ข้อมูลผังเมือง บ้านเรา จะพัฒนาเหมือนอารยะประเทศ ที่มีทั้งข้อมูลออนไลน์ ออฟไลน์ สื่อสารให้สาธารณะเข้าใจได้โดยง่าย
อ่านบทความด้านล่างจบ ผมได้แต่รำพึง โอ ..โอ้...อนิจจา ผู้เกี่ยวข้องมีการประชุมทางด้านผังเมืองปีหนึ่งไม่เกิน3 ครั้ง กับภารกิจรับผิดชอบคนไทยทั้งประเทศ 65 ล้านคน ตลอดจนข่าวสารไม่ว่าจะออนไลน์ หรือ ออฟไลน์ (วารสารที่เกี่ยวข้อง)แทบมองไม่เห็นเลย ...ในขณะที่เมืองนอก ผู้บริหารในทุกระดับชั้นเค้าแข่งขันกันให้ข้อมูลประชาชน แล้วทำเรื่องผังเมือง ให้เป็นเรื่องง่ายให้สาธารณะชนเข้าใจ
. บทความเรื่อง เมืองที่ระบบการวางแผนล้มเหลว กรณีเมืองลอสแองเจลิส โดย ฐาปนา บุณยประวิตร ...... บทความดีๆ ที่มีประโยชน์มากมาย ของ นักวิชาการผังเมือง อ.ฐาปนา บุณยประวิตร ซึ่งผมรู้จักผ่านทาง Facebook //www.facebook.com/pages/Smart-Growth-ASIA/355237181167341?sk=wall ที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องการวางผังเมืองพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนตามแนวทางการเติบโตอย่างชาญฉลาด(Smart Growth) ซึ่งผมนำมาตั้งชื่อBlog ผมอีกบล็อกหนึ่งครับ เพราะตั้งใจจะนำข้อคิดข้อเขียนของอาจารย์ทั้งจากใน Facebook ของอาจารย์และในเว็บไซต์ของอาจารย์ //asiamuseum.co.th/ มานำเสนอเท่าที่จะเป็นไปได้ ความจริงหลายเรื่องที่อาจารย์เขียนโดยนำข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างประเทศ ที่เป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ หลาย Case Study ครับ(เพราะส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวที่ดีๆ เกี่ยวกับผังเมืองในอนาคตที่ก่อประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างมหาศาล และแน่นอนทีเดียวหลายอย่างก็สามารถประยุกต์มาใช้ในประเทศไทยได้แน่นอน
หนังสือ Planning Los Angeles เขียนโดยศาสตราจารย์ DavidC. Sloane ผู้อำนวยการ Price School of Public Policy มหาวิทยาลัย SouthernCalifornia และผู้ช่วยบรรณาธิการ Journal of The American PlanningAssociation (APA) บทนำ หนังสือ Planning Los Angeles เขียนโดยศาสตราจารย์David C. Sloane ผู้อำนวยการPrice School of Public Policy มหาวิทยาลัย Southern California และผู้ช่วยบรรณาธิการ Journal of The American Planning Association (APA) รวมทั้งหลายๆบทวิพากษ์ได้ชี้ให้เห็นข้อบกพร่องที่เกิดจากความล้มเหลวของการผังเมืองซึ่งได้ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตสภาพแวดล้อม และสภาวะโลกร้อน โดยภาวะความล้มเหลวที่เกิดจากแผนอาจทำให้เรียกเมืองเหล่านั้นว่าเป็นunplanned City ซึ่งวันนี้เราจะมาดูข้อวิพากษ์ของSloane ถึงสาเหตุที่กล่าวว่าเมืองลอสแองเจลิสเป็นเมืองที่ไม่ประสบความสำเร็จในการวางแผนอย่างไร .....
