ชมวิวทิวทัศน์ เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

สนข.จัดรับฟังออกแบบขนส่งสาธารณะเมืองพิษณุโลก เตรียมพัฒนาเมืองอนาคต 2020





สนข.จัดรับฟังออกแบบขนส่งสาธารณะเมืองพิษณุโลกเตรียมพัฒนาเมืองอนาคต 2020

วันที่ 31มีนาคม 2560 นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)เป็นประธานการเปิดสัมมนารับฟังความคิดเห็น ครั้งที่1

โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบขนส่งสาธารณะเมืองพิษณุโลก

ที่ห้องคอนเวนชั่น 2 โรงแรมท็อปแลนด์พลาซ่า จังหวัดพิษณุโลก โดยมีนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ร่วมเป็นประธานเปิดการสัมมนา โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนผู้แทนองค์กรส่วนท้องถิ่น ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้นำชุมชน และประชาชนในเขตเทศบาลตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบลทุกแห่งของอำเภอเมืองพิษณุโลก เจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เกี่ยวข้องและพื้นที่ใกล้เคียง องค์กรภาคเอกชน ภาคธุรกิจเอกชน สถานบันการศึกษา สถานบันศาสนา โรงพยาบาลและสื่อมวลชน จำนวน 120 คน เข้าร่วมสัมมนา





นายชัยวัฒน์ กล่าวว่าจังหวัดพิษณุโลกเป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นศูนย์กลางด้านคมนาคม เศรษฐกิจ การศึกษาและการท่องเที่ยวของภาเหนือตอนล่าง มีวิสัยทัศน์ คือ “เมืองบริการสี่แยกอินโดจีน”และมียุทธศาสตร์ในการพัฒนาเพื่อเป็นเมืองบริการที่หลากหลาย (Service City) และมีความปลอดภัย (Safe City) โดยมีเป้าประสงค์หลักที่ต้องการเป็นศูนย์กลางบริการด้านขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร อีกทั้งภูมิศาสตร์ที่ตั้งของจังหวัดพิษณุโลกยังเป็นศูนย์กลางการพัฒนาแนวระเบียงเศรษฐกิจ3 แนว อันได้แก่ แนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (NSEC) ตะวันออก-ตะวันตก(EWEC) และหลวงพระบาง*อินโดจีน-เมาะลำไย (LIMEC) ที่จะกระตุ้นการเชื่อมโยงการเดินทางของนักท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน(AEC) และที่สำคัญจังหวัดพิษณุโลกยังเป็นจังหวัดที่อยู่ในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงการระบบรถไฟทางคู่สายปากน้ำโพ-เด่นชัย และโครงการรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ กรุงเทพฯ –พิษณุโลก ที่จะดึงดูดนักลงทุนและเพิ่มความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวและการขยายตัวของเมืองเป็นไปอย่างรวดเร็ว และอาจจะส่งผลต่อปัญหาการจราจรและขนส่งในอนาคตได้

“รัฐบาลและกระทรวงคมนาคมได้ให้ความสำคัญและจัดให้เมืองพิษณุโลกเป็น 1 ใน 6 เมืองหลักในภูมิภาค (เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา ภูเก็ต และหาดใหญ่)ที่จำเป็นต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาการขนส่งและจราจรอย่างเร่งด่วนภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทยพ.ศ. 2558 –2565ของกระทรวงคมนาคม ที่กำหนดให้ระบบขนส่งสาธารณะเมืองพิษณุโลก เพื่อพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้เกิดการเชื่อมต่อและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ รวมทั้งจัดทำแผนแม่บทในการแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตเมืองพิษณุโลกให้มีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล แผนยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้งต้องสอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาเมืองแห่งอนาคตของเมืองพิษณุโลก(พิษณุโลก2020) ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ ลดการใช้และนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศและแก้ไขปัญหาการจราจรได้อย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชนให้มีผลกระทบน้อยที่สุด”นายชัยวัฒน์ กล่าว

