ชมวิวทิวทัศน์ เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

ตัวอย่างดีๆ ที่เมืองแกลง “ตลาดนัดชุมชน ตลาดนัดสีเขียว” ลดการใช้พลังงาน ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน ชุมชนมีส่วนร่วม



เกริ่นนำ จากผู้เผยแพร่

บทความสั้นๆ พร้อมภาพถ่าย ของ คุณฉัตรนุชัย สมบัติศรีรองปลัดเทศบาลนครระยอง ใน Facebook ในโอกาสเยี่ยมชมตลาดนัดสีเขียว (GreenMarket) ที่ เทศบาลตำบลเมืองแกลง อ.แกลง จ.ระยองซึ่งนับว่าเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจมากครับ สำหรับท้องถิ่นไทย และชุมชนไทยครับเพราะถ้ามีกิจกรรมแบบนี้ทั่วประเทศ เศรษฐกิจชุมชนนั้นๆ ก็มีการหมุนเวียนกันขึ้นผลประโยชน์ในทางตรงก็คือ เศรษฐกิจชุมชนก็จะดีขึ้น และเนื่องจากเป็นตลาดสีเขียวผลดีอีกประการก็คือ การรักษ์โลก ใช้วัสดุธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมลดการใช้พลังงาน ส่วนผลประโยชน์ทางอ้อม ก็คือ ชุมชนมีปฎิสัมพันธ์กันครับทำให้มีความรัก ความสามัคคีกันขึ้นภายในชุมชน เกิดเป็นชุมชนน่าอยู่ในที่สุดครับกิจกรรมดีๆ แบบนี้ ถ้าผู้บริหารเมืองเข้าใจ และริเริ่มทำกันไปพร้อมกับคนในชุมชนระยะยาวจะเกิดสิ่งดีๆ อีกมากมายหลายประการครับ....ชุมชนไหน เริ่มกันแล้ว ก็ช่วยๆกันบอกต่อ ช่วยกันเผยแพร่ครับ...จากผู้เผยแพร่

อ้างอิง บทความสั้นๆ ครับ ตามลิ้งก์ //www.facebook.com/chatnuchai.sombatsri/posts/495749333795554

Copy//วันนี้ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมตลาดนัดสีเขียว(GreenMarket)เทศบาลตำบลเมืองแกลง อ.แกลง จ.ระยอง ตั้งอยู่ที่สนามกีฬาเทศบาลตำบลเมืองแกลงเป็นตลาดที่ประชาชน พ่อค้าแม่ค้ามีส่วนร่วม นำสินค้าเกษตรปลอดสารเคมีและอาหารพื้นบ้าน มาจำหน่ายทุกวันพุธ ช่วงตั้งแต่เวลา 15.30-19.30 น. บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักทั้งผู้ซื้อและผู้ขายภาชนะในตลาดใช้วัสดุธรรมชาติเช่น ใบตอง ใบบัว ถุงกระดาษ ไม่ใช้โฟมใช้ถุงพลาสติกให้น้อยที่สุด ลดการใช้พลังงาน ส่งเสริมเศรษฐกิจในชุมชนประชาชนได้บริโภคอาหารที่สะอาดปลอดภัย มีการสุ่มตรวจสารเคมีในอาหาร มีคณะกรรมการคัดเลือกแม่ค้าและลงไปตรวจสอบแหล่งผลิตอาหารสมบูรณ์แบบมากครับ ต้องขอขอบคุณท่านนายกเทศมนตรีตำบลเมืองแกลงท่านนายกสมชาย จริยเจริญและคณะผู้บริหารได้ให้การต้อนรับและให้ข้อมูลอย่างครบถ้วนครับ

เครดิต คุณฉัตรนุชัย สมบัติศรี รองปลัดเทศบาลนครระยอง ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ครับ

เครดิตภาพบางภาพ คุณสมชาย จริยเจริญ นายกเทศมนตรีตำบลเมืองแกลง ขอขอบคุณ มา ณ ที่นี้ครับ



ผู้บริหารเมืองมีความเข้าใจในการส่งเสริมให้เกิดตลาดนัดสีเขียว (Green Market) ในชุมชน

ในภาพ จะเป็นท่านนายกเทศมนตรีเมืองแกลง คุณสมชาย จริยเจริญและคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและให้ข้อมูลท่านรองปลัดเทศบาลเมืองระยอง คุณ ฉัตรนุชัยสมบัติศรี



พ่อค้าแม่ค้ามีส่วนร่วม นำสินค้าเกษตรปลอดสารเคมีและอาหารพื้นบ้าน มาจำหน่ายทุกวันพุธ ช่วงตั้งแต่เวลา 15.30-19.30 น.



บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย



เศรษฐกิจชุมชน มีการหมุนเวียนที่ดีครับ ได้คุณภาพของสินค้า อาหารที่ดีเพราะมีการตรวจสอบแหล่งผลิตอาหาร



บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย



เสวนาเบาๆ ในตลาดนัดสีเขียว








บรรยากาศตลาดกลางแกลง ตลาดนัดสีเขียว (Green Market)



มีการคัดแยกขยะ นำไป Recycle ด้วยครับ



คนหัวซอยยายนาง ชุมชนบ้านแหลมยาง เขยิบคั่วแกงเป็ดลูกกล้วยลือชื่อกระเดียดกระจาดผักสดแตะตลาดกลางแกลงแล้ว



หลายส่วนฝ่าย...พกพาหน้าที่พร้อมไมตรีจิตมาแบ่งปันกันที่ตลาดกลางแกลง...พุธที่ ๖ มีนานี้ เป็นนัดที่ ๑๓

เครดิต //www.facebook.com/photo.php?fbid=2826769965703&set=a.1157122625563.18933.1752682292&type=1

ท่านที่สนใจข้อมูล บทความดีๆ มีสาระ สามารถเข้าไปกด like บน Facebookตามลิ้งก์ด้านล่างนี้ เพื่ออ่านข้อมูลปัจจุบัน และย้อนหลังซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่าน ไม่มากก็น้อยครับ

//www.facebook.com/tourrattanakosin








 

Create Date : 14 มีนาคม 2556    
Last Update : 14 มีนาคม 2556 13:31:33 น.
Counter : 2971 Pageviews.  

