| |
|||
A Mug Cafe ปลดปล่อยจินตนาการให้โลดแล่น ณ ร้านคาเฟ่ต์น่ารักมีสไตล์
![]() ![]() ![]() หลังจากที่ไปอุ้มน้องแมวมาที่คาราแมวก็ได้มีโอกาสมานั่งจิบเครื่องดื่มและทานขนมขบเขี้ยวที่ร้าน A Mug Cafe ซึ่งเป็นร้านย่านถนนจันทน์ นอกจากจะมีโครงการวนิลามูนที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆนี้แล้วนั้น ยังมีร้าน A Mug Cafe ร้านน่ารัก ที่อยู่ท่ามกลางย่านกิจการการค้าของคนจีนแบบห้องแถว ร้านนี้มีขนาด 1 คูหาห้องแถวเท่านั้นค่ะ แต่ตอนที่ทีมงานเดินผ่านกลับสะดุดตามากมายกับระถางต้นไม้ และการตกแต่งร้านที่มีสไตล์ไม่เหมือนใครนั่นเอง
การตกแต่งร้านและสไตล์การตกแต่งจะเหมือนได้นั่งอยู่ที่สวนหลังบ้าน มีของตกแต่งน่ารัก เป็นตุ๊กตาเซรามิคตัวเล็กๆ รวมถึงโต๊ะเก้าอี้ถูกจัดแจงมาอย่างน่ารักน่านั่งเสียนี่กระไร ร้านมีขนาดเล็กกระทัดรัดแต่ตกแต่งได้อย่างลงตัว บรรยากาศสีและโทนคือสีน้ำตาลอ่อนสลับสีขาวและเขียวของการตกแต่งผนังประตูได้ อย่างแนบเนียนโดยใช้หญ้าปลอมติดประดับทั้งประตูและนำชื่อร้านติดตกแต่งเข้า ที่ร้านสามารถนั่งเล่นนั่งชิลได้ประมาณ 10-15 คน รวมบริเวณด้านหน้าร้านค่ะ
![]() ![]() ร้านมีบริการเครื่องดื่ม อาหาร และของทานเล่น อีกทั้งยังมีขายเครื่องประดับที่ทางร้านมีออกแบบและจำหน่ายเองเป็นสินค้า Handmade ค่ะ นอกจากทางร้านจะตกแต่งได้น่ารักเหมือนสวนหลังบ้านนั่งเล่นชิลๆแล้ว หากเพื่อนๆคนไหนอยากปลดปล่อยอารมณ์นั่งชิลสบายๆมองไปทางด้านซ้ายมือของทางร้านทางฝั่งที่นั่งจะพบกับภาพวาดเก๋ๆได้ไอเดียดีๆกลับไปด้วย ที่กำแพงเป็นเรื่องราวการเดินทางของเมล็ดกาแฟที่ถูกส่งไปยังสถานที่ต่างๆค่ะ ใช้จ่ายนั้นตกคนละประมาณ 200 บาทต่อ 1 ครั้งในการใช้บริการค่ะ ถ้าไม่ทานเยอะกินไปนะ เครื่องดื่มราคาตั้งแต่ 40 บาท เป็นต้นไป อาหารก็ราคาไม่แพงมากไม่ถึง 100 บาทดังนั้นๆจึงสามารถมานั่งทานได้ไม่ว่าจะเป็นเด็กนักเรียนที่มาเป็นกลุ่มจนกระทั่งวัยทำงานที่อยากเอาโน็ตบุ๊คซักเครื่องมาปลดปล่อยไอเดียให้โลดแล่นที่ A Mug Cafe แห่งนี้ค่ะ สำหรับใครที่ต้องการจะมานั่งชิลจิบกาแฟ จิ้มขนมที่ตั้งที่ร้านคือ ปากซอยจันทน์ 29 ถนนจันทน์ ที่ร้านเปิดทำการตั้งแต่ 7.30 19.00 น. เป็นต้นไปตั้งแต่วันจันทร์ เสาร์ อยากจะติดต่อร้านก่อนเข้าไปหรืออะไรยังไงสามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 088-008-0286 , 083-319-2277