นอกจากนี้การศึกษาโครงการนี้จะช่วยวางรากฐานระบบขนส่งสาธารณะเมืองพิษณุโลก และเป็นแผนแม่บทสำคัญใช้ในการขับการพัฒนาเมืองพิษณุโลกให้สามารถรองรับการเดินทางในอนาคตด้วยการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่เหมาะสม ให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลกอย่างยั่งยืนและสามารถรองรับการเติบโตของเมืองในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ กล่าวตอนท้ายว่า สนข.ยังได้ตระหนักถึงความสำคัญของกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ อันจะเป็นประโยชน์สูงสุดในการดำเนินงานโครงการให้ประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ซึ่งการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1ในวันนี้จะเป็นการแนะนำและชี้แจงรายละเอียดของการดำเนินโครงการ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน เพื่อนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับมาประกอบการศึกษาและออกแบบให้เกิดประโยชน์สูงสุด สอดคล้องกับความต้องการในพื้นที่และได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วนต่อไป








ที่มามติชนออนไลน์ ขอขอบพระคุณ มา ณ ที่นี้ครับ 

//www.matichon.co.th/news/514859




 

Create Date : 27 เมษายน 2560    
Last Update : 27 เมษายน 2560 14:46:32 น.
Counter : 1287 Pageviews.  

ทศน.ขอนแก่น + CAT + KKTT ผุด 3 โครงการไอทีดันขอนแก่นก้าวสู่สมาร์ทซิตี้





ที่ขอนแก่น

ผุด 3โครงการไอทีดันขอนแก่นก้าวสู่สมาร์ทซิตี้


ศูนย์ข่าวขอนแก่น- เทศบาลนครขอนแก่น จับมือ CAT และ KKTT เดินหน้าพัฒนา “ขอนแก่นสมาร์ทซีตี้”รองรับสังคมยุคดิจิตอล ผุด 3 โครงการหลักทั้งแจ้งเตือนที่จอดรถอัจฉริยะแจ้งเตือนพื้นที่น้ำท่วม และมลพิษทางอากาศ ให้บริการชาวชุมชน “ธีระศักดิ์” มั่นใจยกระดับขอนแก่นสู่หัวเมืองหลักของไทยภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ด้านไอทีได้สมบูรณ์แบบที่สุด



วันที่ 24เม.ย.60 ที่ห้องประชุมเป็งจาล เทศบาลนครขอนแก่น (ทน.) นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เป็นประธานพิธีลงนามความร่วมมือ ร่วมระหว่าง ทน.ขอนแก่น , บริษัทขอนแก่นพัฒนาเมืองจำกัด หรือ KKTT , บริษัท กสท.โทรคมนาคม และประธานโครงการThailand IoTConsortium ตามโครงการ Khon Kaen Smart City : Internet of Things ซึ่งทั้ง 4หน่วยงานได้ดำเนินโครงการร่วมกันตามนโยบาย สมาร์ทซิตี้ และไทยแลนด์ 4.0

ว่าด้วยการพัฒนาจังหวัดที่มีเป้าหมายผลักดันให้ขอนแก่นเป็นสมาร์ทซิตี้อย่างเต็มรูปแบบ ท่ามกลางความสนใจจากนักธุรกิจในจังหวัดขอนแก่นรวมไปถึงกลุ่มนักวิชาการ และผู้ที่เชี่ยวชาญด้านระบบไอที และสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยานจำนวนมาก


นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น



นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่าการลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกัน เป็นมิติใหม่ของการพัฒนาเมืองที่สอดรับกับนโยบายรัฐบาล และบริหารจัดการเมืองเป็นไปตามความต้องการประชาชนจากนี้ไปทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันพัฒนางานให้บริการประชาชนในชุมชนด้วยระบบเครือข่ายLoRaWAN ซึ่งจ.ขอนแก่นเป็นจังหวัดแรกของไทยที่นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ในความเป็นเมืองสมาร์ทซิตี้

3 โครงการแรกประกอบด้วย Smart Parking , SmartPollution Metering และ Smart Disaster Warning โดยระบบดังกล่าวจะนำมาทดสอบให้บริการในเขตชุมชนเมืองเริ่มจาก SmartParking ด้วยการติดตั้งระบบจอดรถอัจฉริยะแบบไร้สายภายในลานจอดรถของ ทน.ขอนแก่น เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้บริการไม่ต้องวนมาจอดรถหลายรอบเพราะแต่ละวัน ทน.ขอนแก่นมีประชาชนนำรถยนต์ส่วนตัวมาจอดไม่น้อยกว่า 500 คันการติดตั้งระบบนำจอดและส่งสัญญาณไร้สาย ที่สามารถตรวจสอบผ่านแอพพลิเคชั่นจะเป็นมิติใหม่ของการให้บริการของหน่วยงานระดับท้องถิ่น ที่ใกล้ตัวที่สุด