หวังว่าบ้านเรา จะไม่รอให้น้ำมันลิตรละ 100 บาทก่อน ถึงจะเริ่มคิดนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้กันอย่างจริงจัง


หวังว่าบ้านเรา จะไม่รอให้น้ำมันลิตรละ 100 บาทก่อน ถึงจะเริ่มคิดนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้กันอย่างจริงจัง


ต่อจากบทความเมื่อวานครับตามลิ้งก์ //www.oknation.net/blog/thaitourismsociety/2013/03/04/entry-1

ทั่วโลก เค้าสนับสนุนการใช้พลังงานแสงอาทิตย์อย่างจริงจังเพียงใด แต่บ้านเราจะจริงจัง และจริงใจกันแค่ไหน ท่านผู้อ่านทุกท่านช่วยๆ กันสอบถาม เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกันด้วยครับว่าเราจะพัฒนาให้เกิดความคุ้มค่าในระยะยาวกันอย่างไรเพราะบ้านเราดูเหมือนยังไม่จริงใจในการวางแผน หรือบ้านเราคิดแต่จะใช้น้ำมันที่มีราคาแพงอยู่ตลอดเวลา

อ้างอิงเนื้อหาและภาพ ตามลิ้งก์ GreenOcean Society ขอขอบคุณ มา ณ ที่นี้ครับ

//www.facebook.com/gosociety


"สถานีชาร์ทรถไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์"

บ้านเราเริ่มคิดอะไรแบบนี้กันบ้างแล้วหรือยัง???

สถานีชาร์ทรถไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เมืองเวสต์พอร์ตรัฐคอนเนตทิคัท สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ทำการติดตั้งแผง Solar Cell ไว้บนหลังคาและอาศัยพลังงานจากแสงอาทิตย์มาใช้ในการชาร์ทรถ บ้านเราอากาศร้อนๆน่าจะนำมาใช้บ้าง

Credit : Milky way scientists


องค์ความรู้ พลังงานจากแสงอาทิตย์ (พลังงานทดแทน)

องค์ความรู้จากทั่วโลก เรียนทันกันได้...แต่รัฐบาลไทยไม่ทราบจะเริ่มโครงการแบบนี้กันเมื่อไหร่

เริ่มทำวันนี้ ดีกว่าไม่เริ่มทำอะไร

ผู้ประกอบรายหนึ่ง ในเมืองเล็กๆ ในเอลซาอัสส์ ของกรุงเม็กซิโกได้ออกแบบและติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อนำไปปรุงอาหาร และใช้ในครัวเรือนซึ่งเตาพลังงานแสงอาทิตย์นี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้กับประชาชนในชนบท

Credit : energysavingmedia, greenroof


ป้ายรอรถโดยสารประจำทาง ที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลียสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ในอัตรา 145 กิโลวัตต์ / วัน ความพิเศษของป้ายรอรถโดยสารประจำทางของที่นี่ก็คือมีการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ ซึ่งเมืองเพิร์ธเป็นเมืองที่มีแสงแดดร้อนจัดที่สุดในโลกโดยมีแสงแดดเฉลี่ยประมาณ 8 ชม. / วัน ตลอดทั้งปีเรียกได้ว่าเป็นการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติได้คุ้มสุดๆ โดยดึงความเด่นของภมูิอากาศประเทศมาใช้

Credit : Greenroof


ฮอนด้าสร้างสถานีชาร์จไฟให้กับรถ (Honda EV ChargingStation) โดยดึงเอาพลังงานจากแสงอาทิตย์มาใช้ประโยชน์

Credit : ecofriend

ชมวีดีโอครับ 




Solar Floating Resort รีสอร์ตลอยน้ำพลังงานแสงอาทิตย์

ออกแบบโดย Michele Puzzolante ดีไซเนอร์ชาวอิตาลีที่ปิ๊งไอเดียสร้างรีสอร์ตเรือสำราญแห่งอนาคตเตรียมไว้สำหรับนักท่องเที่ยวผู้รักผืนน้ำและแสงแดด รีสอร์ตลอยน้ำแห่งนี้มีขนาดกว้าง 66 ฟุต ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ตัวผนังของรีสอร์ตโดยรอบเป็นสุญญากาศ วัสดุส่วนใหญ่ทำมาจากผ้าผสมไฟ

เบอร์กลาส หนา 15 มม และเสริมด้วยไม้หนา 30 ซม ภายในออกแบบให้มีห้องพัก ทั้งแบบห้องนอนเดี่ยว ห้องนอนคู่ ห้องอาบน้ำห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร มีจุดพักผ่อนโดยรอบนอกจากนั้นยังมีสะพานที่เชื่อมต่อไปยังดาดฟ้าชั้นบนอันเป็นที่วางอ่างอาบน้ำร้อนซึ่งสามารถชมทิวทัศน์ได้โดยรอบด้วยพื้นที่ด้วย ทั้งนี้ผู้ออกแบบหวังว่าแนวคิดของเขาจะเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดรีสอร์ตลอยน้ำขึ้นมาจริงๆและมันจะกลายเป็นจุดพักผ่อนที่น่าสนใจไม่น้อยที่สำคัญต้องสร้างให้เป็นรีสอร์ตรักษ์โลก ไร้มลพิษ และใช้พลังงานสะอาดเพื่อให้รีสอร์ทใน อนาคตเป็น Green Resort นั่นเอง