ภาพแสดงระบบการสัญจรเชื่อมต่อระหว่างศูนย์ของลอสแองเจลิส ภาพจาก ; The Atlantic Cities, 2012 ความล้มเหลวของเมืองตามนัยวิชาการผัง Unplanned City ตามคำจำกัดความของ Smart Growth America ได้แก่เมืองที่ไม่สามารถวางผังและควบคุมการเติบโตของกายภาพเมืองได้ดังที่กำหนด ทำให้เมืองเกิดการเติบโตกระจัดกระจายแบบไร้ทิศทาง (SprawlingCity) (Smart Growth America, 2006: 2) หรือมีความหมายเดียวกันกับเมืองที่ไม่มีประสิทธิภาพ (En-efficientCity) ตามคำจัดความของ TheCenter for Neighborhood Technology CNT ซึ่งได้แก่เมืองที่ขาดการวางแผนการคมนาคมขนส่งซึ่งเป็นต้นเหตุให้ประชาชนมีค่าใช้จ่ายการเดินทางสูงกว่าความจำเป็นซึ่งทำให้ประชาชนขาดโอกาสในการซื้อหาที่อยู่อาศัย(The Center for Neighborhood Technology, 2011:1) หรือเมืองตามนัยของ David Sloane (2012: 1) ที่กล่าวว่า unplannedCity ได้แก่เมืองที่กระจัดกระจายเกิดจากการไม่สามารถควบคุมกายภาพให้เติบโตไปตามแผนหรือการปล่อยให้กายภาพเมืองแผ่ขยายไปตามธรรมชาติ ซึ่งความผิดพลาดนั้นเป็นผลจากการประเมินผลกระทบระยะยาวของนักผังเมืองต่ำกว่าความเป็นจริง
.. กรณีศึกษาเมืองลอส แองเจลิส ลอส แองเจลิสเป็นเมืองกระจัดกระจาย กายภาพเมืองแผ่ขยายและหนาแน่นในทางราบ (Horizontally dense) ซึ่ง Sloane กล่าวว่าเป็นผลจากการวางผังตามแบบจำลองมาตรฐาน(Standard Model) ที่จัดทำขึ้นช่วงศตวรรษที่ 18ตามแนวคิดเมืองพหุนคร หรือ Polycentricism (แนวคิดเมืองศูนย์กลางมากกว่า1 แห่ง) ซึ่งช่วงเวลานั้นลอส แองเจลิสมีประชากรอยู่ประมาณ 11,000 คน ในช่วงที่ประชากรยังมีไม่มากดูเหมือนว่าจะประสบผลสำเร็จ แต่เมื่อประชากรมีจำนวนเพิ่มขึ้น เมืองได้เพิ่มขยายศูนย์ใหม่ๆขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ประชาชนขาดความสนใจพัฒนาใจกลางเมืองและย่านพาณิชยกรรม ดังนั้น หลายๆ ย่านจึงได้แปรสภาพเป็นสถานที่รกร้าง ประชากรทั้งผู้อยู่อาศัยดั้งเดิมและผู้มาใหม่ต่างเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์พาณิยกรรมแห่งใหม่ในย่านชานเมืองอันเป็นที่มาของคำว่าLosAngeles Sprawl ในปีศตวรรษที่ 20
..
ภาพแสดงสถานที่สาธารณะระหว่างกลุ่มอาคารในลอสแองเจลิส ที่มา : ถ่ายโดย David Sloane, Jan.2012 การศึกษาของ Sloane ซึ่งอาศัยกลุ่มตัวอย่างมากกว่า35 แห่งครอบคลุมทุกกลุ่มประชากรทำให้ทราบข้อมูลว่า ประชากรส่วนใหญ่ไม่พึงพอใจกับสภาพการเป็นเมืองหลายศูนย์ (Stereotype)เนื่องจากไม่มีศูนย์ใดมีความโดดเด่นไม่ว่าจะเป็นย่านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม หรือการบันเทิง ประชาชนจึงมีคำถามว่าด้วยเหตุใดลอสแองเจลิสจึงไม่พัฒนาให้กระชับและโดดเด่นแบบนิวยอร์ค ย่านใจกลางเมืองและย่านพาณิชยกรรมไม่คึกคักมีชิวิตชีวาเช่นเดียวกับย่าน TimesSquare ของนิวยอร์ค หรือแม้แต่การเทียบเคียงการเติบโตทางเศรษฐกิจกับเมืองอื่นๆ