โครงการที่ 2 คือ ติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ในพื้นที่เสี่ยงภัยเพื่อแจ้งเตือนระดับน้ำในพื้นที่ชุมชนเมืองและพื้นที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซากเพื่อแจ้งเตือนปริมาณน้ำท่วมขัง และพื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมขังและส่งสัญญาณมายังพื้นที่ควบคุม เพื่อจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและระบายน้ำรวมถึงประกาศแจ้งเตือนคนในชุมชนให้สามารถรับมือกับภาวะน้ำท่วมเฉียบพลันในเขตชุมชนได้อย่างรวดเร็ว

นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า โครงการสุดท้ายที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ 2560 นี้ คือติดตั้งระบบตรวจสอบมลพิษในเขตเมืองโดยจะติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดค่ามลพิษและสภาพอากาศ ในรถบัสโดยสาร ซิตี้บัสเบื้องต้น 10 คันที่จะวิ่งออกไปให้บริการผู้โดยสารอยู่แล้ว ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมงเพื่อจัดเก็บค่าเฉลี่ยแต่ละห้วงเวลา รวมไปถึงพื้นที่ที่มีค่ามลพิษสูงสุดเพื่อทำการแจ้งเตือนไปยังประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวให้สามารถป้องกันมลพิษได้



“วันนี้ขอนแก่นพร้อมจะเป็นเมืองต้นแบบสมาร์ทซิตี้เช่นเดียวกับภูเก็ต และเชียงใหม่ขับเคลื่อนเมืองขอนแก่นสู่ความเป็นอัจฉริยะและความเป็นเลิศด้วยการนำระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้พัฒนาเมืองและอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆอย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายโครงการที่ทน.ขอนแก่น จะนำมาต่อยอดให้เกิดการพัฒนาซึ่งการดำเนินงานระยะแรกทั้ง 3โครงการดังกล่าวนี้จะเริ่มได้ในปีนี้”นายธีระศักดิ์ กล่าว

ที่มา Manager Online

//www.isaanbiz.com/6234




 

Create Date : 25 เมษายน 2560    
Last Update : 25 เมษายน 2560 23:44:43 น.
Counter : 1283 Pageviews.  

ขอนแก่นซิตี้บัส เปิดให้บริการเชื่อมต่อระหว่างสนามบินนานาชาติขอนแก่นกับตัวเมืองแล้ว






ขอนแก่นซิตี้บัส เปิดให้บริการเชื่อมต่อระหว่างสนามบินนานาชาติขอนแก่นกับตัวเมืองแล้ว

ยินดีกับชาวขอนแก่นที่ ขอนแก่นซิตี้บัสเปิดให้บริการเชื่อมต่อระหว่างสนามบินนานาชาติขอนแก่นกับตัวเมือง ซึ่งวันนี้(23 เมษายน60 ) ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอาคมเติมพิทยาไพสิฐ ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการเดินรถเที่ยวแรกกล่าวสำหรับแผนการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนของบริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง จำกัดนั้นมีเป้าหมายในการพัฒนาโครงข่ายรถบัสมาตรฐานให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วทั้งเขตเมืองและเชื่อมต่อโครงข่ายการเดินทางกับโหมดการเดินทางสำคัญภายในเขตเมืองและจังหวัดซึ่งหลังจากรถไฟฟ้ารางเบาที่ภายในสิ้นปีนี้จะตอกเสาเข็มแรกและเปิดบริการในอีก 3ปีข้างหน้า เมืองขอนแก่นจะเป็นหัวเมืองแรกของประเทศที่มีโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนหลักและระบบขนส่งมวลชนรองที่ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด















เปิดเส้นทางใหม่ ... #สนามบิน - #มข - #บขส3

15 บาทตลอดสาย ใช้ได้ทั้งแบบหยอดเหรียญและบัตรโดยสาร

ขอแนะนำช่องทางการดูตำแหน่งรถสดๆ ดังนี้

1.แอปพลิเคชัน 📱 KK Transit

Appstore : https://goo.gl/NugvNz

PlayStore : https://goo.gl/2mPNXE

2.เว็บไซต์ 🌎 //livemap.khonkaencitybus.com/




 

Create Date : 25 เมษายน 2560    
Last Update : 25 เมษายน 2560 0:52:45 น.
Counter : 1357 Pageviews.  