Credit : Green Network Magazine


ดีไซเนอร์หัวใสกับรถไอติมสีสดพลังแสงอาทิตย์

บริษัท Sungevity ขับรถคันนี้แจกหวานเย็นฟรีไปทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาความตั้งใจของนักดีไซเนอร์คือต้องการดึงดูดให้คนเข้ามาใกล้ๆ มารับหวานเย็นกินฟรีๆแถมเป็นหวานเย็นที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติล้วนๆ อีกด้วย นอกจากจะอร่อยชื่นใจแล้วยังได้รับรู้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เชิญชวนให้มาร่วมกันใช้พลังงานทางเลือก

Credit : CreativeMOVE


ปั๊มน้ำมันสีเขียว" ประหยัดพลังงานติดตั้งแผงโซล่าเซลล์และกังหันลมที่หลังคาปั๊มน้ำมัน

Geotectura ร่วมกับ สมาคมสถาปนิก มัลล์กา (Malka)ในประเทศอิสราเอล ดำเนินการสร้าง "ปั๊มน้ำมันสีเขียว"ประหยัดพลังงาน โดยมุ่งให้เป็นปั๊มน้ำมันที่สามารถผลิตพลังงานหมุน

เวียนจึงได้ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์และกังหันลมที่หลังคาปั๊มน้ำมันสำหรับแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าสำหรับใช้ภายในปั๊มสีเขียว และสามารถเก็บสำรองพลังงานไว้ใช้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้านอกจากนี้ชั้นใต้ดินของปั๊มน้ำมันสีเขียวประหยัดพลังงานยังเปิดให้บริการเป็นร้านกาแฟที่สามารถมองเห็นภายนอกได้อย่างชัดเจนอีกด้วย

Credit : Green Network Magazine

พลังงานทดแทน: ญี่ปุ่นเดินหน้าปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

ในปีนี้ 2013 ปีเดียวคาดว่าญี่ปุ่นจะติดตั้งโซล่าเซลตามหลังคาบ้านมากถึง 5,000 MW คือ 10เท่าของเขื่อนภูมิพล ในขณะที่นักการเมืองและข้าราชการไทยร่วมกันรุมแดกพร้อมประกาศว่าโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 2,000 MW ตามแผน 15 ปีทำไม่ทัน แล้วยังจะหาเรื่องสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เยอร์มันและญี่ปุ่นจะเลิกใช้

เครดิต Pinit Asavanuchit

//www.facebook.com/photo.php?fbid=10151319898727102&set=a.393951327101.176400.557472101&type=1&theater

ท่านที่สนใจข้อมูล บทความดีๆ มีสาระ สามารถเข้าไปกด like บน Facebookตามลิ้งก์ด้านล่างนี้ เพื่ออ่านข้อมูลปัจจุบัน และย้อนหลังซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่าน ไม่มากก็น้อยครับ

//www.facebook.com/tourrattanakosin




 

Create Date : 06 มีนาคม 2556    
Last Update : 6 มีนาคม 2556 16:09:00 น.
Counter : 2856 Pageviews.  

รัฐบาลคิดเรื่องการเชื่อมโยงเครือข่ายการเดินทางสาธารณะหรือยัง?? เพราะน้ำมันตอนนี้มันแพงเหลือขนาด

น้ำมันแพง น่าจะคิดเรื่องเครือข่ายเชื่อมโยงเดินทางสาธารณะกันได้แล้วครับรวมทั้งสร้างสิ่งที่อำนวยความสะดวกเอื้อให้ประหยัด

วันนี้มีภาพพร้อมคลิปมากมาย ที่ผมโพสต์ลงบน Facebook พอมีหลายภาพและมีเนื้อหาในแนวทางเดียวกัน ก็เลยคิดว่าน่าจะนำเสนอ เผยแพร่กันครับเพราะบ้านเราข่าวแบบนี้มีไม่มากครับ แต่ผมเห็นภาพแบบนี้ในอินเตอร์เน็ตอย่างมากมายซึ่งในต่างประเทศเค้ารณรงค์กันอย่างต่อเนื่อง และจริงจังมานานแล้วครับ...

ลองชมคลิปวีดีโอระบบราง Streetcar รถรางเบากันก่อนเลยครับว่ามันดีอย่างไร สามารถเชื่อมโยง หรือใช้ร่วมกับอะไรได้บ้าง ตลอดจนเกิดผลดีกับย่านพาณิชยกรรม อย่างไรบ้าง แต่เรื่องรถติดถ้าไม่แก้เรื่องลดการใช้รถยนต์ในเมือง ก็คงไม่มีทางแก้ได้ครับ ทุกคนก็รู้กันดีแต่ไม่ยอมแก้ปัญหากันอย่างจริงจังเท่านั้นเอง รถจึงยังติดกันต่อไปอีกนานแสนนานเพราะไม่คิดจะแก้กันจริง



Streetcar รถรางเบาหนึ่งในระบบขนส่งมวลชนระบบราง ที่ได้รับความนิยมในทั่วโลกขณะนี้ นับร้อยๆเมืองในหลายสิบประเทศ คนในประเทศเค้า นิยมใช้ในการเดินทาง....นักผังเมืองจากทุกสำนัก ยกให้ Streetcar เป็นขนส่งมวลชนสาธารณะที่ดีที่สุดในโลกขณะนี้....คุ้มค่ากว่า ประหยัดกว่า ไม่มีมลพิษ เพราะใช้ไฟฟ้า เป็นมิตรกับทัศนียภาพเป็นมิตรกับอาคารอันทรงคุณค่า ที่รถรางพาดผ่าน