Sloane ได้ให้คำแนะนำแก่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือว่าเป็นภาคธุรกิจตัวนำทางเศรษฐกิจว่า แม้ลอสแองเจลิสจะเพรียบพร้อมไปด้วยระบบการคมนาคมขนส่ง ระบบการจัดการน้ำ และระบบโครงสร้างพื้นฐาน แต่จากการศึกษาแผนการพัฒนาเมืองและทัศนคติของนักผังเมืองและนักการเมืองผู้กำหนดนโยบายแล้ว ยังพบอุปสรรคที่เป็นข้อจำกัดอีกมาก ซึ่งเขาได้เสนอแนะว่า ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนขอให้พิจารณาข้อห่วงใย 2ประเด็นคือ
.. 1)ผังเมืองได้เหลือพื้นที่ไว้สำหรับการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์น้อยมาก และ 2)นักผังเมืองประเมินผลกระทบจากผังไว้ต่ำกว่าความเป็นจริง ไม่รอบด้าน นอกจากนั้นแผนยุทธศาสตร์เมืองไม่สอดคล้องกับแนวทางการปฎิบัติและกับสภาพความเป็นจริง ดังนั้น พื้นที่อนุญาตให้พัฒนาตามแนวโครงข่ายคมนาคมขนส่งหรือตามโครงสร้างพื้นฐานที่คาดการณ์ไว้อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นจริง สุดท้าย Sloane ได้กล่าวว่า เกณฑ์การวางแผนและแบบจำลองมาตรฐานที่จัดทำในศตวรรษที่ 18ยังคงมีอิทธิพลต่อระบบการพัฒนาลอส แองเจลิสในปัจจุบันซึ่งจะทำให้เมืองนี้มีปัญหาการกระจัดกระจายระหว่างแต่ละศูนย์กลางของเมืองอยู่ต่อไปและจะเป็นอุปสรรคในการพัฒนาในอนาคต
ภาพแสดงกิจกรรมบริเวณทางเดินในย่านพาณิชยกรรม ที่มา: ถ่ายโดย David Sloane, Jan.,2012 ประสบการณ์จากลอส แองเจลิส เนื่องจากรายงานฉบับดังกล่าวเพิ่งวางตลาดเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ดังนั้นขณะนี้ (16 เมษายน 2555) จึงยังไม่มีคำอธิบายจากผู้บริหารของลอสแอลเจลิส อย่างไรก็ตาม การรายงานผลการวิจัยและการแสดงผลงานวิชาการของชาวตะวันตกถือเป็นภารกิจส่วนหนึ่งของนักวิชาการในการให้บริการข้อมูลและองค์ความรู้แก่ประชาชน สำหรับประสบการณ์ทางตรงที่ได้รับจากรายงานของ Sloane สรุปได้ดังนี้
การใช้แนวคิดและทฤษีในการวางผังพัฒนาเมือง ปัจจัยสำคัญของความก้าวหน้าในการวางผังพัฒนาเมืองและความก้าวหน้าในทางวิชาการผังเมืองเกิดจากการนำแนวคิดและทฤษฎีใช้เป็นกรอบคิดและยุทธศาสตร์ในการวางผัง ในสหรัฐฯนั้นพบว่าทั้งมลรัฐ เมือง และเทศบาลต่างใช้แนวคิดและทฤษฎีที่หลากหลายเป็นกรอบการดำเนินงาน ดังเช่น มลรัฐแมรี่แลนด์ มลรัฐนิวเจอร์ซี่ และอีกหลายๆเมืองได้ประกาศอย่างชัดเจนในการใช้การเติบโตอย่างชาญฉลาด (Smart Growth) หรือแม้แต่การนำแนวคิด Polycentricism ของลอสแองเจลิสดังที่ได้กล่าวแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงเกิดประสบการณ์การพัฒนาตามแนวคิดขึ้นมากมาย และผลจากการนำแนวคิดสู่การปฎิบัติได้ทำให้บรรยากาศทางวิชาการพัฒนาเมืองมีความคึกคัก เพิ่มโอกาสให้ผู้บริหารเมือง นักวิชาการสื่อสารมวลชน และองค์กรอิสระนำข้อมูลที่ได้ไปต่อยอดประยุกตใช้และเผยแพร่นำไปสู่เวทีการสัมมนาถกเถียงหลากหลายรูปแบบ
