์ อันไหนจะพาให้เกิดสุขอันไหนจะพาไปนรก อันไหนจะพาไปสวรรค์ และอันไหนจะพาไปนิพพานสิ้นทุกข์ทั้งมวลนั้นเอง การกำหนดจิตตั้งสติในเวลาเดินจงกรมกรุณาทำเป็นล่ำเป็นสันสมที่เจตนามุ่งหน้าหาของดีการเดินจงกรมภาวนาเป็นการแสวงหาของดีที่ถูกทาง ไม่มีข้อควรตำหนินักปราชญ์ชมเชยกันทั่วโลก ควรพยายามทำจิตใจให้สงบในเวลานั้นจนได้ อย่าสักแต่ว่าทำจะเห็นความประเสริฐอัศจรรย์ของตัวเอง... การเดินจงกรมจึงเป็นวิธีหนึ่งที่จะสามารถทำกิเลสให้หลุดลอยออกจากใจได้เช่นวิธีทั้งหลายมีการนั่งสมาธิภาวนาเป็นต้น จึงควรสนใจฝึกหัดทำแต่บัดนี้เป็นต้นไป... เอกสารอ้างอิง : หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน, สมาธิภาวนา. กรุงเทพมหานคร : บริษัทศิลป์สยามบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ จำกัด, 2557.
----------------------------------------------------------
Download : หนังสือวิธีเดินจงกรมภาวนา-นั่งสมาธิภาวนา โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน (PDF) (9.18 MB)
หรือ Download ที่นี่ : Download : หนังสือวิธีเดินจงกรมภาวนา-นั่งสมาธิภาวนา โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน (PDF) (9.18 MB)
เอกสารอ้างอิง : หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน (2554). วิธีเดินจงกรมภาวนา-นั่งสมาธิภาวนา (ออนไลน์). แหล่งที่มา : //www.mediafire.com/view/?bfg5vpffvv4nlsb. วันที่สืบค้น 07 สิงหาคม 2555.
----------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------
Create Date : 22 ตุลาคม 2557 | | |
Last Update : 27 ตุลาคม 2557 8:56:07 น. |
Counter : 6306 Pageviews. |
| |
|
|
|