เข้าสู่บทความกันครับ ว่าการเชื่อมโยงเครือข่ายการสัญจรสาธารณะไม่ว่าจะเป็นการเดิน การใช้จักรยาน ร่วมกับระบบขนส่งมวลชนสาธารณะต่างๆ เช่นระบบรางStreetcar รถรางเบาหรือเรือ มันจะช่วยให้ประเทศชาติเป็นอย่างไรบ้างและความสะดวกสบายกับผู้เดินทางสัญจร จะได้อย่างไร กอรปกับ ทัศนียภาพที่ดีเมืองน่าอยู่จะเป็นเช่นไร ภาพต่างๆ เหล่านี้มีอยู่จริงทุกภาพครับแต่ยังไม่เห็นจริงในประเทศไทยเท่านั้นเอง

นำภาพมาให้ชม เพราะได้แต่หวังว่า ผู้บริหารบ้านเมืองที่เห็นประโยชน์ส่วนรวม จะทำจริงในวันใดวันหนึ่งครับ




ประเทศที่เค้ารวยกว่าเรา เค้ายังประหยัดกันเลยสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้เมืองในระยะยาว เพื่อทำให้เกิดการประหยัดและการเชื่อมโยงเครือข่ายสัญจรสาธารณะอย่างแท้จริงครับ


ราคาน้ำมัน และเชื้อเพลิง ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์2556 แพงน่าดูเลยครับ

ราคาขายแพงกว่ามาเลเซียน่าจะประมาณ 2 เท่า แล้วเราจะแข่งขันกับเค้ายังไง เมื่อเราเข้าร่วมAEC กันครับ



Upside down กลับหัวกลับหางสงสัยเวลาคิด..."ตีลังกา" คิดกัน..เจ๊งลูกเดียวเมื่อไหร่จะแก้ปัญหาจราจร กันได้...

ผู้บริหารบ้านเมืองเรา เอา “ส่วนไหน”คิดกันครับ หรือ “ตีลังกา” คิดกันครับเพราะทุกอย่างเหมือนเอาหัวลงล่าง กลับหัวกลับหาง สวนทางกับแนวความคิดแก้ปัญหาจราจร ของทุกประเทศทั่วโลกแล้วเราจะแก้ไขปัญหาจราจรกันได้อีกเมื่อไหร่ ลองคิดกันดู

เครดิต เนื้อหา และภาพ อ.นิคม บุญญานุสิทธ์

เรื่องง่ายๆเกี่ยวกับการบริการความสะดวกสบายใน การเดินทางที่บรรดาผู้เกี่ยวข้องกับการบริหารพื้นที่ทุกระดับควรคิดคำนึง....แปลกใจก็แต่ประเทศไทยว่าทำไมรถยนต์ส่วนตัวที่มันอยู่ในเกณฑ์ต้องอำนวยความสะดวกให้น้อยที่สุด ในมาตรฐานการจัดการจราจรแบบสากลมันดันได้รับความนิยมให้มาอยู่ในช่องแรกแทนผู้คนที่เดินเท้าไปได้....ต่อให้ คิดหาหนทางแก้ปัญหาจราจรอีกสักสิบชาติก็ไม่มีวันเจอ

อ้างอิงลิ้งก์ https://www.facebook.com/photo.php?fbid=369738163043301&set=a.231753993508386.76424.222474371103015&type=1&theater




เมืองที่น่าอยู่...เชื่อมโยงเครือข่ายสัญจรสะดวกสบายในการเดินทาง...เป็นการ เชื่อมต่อการสัญจรอย่างทั่วถึง ระหว่างการเดินการปั่นจักรยาน การใช้ระบบขนส่งอื่นๆ เช่นระบบราง เรือ หรือรถสาธารณะ

Public Transit Connection

Walk, Bike , Streetcar , Bus , Boat



เชื่อมโยงเครือข่ายสัญจร สะดวกสบายในการเดินทาง

ภาพแนวความคิด



สร้างสิ่งอำนวยความสะดวก เชื่อมโยงเครือข่ายการเดินทางสาธารณะไม่ว่าจะเดิน หรือจะปั่นจักรยาน ถ้าปั่นจักรยานมา ก็มีที่จอดจักรยานรองรับหรือถ้าจะให้ดี เช่นระบบรางในหลายสิบประเทศก็สามารถนำจักรยานเดินทางไปได้ทั่วเมือง หรือทั่วประเทศ



 

มีสิ่งอำนวยความสะดวก แบบนี้ ลดการสิ้นเปลืองน้ำมันลดมลพิษได้อย่างแน่นอนครับ

ถ้าไม่เริ่มคิดกันวันนี้ ก็บริโภคน้ำมันแพงกันต่อไปครับ



ภาครัฐ ต้องสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกครับถ้าคิดว่าประชาชนเป็นจุดศูนย์กลาง



 

ใช้จักรยาน เชื่อมต่อการเดินทางกับระบบราง


 

การสัญจรสีเขียว เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Streetcar รถรางเบาเป็นมิตรกับทัศนียภาพอีกต่างหาก



กายภาพเมืองที่ดีครับ....ถนนเส้นเดียวกันใช้ร่วมกับการเดินทางประเภทต่างๆได้ครับ



ภาพนี้อธิบายระบบการสัญจรสีเขียวในเขตชั้นในของเมืองได้ชัดเจนมากการเดิน การปั่น และการใช้รถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ทุกระบบต่างไม่เพิ่ม carbon footprint ซึ่งหมายถึงการไม่เป็นปัจจัยให้เกิดปัญหาโลกร้อนครับ (Credit:Splot Szewska)

เครดิต Smart Growth Thailand บน facebookตามลิ้งก์ //www.facebook.com/SmartGrowthThailand



ทำเมืองให้น่าเดิน น่าใช้จักรยาน สุขภาพคนในเมืองก็จะดีครับสุขภาพดี ก็ประหยัดงบรักษาจากการเจ็บป่วยครับ



ถ้าจริงใจ คำนึงถึงประชาชนก็ควรสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกกันครับ



ที่ฝรั่งเศส ก็เคยรถติดหนึบ มาก่อนเราครับ แต่ผู้บริหารเมืองเค้าจริงใจ ยอมรับว่ามีปัญหาจริง ก็แก้ไขจนกลายเป็นเมืองที่น่าอยู่ครับโดยการเชื่อมโยงเครือข่ายการสัญจรสาธารณะ แบบนี้แหละครับ

(ลดรถยนต์ ทำได้จริงในฝรั่งเศสครับ)



ในอัมสเตอร์ดัมส์ วางแผนระยะยาว จนกลายเป็นเมืองจักรยานโดยมีการเรียนการสอน มีการสอบ เรื่องการใช้จักรยานโดยเด็กทุกคนต้องผ่านหลักสูตรนี้กันครับ บ้านเรามีใครบ้างหรือยังครับ



ระบบรางดีแน่นอนครับ เพราะตอนนี้ น้ำมันแพงหูฉี่ จะเข้าเป็น AEC แล้วแต่ต้นทุนราคาน้ำมันของไทยสูงกว่ามาเลเซีย 2 เท่าในขณะนี้แล้วเราจะแข่งขันกับเค้ายังไง

ท่านที่สนใจข้อมูล บทความดีๆ มีสาระ สามารถเข้าไปกด like บน Facebookตามลิ้งก์ด้านล่างนี้ เพื่ออ่านข้อมูลปัจจุบัน และย้อนหลังซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่าน ไม่มากก็น้อยครับ

//www.facebook.com/tourrattanakosin








 

Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2556    
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2556 9:24:22 น.
Counter : 1154 Pageviews.  

คลิ๊กคนละแชร์ (Share) คลิ๊กคนละ like ให้ถึงล้าน Like เพื่อบอกว่า "เราอยากให้มักกะสันเป็นสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์"


ร่วมด้วยช่วยกันครับ เพื่อ “สวนสาธารณะ ที่เป็น ปอดกรุงเทพมหานคร” ซึ่งนับวัน จะเหลือน้อยๆ เต็มทน แถมยังมีแนวโน้มค่อนข้างสูงมาก ที่จะถูกนำพื้นที่สีเขียวที่เหลือน้อยมากในกรุงเทพมหานครไปสร้างศูนย์การค้า ซึ่งที่จริง ใน กทม. ศูนย์การค้า ก็มีมากมายมหาศาล อยู่แล้วศูนย์การค้าที่จะสร้าง ถามว่า คนได้ประโยชน์ก็คงมีอยู่ แต่ถ้าเป็นสวนสาธารณะคนได้ประโยชน์ ก็คือคนที่อาศัยใน กทม. สิบกว่าล้านคนครับ ถ้าเป็นศูนย์การค้าคนได้ประโยชน์ น่าจะน้อยกว่าอย่างสิ้นเชิงครับ อย่างไรก็แล้วแต่ครับวันนี้จะนำเสนอภาพพร้อมคำบรรยาย จาก Facebook เพจ "เราอยากให้มักกะสันเป็นสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์"ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มสถาปนิก ที่เป็นจิตอาสา อยากให้บ้านเมืองเรา มีพื้นที่สีเขียว เท่าที่ควรจะเป็นซึ่งบ้านเรา โดยเฉพาะ กทม. ด้วยแล้ว นับว่ามาตรฐานพื้นที่สีเขียวต่ำกว่าชาวโลกเค้ามากเลยครับ ....ค่อยๆ ติดตามอ่านกันไปเรื่อยๆ ครับอย่างไรก็แล้วแต่ครับ ช่วยกันคลิ๊ก Like เพื่อขยายเครือข่ายกลุ่ม “"เราอยากให้มักกะสันเป็นสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์"กันครับ

//www.facebook.com/makkasanhope

บางภาพ และเนื้อหาในเพจ ครับ 



ต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น ให้ความเย็นเท่ากับ 12000 บีทียู...

ต้องใช้ต้นไม้ใหญ่เท่าไหร่...

กทม. จึงเย็นโดยไม่ต้องเปิดแอร์...



ข้อเท็จจริงที่น่าเป็นห่วงฮะ...

กรุงเทพมหานคร ควรมีพื้นที่สีเขียว 12 ตร.ม./คนแต่วันนี้เรามีแค่ 3 ตร.ม./คน



เป็นที่ทราบกันว่า เรากำลังมีวิกฤตด้านพลังงาน พื้นที่ขนาด 700ไร่แห่งนี้ กำลังจะพัฒนาเป็น "มักกะสันคอมเพล็กซ์"เราจะต้องใช้พลังงานอีกเท่าไหร่มาดูแลโครงการนี้กันหรือ ???

"มักกะสัน" เพื่อลูกหลานภูมิใจ...และลมหายใจที่สดใสของวิถีชีวิตคนเมือง



ทำไมต้อง "มักกะสัน"??

1. เพราะพื้นที่นี้อยู่ใจกลางเมืองและยังไม่ถูกนำไปพัฒนา

2. เพราะเป็นพื้นที่สีเขียวของรัฐแปลงสุดท้ายและประชาชนมีสิทธิ์ในการมีส่วนร่วมตามรัฐธรรมนูญ

3. เพราะผืนดินนี้มีความอุดมสมบูรณ์มากมีต้นไม้ใหญ่ที่ใช้เวลาหลายสิบปีในการเติบโตที่ควรรักษาไว้

4. เพราะมีขนาดใหญ่ถึงเกือบ 700 ไร่ สามารถใช้เป็นปอดของกรุงเทพฯ ได้จริงเป็นพื้นที่เพื่อคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ ได้จริง

5. เพราะเป็นพื้นที่ที่การคมนาคมเข้าถึงได้ง่ายเหมาะกับการเป็นสวนสาธารณะเพื่อส่วนรวม