การเป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนาเมือง เมืองใดที่นำแนวคิดและทฤษฎีไปใช้แม้จะไม่ประสบผลสำเร็จทั้งหมด แต่เมืองนั้นจะแปรสภาพเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ และกลายเป็นต้นแบบในการพัฒนาให้กับเมืองอื่นๆ ดังตัวอย่างความสำเร็จในการวางผังพัฒนาเชื่อมต่อใจกลางเมืองกับแหล่งพาณิชยกรรมต่างๆของเมืองพอร์ตแลนด์ด้วยรถไฟฟ้า streetcar ซึ่งได้ก่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างขนานใหญ่ที่สามารถตรวจวัดได้ด้วยมูลค่าการลงทุนและการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ท่านที่ติดตามข่าวการรายงานของ Smart GrowthAsia คงจะสามารถยืนยันการเป็นตัวอย่างและความสำเร็จจากการพัฒนาของเมืองพอร์ตแลนด์ได้ดี
. การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารการพัฒนาเมือง ตามรายงานข่าวของ Smart Growth Network พบว่าปัจจุบันมีนิตยสารออนไลน์และออฟไลน์มากกว่า120 ฉบับเกิดขึ้นเพื่อรายงานข่าวนำเสนอบทความวิชาการ และวิพากษ์ระบบการพัฒนาเมือง ไม่นับรวมวารสารออนไลน์ของหน่วยงานภาครัฐและองค์กรภาคเอกชนซึ่งทำหน้าที่รายงานเผยแพร่ข้อมูลสู่ประชาชน นอกจากสื่อสารมวลชนและหน่วยงานจะได้รายงานข่าวสารตามปกติแล้ว ยังได้ผลิตสื่อรณรงค์ระบบการพัฒนารูปแบบต่างๆทั้งได้แปลความข้อมูลทางวิชาการให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเผยแพร่องค์ความรู้สู่สาธารณะ
.. สรุป ที่กล่าวมาท้ังหมดต้องการให้ทราบความหมายและปรากฎการณ์ของ unplanned City โดยใช้กรณีศึกษาจากลอสแองเจลิส ผู้เขียนต้องการให้มองเห็นความแตกต่างระบบการพัฒนาของสหรัฐฯ กับของไทย ซึ่งหากเทียบเคียงแล้วจะมองเห็นข้อแตกต่าง 4เรื่องคือ
1)การวางผังพัฒนาเมืองของไทยไม่ได้ใช้แนวคิดและทฤษฎีใดๆเป็นกรอบคิดและยุทธศาสตร์ 2) ประเทศไทยน่าจะเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่ไม่มีเมืองที่ดีซึ่งสามารถเป็นแบบอย่างด้านการวางผังพัฒนาเมือง 3)บรรยากาศทางวิชาการผังเมืองของไทยซบเซามากดังจะเห็นได้จากแต่ละปีมีการประชุมวิชาการผังเมืองไม่เกิน 3คร้ังและแต่ละคร้ังมีผู้ให้ความสนใจน้อย และ 4) ไทยมีเฉพาะบางวารสารของหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการผังมีจำนวนไม่เกิน3 ฉบับและเป็นเอกสารเผยแพร่เฉพาะกลุ่ม นอกจากนั้นไม่พบสื่ิอสาธารณะที่เผยแพร่องค์ความรู้ด้านนี้เป็นการเฉพาะ..... ในกรณีของ unplanned city คงจะไม่สามารถนำมาเทียบเคียงกับเมืองใดๆของไทยได้เนื่องจากระบบการผังของไทยยังไม่มีสภาพแห่งความสมบูรณ์หรือมีการนำผังไปใช้ประโยชน์ และ unplanned city จะเทียบได้กับเมืองที่สร้างผังและนำผังลงสู่การปฎิบัติจริงแล้วเท่านั้น เอกสารอ้างอิง American Planning Association, 2012,Planning Los Angeles: Legacy New from APA Planners Press, Available from: //www.planning.org/apastore/meet/2012/planninglosangeles.htm. April, 16, 2012 The Atlantic Cities, 2012, UnplannedL.A? Think Again, Available from: //www.theatlanticcities.com/neighborhoods/2012/04/unplanned-l-think-again/1731/,April, 16, 2012 Smart Growth America, 2002, MeasuringSprawl and It Impact; Available from://www.smartgrowthamerica.org/resources/measuring-sprawl-and-its-impact/,April, 16, 2012 The Center for Neighborhood Technology,Housing+Transportastion