Buffet International at Lamoon King Power ซอยรางน้ำ
รัตน์ได้มีโอกาสไปทานอาหารบุพเฟ่ต์ที่ห้องอาหาร Lamoon ที่คิงพาวเวอร์ซอยรางน้ำค่ะ
มาดูไลน์อาหารกันค่ะว่าที่นี่มีอะไรให้ทานบ้าง ที่นี่มีโต๊ะซีฟู๊ดที่ขายดี โต๊ะซาซิมิซูชิ โต๊ะข้าวมันไก่ข้าวหน้าเป็ด โต๊ะขนมจีนน้ำยา โต๊ะสุกี้และติมซำ ไลน์อาหารกับข้าวทั่วไปมีซุปและน้ำอยู่ในไลน์เดียวกัน โต๊ะขนมครก โต๊ะขนมหวานและส่วนของกาแฟค่ะ รวมๆแล้วมีเท่านี้ สำหรับห้องอาหารนี้จะมีแต่นักท่องเที่ยวไทยค่ะเพราะแยกกับทางนักท่องเที่ยวจีนที่มีมาจับจ่ายซือของที่นี้นั่นเอง
ร้าน Lamoon ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ตัวอาคาร King Power ค่ะ การเข้ามานั่งรับประทานอาหารด้านใน ต้องเดินไปตรงบริเวณสวนเคาเตอร์ด้านหน้านะคะ หลังจากเราเดินเข้ามาภายในบริเวณห้องอาหารแล้ว สต๊าฟจะพาเราไปยังที่นั่ง ระหว่างที่เราเดินไปที่โต๊ะก็จะผ่านซุ้มอาหารต่างๆที่ลอยฟุ้งมาให้เราได้อยากลิ้มลองกันค่ะ มาดูกันว่ารัตน์ได้ลิ้มลองอะไรไปบ้างค่ะ อันนี้เอาตามจริงเลยนะคะ ^____^/ อาหารที่ได้ตักมาและได้ลองทาน บล็อคโคลี่ผัดกุ้ง เมนูนี้เป้นเมนูยอดฮิตไปร้านไหนก็ต้องมีให้ทานในไลน์บุพเฟ่ต์ค่ะ รสชาติโอเค ปลาทอดกรอบ ไร้รสชาด ซุปข้าวโพด ถ้วยนี้รับไม่ได้สุดๆค่ะ ห้ามตักมาทานเด็ดขาย ย้ำ !!! ขนมปังกลม ขอไม่พูดเรื่องรสชาด หมูอบ จานนี้ผ่านพอทานได้ค่ะ ซาซิมิ เข้าใจคำว่าบุพเฟ่ต์ค่ะดังนั้นการคิดคอสราคาสินค้าต่างๆจำกัดอยู่ในงบทำให้คุณภาพของสินค้า วัตถุดิบดรอบตามไปด้วย ณ ประการฉะนี้ .. ติมซำ ขนมหวาน เค้ก เป้นรายการเดียวที่เราชอบค่ะขนมหวาน โอเค ถึงแม้ว่าจะไม่โดด ไม่เด้งก็ตาม เอาเป็นว่าสรุปแล้วเป็นบุพเฟ่ต์นานาชาติที่ดูมึนได้สุดชีวิตจิตใจ ดูคนเยอะด้วยความที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ช้อปกันให้วุ่นแต่ถ้าได้มาเมาท์กับเพื่อนๆก็ถือว่าเป็นกำไรชีวิตอย่างหนึ่งแลกกับรอยยิ้ม คำพูดเสียงหัวเราะกันดีกว่าทำให้อาหารมีรสชาดดีมากขึ้น
.
แซลมอนราคาบุพเฟ่ต์.....