6. เพราะอาคารโรงซ่อมรถโดยสารที่นี่ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่นประเภทอาคารสถาบันและอาคารสาธารณะ จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์และควรค่าแก่การอนุรักษ์

7. เพราะถ้าไม่ทำวันนี้วันหน้าจะไม่มีโอกาสได้รักษาพื้นที่แห่งนี้อีก (เนื่องจากกำลังมีโครงการนำพื้นที่แห่งนี้ไปทำคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ระดับแสนล้านบาท)

เพิ่มเติม:

• ปัจจุบันอัตราส่วนพื้นที่สีเขียวของคนกรุงเทพฯ อยู่ที่ 1 ต่อ 3 ตารางเมตร ขณะที่มาตราฐานอยู่ที่ 1 ต่อ 9 ตารางเมตร

• พื้นที่นี้เคยเป็นพื้นที่รับน้ำกลางเมือง เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังโดยเป็นแหล่งรับน้ำขนาดใหญ่ชั่วคราวที่ระบายไม่ทันในเมืองก่อนระบายออกสู่แหล่งน้ำอื่นต่อไป เสมือนแก้มลิงกลางเมือง

** จริงๆ แล้ว หากค่อยๆ มองภาพนี้ดีๆก็จะได้คำตอบว่าทำไมเราต้องรักษาพื้นที่มักกะสันนี้ไว้ให้เป็นคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกหลานเราและคนกรุงเทพฯต่อไปครับ **



หลายท่านสงสัย...คนเหล่านี้คือใคร???

>>>>>>

พวกเราไม่ใช่นักการเมือง...

พวกเราไม่ใช่ NGO...

พวกเราไม่เคยลุกมาเรียกร้องอะไร...

พวกเราบางคนเป็นนักออกแบบ...

บางคนเป็นลูกจ้าง...

บางคนเป็นเจ้าของกิจการ...

แต่ที่สำคัญคือ

พวกเราเป็นคนกรุงเทพฯ...

มีครอบครัวอยู่ในกรุงเทพฯ...

มีลูกหลานที่จะเป็นคนกรุงเทพฯต่อไป...

เพราะเราจะไม่ทน...

นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เราทำเรื่องนี้...



ถ้า "มักกะสัน" เป็น "คอมเพล็กซ์"คนกรุงเทพจะได้...

- ต้นไม้ใหญ่ที่มีอยู่เดิมถูกตัดทิ้งปลูกทดแทนได้ยากมาก

- การระบายน้ำสู่ผิวดินน้อยลงเพราะถูกแทนที่ด้วยคอนกรีต ทำให้ไปพึ่งการระบายน้ำผ่านระบบท่อระบายอย่างเดียวทำให้น้ำท่วมได้ง่ายขึ้น

- มลพิษทางอากาศสูงขึ้นเพราะขาดต้นไม้ใหญ่ดูดซับ

- การจราจรติดขัดขึ้นเพราะพื้นที่ถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่พาณิชยกรรม

- อัตราส่วนพื้นที่สีเขียวต่อคนใน กทม.จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

- อาคารเก่าที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์จะถูกรื้อทิ้ง

- เมืองจะร้อนขึ้นเพราะคอนกรีตจะคายความร้อนสะสมในช่วงค่ำ

- ความหนาแน่นในการใช้ที่ดินจะสูงขึ้น

- คุณภาพชีวิตคนเมืองจะลดลง เพราะขาดที่ว่างเปิดโล่งเพื่อตอบสนองกิจกรรมทางสังคม

มีแฟนเพจหลายคนถามถึงว่า"ทำไมต้องเป็นที่ดินมักกะสันแห่งนี้?" เช้านี้ทีมงานฯ ถือโอกาสสรุปสิ่งที่เรามองเห็นในพื้นที่แห่งนี้และตอบคำถามนี้นะครับ


"เมืองคือร่างกาย สวนสาธารณะคือปอด"

อากาศโดยรอบทั้งที่อยู่ภายในและภายนอกอาคารล้วนมีส่วนสำคัญต่อสุขภาพของคนเราทัศนคติ ประสิทธิภาพในการทำงาน และมีผลต่อการมีชีวิตอย่างมีความสุขการรักษาคุณภาพของอากาศจึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อทุกชีวิตที่ยังต้องดำเนินไปคุณภาพอากาศในกรุงเทพฯมีค่ามลภาวะเกินมาตรฐานอยู่เสมอโดยเฉพาะตามใจกลางเมืองย่านธุรกิจ ที่มีหมอกควันจากการจราจร และกิจกรรมการใช้ชีวิตของคนคุณภาพอากาศภายในอาคารเราอาจดูแลได้ด้วยเครื่องฟอกอากาศแต่อากาศภายนอกหละ..สวนสาธารณะน่าจะเป็นคำตอบเดียวเท่านั้น..เรายังจะตัดปอดของเราทิ้งเพื่อแลกกับเงินอย่างนั้นหรือ



“Let’s our child play”

ในช่วงพัฒนาการของเด็กการละเล่นต่างๆล้วนเป็นส่วนช่วยเสริมพัฒนาการของเด็กทั้งทางร่างกาย อารมณ์สังคมและสติปัญญา พื้นที่ว่างเป็นสิ่งจำเป็นในการแสดงออกของเด็กได้ฝึกการเคลื่อนไหวผ่านการเล่นในรูปแบบต่างๆ เรียนรู้การอยู่ร่วมกันในสังคม ผ่านการแบ่งปันและมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนในวัยเดียวกันรวมทั้งเรียนรู้โลกรอบตัวที่ใหญ่เกินกว่าจะเรียนรู้ได้จากภายในบ้านหรือคอนโดหน่วยการอยู่อาศัยของครอบครัวเมืองได้เรียนรู้ที่จะรักธรรมชาติ ต้นหญ้า ดอกไม้และกลิ่นดินที่ไม่สัมผัสจากการเปิดหนังสือหรือสื่อทางอินเตอร์เน็ตคุณพ่อคุณแม่สมัยใหม่ล้วนแต่ประสบปัญหาการติดเกมส์ผ่านทางสื่อมือถือชนิดต่างๆการขาดทักษะการสื่อสารกับผู้คนรอบข้าง และมีแนวโน้มในการเป็นโรคอ้วน ภูมิแพ้และโรคอื่นๆมากกว่าเด็กรุ่นก่อนๆสิ่งเหล่านี้เพราะการเด็กขาดสภาพแวดล้อมอันเหมาะสม อย่างสวนในชุมชน สวนสาธารณะกลางเมืองที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายอย่างเพียงพอนั้นเอง



“Imaginary come into a reality”

กรณีศึกษาเกี่ยวกับพื้นที่รถไฟที่รกร้างถูกนำมาสรรค์สร้างให้เกิดประโยชน์กับชุมชนเมืองกับโครงการ "The High Line Park" ที่อยู่ทางซีกตะวันตกของเกาะแมนฮัตตันมหานครนิวยอร์ค ซึ่งถูกปล่อยทิ้งร้างเนื่องจากคนหันไปเดินทางกับถนน interstateแทน ซึ่งหลังจากการเปิดใช้ในเดือนมิถุนายน ปีคศ.2009 มีงานศึกษาพบว่าทำให้สภาพพื้นที่โดยรวมมีการพัฒนาขึ้นทั้งด้านอสังหาฯและการเกิดอาชญากรรมลดลงในบริเวณดังกล่าวซึ่งโครงการนี้เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อนอาสาและคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวได้ทำการรณรงค์จนกระทั่งภาครัฐได้เข้ามาส่งเสริมทางด้านเงินทุน..เรามาร่วมกันส่งแรงให้มักกะสันได้เกิดเป็นโครงการตัวอย่างขึ้นในประเทศไทยบ้านของเรา เมืองของเรา



"เดินสวนสวยชมโรงซ่อม"

พื้นที่มักกะสันบริเวณนี้ที่จริงแล้วมีประวัติศาสตร์คู่กับการพัฒนาประเทศไทยเพราะเป็นโรงซ่อมใหญ่ของการรถไฟในการซ่อมบำรุงขบวนรถไฟต่างๆเปิดใช้งานตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ.2453อายุก็เลยแซยิดมามากโข คงจะดีหากเรามีการอนุรักษ์ในส่วนของประวัติศาสตร์คู่ไทยสมัยใหม่นี้ด้วย

(ข้อมูล: //portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=5552)

(เครดิตภาพ: the Railway Museum inSaitama near Tokyo which opened in 2007)



คอมเพล็กซ์มหึมา กำลังจะมาแทนที่ต้นไม้เหล่านี้

กรุงเทพมหานคร จะกลายเป็นป่าคอนกรีตเต็มรูปแบบสำหรับชีวิตคนเมือง

แฟนๆเพจแนวร่วมทุกท่านค่ะวันนี้ทางทีมงานจะขอรายงานความคืบหน้าของสิ่งที่ทางทีมงานกำลังดำเนินการให้สิ่งที่นำเสนอเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นค่ะโดยสิ่งที่ทางทีมงานได้ดำเนินการอยู่มีหลักๆดังนี้ค่ะ



1. ทางทีมจะทำการสัมภาษณ์ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเพื่อจะนำแนวคิดนี้สื่อสารไปถึงผู้สมัครและรับฟังแนวคิดของผู้สมัครเพื่อให้พวกเราได้ใช้ในการพิจารณาต่อไป...โดยทางทีมจะถ่ายคลิปมานำเสนอให้แฟนเพจทุกท่านทราบต่อไป...

2. ทีมงานได้รับการติดต่อจากสื่อหลายรูปแบบเพื่อทำการสัมภาษณ์ขยายแนวคิดลงในสื่อต่างๆต่อไปทั้งทีวีดาวเทียม นิตยสารหนังสือพิมพ์...ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการประสานและเตรียมให้สัมภาษณ์กับสื่อดังกล่าวที่ติดต่อมา

3. ทีมงานได้รับการติดต่อจากสมาชิกวุฒิสภาบางกลุ่ม ที่จะร่วมพลักดันในทางกฎหมาย...

4. ทีมงานได้ติดต่อกับทาง Change.org เพื่อเตรียมการทำประชามติในการขอมักกะสันไว้เป็นสวนฯ...เมื่อดำเนินการเรียบร้อยคงต้องขอพลังร่วมแรงร่วมใจกับแฟนเพจทุกท่านด้วยนะค่ะ...

5. ทีมงานที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายกำลังหาช่องทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมในการดำเนินการ...ซึ่งคงต้องใช้เวลาอยู่พอสมควรเพราะมีรายละเอียดที่มากและซับซ้อน

6. ทีมงานได้จัดทำ Sticker และ เสื้อยืดเพื่อการรณรงค์แต่เนื่องจากทุนยังจำกัดจึงอาจจะจัดให้มีการจัดงานเพื่อหาทุนในการรณรงค์ต่อไปตามสมควรค่ะ...



(เสาร์ที่ 23 ก.พ.)ร่วมรับฟังกลุ่มมักกะสันกับตัวแทนจากชุมชนอื่นและนักวิชาการเพื่อสะท้อนปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่มีในกรุงเทพฯซึ่งกำลังส่งผลกระทบออกไปถึงพื้นที่รอบนอกและจังหวัดข้างเคียงจากการเติบโตของเมืองหลวงที่ไร้ทิศทางครับ



นำภาพบรรยากาศของเช้าวานนี้ที่ทีมงาน "เราอยากให้มักกะสันเป็นสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์"ได้เข้าพบกับ สว.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ และ สว.คํานูณ สิทธิสมานในการนำเสนอเอกสาร...ความคิดและร่วมพูดคุยหารือในเรื่องดังกล่าวราว 1ชั่วโมง...



เช้าวันนี้ทีมงาน"เราอยากให้มักกะสันเป็นสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์" ได้เข้าพบกับ สว.สุมลสุตะวิริยะวัฒน์ และ สว.คํานูณ สิทธิสมานในการนำเสนอเอกสาร...ความคิดและร่วมพูดคุยหารือในเรื่องดังกล่าวราว 1ชั่วโมง...



จาก 1 ความฝัน .......ส่งต่อเป็น พลัง

สานต่อ หลายฝัน ...... เพื่อ มักกะสัน ของเรา



อยากได้สวน ในกรุงเทพฯ อย่างที่คิด

ต้องร่วมจิต ร่วมสร้าง อย่างแข็งขัน

เมื่อพลัง ความร่วมใจ มารวมกัน

มักกะสัน จึงเป็นสวน ของมวลชน...



...อยากจะขอซัก ล้าน like ด้วยใจที่ล้าน รัก มักกะสัน...

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงพลัง เพื่อขับเคลื่อนมักกะสันให้เป็นพื้นที่สีเขียวกับเรา

//www.facebook.com/makkasanhope

ทุกๆ Like ทุกๆ Share ของท่านเป็นพลังให้กับเรา....

เราอยากให้มักกะสันเป็นสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์









 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2556    
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2556 0:12:59 น.
Counter : 2430 Pageviews.  

เมืองนอก อนุรักษ์อาคารพิพิธภัณฑ์รถราง อย่างดี แต่ อาคารโรงซ่อมรถไฟ ในมักกะสัน จะมีใครอนุรักษ์

ตามที่เกริ่นนำตามหัวข้อเลยครับเราจะทำกันอย่างไรดี???

“อาคารพิพิธภัณฑ์รถรางในบัลติมอร์ กับ อาคารโรงซ่อมรถไฟ ในมักกะสัน เราจะอนุรักษ์แบบเค้าได้มั้ย”



เปรียบเทียบ การอนุรักษ์ของเก่า ที่ประเมินค่าไม่ได้โรงซ่อมรถไฟ รถราง ระหว่างเมืองบัลติมอร์ และการรถไฟ ที่มักกะสันของไทย (หมายเหตุ :: ภาพสีรถรางด้านซ้ายมือผู้เผยแพร่ตกแต่งเพิ่มเติมเพื่อประกอบการเปรียบเทียบครับ)

โรงซ่อมรถรางในบัลติมอร์ กลายเป็นพิพิธภัณฑ์แล้ว สร้างมูลค่าเพิ่มเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว เพราะเป็นสิ่งที่หาซื้อไม่ได้แล้ว ความคลาสสิครากเหง้าของเมือง ประวัติศาสตร์ของเมืองก็ยังคงอยู่สืบต่อกันมาครับ...

ส่วนโรงซ่อมในมักกะสันมีแนวโน้มที่ไม่ดีนักครับ เพราะแนวโน้มอาจถูกนำไปสร้างศูนย์การค้ากันซะหมดเลยก็คืออาจจะโดนทุบทิ้ง คนอย่างเรา หรือคนรุ่นหลัง ก็อาจจะไม่เห็นของจริงที่มีประวัติศาสตร์กันต่อไป...สรุปก็คือมีแต่ข่าวไม่ดีเกี่ยวกับการอนุรักษ์พื้นที่ที่ควรอนุรักษ์ครับ.... 



รถรางเก่า เมืองนอก เค้าอนุรักษ์กันอย่างดีเก็บรักษาเป็นพิพิธภัณฑ์ ให้คนมาเที่ยวมาศึกษากันครับ ลองดูบรรยากาศกันครับว่าน่าสนใจมากน้อยเพียงใด??? แต่บ้านเราเรื่องพิพิธภัณฑ์รถรางแล้วคนละเรื่องกับเค้าเลยครับ ภาครัฐของเรา แทบไม่มี action plan อะไรเลย ทั้งๆที่ใช้เงินไม่มากมาย แถมถ้าทำดีๆดึงดูดนักท่องเที่ยวได้บานตะไท เหมือนกับที่ทั่วโลกเค้าทำกันครับ

//www.facebook.com/photo.php?fbid=286585408137514&set=pb.191353210994068.-2207520000.1361364105&type=3&theater





อาคารคลาสสิคแบบนี้ โชคไม่ดี ที่ถุกสร้างขึ้นในเมืองไทยครับเพราะถ้าไปอยู่ประเทศที่เค้าเข้าใจเรื่องการอนุรักษ์ น่าจะเก็บรักษากันไปนานๆแต่ปัจจุบัน “รากเหง้า” ของเราเหมือนจะถูกถอนไปทีละอย่างสองอย่าง สัญลักษณ์ของประเทศไทย อาจจะมีแต่ “ศูนย์การค้า” หรือ .”ตึกระฟ้า”อย่างเดียวก็เป็นไปได้ครับ


ท่านที่สนใจข้อมูล บทความดีๆ มีสาระ สามารถเข้าไปกด like บน Facebookตามลิ้งก์ด้านล่างนี้ เพื่ออ่านข้อมูลปัจจุบัน และย้อนหลังซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่าน ไม่มากก็น้อยครับ

//www.facebook.com/tourrattanakosin







 

Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2556    
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2556 0:08:39 น.
Counter : 2009 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  

เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




ภาพอดีต ภาพปัจจุบัน และอนาคต และความเป็นไปของเกาะรัตนโกสินทร์
เล่าเรื่องทริป ที่สุดแสนจะธรรมด๊า ธรรมดา แต่หลายคนอาจมองข้ามไป แต่ในสายตาของนักท่องเที่ยวทั่วโลกแล้ว มัน อเมซิ่ง มากมาย
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.