5 เทศบาลจดทะเบียนตั้งบริษัทแล้ว พร้อมเดินหน้าสร้างรถไฟฟ้าระบบรางเบาแห่งแรกของไทยในต่างจังหวัด





5 เทศบาลจดทะเบียนตั้งบริษัทแล้ว

พร้อมเดินหน้าสร้างรถไฟฟ้าระบบรางเบาแห่งแรกของไทยในต่างจังหวัด

เมื่อเช้าวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ณกลุ่มทะเบียนธุรกิจและอำนวยความสะดวกทางการค้า สนง.พาณิชย์จังหวัดขอนแก่น ได้มี นายพงษ์ศักดิ์ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น นายชัยธวัช เนียมศิริ รอง ผวจ.ขอนแก่น นายคำนวณ สุวรรณดีพาณิชย์จังหวัดขอนแก่น นายสันติ แป้นอ่ำ ผอ.กลุ่มบริการทะเบียน ฯและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดขอนแก่น ได้มาเป็นสักขีพยานที่ 5เทศบาลในจังหวัดขอนแก่น ได้แก่ เทศบาลตำบลสำราญ เทศบาลเมืองศิลา เทศบาลนครขอนแก่นเทศบาลตำบลเมืองเก่า และ เทศบาลตำบลท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่นรวมตัวจัดตั้งและจดทะเบียนบริษัท Khon Kaen Transit System CO.,Ltd.เพื่อเป็นหน่วยงานกลางในการขับเคลื่อนโครงการระบบขนส่งมวลชนสาธารณะระบบรางเบา (LRT) จังหวัดขอนแก่นวงเงิน 5 ล้านบาท



นายธีระศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่นกล่าวว่า วันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา นายกเทศมนตรี 5 เทศบาลดังกล่าวได้ใช้ชื่อ ว่าบริษัท ขอนแก่นทรานซิทซิสเต็ม จำกัดได้มาจดทะเบียนที่พาณิชย์จังหวัดขอนแก่นถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะสามารถทำนิติกรรมประชุมร่วม และจัดทำทุกภารกิจ ภายใต้นโยบายของ 5เทศบาลดังกล่าวที่ให้บริษัทไปดำเนินการในโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนรางเบา(แทรม) สายเหนือ – สายใต้ ต้นแบบในเมืองภูมิภาค จ.ขอนแก่น โดย มีบอร์ดบริหาร จำนวน5 ท่าน ไม่ว่าเป็นการดำเนินเรื่องของเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์ทำเรื่องขออนุมัติจากสนข. /คจร. เพื่อขอทำโครงการดังกล่าวหลังจากก่อนหน้านี้ได้รับการอนุมัติการจัดตั้งบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 20กุมภาพันธ์ 2560 จากรัฐบาล โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยเป็นพื้นที่แรกที่จัดทำสำเร็จ รูปแบบเหมือนกับการดำเนินกิจการของบริษัทกรุงเทพธนาคม ที่บริหารในพื้นที่กรุงเทพ



นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เปิดเผยว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) ได้ลงนามอนุมัติให้ 5 เทศบาลใน จ.ขอนแก่นประกอบด้วย เทศบาลนครขอนแก่น เทศบาลเมืองศิลา เทศบาลตำบลเมืองเก่าเทศบาลตำบลท่าพระ และเทศบาลตำบลสำราญ ซึ่งมีแนวคิดจะลงทุนโครงการรถไฟฟ้าระบบรางเบา(Light Rail Transit: LRT) หรือ TRAM ระยะทาง22.6 กม. มูลค่าลงทุนรวมหลักหมื่นล้านบาท ในตัวเมืองขอนแก่น เพื่อแก้ปัญหาการจราจรรองรับการขยายตัวของเมือง และ อำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนโดยจัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินการโครงการดังกล่าว ตามมาตรา 57 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.เทศบาลพ.ศ. 2496 ทั้งนี้ การจัดตั้งบริษัทของ 5 เทศบาล ใน จ.ขอนแก่นถือว่าเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย นับตั้งแต่ พ.ร.บ.เทศบาลฯ ประกาศบังคับใช้ทำให้วันนี้ทีมขอนแก่นเหมือนเป็นดรีมทีมของการปกครองท้องถิ่นซึ่งในส่วนของบริษัทที่สนใจโครงการนี้และต้องการมีส่วนร่วมในการดำเนินการทั้งจากยุโรปตะวันออก ญี่ปุ่น เกาหลี จีนทุกรายสนใจจะร่วมลงทุนโครงการระบบรางเบาด้วย



สำหรับการดำเนินโครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนของทั้ง5 เทศบาลนั้น คาดว่าใช้รูปแบบการให้สัมปทานโครงการ และ เส้นทางโดยให้บริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการทั้งหมด โดยบริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง(เคเคทีที) จำกัด จะดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการระดมทุนจากหลายกลุ่มที่สนใจจะร่วมทุนด้วย



โครงการรถรางขอนแก่น จะนำร่องเส้นทางแนวเหนือ-ใต้ ถนนมิตรภาพ ช่วงบ้านท่าพระ-บ้านสำราญ ระยะทาง 22.6 กม. มี 16สถานี ประกอบด้วย 1.สถานีท่าพระ 2.สถานีกุดกว้าง 3.สถานี บขส. 3 4.สถานีประตูน้ำ5.สถานีแยกเจริญศรี 6.สถานี ม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (บิ๊กซี) 7.สถานีเซ็นเตอร์พ้อยท์8.สถานีแยกประตูเมือง (เซ็นทรัล) 9.สถานีแยกสามเหลี่ยม 10.สถานีไทยสมุทร 11.สถานีโตโยต้ามอดินแดง 12.สถานีแยก รพ.ศรีนครินทร์ 13.สถานีมหาวิทยาลัยขอนแก่น14.สถานีโลตัสเอ็กซ์ตร้า 15.สถานีหนองกุง และ 16.สถานีสำราญสถานีและรางรถไฟฟ้าใช้พื้นที่เกาะกลางถนนมิตรภาพเป็นระดับดิน 11 สถานี และยกระดับ5 สถานี ได้แก่ สถานีแยกเจริญศรี, สถานี ม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(บิ๊กซี), สถานีเซ็นเตอร์พ้อยท์, สถานีแยกประตูเมือง(เซ็นทรัล) และสถานีแยกสามเหลี่ยม พร้อมโรงจอด และศูนย์ซ่อมบำรุงจุดจอดแล้วจร 4สถานี สถานีท่าพระ, บขส. 3. โลตัสเอ็กซ์ตร้า และสถานีสำราญตลอดแนวเส้นทางมีจุดส่งกำลังไฟฟ้าเข้าระบบตั้งใกล้สถานี 6-7 จุด ห่างกันจุดละ 3-4กม. การเลือกนำร่องเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากมีเขตทางกว้างพอแก่การก่อสร้างเส้นทางไม่ต้องเวนคืนที่ดิน และลดผลกระทบจากการใช้ประโยชน์ที่ดินสองข้างทางทำได้ง่ายกว่านอกจากนี้ ยังออกแบบรายละเอียดระบบขนส่งสาธารณะโดยนำอัตลักษณ์ในท้องถิ่นมาใช้ประโยชน์และทำให้มีความกลมกลืนต่อสภาพแวดล้อมอีกด้วย

ขอขอบคุณภาพและข่าว คุณก่อสิทธิ์ กองโฉม /คุณจิราภรณ์ พอกพูล

//www.khonkaenlink.info/home/news/4064.html





 

Create Date : 31 มีนาคม 2560    
Last Update : 31 มีนาคม 2560 23:23:30 น.
Counter : 1097 Pageviews.  

7 จังหวัด ชงกฏหมายบรรษัทพัฒนาเมือง ลุยลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภูธร




เครดิตภาพพื้นหลังhttps://www.youtube.com/watch?v=rxnHIxnPrMQ

7จังหวัด ชงกฏหมาย “บรรษัทพัฒนาเมือง”

ลุยลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภูธร

เอกชน 7 จังหวัดผนึกพลังชง"กฎหมายส่งเสริมกิจการบรรษัทพัฒนาเมือง"ชี้เป็นนวัตกรรมใหม่ช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างจังหวัดเป็นระบบรวดเร็วหนุนปั้นเมืองน่าอยู่ ย้ำกิจการพัฒนาเมืองต้องยึดโยงภาคประชาชนปลอดการครอบงำของกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง ด้านคณะอนุกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯสนช. รับลูกเตรียมยกร่างเป็นกฎหมาย