ปรับสีเยอะมากแสบตาส้มเหลืองจัดเชียว
สำหรับการเดินทางมาที่นี่นั้นให้ลงบีทีเอส อนุเสาวรีย์แล้วเดินเข้าซอยข้าง Center One ไปไม่ไกลค่ะก็จะเจอ King Power ราคาต่อหัวอยู่ราว 500++ นะคะ วันที่ได้มากินนั้นพี่ในบอร์ดชวนๆกันมากินค่ะ มื้อนี้เลยสบายกระเป๋าเลย อิอิ Hyde & Seek Gastro Bar ลิ้มลองอาหารรสเลิศแบบสไตล์เชฟกระทะเหล็ก
สำหรับเพื่อนๆที่ต้องการสังสรรค์หาบรยากาศดีๆชิลในเมืองแบบชิกๆ กับเชพกระทะเหล็ก เชพเอียน Hyde & Seek Gastro Bar ตั้งอยู่ในซอยร่วมฤดี ลงจากรถไฟฟ้าเพลินจิตแล้วเดินเข้ามาในซอยร่วมฤดีก็ะพบกับร้านซึ่งตั้งอยู่ บริเวณด้านล่าง Athenee Residence สามารถนั่งในร้านเป็นบริเวณบาร์รองรับลูกค้า นักชิมได้ประมาณ 20-25 ท่าน ส่วนบริเวณด้านนอกก็จะเป็นบริเวณชิลๆมีการตกแต่งที่สบายๆเป็นสีไม้และสีเขียวๆของต้นไม้ จะนั่งชิทแชทกับเพื่อนๆหรือเป็นโซนสำหรับท่านใดที่สูบบุหรี่บริเวณด้านนอกก็โอเคค่ะ มาเริ่มกันที่บรรยากาศภายในร้าน อาจจะไม่ต้องพูดถึงกันเยอะค่ะแบบที่หลายๆคนพูดถึงค่ะบรรยากาศสบายๆสไตล์โมเดิร์นเก๋ๆด้านในร้าน และด้านนอกร้านเป็นแบบชิลๆกับต้นไม้ ซึ่งแยกตัวออกจากโลกภายนอกได้ดีลมโกรกเย็นๆกับแสงเทียนอ่อนๆ
ทางร้านจะมีบริการทั้งเวลากลางวันและเวลากลางคืนเป็นดินเนอร์ค่ะ สำหรับรัตน์ได้ไปลิ้มลองแบบ Dinner ค่ะ
สำหรับอาหารที่ได้สั่งไปมีดังนี้ค่ะ อาหารที่สั่งไปมีทั้งหมด 4 จานค่ะ
จานต่อไปคือ เพนเน่คาโบนาร่า ราคา 365 บาท
แต่ตัวที่ชูโรงได้ดีคือ อกเป็ดชิ้นเล็กค่ะซึ่งรสชาดดีเข้ากันได้ดีกับตัวซอสคาโบนาร่าที่มาเสิร์พค่ะ ต่อไปคือ Confused Chicken ราคา 395 บาท
และด้านล่างสุดก็เป็นขนมปังกรอบแบบโทสแต่มีซอสเค็มๆ ทานพร้อมกันสามอย่างก็มีรสชาดดีบอกไม่ถูกนะคะ จานนีใครที่ชอบรสชาดจัดจ้ายก็แนะนำค่ะ และสุดท้ายคือ Atlantic Salmon ราคา 395 บาท
สรุปเป็นอีกร้านที่อาจจะกลับมาเมื่อกระเป๋าเงินพร้อมจริงๆ มื้อนี้ค่าเสียหายทั้งหมด 1,8xx บาทสำหรับการทานอาหารสองคนค่ะนานๆทานทีก็ดีนะคะ อิอิ แต่ใครกระเป๋าถึงขอเชิญที่ร้านได้เลยค่ะ สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถติดต่อได้ทางอีเล์และเบอร์โทรศัพท์ดังต่อไปนี้ค่ะ
![]() |
Rosetear
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]![]() สวัสดีค่ะนักศึกษาสาขาวิชาการท่องเที่ยวตรีและโท ผันตัวมาเป็นกราฟฟิคดีไซเนอร์ เว็บดีไซเนอร์ และการตลาด (อนาคตรอผันตัวไปเป็นนักวิจัยและอาจารย์)ชื่นชมและชมชอบธรรมชาติที่สวยงาม ชอบศิลปะวัฒนธรรมและประเพณีี่สวยงาม ชอบการถ่ายภาพมุมต่างๆ ไปในที่ๆคนไม่ไป ศึกษาธรรมะ รักและชื่นชอบไต้หวันอย่างสุดซึ้ง รักในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่รัก Group Blog All Blog Friends Blog |
||
| Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. | |||













































ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [