ความทรงจำบาง ๆ ที่สุขเศร้า ยามรำลึกถึงในบางช่วงเวลา
Group Blog
 
All Blogs
 
โค้วอึ้ม หรือ ป้าโค้ว คนธรรมดาที่ไม่สามัญธรรมดา

นานหลายปีแล้วที่อยากจะเขียนเรื่องนี้จากความทรงจำ จำภาพหญิงมีอายุ เชื้อชาติจีน สัญชาติจีนได้เมื่อวันที่ไปเยี่ยมแกตอนหัวค่ำ ที่บ้านห้องแถวหลังโรงภาพยนตร์โอเดียน หรือที่เรียกว่า บ้านให้เช่าคุณพระ(เสน่หามนตรี) แม่ให้เรียกแกว่า โค้วอึ้ม หรือ ป้าโค้ว จำได้ว่าทะเลาะแย่งของเล่นตุ๊กตารูปเป็ดหรือไง ไม่แน่ใจนัก กับลูกชายของแก แล้วแกมาห้ามไม่ให้ลูกแกทะเลาะกับเราแต่ก็ยังทะเลาะกันประสาเด็ก จนกระทั่งกลับบ้านในเวลาต่อมา

แม่เล่าให้ฟังว่า สามีแกเป็นหมอจีนรักษาโรคทั่วไป แต่ถูกยิงเสียชีวิตในตอนค่ำวันหนึ่ง ในสมัยพ่อกับแม่ไปอยู่บ้านให้เช่าละแวกเดียวกันในสมัยก่อน ตำรวจสันนิษฐานว่า เป็นการยิงผิดคน ตอนนั้นยังเล็ก ๆ อยู่มาก จำความอะไรไม่ได้ ตั้งแต่นั้นแกก็เลี้ยงดูลูกชายตลอดมา ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงที่ไปขอมาจากครอบครัวคนจีนที่กรุงเทพฯ แห่งหนึ่ง (เป็นวัฒนธรรมคนจีนแต่ก่อน ที่จะต้องมีลูกชายไว้สืบแซ่(สายสกุล) และลูกเลี้ยงของแกก็เคยไปพบกับพ่อแม่ที่แท้จริงเมื่อตอนวัยรุ่น แต่ก็อยู่อาศัยกับพ่อแม่ที่แท้จริงพร้อมกับพี่น้องด้วยกันได้ไม่นาน จำได้ว่าไม่กี่เดือน ก็กลับมาอยู่ที่หาดใหญ่อีกครั้ง เพราะขาดการติดต่อและสายสัมพันธ์เครือญาติ รวมทั้งความเอาใจใส่ที่แกรักเหมือนลูกแท้ ๆ ไม่ได้ ตอนนี้เปิดร้านค้าในหาดใหญ่เกี่ยวกับการ ให้เช่า บูชา พระพุทธรูป

มีช่วงหนึ่ง แม่ต้องไปผ่าตัดต่อมไทรอยด์ที่โรงพยาบาลสงขลา และพ่อต้องไปเฝ้าคนไข้ โค้วอึ้ม ก็มาดูแลที่บ้านทุก ๆ วัน อย่างเป็นห่วงเป็นใย เหมือนกับญาติสนิท แม้ว่าที่บ้านจะมีพี่ชายและพี่สาวดูแลน้อง ๆ กันอยู่ แต่ก็มีความอบอุ่นใจที่มีผู้ใหญ่มาดูแลและถามไถ่ตลอดเวลา จนกระทั่งแม่กลับจากโรงพยาบาลมาอยู่บ้านและหายเป็นปกติ