รถติดหนึบ - สภาพการจราจรในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ติดขัดมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็น ซึ่งปัจจุบันภาคเอกชนได้รวมตัวกันตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อพัฒนาเมืองให้เป็นระบบ และเตรียมลงทุนระบบขนส่งมวลชนในรูปแบบรถไฟฟ้ารางเบา

นายฐาปนา บุณยประวิตร อุปนายกสมาคมการผังเมืองไทย และผู้ประสานงานกิจการพัฒนาเมืองเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภาคเอกชน 7 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดขอนแก่น ภูเก็ต เชียงใหม่ พิษณุโลก ระยอง สมุทรสาคร และสระบุรีซึ่งแต่ละจังหวัดได้รวมกลุ่มจัดตั้งบริษัท พัฒนาเมือง จำกัด ขึ้นมาแล้วนั้นโดยทั้งหมดเป็นตัวแทนกิจการพัฒนาเมืองได้รวมตัวกันผลักดันนำเสนอร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกิจการบรรษัทพัฒนาเมืองพ.ศ.....ให้กับคณะอนุกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนและการคุ้มครองผู้บริโภคสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยได้ประชุมนำเสนอร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวต่อคณะอนุกรรมาธิการฯ เพื่อพิจารณาแล้วเมื่อวันที่ 21กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ได้ข้อสรุปที่สำคัญคือ ประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ รับร่างพ.ร.บ.ที่เสนอเข้าสู่กระบวนการ โดยมีข้อพิจารณาให้คณะทำงานกิจการพัฒนาเมือง นำร่างพ.ร.บ.ไปปรับปรุงให้ทันสมัย โดยเฉพาะสาระสำคัญ 3-4 ประเด็นของร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมกิจการบรรษัทพัฒนาเมืองที่ต้องปรับปรุง ได้แก่ หมวดที่ 1เจตนารมณ์และเป้าหมาย จะเป็นกฎหมายที่ไม่เน้นการควบคุม แต่เป็นการส่งเสริมพร้อมทั้งต้องร่วมกับภาครัฐที่จะลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ขนส่งมวลชนมุ่งการสร้างเมืองให้กระชับและน่าอยู่ เป็นต้น

ขณะเดียวกันจะต้องมีการพิจารณาปรับปรุงเรื่องทุนจดทะเบียนที่ในร่างเสนอไว้ที่10ล้านบาท แต่ที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯเสนอว่า ทุนจดทะเบียนควรอยู่ที่ 100 ล้านบาทเนื่องจากการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานมีมูลค่าค่อนข้างสูงและจำนวนของกิจการที่เข้ามาร่วมเป็นผู้ถือหุ้นต้องมีตั้งแต่ 20 หุ้นขึ้นไป เป็นต้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้กำชับเป็นพิเศษในประเด็นผู้ถือหุ้นที่ควรปลอดจากอำนาจการครอบงำกิจการ การชี้นำ และอำนาจผลประโยชน์ทางการเมืองเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการพัฒนาเมืองภายใต้กฎหมายฉบับนี้ซึ่งควรยึดโยงภาคประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วม และกิจการพัฒนาเมืองควรเป็นในรูปแบบของกิจการ SE (Social Enterprise) ที่ไม่มุ่งทำกำไรเป็นที่ตั้งแต่นำกำไรไปพัฒนาเพื่อสาธารณะ

"นับเป็นเรื่องที่ดีมากที่รัฐสภาและรัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนากิจการพัฒนาเมืองโดยเห็นชอบให้เตรียมตราเป็นกฎหมายเพื่อเป็นกรอบการดำเนินงานขึ้นมาเป็นการเฉพาะซึ่งจะมีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในวงการพัฒนาเมืองของประเทศและจะส่งผลให้รูปแบบการกำกับดูแลการพัฒนาเมืองด้านต่าง ๆ ทำได้รวดเร็วขึ้นความร่วมมือด้านต่าง ๆ ก็จะอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย"

นายฐาปนากล่าวต่อว่า กฎหมายฉบับนี้ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่จะนำไปสู่การพัฒนาเมืองในทางที่ดีขึ้นหลายด้าน อาทิ ในภาพมหภาคยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศจะเปลี่ยนไป ซึ่งที่ผ่านมาเป็นการพึ่งและรอรัฐบาล 100%แต่หากมีกฎหมายนี้ กิจการพัฒนาเมืองจะมีภาคส่วนใหม่ หรือ Agency ใหม่ ที่ภาคเอกชนระดมทุนกันเองและรัฐบาลอาจสนับสนุนการลงทุนในส่วนอื่น ๆ เช่น ที่ดินที่เป็นของรัฐเพื่อพัฒนาโครงการร่วมกัน และเป็นการพัฒนาประเทศที่มีเม็ดเงินชัดเจนมีกรอบกฎหมายที่ร่วมมือกันชัดเจน