Affordability Index, Available from: //htaindex.cnt.org/, April, 16, 2012 ความคิดเห็นบางส่วนจาก FACEBOOK ผมตามลิ้งก์ https://www.facebook.com/photo.php?fbid=362178277167949&set=a.340028792716231.91615.100001273404825&type=1 WutichaiHo ช่วยหาข้อมูลให้หน่อยได้ไหมครับ ว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ผู้มีอำนาจของประเทศเหล่านั้น เขามีการถือครองที่ดินมากเหมือนในบ้านเราไหมเขามีการเก็งกำไรราคาที่ดินและปั่นราคาที่ดินกันอย่างบ้านเราไหมข้าราชการหรือหน่วยงานที่ตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบถูกผู้มีอำนาจข่มขู่และให้โทษมากมายเหมือนบ้านเราไหม สำหรับข้อมูลในประเทศอยากทราบว่าการก่อสร้างสาธารณูปโภคที่มีการเวียนคืนที่ดินนั้น มีที่ดินของผู้มีอำนาจมากบารมีทั้งหลายโดนเวียนคืนหรือไม่ กุหลาบ แสนสวย ของบ้านเราเมืองเราปล่อยให้เมืองก้าวหน้าไปก่อนแล้วจึงทำผังเมืองตามค่ะบ้านเมืองจึงออกมาอย่างไม่เป็นสาระบบเฉกเช่นทุกวันนี้ ปีนี้ขุดถนนวางท่อประปาปีหน้าขุดถนนใหม่วางท่อร้อยสายโทรศัพท์ ทำมั้ยไม่คิดแล้วทำไปพร้อม ๆ กันที่เดียวหรือว่า การทำงานแบบนี้คือ การทำงานในแบบของคนไทยค่ะ จิรภิญญา ทิพประมวล มีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฯมีแผนการคมนาคมและการสื่อสารของประเทศ มีหลายแผนของหลายหน่วยงานเอาตัวแทนจากหน่วยงานนั้นๆมาเป็นหนึ่งในทีมวางผังเมืองจากนั้นก็วางระบบไปพร้อมๆกันหรือวางระบบเผื่อไว้เลยสำหรับโครงการหรือกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหากทำเช่นนี้จะ forecast การโตของเมือง ภูมิทัศน์ของเมือง ได้ค่ะ ทุกวันนี้วางผังเมืองกรมโยธาฯจ้างบ.ที่ปรึกษาซึ่งก็บ.เดิมๆรับงานซ้ำไปซ้ำมาแนวคิดใหม่ๆเกิดขึ้นได้ยากถ้ายังเป็นคนกลุ่มเดิมๆโดยไม่มีคนใหม่ที่มีศักยภาพในการนำเสนอความคิดใหม่ๆเข้าไปทำงานในทีมค่ะ PanyaSakpaibul ผมผ่านไปหาดป่าตองหลังเกิดสึนามิครั้งใหญ่ ที่ที่เรือรบหลวงถูกซัดขึ้นมาเกยชายเขาน่ะมองริมหาดป่าตองที่เมื่อก่อนเป็นแหล่งช้อปและท่องเที่ยวยามราตรีเหมือนพัทยาอะไรประมาณเนี้ยสภาพริมหาดถูกกวาดเรียบเหลือแต่ซากหักพัง ตอนนั้นก็เห็นข่าวโอ่โหมประโคมว่าถือเป็นโอกาสดีแล้วที่ทุกฝ่ายจะได้เข้าไปร่วมมือกันจัดระเบียบเมืองการก่อสร้างอาคาร ร้านรวงในบริเวณนี้กันเสียใหม่ทั้งหมด ให้มันถูกต้องสอดคล้องกับการผังเมืองที่ดีผมก็แอบดีใจเออเนี่ยเป็นโอกาสแล้วที่คุณจะได้สร้างเมืองใหม่จริงๆกันสักทีเอาให้สวยเอาให้ถูกต้อง เอาให้เป็นระเบียบเรียบร้อยกันเลย ...สัก 4-5 ปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสอีกครั้งผ่านไปทางนั้นอีกครั้งสิงที่เห็นก็เป็นสภาพเดิมๆ ของเมืองยุคสลัมน่ะนะที่บอกว่าสลัมคือร้านรวงที่สร้างขึ้นมาใหม่มันก็แออัดแย่งกันหายใจถนนหนทางภายในก็ไม่เห็นว่าจะต่างไปจากเดิมสักเท่าไร แคบ เบียดเสียด ยัดเยียดกันเหมือนเก่า เห็นแล้วก็อนาถใจต่อทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ จังหวัด และท้องถิ่น...