จำได้ช่วงหนึ่ง กับพี่ชาย ลงทุนกับเพื่อน ๆ ที่บ้านพักรถไฟหาดใหญ่ เลี้ยงเป็ด โดยไปซื้อลูกเป็ดมาจากตลาดตัวละสองสลึง เลี้ยงกว่าสิบเดือน(อัตรารอดน้อยมาก สิบตัวรอดไม่ถึงครึ่ง เพราะยังไม่รู้จักวัคซีน หรือการเลี้ยงดูที่ดีแต่อย่างไร) อาหารก็ใช้เศษข้าวจากบ้าน หรือ จอกแหนบางครั้งก็รำข้าว ที่รั่วและหล่นอยู่ตามพื้นโกดังรถไฟรอบนอก(ใกล้กับสะพานลอยข้ามทางรถไฟ) คนงานหรือเจ้าหน้าที่รถไฟแถวนั้นก็ไม่มายุ่งหรือห้ามปราม เพราะเห็นว่าเป็นลูกหลานคนรถไฟด้วยกัน ก็ช่วยกันโกยใส่ถุงมาจากโกดังรถไฟหาดใหญ่มาผสมเศษอาหารเลี้ยงเป็ด

ปลายปีก็มีคนจีนมาซื้อเป็ดไปขายต่อก่อนไหว้ตรุษจีน จำได้ตัวหนึ่งไม่เกินกว่าสิบห้าบาท ก็ดีใจมากแล้ว เลี้ยงอยู่ประมาณสองหรือสามรุ่น บ้านพักรถไฟแถวนั้นต้องรื้อถอน ย้ายไปที่อื่น (ช่วงนั้นเป็ดอายุประมาณหกเดือนแล้ว) จึงต้องนำเป็ดส่วนที่เลี้ยงไว้แถวบ้านพักรถไฟกลับมาที่บ้าน ตอนค่ำต้องเอาไปไว้ในห้องน้ำ กลัวขโมยมาลักไป เลี้ยงอยู่ประมาณอาทิตย์ แม่เลยขอให้ไปให้โค้วอื้มเอาไปเลี้ยงดีกว่าและแกจะได้ขายตอนตรุษจีนด้วย แกก็รับไปด้วยความเต็มใจ ช่วงวันไหว้ตรุษจีน แกก็เอาเป็ดที่ฆ่าแล้วและทำพะโล้มาให้ที่บ้านจำนวนสองตัวจากหกตัว เรากับพี่ชายหุ้นกันเลี้ยงต่างกินกันไม่ลงเพราะสงสารและนึกถึงวันที่ผูกพันกับมันมากว่าหกเดือนแล้ว

สมัยก่อน ที่บ้านตอนตรุษจีนหรือสารทจีน จะมีการซื้อไก่บ้านมาฆ่ากันหลังบ้าน ดูไก่ถูกเชือดคอและวิ่งพล่านกว่าจะตายก็หลายปี และที่บ้านก็ไม่มีพี่น้องคนไหนกล้าฆ่าไก่สักคนรวมทั้งพ่อกับแม่ด้วย ทุกครั้งต้องไหว้วานให้คนงานของพ่อมาฆ่าไก่ให้ และยังต้องยุ่งกับการถอนขนไก่ ต้มไก่ กว่าจะได้ไหว้ก็ปาเข้าไปครึ่งคืนแล้ว จนหลายปีต่อมาจำได้ว่า ที่บ้านเริ่มซื้อไก่ที่มีคนรับทำสำเร็จรูปมาขายให้ ก็เลยซื้อไก่ประเภทนั้นมาไหว้เจ้าแทน จำได้ปีนั้นเป็นปีสุดท้ายที่ โค้วอึ้ม มาถามแม่ว่าปีนี้จะซื้อไก่บ้านมาฆ่า แล้วไหว้เจ้าหรือไม่ แม่บอกว่า ปีนี้คงไม่แล้วเพราะพี่ชายก็ไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ กับ ปีนังค์แล้ว ส่วนที่บ้านก็อยู่กันน้อยกว่าเดิมมาก ซื้อที่เขาทำไว้สำเร็จรูปง่ายกว่า และช่วงนั้นพ่อก็ไปทำงานรับเหมาก่อสร้างที่ลพบุรี คนงานที่มาฆ่าไก่ให้ทุกปีก็ตามไปทำงานกับคุณพ่อที่นั่น เลยมาไม่สะดวก จำได้ โค้วอึ้ม ซึมไปเล็กน้อย เลยถามแม่ว่า ทำไมไม่ช่วยแกซื้ออีก แม่ก็บอกถึงความจำเป็นที่มี และบอกว่า คงไม่เป็นไรหรอก เพราะไก่ขายช่วงตรุษจีน ได้ราคาดีกว่าอยู่แล้ว เพียงแต่แกมาขายหลายปีแล้วจนกระทั่งชินว่า ที่บ้านจะต้องเป็นคนซื้อแกเจ้าแรกทุก ๆ ปีและที่บ้านก็ซื้อพวกธูปเทียน กระดาษไหว้เจ้าของแกเป็นประจำอยู่แล้ว แม้ว่าจะมีเจ้าอื่นขายถูกกว่าก็ตาม (ไก่ของโค้วอึ้ม แกจะเลี้ยงไว้ในคอกตับ ใส่ช่องละตัวไว้ในหลังบ้าน โดยซื้อมาขุนก่อนตรุษจีนประมาณสองถึงสามเดือนเป็นประจำ ถ้าจำไม่ผิด) จำได้ว่า เคยไปกับแม่ที่ตลาดชีกิมหยง ไปซื้อกระดาษเงินกระดาษทองและธูปเทียนไหว้เจ้าที่แผงของโค้วอึ้มเป็นประจำ