ขณะที่รูปแบบเมืองจะเปลี่ยนจากที่ไม่เป็นระบบระเบียบ ต่างคนต่างทำก็จะเกิดการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ มากขึ้นการออกแบบเมืองจะมีความทันสมัยมากขึ้นรวมถึงพฤติกรรมการเดินทางก็จะเปลี่ยนไปตามกิจการพัฒนาเมืองที่มีในแต่ละจังหวัดเช่น เชียงใหม่ จะมีศูนย์การขนส่งรอบเมืองและเชื่อมโยงกับโครงข่ายขนส่งมวลชนและมีศูนย์กลางเชื่อมโยงด้วยระบบรถไฟฟ้ารางเบา (Tram) เป็นต้น

นอกจากนี้ ต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานและค่าบริการก็จะลดลงมากเพราะหากในอนาคตคนใช้รถยนต์ลดลง และเปลี่ยนมาใช้ขนส่งมวลชนมากขึ้นซึ่งคาดว่าต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานจะลดลงไม่น้อยกว่า 10%ซึ่งทั้งหมดถือเป็นการเปลี่ยนเมืองและพัฒนาเมืองให้ดีขึ้นเป็นการสร้างเมืองให้มีมาตรฐานน่าอยู่และเป็นเมืองกระชับในอนาคต

นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย รองคณบดีฝ่ายบริหารวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น และผู้บริหาร บริษัทขอนแก่นพัฒนาเมือง จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่าหลังจากคณะทำงานกิจการพัฒนาเมือง ได้นำร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมกิจการบรรษัทพัฒนาเมืองไปปรับปรุงให้ทันสมัยแล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมาตัวแทนกิจการพัฒนาเมืองได้ร่วมประชุมกับคณะอนุกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนและการคุ้มครองผู้บริโภคอีกครั้ง

โดยประธานคณะอนุกรรมาธิการฯเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้พร้อมให้นำเข้าสู่กระบวนการยกร่างเป็นกฎหมายอย่างเป็นทางการโดยให้ตัวแทนคณะทำงานกิจการพัฒนาเมือง 3 คน และผู้เชี่ยวชาญอีก1 คนทำงานร่วมกับทีมคณะอนุกรรมาธิการฯเพื่อเร่งผลักดันกฎหมายส่งเสริมกิจการบรรษัทพัฒนาเมืองให้เกิดขึ้นภายในรัฐบาลชุดปัจจุบัน

ทั้งนี้ที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯยังเห็นว่ากฎหมายส่งเสริมกิจการบรรษัทพัฒนาเมืองจะเป็นกฎหมายที่จะช่วยพัฒนาจังหวัดพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะระบบขนส่งมวลชนซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งที่สำคัญ

เครดิตข่าว จากประชาชาติธุรกิจ (15 มีนาคม 2560) ขอขอบพระคุณ มาณ ที่นี้ครับ

//m.prachachat.net/n1ews_detail.php?newsid=1489381917

รายละเอียดภาพ และบทความเพิ่มเติมจากเครือข่ายพัฒนาเมือง 7 จังหวัด

ในเพจ SMART GROWTHTHAILAND




SGTขอแสดงความยินดีกับเครือข่ายพัฒนาเมืองที่นำโดยขอนแก่นพัฒนาเมืองและภูเก็ตพัฒนาเมืองพร้อมด้วยเครือข่ายได้แก่พิษณุโลกพัฒนาเมือง สระบุรีพัฒนาเมือง ระยองพัฒนาเมือง และสมุทรสาครพัฒนาเมืองที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้บรรจุร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมบรรษัทพัฒนาเมืองพ.ศ...สู่การพิจารณา โดยมีตัวแทนกิจการพัฒนาเมืองจำนวน 3คนเข้าร่วมและจะมีการประชุมพิจารณาร่างทุกวันอังคารบ่ายท่านที่สนใจนวัตกรรมการบริหารจัดการเมืองรูปแบบใหม่ ขอให้ติดตามต่อไปครับ