คนไทยลืมง่ายครับ เรื่องผ่านไปแป็ปเดียวก็ลืมแล้วเห็นแต่ประโยชน์ที่ตัวจะได้เอามาเป็นตัวตั้ง หยั่งอื่นฉานม่ายรุ๊ไหนล่ะเมืองในฝันที่อุตส่าห์ประโคมโหมข่าวกันทั้งภาครัฐ ตัวจังหวัดเององค์กรท้องถิ่น นายทุน ครับเล่าสู่กันฟัง PiangjitMaprajong เชียงใหม่ก็มีปัญหามากมายค่ะ กระทบไปถึงการจราจร ปกติรถติดมากพอๆกับกรุงเทพฯแม้นจะตัดถนนวงแหวนรองรับหลายรอบยิ่งเทศกาลท่องเที่ยว(ซึ่งมีอยู่ตลอดปี)หากผู้รับผิดชอบไม่รีบหาแนวทางตั้งรับคงแย่ อยากให้จังหวัดข้างเคียงพิจารณาด้วยค่ะ ThapanaBunyapravitra ขอบคุณและเคารพสำหรับทุกความคิดเห็น ขอนุญาตเติมเพียงสองประเด็นครับประเด็นแรก อยากให้มองผังเมืองในมิติที่กว้างกว่าสิ่งที่เราพบเห็นกันอยู่ในประเทศถ้าท่านจะกรุณาแวะเข้าไปดูที่ fb.fanpage:Smart Growth ASIA (ตาม link ด้านบน) หรือในบล๊อกเนชั่น หรือที่เว็บไซท์ asiamuseum.co.thท่านจะเห็นว่าบทบาทของการผังเมืองนั้นกว้างขวางครอบคลุมประเด็นปัญหาและจะทรงประสิทธิภาพมากหากได้นำมาประยุกต์ใช้(ขอเน้นนะครับว่า "ประยุกต์" ไม่ใช่นำมาทั้งระบบ) และนำลงสู่การปฎิบัติความจริงถ้าจะแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ.การผังเมือง 2518 ให้ทันสมัยขึ้นก็ดีครับ จะได้เพิ่มผังการพัฒนาที่อยู่อาศัยผังการพัฒนาเศรษฐกิจและผังอื่นๆ อีก 5 ผังให้ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่หากไม่แก้ก็ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรไม่ได้เราสามารถเพิ่มเติมการศึกษาและกำหนดขอบข่ายการบังคับใช้ได้ โดยนำไปเพิ่มในรายละเอียดข้อกำหนดเช่น ต้องทำ placemaking กับชุมชนให้ได้มีความเห็นร่วมกันก่อนเสนอผังแนวคิดการใช้ประโยชน์ที่ดินหรือการกำหนดให้ที่ปรึกษาจัดทำยุทธศาสตร์เมืองร่วมกับประชาชนก่อนที่จะนำเสนอตามขั้นตอนฯลฯ งานพวกนี้ทำได้ครับ ประเด็นที่สอง การดำเนินการตามเกณฑ์การออกแบบผังของ Smart growth หรือการเติบโตอย่างชาญฉลาดไม่จำเป็นต้องเวนคืน ไล่รื้อและเปลี่ยนวิถึชีวิตของผู้คนเขาเสมอไป (ตราบใดที่ชุมชนไม่ไปรุกลำ้พท.ธรรมชาติและการเกษตร)หน้าที่ตามเกณฑ์คือการออกแบบผังให้ลดภาระทุกเรื่องของประชาชนโดยใช้เครื่องมือทางกายภาพครับดังนั่น สิ่งแรกที่ต้องตอบชุมชนให้ได้ก็คือ ต้ังแต่ปฐมบทในการวางผังประชาชนส่วนใหญ่ต้องเข้าใจตรงกันว่าพวกเขาต้องได้รับประโยชน์ ไม่ใช่เสียประโยชน์ส่วนกรณีการขอความร่วมมือกับเจ้าของที่ดินแปลงใหญ่มันมีต้ังหลายๆกลยุทธ์ที่เราไม่เคยนำมาใช้ ในสหรัฐฯเจ้าของที่ดินแปลงใหญ่ที่เป็นนักการเมืองก็มีปัญหาเช่นเดียวกับบ้านเราแต่เขาก็มีวิธีในการขอความร่วมมือ ทุกอย่างแก้ไขได้ครับมีความหวังเสมอสำหรับประเทศนี้ ท่านใดสนใจแนวความคิดSmarth Growth (การวางผังเมืองพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนตามแนวทางการเติบโตอย่างชาญฉลาด) เข้าไป กด like fanpage กับอาจารย์ได้ตามลิ้งก์ Facebookนี้ครับ//www.facebook.com/pages/Smart-Growth-ASIA/355237181167341?sk=wall
Create Date : 18 เมษายน 2555 | | |
Last Update : 18 เมษายน 2555 0:09:32 น. |
Counter : 1721 Pageviews. |
| |
|
|
|