ยังจำได้ว่าช่วงตรุษจีนในวันไหว้เจ้า แม่มักจะให้เอาของไหว้เจ้า(ที่ยังไม่ได้ไหว้)ไปให้แก แกก็จะเอาของคืนให้มากกว่าที่เราเอาไปให้แก บางครั้งแกก็เอามาให้ก่อน พอแม่เอาของใส่คืนให้แกมากกว่า แกก็ไม่ยอมพยายามเอาออกจนเหลือให้น้อยที่สุดเท่าที่แกจะยื้อได้

ช่วงหลัง ไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ หลายปี กลับมาที่บ้านก็พบว่า บ้านห้องแถวเก่าที่โค้วอึ้มอยู่ถูกรื้อถอนสร้างเป็นโรงแรมอินทราไปแล้ว เลยถามแม่ว่า โค้วอึ้มไปไหนแล้ว แม่บอกว่า แกย้ายไปอยู่บ้านพี่น้องแกที่สระบุรีแล้ว ขาดการติดต่อกันเลย ส่วนลูกชายแกก็ไป ๆ มา ๆเอาแน่นอนไม่ได้ ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง บางครั้งเจอก็ลืมถามเรื่องนี้บ้าง เลยไม่รู้ว่าแกไปอยู่ที่ไหนแน่ จนกระทั่งวันหนึ่งเราเจอลูกชายแก เลยถามถึงโค้วอึ้ม แต่ลูกชายแกกลับบอกว่า เสียชีวิตแล้วและฝังอยู่ที่สระบุรีและไม่ได้บอกใคร ๆ เพราะแกสั่งว่าไม่ต้องบอกกับใคร แต่อย่างใด เพราะไม่อยากรบกวนใคร ๆ อยากตายแบบเงียบ ๆ และอบอุ่นใจที่บั้นปลายอยู่ใกล้ชิดกับพี่น้องอีกครั้ง

เป็นความทรงจำสุดท้าย ที่ขอมอบให้โค้วอึ้ม เพื่อนของแม่ที่เหมือนญาติ และเป็นคนดีที่เรารู้จักคนหนึ่งในชีวิตที่ผ่านมา ขอให้แกไปสู่สุคติและมีชีวิตในภายหน้าที่เป็นสุขสวัสดิ์ดีกว่าชาตินี้ด้วย


Create Date : 20 เมษายน 2550
Last Update : 20 เมษายน 2550 21:45:17 น. 1 comments
Counter : 349 Pageviews.

 
เคยอยู่ใต้ค่ะ และเคยมีความทรงจำแบบนี้เหมือนกันคิดถึงคนใต้มากๆค่ะ


โดย: คนทุ่งลุง IP: 119.42.95.166 วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:15:05:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yokel
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ฺBlog แรก ๆ ที่เริ่มทดลองสร้างและเริ่มใช้งานใน http://www.pantip.com งานเขียนที่มีขึ้นก็แล้วแต่อารมย์และความว่างในการเขียน เพื่อเก็บไว้ในกล่องความทรงจำก่อนที่จะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Friends' blogs
[Add yokel's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.