ประชุมเครือข่ายกิจการพัฒนาเมืองครั้งที่ 2 เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.บรรษัทพัฒนาเมือง พ.ศ...วันที่ 1 มี.ค.2560 เวลา 18.00-23.30ณ.ห้องเชียงเงิน โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิมีผู้บริหารกิจการพัฒนาเมืองเข้าร่วมจำนวน 7 แห่งประกอบด้วย ขอนแก่นพัฒนาเมืองภูเก็ตพัฒนาเมือง สระบุรีพัฒนาเมือง พิษณุโลกพัฒนาเมือง ระยองพัฒนาเมืองสมุทรสาครพัฒนาเมือง และเชียงใหม่พัฒนาเมือง โดยมี อจ.สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย (KKTT) และคุณก้าน ประชุมพรรณ์ (PKCD) เป็นประธานร่วมโดยได้เริ่มอภิปรายแนวคิดและเจตนารมณ์ ขอบเขต แนวทางในการใช้พ.ร.บ.เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเมือง ซึ่งมีข้อสรุปเบื้องต้นที่จะนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติดังนี้

1.เจตนารมณ์

1.1เจตนารมณ์ของกิจการพัฒนาต้องมุ่งสู่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางกายภาพของเมืองและพฤติกรรมของประชาชนเพื่อก่อให้เกิดความยั่งยืนในการพัฒนา

1.2 ใช้ระบบขนส่งมวลชนเป็นหัวหอกในการลงทุนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเดินทางโดยเร็วที่สุด

1.3 การลงทุนร่วมกับภาครัฐโดยมุ่งหวังในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้โครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค เน้นโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ขนส่งมวลชน สาธารณูปโภค พลังงาน การเกษตรและโครงสร้างพื้นฐานด้านสิ่งแวดล้อมและมลภาวะ

1.4มุ่งการลงทุนและดำเนินภารกิจตามนโยบายของรัฐในการยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมเมือง

2. สาระสำคัญของขับเคลื่อนการพัฒนา

2.1. ให้มีคณะกรรมการบรรษัทพัฒนาเมืองเพื่อบริหารและกำกับกิจการให้เป็นไปตามเจตนารมณ์

2.2 การจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาเมืองเพื่อสนับสนุนเงินทุนแก่กิจการตามภารกิจพิเศษหรือภารกิจเร่งด่วนและตอบสนองต่อขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองตามเจตนารมณ์

2.3การจัดสร้างระบบสิทธิประโยชน์สนับสนุนกิจการพัฒนาเมืองเพื่อให้สามารถบรรลุภารกิจได้อย่างรวดเร็วและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

3. รายละเอียดอื่น เช่นรูปแบบการจัดตั้งกิจการพัฒนาเมืองระดับจังหวัด เช่นคุณสมบัติของผู้ถือหุ้นและกรรมการ กิจกรรมการลงทุน การประสานงานกับหน่วยงานและการกำกับดูแลตามหลักธรรมภิบาล เช่น การใช้ผู้ตรวจสอบบัญชีเพื่อเป็นมาตรฐานตามข้อกำหนดของกลต.

นอกจากนี้ ยังได้หารือแนวทางการชี้วัดคุณภาพการบริหารองค์กรและผลกระทบเชิงบวกต่อคุณภาพชีวิตประชาชนซึ่งรับบริการโครงสร้างพื้นฐานที่กิจการพัฒนาเมืองเป็นผู้ลงทุนหรือบริหารจัดการ(ทั้งที่ลงทุนเองและร่วมลงทุนกับรัฐ)








ใช้ระบบขนส่งมวลชนเป็นหัวหอกในการลงทุนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเดินทางโดยเร็วที่สุด

อ้างอิงเว็บ ประชาชาติธุรกิจ ตามลิ้งก์

//m.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1489381917



ขอขอบพระคุณ ประชาชาติธุรกิจ มา ณ ที่นี้ครับ




 

Create Date : 15 มีนาคม 2560    
Last Update : 15 มีนาคม 2560 15:34:04 น.
Counter : 1484 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  

เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




ภาพอดีต ภาพปัจจุบัน และอนาคต และความเป็นไปของเกาะรัตนโกสินทร์
เล่าเรื่องทริป ที่สุดแสนจะธรรมด๊า ธรรมดา แต่หลายคนอาจมองข้ามไป แต่ในสายตาของนักท่องเที่ยวทั่วโลกแล้ว มัน อเมซิ่ง มากมาย
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.